What is Nostr?
Siam Nostr
npub1tr6…06fl
2024-07-29 05:01:20

Siam Nostr on Nostr: [BOT] 854439 สวัสดีตอนเที่ยง ...

[BOT] 854439
สวัสดีตอนเที่ยง น้องวัวได้รวบรวมโน๊ตที่ท่านอาจจะพลาดไป ลองไปชมกันเลย!


มาสักที จะได้เที่ยวแดนมัชฌิมานอกบ้าน
#siamstr
#eldenringstr


จากสภายาส้มเมื่อวันศุกร์ที่พูดถึง POS
วันนี้มีคลิปสั้นๆ มาฝากนี้คือที่คิดไว้ให้ RightShift ใช้ในงาน #TBC2024 สำหรับเครื่อง POS

ส่วนสำหรับมือถืออย่างเดียวหรือรูปแบบอื่นจะทำออกตามมารอติดตามกัน



#Siamstr


Who is going to the Thailand Bitcoin Conference 2024? See you there! #siamstr note1huf…h79v


Bitcoin Diploma บทที่ 1 Proof เสร็จแล้วรอบแรก
#Siamstr


เปลี่ยนบรรยากาศ

#Siamstr
#CoffeeChain



เข้ามาศึกษาบิตคอยน์ก็เจออยู่แค่ไม่กี่เพจ อยากหาฟังคนที่แสงออกตาจริงๆ ก็มีไม่กี่ช่อง
.
งั้นมาลองดูกันว่านอกจากตัวใหญ่ๆ ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันในตลาด เรามีหน้าคนใหม่ที่ศึกษาบิตคอยน์เหมือนเราๆ แต่เริ่มออกมาทำช่องทางให้ความรู้ แตกกิ่งก้านสาขาไปสู่แง่มุมที่ตัวเองสนใจเรื่อยๆ
.
นี่คือสิ่งที่ทำให้คอมมูฯบิตคอยน์แข็งแกร่ง เพราะนอกจาก 20 คนนี้ ยังมีมือดีที่เข้าขั้นเทพในเทพอีกหลายคนที่เราจะเอามาให้คุณได้ยลโฉม
.
เพื่อให้การจุ้มหัวคุยกันในงาน #TBC2024 เร้าใจ สนิท และแนบชิดกันมากขึ้น มาทำความรู้จักพวกเขาก่อนจะไปเจอตัวจริงกันดีกว่า🔥

ปล. คิดตั้งนานว่าลืมอะไร อ้อ ลืมลง Nostr
#Siamstr #SiamstrOG


## **มีดโกนของอ็อกแคม** (Occam's razor)

เคยได้ยินหลักการนี้กันไหมคับ? มันคือหลักการที่ใช้ในการเลือกคำอธิบายหรือทฤษฎีที่ดีที่สุดจากหลายๆ คำอธิบาย (พอดีไปอ่านเจอผ่านๆ เห็นว่าน่าสนใจดี)

> **"คำอธิบายที่ง่ายที่สุดและมีสมมติฐานน้อยที่สุด มักจะเป็นคำอธิบายที่ถูกต้องที่สุด"**

พูดง่ายๆ ก็คือ…

"อย่าคิดเยอะ.. ให้มองแบบง่ายๆ เข้าไว้"

เหมือนเวลาที่เราหากุญแจรถไม่เจอ เราหาทั่วบ้าน พลิกทุกซอกทุกมุม แต่สุดท้ายเราก็นึกขึ้นได้ว่า มันอยู่ในกระเป๋ากางเกงที่เราใส่เมื่อเช้านี่เอง แค่ปลายจมูก

คำอธิบายที่ "ง่ายที่สุด" มันมักจะเป็นคำตอบ"

มันเป็นแนวคิดที่ตั้งชื่อตาม "วิลเลียมแห่งอ็อกแคม" (William of Ockham) นักปรัชญาและนักเทววิทยาชาวอังกฤษในศตวรรษที่ 14

อ็อกแคมเชื่อว่า **"ความเรียบง่าย"** คือ กุญแจไปสู่ความจริง แกเลยเสนอหลักการนี้ขึ้นมาเพื่อตัดคำอธิบายที่ซับซ้อนและไม่จำเป็นออกไป

สมมติว่าเรามีคำอธิบาย 2 แบบสำหรับปรากฏการณ์เดียวกัน…

คำอธิบาย A: ซับซ้อน มีสมมติฐานเยอะแยะ

คำอธิบาย B: ง่าย ตรงไปตรงมา

มีดโกนของอ็อกแคม มันจะเฉือนคำอธิบาย A ทิ้งไป แล้วเลือกคำอธิบาย B เพราะคำอธิบาย B มัน "น่าจะเป็นไปได้" มากกว่า

ยกตัวอย่างเช่น.. สมมติว่าไฟดับ…

คำอธิบาย A: มนุษย์ต่างดาวมาตัดสายไฟ

คำอธิบาย B: ฟิวส์ขาด

มีดโกนของอ็อกแคม มันจะบอกว่าฟิวส์ขาดน่าจะเป็นคำอธิบายที่มีโอกาสถูกต้องมากกว่า

แต่มีดโกนของอ็อกแคมก็ไม่ใช่กฎตายตัว มันเป็นแค่แนวทางในการเลือกคำอธิบายเท่านั้น.. (เพราะบางครั้งคำอธิบายที่ซับซ้อนกว่า อาจจะเป็นคำตอบก็ได้)

ทีนี้.. พอผมลองเอา "มีดโกน" มาเฉือนความเชื่อต่างๆ ในชีวิตดูบ้าง ผมพบว่า..

> **เรามักเชื่อใน "สิ่งที่อยากเชื่อ" มากกว่าที่จะเชื่อใน "สิ่งที่เป็นจริง"**

ทำไมบางคนถึงเชื่อว่าโลกแบน ทั้งๆ ที่หลักฐานมันชัดเจนว่าโลกมันกลม? ทำไมบางคนถึงเชื่อในทฤษฎีสมคบคิดทั้งๆ ที่มันก็พิสูจน์ไม่ได้?

ผมว่า.. พวกเขาก็แค่อยากเชื่อแค่นั้นแหละ

มันอาจรู้สึกสนุกกว่า ตื่นเต้นกว่า ถ้าโลกนี้มันมีเรื่องลึกลับน่าค้นหาซุกซ่อนอยู่… (ใช่ไหมล่ะ?) เหมือนหนังที่พล็อตดี ชวนติดตาม และมีจุดหักมุมที่คาดไม่ถึง… มันก็น่าสนใจดี (แต่ความจริงมันมักจะน่าเบื่อกว่านั้นเสมอ)

อย่างไรก็ตาม พวกเราเป็นบิตคอยเนอร์

"Don't trust, verify"

อย่าเพิ่งเชื่ออะไรง่ายๆ ตั้งคำถาม ตรวจสอบและใช้เหตุผล แม้ว่าคำตอบมันจะไม่สวยงามเท่าที่คุณหวังเอาไว้ก็ตาม…

เรา "อยากเชื่อ" ว่าพรรคการเมืองที่เราสนับสนุนนั้นดีกว่าพรรคอื่นๆ …

เรา "อยากเชื่อ" ว่าแฟนของเราไม่ได้นอกใจ…

เรา "อยากเชื่อ" ว่าสินค้าของเรามีตลาดรองรับ…

เรา "อยากเชื่อ" ในสิ่งที่ทำให้เราสบายใจ…

ไม่ว่าจะมีหลักฐานมากมายแค่ไหน ที่ขัดแย้งกับความเชื่อของเรา เราก็อาจยังคงเพิกเฉยต่อมัน และมองเห็นแต่หลักฐานเพียงเล็กน้อย ที่สนับสนุนทฤษฎีของเรา ทฤษฎีที่เรา “อยากเชื่อ”

(ถอนหายใจ..)

แต่โลกมันไม่ได้ใจดีขนาดนั้น…

ฟังนะ.. ความคิด ความเชื่อ และไอเดียที่เราจำเป็นต้องตั้งคำถามกับตัวเองมากที่สุด คือสิ่งที่เรา “ชอบ” สิ่งที่เราอยากจะยึดถือ สิ่งที่เป็นประโยชน์กับเรา

ทันทีที่เรารู้ตัวว่าเรากำลังคิดในสิ่งที่เรา “อยากคิด” นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าเราต้องตรวจสอบความเชื่อและความคิดเห็นของตัวเองอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น ด้วยความซื่อสัตย์และประเมินตัวเองอย่างตรงไปตรงมา

เพราะความจริง มันสำคัญกว่าความเชื่อเสมอ…

และมีดโกนฯ นี้ มันก็คมพอที่จะช่วยเฉือนความเชื่อที่ผิดๆ ทิ้งไปได้… ลองใช้มีดโกนของอ็อกแคมดูสิ เราอาจจะเห็นโลกที่ชัดเจนมากขึ้น…

ใช้มันเพื่อตัดความซับซ้อน เผยความเรียบง่าย มีดโกนฯ จะช่วยให้เราโฟกัสที่ "สาระสำคัญ" และไม่หลงทางไปกับรายละเอียดที่ไม่จำเป็น

และเมื่อมันมีหลายคำอธิบาย มีดโกนฯ จะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกคำอธิบายที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดได้ง่ายขึ้น (เพราะบางครั้ง.. ความเรียบง่ายก็คือคำตอบ) มีดโกนฯ จะช่วยป้องกันไม่ให้เราคิดมากจนเว่อร์เกินไป

ลองนำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้กับเรื่องต่างๆ มันจะเป็นอย่างไร..

ใช้มีดโกนฯ ในการเลือกสมมติฐานที่ง่ายและทดสอบได้ง่าย หรือใช้ในการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์ปัญหาด้วยมีดโกนฯ โฟกัสไปที่สาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด เลือกวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ

ตัดตัวเลือกที่ซับซ้อน และไม่จำเป็นในการตัดสินใจออกไป หันไปโฟกัสกับทางเลือกที่ตรงกับความต้องการและเป้าหมายของเรามากที่สุด

ลดความคิดที่ฟุ้งซ่านและไม่จำเป็น โฟกัสที่สิ่งที่สำคัญ

อย่างหมอ ก็อาจจะใช้มีดโกนฯ ในการวินิจฉัยโรค โดยพิจารณาจากอาการที่พบบ่อยที่สุด

โปรแกรมเมอร์ใช้มีดโกนฯ ในการออกแบบโค้ดที่ เรียบง่าย และมีประสิทธิภาพ

นักออกแบบใช้มีดโกนฯ ในการลดรายละเอียดที่ ไม่จำเป็น และเน้นไปที่ความเรียบง่ายของผลงาน

นักลงทุนใช้มีดโกนฯ ในการเลือกสินทรัพย์ที่เข้าใจง่าย และมีความเสี่ยงต่ำ

แม้กระทั่ง..

Siamstr เอง ก็เติบโตขึ้นอย่างออร์แกนิก ไม่ได้ถูกสร้าง หรือควบคุมโดยใคร มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

หรือ Bitcoin ก็คือเงินที่เรียบง่าย และทรงพลัง Bitcoin ไม่มีตัวกลาง ไม่ได้มีกฎเกณฑ์ที่ซับซ้อนอะไร ราวกับว่ามันถูกมีดโกนฯ เฉือนเอาความซับซ้อนทิ้งไปจนหมดสิ้นแล้ว…

จนเผยให้เห็นความจริง..

#siamstr



ร้านไหนที่สามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ สามารถใช้ sats จ่ายได้แล้ว โดยผ่านบริการบัตร visa, Mastercard ที่สามารถเติมเงินเข้าไปได้แล้ว
เท่าที่ได้ลอง ใช้ได้ทุกร้าน
มีที่ไหนที่ไปลองมาแล้วบ้าง?
1. ร้านอาหาร
2. ร้านเครื่องดื่ม
3. ร้านเสื้อผ้า
4. บริการส่งอาหาร delivery

โดยบัตรที่ใช้จะเป็นเดบิตที่เป็นบัตรเสมือน แล้วสามารถเพิ่มในมือถือ เพื่อจ่ายแบบแตะจ่าย

โดยที่เราจะโอนเงิน sats เข้าไป แล้วเมื่อแตะจ่าย ระบบจะแปลงสกุลเงินให้อัตโนมัติ
ทำให้เสมือนว่าเราใช้ sats จ่าย แต่จริงๆ หลังบ้านเขาจะแปลงสกุลเงินอัตโนมัติ แล้วเจ้าของร้านก็จะได้เงินสกุลบาทเหมือนที่เขารับชำระผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต

ถ้ามีคนสนใจเดี๋ยวจะมารีวิวว่าทำได้ยังไง

#siamstr


ใส่กรอบแล้วสวยฟุดๆไปเลย
ทุกคนยังรับน้องๆได้น้า น้องยังว่างมากๆค่ะ ทุกรูปมีความหมายในใจหมดเลย หรือจะเอาไปตีความเองเป็นอีกแบบก็ไม่แย่
เพราะศิลปะไม่มีผิด ไม่มีถูก ไม่ปิดกั้นความคิดผู้ใด

ราคางาน:จมและกลมกลืน 1299.-(รับชำระทุกช่องทาง)การตีความในความหมายของผู้วาดอยู่ในอีกโพส

ราคางาน:ทุ่งหมาป่า 899.- (รับชำระทุกช่องทาง) การตีความในความหมายของผู้วาดอยู่ในอีกโพส

📬ค่าส่ง 70.- ในประเทศเท่านั้น (ในวันส่งจะใส่กรอบพร้อมห่อกันกระแทกไปให้ค่ะ)
#siamstr



ในที่สุดก็ได้ต้มกินเองแล้ววววว #siamstr
#มากินกาแฟบ้านเรามั้ย







สารคดีเรื่อง God Bless Bitcoin เป็นสารคดีที่ทรงพลังมาก ที่ได้พาเราไปสำรวจโลกของ Bitcoin ตั้งแต่จุดเริ่มต้น จากปัญหาของระบบเงินตรา (ผมจะเรียกมันว่า "เงินเฟียต" แล้วกันนะ) ไปจนถึงศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโลก ดูจบแล้วบอกเลยว่าเลเซอร์ออกจากตาแน่นอน (ตาสว่างของแทร่)



เปิดฉากมา สารคดีเริ่มเรื่องราวด้วยการพาเราย้อนกลับไปในอดีต ชี้ให้เห็นถึงปัญหาของระบบเงินเฟียตที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ (เงินที่รัฐใช้กฎหมายบังคับว่ามันคือเงิน) สารคดีได้อธิบายถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญของประธานาธิบดีนิกสันในปี 1971 ที่ยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์กับทองคำ (หลายคนยังคิดว่าเงินของรัฐยังหนุนหลังด้วยทองคำอยู่เลย) เปิดทางให้รัฐบาลสามารถพิมพ์เงินได้ตามใจชอบ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาเงินเฟ้อที่กัดกินอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนอย่างต่อเนื่อง (เงินเสื่อมค่า ของแพงขึ้น เก็บออมไม่ได้) สารคดียังวิพากษ์วิจารณ์การควบคุมระบบเงินตราโดยรัฐบาล ที่นำไปสู่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และการใช้อำนาจในทางมิชอบ เช่น การอายัดเงินของประชาชนโดยง่าย ทำให้เราต้องตั้งคำถามกับระบบเงินเฟียตที่เราคุ้นเคย และมองเห็นถึงความไม่มั่นคงของมันได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่ายมาก



จากนั้นครับ สารคดีก็พาเราไปรู้จักกับ Bitcoin เงินสดดิจิตอลไร้ศูนย์กลาง ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาของระบบเงินเฟียต ที่ได้อธิบายถึงเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้ Bitcoin ปลอดภัย โปร่งใส และตรวจสอบได้ ทำให้มันเป็นระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ ที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้อย่างแท้จริง และได้มอบความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้ ที่สำคัญคือสามารถใช้ได้ทั่วโลกอย่างไร้พรมแดนอีกด้วย รวมถึงข้อดีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความสะดวก รวดเร็ว และค่าธรรมเนียมที่ต่ำมากๆ (สำหรับการโอนเงินข้ามทวีป) ทำให้เราเห็นถึงความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของระบบการเงินที่ยุติธรรม



ในสารคดียังได้พาเราไปเห็นผลกระทบเชิงบวกของมันต่อโลกของเราอีกด้วย กับเรื่องราวของผู้คนในประเทศต่างๆ ที่ได้รับประโยชน์จากการใช้ ไม่ว่าจะเป็นการที่ Bitcoin ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงระบบการเงินได้มากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาที่ประชาชนจำนวนมากไม่มีบัญชีธนาคาร ช่วยให้ผู้คนในประเทศยากจนสามารถเก็บออมเงินและสร้างความมั่งคั่งได้ รวมถึงช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่ต้องหนีออกจากประเทศของตนเอง สารคดียังชี้ให้เห็นว่า Bitcoin สามารถส่งเสริมให้โลกเกิดสันติภาพ โดยการทำให้การทำสงครามมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น เพราะรัฐบาลไม่สามารถพิมพ์เงิน(กู้)มาใช้จ่ายได้ตามใจชอบ สงครามจึงเกิดได้ยากขึ้นเมื่อเราใช้บิตคอยน์เป็นเงิน เพราะมันเป็นเงินที่สร้างยาก (มีตุ้นทุนในการผลิตเหมือนทองคำ) ทำให้เราเห็นว่าบิตคอยน์ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่มันคือเครื่องมือในการสร้างโลกให้ดีขึ้นอย่างแท้จริง



สิ่งที่น่าสนใจมากๆ ก็คือการเชื่อมโยง Bitcoin เข้ากับหลักคำสอนทางศาสนา อันนี้โคตรดีชอบมาก (ชอบทุกตอนแหละ 5555) เพราะในสารคดีชี้ให้เห็นว่าหลายศาสนา สอนเรื่องความยุติธรรม ความซื่อสัตย์และการไม่เบียดเบียนกัน ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของ Bitcoin ที่มันเป็นเงินที่เป็นกลางไม่เลือกข้าง นอกจากนี้ Bitcoin นำเสนอทางเลือกใหม่ของระบบการเงินที่อาจช่วยลดความจำเป็นในการกู้ยืมเงินเพราะบิตคอยน์เก็บรักษามูลค่าได้ในระยะยาว ทำให้ผู้คนมีแรงจูงใจในการออมมากกว่าการฝากเงินในธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยต่ำ เมื่อผู้คนมีเงินออมมากขึ้น ความจำเป็นในการกู้ยืมเงินก็จะลดลง ซึ่งเป็นที่มาของปัญหาเรื่องดอกเบี้ย ที่บางศาสนาต่อต้านการคิดดอกเบี้ย ทำให้เราเห็นว่า Bitcoin ไม่ได้ขัดแย้งกับหลักศาสนา แต่ในทางกลับกันมันสามารถเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมคุณธรรมและความดีงามทางศาสนาได้อย่างลงตัวและสวยงาม (สาธุ)



สารคดีปิดท้ายด้วยการมองไปยังอนาคตของ Bitcoin ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงการยอมรับ Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงการที่บริษัทขนาดใหญ่เริ่มนำ Bitcoin มาใช้ ในสารคดียังบอกอีกว่า Bitcoin อาจกลายเป็นสกุลเงินของโลกในอนาคต และจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และทิ้งท้ายด้วยความหวังที่ว่า Bitcoin สามารถสร้างสังคมที่ยุติธรรม เจริญรุ่งเรืองและมีความสุข



ส่วนตัวผมชอบหลายฉากในสารคดีเรื่องนี้มาก ภาพสวย จัดแสงโคตรดี effect กำลังกลมกล่อม แต่ที่ชอบที่สุดคือฉากที่ Robert Kiyosaki ยกหนังสือ The Communist Manifesto ขึ้นมา ผมตกใจเลย 55555 เข้าท่าดีนะเพราะเป็นการเปรียบเทียบที่น่าสนใจและแฝงไปด้วยนัยยะทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมได้อย่างลึกซึ้ง เพราะโดยทั่วไปแล้ว The Communist Manifesto เป็นหนังสือที่วิพากษ์วิจารณ์ระบบทุนนิยม และเสนอแนวคิดเรื่องการปฏิวัติโดยชนชั้นกรรมาชีพเพื่อสร้างสังคมคอมมิวนิสต์ที่ทรัพย์สินเป็นของส่วนรวม แต่ในสารคดีป๋า Kiyosaki ใช้หนังสือเล่มนี้เพื่อเปรียบเทียบกับระบบเงินเฟียต ที่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลและธนาคารกลาง ซึ่งเขามองว่าระบบเงินเฟียตต่างหากที่เอื้อประโยชน์ให้กับชนชั้นนำและกำลังกดขี่ชนชั้นแรงงานอยู่ (อันจริง ๆ น่าจะหมายถึงว่าเราทุกคนทุกชนชั้นนี่แหละ ที่กำลังถูกกดขี่) ทำให้เห็นว่าการที่ป๋า Kiyosaki ยกหนังสือ The Communist Manifesto ขึ้นมา พร้อมกับพูดว่า "บิตคอยน์ถูกสร้างขึ้นจากประชาชนโดยประชาชนเพื่อประชาชน" บ่งบอกว่าป๋าเขากำลังมองว่า Bitcoin เป็นเครื่องมือในการต่อต้านระบบรวมศูนย์ (Collectivism) รวมถึงป๋าได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า CBDC (Central Bank Digital Currency) เป็นเหมือนลัทธิมากซ์ ก็คือการใช้อำนาจรวมศูนย์จากธนาคารกลาง เป็นกาารสะท้อนให้เห็นถึงพลังของ Bitcoin ในการท้าทายอำนาจรัฐ และคืนอำนาจให้กับประชาชน ป๋า Kiyosaki บอกว่า CBDC เป็นเครื่องมือที่รัฐบาลใช้ในการควบคุมประชาชน เพราะรัฐบาลสามารถติดตามธุรกรรมทางการเงินของทุกคนได้ และสามารถอายัดหรือจำกัดการใช้จ่ายเงินของประชาชนได้ตามใจชอบ ซึ่งเป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับลัทธิมากซ์ที่เน้นการควบคุมเศรษฐกิจโดยรัฐ ที่รัฐบาลมีอำนาจควบคุมทรัพยากรและเศรษฐกิจ (ผู้ใดควบคุมเงิน ผู้นั้นควบคุมโลก) แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่าง Bitcoin กับแนวคิดเรื่องการกระจายอำนาจ อิสรภาพทางการเงิน และการต่อต้านการควบคุมโดยรัฐบาล แน่นอนว่าเมื่อใครศึกษาบิตคอยน์จะพบคำตอบที่เป็นจุดร่วมเดียวกันกับที่ผมชอบพูดติดปากเป็นประจำในรายการสภายาส้มนั้นก็คือ เราต้องแยกอำนาจทางการเงินออกจากมือรัฐ

เอาจริงๆ ใครที่ได้ติดตาม อ.ตั๊ม พิริยะ เนื้อหาในคลิปเราคงเคยฟังอาจารย์พูดไปหมดแล้ว แต่สำหรับ God Bless Bitcoin เป็นสารคดีที่น่าสนใจ ดูง่าย เข้าใจง่ายด้วยลำดับภาพและเนื้อหา เหมาะกับใครที่กำลังสนใจ Bitcoin หรืออยากรู้ว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างไร แนะนำว่าไม่ควรพลาดครับ #Siamstr

สำหรับใครที่ยังไม่จุใจ วันที่ 14-15 กันยายน 2567 เรากำลังจะมีงาน Thailand Bitcoin Conference 2024 ปีนี้เราจัดขึ้นมาภายใต้แนวคิด “Bitcoin Fixes This” งานบิตคอยน์ ที่จัดโดยบิตคอยเนอร์ เพื่อบิตคอยเนอร์ มาเจอกันพบปะพูดคุยกันต่อได้ที่งาน รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.thailandbitcoinconference.com/


#siamstr
Author Public Key
npub1tr66yvqghfdgwv9yxhmg7xx6pvgvu5uvdc42tgdhsys8vvzdt8msev06fl