RightShiftCuration on Nostr: ทำไมเราถึงคิดกิจกรรม #FuckIMF ...
ทำไมเราถึงคิดกิจกรรม #FuckIMF ขึ้นมาให้โจทย์ค่อนข้างท้าทายและเรียกได้ว่า "โกง" ไม่ได้?
สาเหตุหลักเป็นเพราะเราเชื่อมั่นใน #Value4Value (หรือ #v4v) เรามองเห็นถึงศักยภาพของชาวไทย #Siamstr ในทุ่งม่วงแห่งนี้ว่า แต่ละคนมีสกิลจัดจ้านในการสร้างสรรค์โน้ตเจ๋ง ๆ ชนิดที่เราสิงอยู่ในนี้ทั้งวันก็มีเรื่องสนุกให้อ่านได้ไม่มีหมด
เราอยากให้ "คุณค่า" เหล่านี้ได้รับ "คุณค่า" ตอบแทนกลับไปอย่างสาสม เอ้ย สมน้ำสมเนื้อ!
- คุณค่าที่คุณ Alex Gladstein เขียนบทความนี้ขึ้นมากอย่างละเมียดละไม
- คุณค่า (และลูกบ้า) ของคุณปกป้องริเริ่มแปลบทความขนาด 100 หน้านี้ด้วยตนเอง
- คุณค่าที่ทีมงาน Right Shift หลายรายรุมเร้ามันจนมีชีวิตโลดแล่นในวันนี้
- คุณค่าที่ผู้อ่าน spend time เพื่ออ่านมัน
- คุณค่าที่ผู้อ่าน spend time เพื่อเขียนโน้ตร่วมสนุกในกิจกรรมนี้
- และที่สำคัญ นี่คือคุณค่าที่พวกเราทุกคนใน #Nostr มีส่วนผลักดัน Freedom Protocol Adoption ให้เกิดขึ้นจริง ชนิดที่ต่างชาติทึ่งว่าทำไมคอมมูฯ ไทยมันสนุกคึกคักขนาดนี้!
และนี่คือ 3 ผู้ได้รับคุณค่าพิเศษจาก Right Shift "I Fucked IMF Badge" ที่มีแค่ดีไซน์เดียวในโลก อวดคนได้ชั่วลูกชั่วหลานว่าข้าพเจ้าคือ 3 คนในโลกที่มีสิ่งนี้ประดับชีวิต
1.
U (npub1y3y…mlsw)
2.
Bitmania (npub1u2v…lhla)
3.
AdlerNS (npub1elf…mahl)
ขอบคุณที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงสังคมไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น พวกคุณโคตรคูลครับ
หมายเหตุ :
- ร่วมสนุกกิจกรรมนี้ได้ทุกสัปดาห์ คนได้ badge แล้วกก็เล่นได้อีก เผื่ออยากเก็บ badge ให้ครบ 6 ดีไซน์!
- ทุกคนที่เล่นกิจกรรม แม้จะไม่ได้ badge ได้มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่ตอนจบกิจกรรม ฉะนั้น อย่าเหนียมอาย ลุยเลยสหายชาวม่วงงงงง
#FuckIMFWinner #FuckIMF
สาเหตุหลักเป็นเพราะเราเชื่อมั่นใน #Value4Value (หรือ #v4v) เรามองเห็นถึงศักยภาพของชาวไทย #Siamstr ในทุ่งม่วงแห่งนี้ว่า แต่ละคนมีสกิลจัดจ้านในการสร้างสรรค์โน้ตเจ๋ง ๆ ชนิดที่เราสิงอยู่ในนี้ทั้งวันก็มีเรื่องสนุกให้อ่านได้ไม่มีหมด
เราอยากให้ "คุณค่า" เหล่านี้ได้รับ "คุณค่า" ตอบแทนกลับไปอย่างสาสม เอ้ย สมน้ำสมเนื้อ!
- คุณค่าที่คุณ Alex Gladstein เขียนบทความนี้ขึ้นมากอย่างละเมียดละไม
- คุณค่า (และลูกบ้า) ของคุณปกป้องริเริ่มแปลบทความขนาด 100 หน้านี้ด้วยตนเอง
- คุณค่าที่ทีมงาน Right Shift หลายรายรุมเร้ามันจนมีชีวิตโลดแล่นในวันนี้
- คุณค่าที่ผู้อ่าน spend time เพื่ออ่านมัน
- คุณค่าที่ผู้อ่าน spend time เพื่อเขียนโน้ตร่วมสนุกในกิจกรรมนี้
- และที่สำคัญ นี่คือคุณค่าที่พวกเราทุกคนใน #Nostr มีส่วนผลักดัน Freedom Protocol Adoption ให้เกิดขึ้นจริง ชนิดที่ต่างชาติทึ่งว่าทำไมคอมมูฯ ไทยมันสนุกคึกคักขนาดนี้!
และนี่คือ 3 ผู้ได้รับคุณค่าพิเศษจาก Right Shift "I Fucked IMF Badge" ที่มีแค่ดีไซน์เดียวในโลก อวดคนได้ชั่วลูกชั่วหลานว่าข้าพเจ้าคือ 3 คนในโลกที่มีสิ่งนี้ประดับชีวิต
1.
U (npub1y3y…mlsw)
quoting nevent1q…jxhwมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง
บ้านเพื่อนของเรา ไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งน้ำตามธรรมชาติ
ในหมู่บ้านอาศัยน้ำจากคลองชลประทานเพื่อการเกษตร
ต่อไปนี้ เราจะเรียกหมู่บ้านเพื่อนว่า หมู่บ้านเอ
ปีนี้ทุกพื้นที่ในจังหวัด พบกับสภาวะน้ำแล้ง
ฝนตกอาทิตย์ 1-2 ครั้ง
สำหรับจังหวัด ที่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตร มันสาหัสมาก
หมู่บ้านเอ ที่ต้องอาศัยน้ำจากระบบชลประทานยิ่งหนัก
ไม่มีการปล่อยน้ำจากชลประทาน โดยอ้างว่าถ้าปล่อยมาน้ำจะไม่พอใช้ตอนหน้าแล้ง
ซึ่งคลองส่งน้ำนั้น ไม่ได้ไหลเข้าแค่หมู่บ้านเอ
แต่ไหลไปยังหมู่บ้านอื่นๆด้วย ขอเรียกว่าหมู่บ้านบี
เกิดสงครามแย่งชิงน้ำระหว่าง 2 หมู่บ้าน
หมู่บ้านบี เอาเครื่องสูบน้ำมาตั้งดัก ที่ทางน้ำเหนือหมู่บ้านเอ พอน้ำปล่อยมา ก็ถูกสูบออกไปที่หมู่บ้านบี มันเป็นแบบนั้นมาตลอดหน้าฝนนี้
ความสัมพันธ์ระหว่างชาวบ้านหมู่บ้านเอ และ บี
ที่เคยเน้นเฟ้น ตอนนี้เริ่มสั่นคลอน เพราะปัญหาเรื่องแย่งน้ำกันใช้
แต่น้ำที่ไหลมา ก็ไม่ได้เพียงพอกับการทำการเกษตรอะไรมากมายนัก มันแค่พอได้กินได้ใช้
เอาไปปลูกข้าวแบบเดิมๆไม่ได้แล้ว
ทีนี้เราก็เลยถามไปว่าแล้วแบบนี้คนในหมู่บ้านปลูกอะไร ไม่มีน้ำแบบนี้
คำตอบคือ "ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์"
ข้าวโพดเมล็ดแข็งๆ ที่แม้แต่คนปลูกก็
เอามาบริโภคกินประทังชีวิตไม่ได้
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มันเป็นพืชอุตสาหกรรมที่แตกแขนงออกไปเยอะมากไม่ใช่แค่อาหารสัตว์
มันเป็นได้ทั้ง แป้ง น้ำมัน น้ำตาล หรือ แม้แต่กาแฟ(เทียม)
เมื่อไปดูคุณสมบัติของต้นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
มันก็ไม่ได้ต้องการน้ำ และ ไม่ชอบดินแฉะ
ก็เลยเอ๊ะ! ว่า นี่มัน อะไรกัน ช่างพอดีซะเหลือเกิน
เมื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
มีข้อมูลจากหน่วยงานรัฐเต็มไปหมด
ทั้งกรมส่งเสริมการเกษตร สำนักปลัดกระทรวงการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร บริษัทผู้ค้าเมล็ดพันธุ์รายใหญ่ มีการประกันราคาจากธนาคารเพื่อการเกษตรอีกด้วย
แต่ผลกระทบของมันนี่สิ
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มันดูดธาตุอาหารในดินออกไป
ในที่สุดพื้นที่เหล่านั้นก็จะเหลือแต่ความแห้งแล้งแบบของจริง ต่อให้มีน้ำเข้าถึงจนเหลือเฟือ
มันก็ไม่สามารถเพาะปลูกพืชอะไรได้อีกแล้ว
และถ้าถามว่า
ถ้าเราเป็น IMF และ ธนาคารโลก เราจะทำอะไร?
ก็ดูดธาตุอาหารในดินจากประเทศไทยนี่แหละ
ดูดออกมาให้หมด ไม่ต้องเพาะปลูก กินผัก กินหญ้า เลี้ยงสัตว์ พึ่งพาตัวเองได้หรอก
ซื้อกินสิ เน้นการซื้อบริโภคสิ
มันคุ้มค่าและสาสมกับประเทศที่อุดมสมบูรณ์เรื่องดินอย่างเรามากที่สุดแล้ว
#FuckIMF #Siamstr
2.
Bitmania (npub1u2v…lhla)
quoting nevent1q…mjr9“ถ้าผมเป็น IMF และธนาคารโลก ผมจะใช้วิธีอะไรสูบเอาทรัพยากรไทยไปให้ประเทศกลุ่มอีลิท” อย่างนั้นหรอออ
IMF ประเทศใครมีปัญหา กำลังแย่ ขัดสนเรื่องเงิน ผมพร้อมปล่อยกู้ เอ้ย ช่วยเหลือนะค้าบ
ธนาคารโลก ไหนๆ ประเทศไหนกำลังพัฒนาเดี๋ยวเราพิพม์เงิน เอ้ยเอาเงินที่มีมอบเงินให้ แต่ช่วยทำตามคำขอเราบ้างหน่อยนะ
ถ้าพูดถึงวิธีอะไรที่สูบเอาทรัพยากร
ก่อนอื่นเลยผมจะเริ่มตั้งแต่ใช้เงินทุนแทรกแซงผลิตชุดความคิดผิดๆ ไม่ว่าจะเป็น
“มีหนี้ จะทำให้เราขยัน”
“ไม่ต้องเก็บออม ตายไปก็เอาเงินไปไม่ได้”
“ออมไปจนแก่สุดท้ายไม่ได้ใช้เงิน”
รวมถึงค่านิยม “ของมันต้องมี”
“มีก่อนได้ใช้ก่อน”
“ต้องมีบ้านก่อน30”
“ต้องมีรถส่วนตัวได้แล้วนะ” (ชุดความคิดนี้จะทำให้คนถูกกดดันจากในสังคมและเลือกจะจ่ายแม้เงินในกระเป๋ามีไม่พอ)
แต่จุดประสงค์นี้เพื่อส่งเสริมให้คนในประเทศเป้าหมายมีความต้องการระยะสั้นที่สูงขึ้น จากชุดความเชื่อใหม่ๆ มันก็จะง่ายขึ้นถ้าหากเป็นประเทศที่การศึกษายังไม่ทั่วถึง ทุกคนมักเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน มากกว่าการค้นหาความจริง เมื่อคนมีความต้องการระยะสั้นที่สูงขึ้น คนก็เลือกที่จะไม่เก็บออมและใช้เงินซื้อความสุขระยะสั้นกันมากขึ้น ส่งผลให้ประชาชนมีหนี้ที่สูงขึ้น การทำงานที่ได้มา 100 บาท ต้องจ่ายหนี้ 70 บาท เหลือกิน 30บาท เก็บออม 0 บาท ก็จะเข้าสู่สภาวะที่ชักจูงผู้คนได้ง่ายขึ้น แต่แค่นั้นยังไม่พอเพราะในเมื่อผมเป็นถึงธนาคารโลกด้วยแล้ว ผมมีอีกหนึ่งพลังนั้นคือการพิมพ์เงินออกมาได้ตามใจนึก เมื่อยิ่งพิมพ์ ข้าวของคาสินค้าจะเริ่มสูงขึ้น(อำนาจในการซื้อที่ลดลงจากเงินในระบบที่เพิ่มขึ้น) การดำรงชีวิตเริ่มยากขึ้นจาก Easy เป็น Hard Mode เงินที่เหลือหลังหักหนี้ 30บาท เริ่มไม่พอใช้ ยังไม่นับเมื่อคนใช้เงินลดลงส่งผลให้ภาคธุรกิจที่โตจากการกู้ รายได้ลดลงก็เริ่มจ่ายไม่ไหว และส่งผลให้ปลดคน เมื่อประชาชนตกงาน สภาพคล่องก็ขาดมือ ไม่มีเงินออม ประชาชนในประเทศก็จะเริ่มเรียกร้องหาใครสักคนมาช่วยเหลือ ฮีโร่คนนั้นก็คือ “รัฐบาล” นโยบายประชานิยม ลดค่าครองชีพ(ไฟฟ้า,น้ำมัน) ,แทรกแซงราคาสินค้า , แจกเงินเพื่อช่วยเหลือ ล้วนต้องใช้เงินทุนมหาศาล แต่ทำไมถึงไม่หยุด? นั้นเพราะได้รับเสียงชมชอบจากคนในประเทศยังไงหล่ะ ได้ต่ออำนาจในมือ (เป็นผู้อ่านจะไม่ชอบหรอครับ) ปลายทางของนโยบายประชานิยม ตามที่รู้กันว่า เมื่อต้องใช้เงินมหาศาลสุดท้ายเงินก็จะหมดและคลังก็จะโล่ง ทางออกคืออะไร?? (กู้สิรออะไรหล่ะ) และนี้แหละครับถึงเวลาของผม (IMF) แล้วที่จะเข้ามาช่วยคุณ ผมที่หว่านเมล็ดไว้ตั้งแต่เผยแพร่ชุดความคิดผิดๆ เข้าไปในประเทศ ตอนนี้ถึงเวลาที่ผมจะต้องเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่ต้องได้รับแล้ว เมื่อรัฐบาลต้องการเงิน ผมก็จะเสนอเงินที่รัฐบาลต้องการแลกกับทรัพยากรในประเทศได้อย่างง่ายดาย โดยที่ประเทศเป้าหมายไม่สามารถต่อรองอะไรได้เลย หากไม่ได้เงินทุนก้อนนี้ประเทศก็ต้องล้มละลาย ซึ่งคนที่ผมดีลด้วยเขาก็ไม่ได้สนประชาชนหรอก เขาสนใจผลประโยชน์ตัวเองมากกว่าครับ ทุกเงินกู้ที่ได้ไป เขาก็ไม่ได้เอาไปทำนโยบายให้ประชาชน100% อยู่แล้ว ผมที่ได้แต่มองเข้าในประเทศว่าสุดท้ายแล้วประชาชนที่เลือกจะเชื่อมากกว่าหาความรู้เขาจะไม่รู้เลยว่าเขาพลาดที่ตรงไหน ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย รัฐบาลที่ชนะเลิศครองใจคนคือรัฐที่แจก แจก แจก มากกว่าการพูดความจริง แต่นั้นไม่ใช่ปัญหาของผม เพราะสิ่งที่ผมได้คือทรัพยากรของประเทศที่คุณอยู่อาศัยอยู่ยังไงหล่ะ :) “ไม่ว่าผ่านไปกี่สิบปี ก็พบเจอตลอดไป กี่รัฐบาลก็หลงใหลในอำนาจและต้องการเงินเมื่อไม่มีเงินก็ต้องกู้สิค้าบบบ”
#FuckIMF #Siamstr
3.
AdlerNS (npub1elf…mahl)
quoting nevent1q…48zv#FuckIMF #Siamstr
จากโจทย์ของ Right Shift หากผมเป็น IMF และ ธนาคารโลก คุณจะใช้กลวิธีอะไรสูบเอาทรัพยากรของไทยไปให้ประเทศกลุ่มอีลีทธ
บทความต่อไปนี้เกิดจากจินตนาการของผมล้วน ๆ แต่จะมีประโยชน์ หากใช้ในการป้องกันสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้
เริ่มจากปรัชญาจากซุนวู “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”
รู้เขาในที่นี้คือประเทศไทยทรัพยากรที่ประเทศไทยมี และน่าสนใจคืออะไร เท่าที่นึกออกสำคัญ ๆ จะมี 2 อย่าง
1. ภูมิศาสตร์กายภาพ ประเทศไทยมีลักษณะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม ไม่ได้อยู่ในแนวขอบเปลือกโลกที่จะมีภัยพิบัติแผนดินไหว ภูมิอากาศเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชหลาย ๆ ชนิดที่สามารถใช้เป็นอาหารได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ๆ ผืนดินที่ปล่อยไว้เฉย ๆ สามารถมีวัชพืช (ช่วยปรับปรุงดินตามธรรมชาติ) หรือพืชที่ใช้เป็นอาหาร หรือไม้ เกิดและเจริญเติบโตได้ดี
2. ภูมิรัฐศาสตร์ ลักษณะของประเทศไทยเป็นแหลมคั้น 2 มหาสมุทรอินเดีย และ ทะเลจีนใต้ ซึ่งเหมาะสมการส่งผ่าน สินค้า พลังงาน และ การความคุมทางทะเล
รู้เราในที่นี้คือหากเป็น IMF และ ธนาคารโลก
1. มีอำนาจทางการเงิน
2. สามารถยืมมือประเทศกลุ่มอีลีทธ สร้างสถาณการณ์ได้
3. ภาพลักษณ์ของผู้ช่วยเหลือ
จากข้างต้นในบทความนี้ผมเลือกที่จะสูบเอาทรัพยากรจากข้อ 1 ภูมิศาสตร์กายภาพ ในลักษณะครอบงำแต่ไม่ครอบครอง เพราะต้องอาศัยแรงงานจากคนพื้นถิ่น (ทาสสมัยใหม่) เป็นผู้แปลงทรัพยากรทางกายภาพขึ้นมา ขออ้างถึงปัจจัย 4 ที่จำเป้นต่อการดำรงค์ชีพของมนุยษ์ ได้แก่ อาหาร ยา เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัย อาหารเป็นปัจจัยแรกที่สำคัญแต่ผู้ผลิตอาหาร (เกษตรกร) นั้นไม่ได้มีชีวิตที่ดี ราคาอาหารตกต่ำ ในขณะที่ยังมีผู้อดอยากอยู่บนโลกนี้ (บังเอิญหรือไม่) แต่ผู้ที่ไม่ได้ผลิตอาหารกับมั่งคั่งขึ้นเรื่อย ๆ เกริ่นมาถึงจุดนี้น่าจะมีผู้คิดแผนร้ายขึ้นบ้างแล้วว่าปัจจุบันเราอาจจะโดนอยู่ก็ได้
แผนการณ์ของวายร้ายเพื่อสูบความั่งคั่งแบบเนียน ๆ ชิว ๆ ค่าใช้จ่ายน้อย
1. ต้องทำให้เกษตรกรพึ่งพา ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช เมล็ดพันธุ์ พันธุ์สัตว์ อาหารสัตว์ จากกลุ่มอีลีทธ อย่างเลี่ยงไม่ได้ (เดิมทีตามธรรมชาติเกษตรกรไม่ต้องพึงพาภายนอกสามารถจัดการได้เอง)
2. ให้เงินทุนสนับสนุนงานวิจัยปัจจัยข้างต้นข้อดีและการเพิ่มผลผลิตจากการใช้ผลิตภัณฑ์จากกลุ่มอีลีทธ
3. สร้างสถานการณ์ดันราคาที่เกี่ยวกับ เมล็ดพันธุ์ พันธุ์สัตว์ เป็นบางครั้งเพื่อกระตุ้นการผลิตและเทตลาดเพื่อให้เกษตรมุ่งสู่การเป็นหนี้จะได้ง่ายต่อการควบคุม (ในการประท้วงรัฐหากรัฐจะกีดกันการนำเข้า ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช เมล็ดพันธุ์ พันธุ์สัตว์ อาหารสัตว์ จากกลุ่มอีลีทธ หรือ อะไรก็ตาม)
4. สนับสนุนให้รัฐบังคับใช้สิทธิบัตรเมล็ดพันธุ์ พันธุ์สัตว์ (ขอแลกเปลี่ยนในการกู้เงินหรือไม่)
5. กระตุ้นความโลภให้เกษตรกรหันมาเป็นนักลงทุนงง ๆ ในคราบเกษตรกร เช่น การปลูกพืชเชิงเดี่ยว ผู้ที่อ้างว่าเป็นเกษตรกรได้เช่าที่ ซื้อเมล็ดพันธุ์ ซื้อปุ๋ย จ้างแรงงาน หรือ จ้างเครื่องจักร ปลูกและเก็บเกี่ยว ซึ่งในกระบวนการนักลงทุนงง ๆ ในคราบเกษตรกรแทบไม่ได้ออกแรงจับจอบและเสียมเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายความไม่ถนัดในการลงทุนนำไปสู่การขาดทุนและเป็นหนี้
6. เมื่อเกิดวงจรอุบาทว์ รัฐสวัสดิการจึงต้องเข้าไปอุ้ม เพื่อให้วงจรนี้ยีงหมุนได้ต่อ รัฐต้องกู้เงิน (จาก IMF และ ธนาคารโลก ไหม ? ทั้งทางตรงและทางอ้อม) ค่าเงินอ่อนค่า
7. จากค่าเงินที่อ่อนค่าปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช เมล็ดพันธุ์ พันธุ์สัตว์ อาหารสัตว์ จากกลุ่มอีลีทธ ก็ยังขายราคาเดิมในสกุลของกลุ่มอีลีทธ แต่กลุ่มอีลีทธสามารถซื้ออาหารได้ในราคาที่ถูกลง
อุปสรรคของแผนนี้
1. เกษตรกรหันมาพึ่งพาธรรมชาติเดิม ทำปุ๋ยเอง ทำยาปราบศัตรูพืช ใช้เมล็ดพันธุ์ท้องถิ่น เลี้ยงพันธุ์สัตว์ท้องถิ่นที่ทนโรคท้องถิ่น ทำอาหารสัตว์เอง แต่ยากเพราะปริมาณผลผลิตจะลดลงเป็นธรรมชาติทำให้ขายได้ลดลง
2. หลักเศรษฐกิจพอเพียง “...การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น ต้องสร้างพื้นฐานคือ ความพอมี พอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและอุปกรณ์ที่ประหยัดแต่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เมื่อได้พื้นฐานความมั่นคงพร้อมพอสมควร และปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญ และฐานะทางเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป...” (18 กรกฎาคม 2517) พระราชดำริว่าด้วยเศรษฐกิจพอเพียงของ ร.9 (ผมเคารพท่านสุดหัวใจ)
ทำให้ควบคุมความโลภของเกษตรกรและเริ่มจากความมีเหตุผลมากขึ้นและพัฒนาขึ้นมาอย่างเป็นลำดับด้วยฐานที่มั่นคง (แต่ก็ถูกบิดเบือนออกไปทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ผู้ฟังก็ไม่พิจารณาว่าจริง ๆ คืออะไรก็เชื่อไปแล้ว เป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก)
ปล. ขอให้เพลิดเพลินกับการเสพเนื้อหาข้างต้นครับ หากมีจินตนาการมากกว่านี้อาจส่งเพิ่ม
ขอบคุณที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงสังคมไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น พวกคุณโคตรคูลครับ
หมายเหตุ :
- ร่วมสนุกกิจกรรมนี้ได้ทุกสัปดาห์ คนได้ badge แล้วกก็เล่นได้อีก เผื่ออยากเก็บ badge ให้ครบ 6 ดีไซน์!
- ทุกคนที่เล่นกิจกรรม แม้จะไม่ได้ badge ได้มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่ตอนจบกิจกรรม ฉะนั้น อย่าเหนียมอาย ลุยเลยสหายชาวม่วงงงงง
#FuckIMFWinner #FuckIMF