What is Nostr?
SOUP
npub16hp…tu5f
2024-07-28 02:57:24

SOUP on Nostr: https://i.nostr.build/Yu3HArJ0fiGnBlwd.jpg สารคดีเรื่อง God ...



สารคดีเรื่อง God Bless Bitcoin เป็นสารคดีที่ทรงพลังมาก ที่ได้พาเราไปสำรวจโลกของ Bitcoin ตั้งแต่จุดเริ่มต้น จากปัญหาของระบบเงินตรา (ผมจะเรียกมันว่า "เงินเฟียต" แล้วกันนะ) ไปจนถึงศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโลก ดูจบแล้วบอกเลยว่าเลเซอร์ออกจากตาแน่นอน (ตาสว่างของแทร่)



เปิดฉากมา สารคดีเริ่มเรื่องราวด้วยการพาเราย้อนกลับไปในอดีต ชี้ให้เห็นถึงปัญหาของระบบเงินเฟียตที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ (เงินที่รัฐใช้กฎหมายบังคับว่ามันคือเงิน) สารคดีได้อธิบายถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญของประธานาธิบดีนิกสันในปี 1971 ที่ยกเลิกการผูกค่าเงินดอลลาร์กับทองคำ (หลายคนยังคิดว่าเงินของรัฐยังหนุนหลังด้วยทองคำอยู่เลย) เปิดทางให้รัฐบาลสามารถพิมพ์เงินได้ตามใจชอบ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาเงินเฟ้อที่กัดกินอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนอย่างต่อเนื่อง (เงินเสื่อมค่า ของแพงขึ้น เก็บออมไม่ได้) สารคดียังวิพากษ์วิจารณ์การควบคุมระบบเงินตราโดยรัฐบาล ที่นำไปสู่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และการใช้อำนาจในทางมิชอบ เช่น การอายัดเงินของประชาชนโดยง่าย ทำให้เราต้องตั้งคำถามกับระบบเงินเฟียตที่เราคุ้นเคย และมองเห็นถึงความไม่มั่นคงของมันได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่ายมาก



จากนั้นครับ สารคดีก็พาเราไปรู้จักกับ Bitcoin เงินสดดิจิตอลไร้ศูนย์กลาง ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาของระบบเงินเฟียต ที่ได้อธิบายถึงเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้ Bitcoin ปลอดภัย โปร่งใส และตรวจสอบได้ ทำให้มันเป็นระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ ที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้อย่างแท้จริง และได้มอบความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้ ที่สำคัญคือสามารถใช้ได้ทั่วโลกอย่างไร้พรมแดนอีกด้วย รวมถึงข้อดีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความสะดวก รวดเร็ว และค่าธรรมเนียมที่ต่ำมากๆ (สำหรับการโอนเงินข้ามทวีป) ทำให้เราเห็นถึงความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของระบบการเงินที่ยุติธรรม



ในสารคดียังได้พาเราไปเห็นผลกระทบเชิงบวกของมันต่อโลกของเราอีกด้วย กับเรื่องราวของผู้คนในประเทศต่างๆ ที่ได้รับประโยชน์จากการใช้ ไม่ว่าจะเป็นการที่ Bitcoin ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงระบบการเงินได้มากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาที่ประชาชนจำนวนมากไม่มีบัญชีธนาคาร ช่วยให้ผู้คนในประเทศยากจนสามารถเก็บออมเงินและสร้างความมั่งคั่งได้ รวมถึงช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่ต้องหนีออกจากประเทศของตนเอง สารคดียังชี้ให้เห็นว่า Bitcoin สามารถส่งเสริมให้โลกเกิดสันติภาพ โดยการทำให้การทำสงครามมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น เพราะรัฐบาลไม่สามารถพิมพ์เงิน(กู้)มาใช้จ่ายได้ตามใจชอบ สงครามจึงเกิดได้ยากขึ้นเมื่อเราใช้บิตคอยน์เป็นเงิน เพราะมันเป็นเงินที่สร้างยาก (มีตุ้นทุนในการผลิตเหมือนทองคำ) ทำให้เราเห็นว่าบิตคอยน์ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่มันคือเครื่องมือในการสร้างโลกให้ดีขึ้นอย่างแท้จริง



สิ่งที่น่าสนใจมากๆ ก็คือการเชื่อมโยง Bitcoin เข้ากับหลักคำสอนทางศาสนา อันนี้โคตรดีชอบมาก (ชอบทุกตอนแหละ 5555) เพราะในสารคดีชี้ให้เห็นว่าหลายศาสนา สอนเรื่องความยุติธรรม ความซื่อสัตย์และการไม่เบียดเบียนกัน ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของ Bitcoin ที่มันเป็นเงินที่เป็นกลางไม่เลือกข้าง นอกจากนี้ Bitcoin นำเสนอทางเลือกใหม่ของระบบการเงินที่อาจช่วยลดความจำเป็นในการกู้ยืมเงินเพราะบิตคอยน์เก็บรักษามูลค่าได้ในระยะยาว ทำให้ผู้คนมีแรงจูงใจในการออมมากกว่าการฝากเงินในธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยต่ำ เมื่อผู้คนมีเงินออมมากขึ้น ความจำเป็นในการกู้ยืมเงินก็จะลดลง ซึ่งเป็นที่มาของปัญหาเรื่องดอกเบี้ย ที่บางศาสนาต่อต้านการคิดดอกเบี้ย ทำให้เราเห็นว่า Bitcoin ไม่ได้ขัดแย้งกับหลักศาสนา แต่ในทางกลับกันมันสามารถเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมคุณธรรมและความดีงามทางศาสนาได้อย่างลงตัวและสวยงาม (สาธุ)



สารคดีปิดท้ายด้วยการมองไปยังอนาคตของ Bitcoin ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงการยอมรับ Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงการที่บริษัทขนาดใหญ่เริ่มนำ Bitcoin มาใช้ ในสารคดียังบอกอีกว่า Bitcoin อาจกลายเป็นสกุลเงินของโลกในอนาคต และจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และทิ้งท้ายด้วยความหวังที่ว่า Bitcoin สามารถสร้างสังคมที่ยุติธรรม เจริญรุ่งเรืองและมีความสุข



ส่วนตัวผมชอบหลายฉากในสารคดีเรื่องนี้มาก ภาพสวย จัดแสงโคตรดี effect กำลังกลมกล่อม แต่ที่ชอบที่สุดคือฉากที่ Robert Kiyosaki ยกหนังสือ The Communist Manifesto ขึ้นมา ผมตกใจเลย 55555 เข้าท่าดีนะเพราะเป็นการเปรียบเทียบที่น่าสนใจและแฝงไปด้วยนัยยะทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมได้อย่างลึกซึ้ง เพราะโดยทั่วไปแล้ว The Communist Manifesto เป็นหนังสือที่วิพากษ์วิจารณ์ระบบทุนนิยม และเสนอแนวคิดเรื่องการปฏิวัติโดยชนชั้นกรรมาชีพเพื่อสร้างสังคมคอมมิวนิสต์ที่ทรัพย์สินเป็นของส่วนรวม แต่ในสารคดีป๋า Kiyosaki ใช้หนังสือเล่มนี้เพื่อเปรียบเทียบกับระบบเงินเฟียต ที่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลและธนาคารกลาง ซึ่งเขามองว่าระบบเงินเฟียตต่างหากที่เอื้อประโยชน์ให้กับชนชั้นนำและกำลังกดขี่ชนชั้นแรงงานอยู่ (อันจริง ๆ น่าจะหมายถึงว่าเราทุกคนทุกชนชั้นนี่แหละ ที่กำลังถูกกดขี่) ทำให้เห็นว่าการที่ป๋า Kiyosaki ยกหนังสือ The Communist Manifesto ขึ้นมา พร้อมกับพูดว่า "บิตคอยน์ถูกสร้างขึ้นจากประชาชนโดยประชาชนเพื่อประชาชน" บ่งบอกว่าป๋าเขากำลังมองว่า Bitcoin เป็นเครื่องมือในการต่อต้านระบบรวมศูนย์ (Collectivism) รวมถึงป๋าได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า CBDC (Central Bank Digital Currency) เป็นเหมือนลัทธิมากซ์ ก็คือการใช้อำนาจรวมศูนย์จากธนาคารกลาง เป็นกาารสะท้อนให้เห็นถึงพลังของ Bitcoin ในการท้าทายอำนาจรัฐ และคืนอำนาจให้กับประชาชน ป๋า Kiyosaki บอกว่า CBDC เป็นเครื่องมือที่รัฐบาลใช้ในการควบคุมประชาชน เพราะรัฐบาลสามารถติดตามธุรกรรมทางการเงินของทุกคนได้ และสามารถอายัดหรือจำกัดการใช้จ่ายเงินของประชาชนได้ตามใจชอบ ซึ่งเป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับลัทธิมากซ์ที่เน้นการควบคุมเศรษฐกิจโดยรัฐ ที่รัฐบาลมีอำนาจควบคุมทรัพยากรและเศรษฐกิจ (ผู้ใดควบคุมเงิน ผู้นั้นควบคุมโลก) แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่าง Bitcoin กับแนวคิดเรื่องการกระจายอำนาจ อิสรภาพทางการเงิน และการต่อต้านการควบคุมโดยรัฐบาล แน่นอนว่าเมื่อใครศึกษาบิตคอยน์จะพบคำตอบที่เป็นจุดร่วมเดียวกันกับที่ผมชอบพูดติดปากเป็นประจำในรายการสภายาส้มนั้นก็คือ เราต้องแยกอำนาจทางการเงินออกจากมือรัฐ

เอาจริงๆ ใครที่ได้ติดตาม อ.ตั๊ม พิริยะ เนื้อหาในคลิปเราคงเคยฟังอาจารย์พูดไปหมดแล้ว แต่สำหรับ God Bless Bitcoin เป็นสารคดีที่น่าสนใจ ดูง่าย เข้าใจง่ายด้วยลำดับภาพและเนื้อหา เหมาะกับใครที่กำลังสนใจ Bitcoin หรืออยากรู้ว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างไร แนะนำว่าไม่ควรพลาดครับ #Siamstr

สำหรับใครที่ยังไม่จุใจ วันที่ 14-15 กันยายน 2567 เรากำลังจะมีงาน Thailand Bitcoin Conference 2024 ปีนี้เราจัดขึ้นมาภายใต้แนวคิด “Bitcoin Fixes This” งานบิตคอยน์ ที่จัดโดยบิตคอยเนอร์ เพื่อบิตคอยเนอร์ มาเจอกันพบปะพูดคุยกันต่อได้ที่งาน รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.thailandbitcoinconference.com/
Author Public Key
npub16hpaqcm8zhc6n4d79tu2mtsf9464093r4v3r7l5hq5tpsng3txesw3tu5f