What is Nostr?
maiakee
npub1hge…8hs2
2025-02-07 04:09:13
in reply to nevent1q…9lhh

maiakee on Nostr: 🪷ปัญญา (paññā) ที่เกิดดับอยู่ใน ...

🪷ปัญญา (paññā) ที่เกิดดับอยู่ใน ขันธ์ 5 นั้น จัดอยู่ใน สังขารขันธ์ (สังขาระ – saṅkhāra) ซึ่งเป็นกลุ่มของเจตสิก (สภาพธรรมที่ประกอบกับจิต)

ปัญญาอยู่ในขันธ์ 5 อย่างไร?
1. รูปขันธ์ (Rūpakkhandha) – เป็นกายและวัตถุธาตุ ไม่มีปัญญา
2. เวทนาขันธ์ (Vedanākkhandha) – เป็นความรู้สึกสุข ทุกข์ หรือเฉย ๆ ไม่ใช่ปัญญา
3. สัญญาขันธ์ (Saṅñākkhandha) – เป็นการจำได้หมายรู้ เช่น จำว่าไฟร้อน จำเสียง จำกลิ่น แต่ไม่ใช่ปัญญา
4. สังขารขันธ์ (Saṅkhārakkhandha) – เป็นการปรุงแต่งจิต เช่น ความคิด การตั้งใจ และ ปัญญาอยู่ที่นี่
5. วิญญาณขันธ์ (Viññāṇakkhandha) – เป็นการรับรู้อารมณ์ เช่น การเห็น การได้ยิน แต่ไม่ใช่ปัญญา

พุทธพจน์อ้างอิง

“สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เป็นเหตุปัจจัยให้เกิดขึ้นและดับไป”
(ขัณฑสูตร, สังยุตตนิกาย)

อธิบาย:
• ปัญญาเป็นหนึ่งในสังขารขันธ์ และเกิดดับตามเหตุปัจจัย
• ปัญญาไม่ได้คงที่ ไม่ใช่ตัวตนที่ถาวร
• เมื่อปัญญาถึงระดับสูงสุด ก็ทำให้เกิดวิมุตติ (ความหลุดพ้น)

สังขารขันธ์เกิดปัญญาได้อย่างไร?

ปัญญาในสังขารขันธ์เกิดขึ้นจาก โยนิโสมนสิการ (การคิดโดยแยบคาย) และการฟังธรรม เช่น
1. ปัญญาทางการศึกษา (สุตมยปัญญา) – ฟังธรรม อ่านหนังสือ
2. ปัญญาทางการคิด (จินตามยปัญญา) – ใคร่ครวญพิจารณาเหตุผล
3. ปัญญาทางการปฏิบัติ (ภาวนามยปัญญา) – เห็นไตรลักษณ์โดยตรงผ่านสมถะและวิปัสสนา

เมื่อปัญญาในสังขารขันธ์พัฒนาไปถึงที่สุด จะทำให้เกิดมรรคผล และดับสังขารขันธ์เข้าสู่นิพพาน

สรุป
• ปัญญาเป็น สังขารขันธ์ (ไม่ใช่ตัวตน)
• ปัญญาเกิดจากการฝึกฝน ไม่ใช่สิ่งที่มีมาแต่กำเนิด
• ปัญญาเองก็ไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้วดับไป
• เมื่อปัญญาสมบูรณ์ ก็สามารถนำไปสู่นิพพาน (ความดับสิ้นแห่งขันธ์)


🪷ปัญญาเป็นสังขารขันธ์ แต่จะเห็นการเกิดดับของวิญญาณในขันธ์อื่นได้อย่างไร?

1. ปัญญาอยู่ในสังขารขันธ์ แต่ทำหน้าที่เห็นไตรลักษณ์ของขันธ์ทั้งปวง

ปัญญา (paññā) เป็นองค์ประกอบของ สังขารขันธ์ ซึ่งหมายถึงเจตสิกที่ทำหน้าที่ปรุงแต่งจิตให้เกิดความเข้าใจถูกต้องเกี่ยวกับสภาพธรรมทั้งปวง

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า

“ภิกษุทั้งหลาย! ก็สังขารเป็นของไม่เที่ยง มีความเกิดขึ้นและดับไปเป็นธรรมดา”
(สังขารปริญญาสูตร, สังยุตตนิกาย)

อธิบาย:
• ปัญญาเป็นส่วนหนึ่งของสังขารขันธ์ และสังขารขันธ์เองก็ไม่เที่ยง
• แม้ว่าปัญญาจะอยู่ในสังขารขันธ์ แต่มันสามารถเห็นไตรลักษณ์ของขันธ์อื่น ๆ ได้
• กล่าวคือ ปัญญาไม่ใช่แค่ปรุงแต่งจิต แต่ทำหน้าที่ตรวจสอบความจริงของรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ และวิญญาณขันธ์ด้วย

2. วิญญาณเกิดดับในขันธ์อื่น ๆ แต่ปัญญาเห็นได้อย่างไร?

พระพุทธเจ้าตรัสว่า

“ภิกษุทั้งหลาย! วิญญาณเป็นของไม่เที่ยง มีความเกิดขึ้นและดับไปเป็นธรรมดา”
(อุปาทานปริญญาสูตร, สังยุตตนิกาย)

อธิบาย:
• วิญญาณขันธ์ (Viññāṇakkhandha) เป็นเพียงการรับรู้ทางอายตนะ เช่น การเห็น การได้ยิน การรู้คิด
• วิญญาณขันธ์เองไม่สามารถเห็นตัวมันเองว่าเกิดดับ เพราะมันเป็นเพียงกระบวนการรับรู้อารมณ์
• แต่ปัญญา (ในสังขารขันธ์) มีหน้าที่ตรวจสอบและพิจารณาว่า “ขณะที่เห็น ขณะที่ได้ยิน ขณะที่คิด” ล้วนเกิดแล้วดับ ไม่มีตัวตนที่เที่ยงแท้

3. ปัญญาจะเห็นการเกิดดับของวิญญาณได้อย่างไร?

แม้ว่าวิญญาณรับรู้อารมณ์ได้ทีละหนึ่ง เช่น
• ตอนที่เห็น → เป็นจักขุวิญญาณ
• ตอนที่ได้ยิน → เป็นโสตวิญญาณ
• ตอนที่คิด → เป็นมโนวิญญาณ

แต่ปัญญาไม่ใช่ตัววิญญาณ ปัญญาเป็นผู้พิจารณาความไม่เที่ยงของกระบวนการทั้งหมด

พระพุทธเจ้าตรัสว่า

“วิญญาณจะตั้งอยู่ที่ไหน? วิญญาณอาศัยรูปจึงตั้งอยู่ อาศัยเวทนา อาศัยสัญญา อาศัยสังขาร”
(ขัณฑสูตร, สังยุตตนิกาย)

อธิบาย:
• ปัญญามองเห็นว่า วิญญาณไม่สามารถตั้งอยู่ลำพัง ต้องอาศัยขันธ์อื่น
• เมื่อปัญญาพิจารณาอย่างแยบคาย จะเห็นว่า ทุกขณะที่เกิดการรับรู้อารมณ์ วิญญาณเกิดขึ้นแล้วดับไป ไม่มีตัวเราที่แท้จริง

4. กระบวนการที่ปัญญาเห็นการเกิดดับของวิญญาณ
1. สมถะ (ทำจิตให้สงบและตั้งมั่น)
• การฝึกสติและสมาธิทำให้จิตไม่ถูกรบกวนด้วยนิวรณ์
• เมื่อจิตตั้งมั่น จะเริ่มเห็นว่ากระบวนการของจิตเป็นเพียงสภาพธรรมที่เกิดแล้วดับ
2. วิปัสสนา (พิจารณาไตรลักษณ์ของวิญญาณขันธ์)
• ปัญญาพิจารณาว่า ทุกครั้งที่เห็น ได้ยิน คิด รู้สึก มีแต่ขณะจิตที่เกิดดับอย่างรวดเร็ว
• เช่น ตอนที่เห็นรูป จักขุวิญญาณเกิดขึ้น แล้วดับไปทันที
• ไม่มี “ผู้เห็น” ที่คงอยู่ มีแต่การเห็นที่เกิดแล้วดับ
3. การปล่อยวางขันธ์ทั้งปวง
• เมื่อปัญญาเห็นไตรลักษณ์ของวิญญาณขันธ์โดยตรง จะเลิกยึดถือว่า “วิญญาณเป็นของเรา”
• นำไปสู่ความหลุดพ้นจากการยึดมั่นถือมั่น

5. สรุป
• ปัญญาเป็นสังขารขันธ์ แต่สามารถเห็นการเกิดดับของวิญญาณขันธ์ได้
• วิญญาณขันธ์รับรู้อารมณ์ได้ทีละหนึ่ง แต่ไม่สามารถเห็นไตรลักษณ์ของตัวมันเอง
• ปัญญาทำหน้าที่ตรวจสอบไตรลักษณ์ของขันธ์ทั้งปวง รวมถึงวิญญาณขันธ์
• การเห็นความเกิดดับของวิญญาณขันธ์ต้องอาศัยการฝึกสมถะและวิปัสสนา
• เมื่อปัญญาถึงที่สุด ก็จะปล่อยวางขันธ์และเข้าสู่ความหลุดพ้น
Author Public Key
npub1hge4uuggdfspu0wmffxqs9vj38m55238q3z2jzd907e8qnjmlsyql78hs2