Tung Khempila on Nostr: #siamstr Sex, Society and Economic -ผู้ที่กล่าวว่า ...
#siamstr Sex, Society and Economic
-ผู้ที่กล่าวว่า การมีเพศสัมพันธ์ คือ อิสรภาพและการปลดปล่อยที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์นั้นแท้จริงแล้ว เป็นผู้ที่มิไม่ได้เรียนรู้ว่าชีวิตนั้นมีต้นทุนที่ต้องจ่ายให้กับกรงขังห้องใหม่เสมอ-
ในวันที่คุณมีผู้ติดตาม 70,000 คนจากเพจเฟสบุ๊คส่วนตัว และได้เคยสัมภาษณ์เหล่าเซ็กเวิร์กเกอร์อินฟลูเอนเซอร์ที่โด่งดังในช่วงโควิดนี่เป็นอะไรที่สุดยอดมาก พอย้อนกลับไปถึงจุดนั้น กับ จุดที่ยืนอยู่ตรงนี้โคตรแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สำหรับตัวผมผู้ซึ่งพยายามศึกษาการทำงานของเรื่องพวกนี้ ณ จุดนั้นเราดีใจว่าสังคมจอมปลอมเริ่มที่จะยอมรับ เรื่องธรรมชาติของมนุษย์ ที่ทำงานได้อย่างปกติ คล้ายกับสังคมทางฝั่งตะวันตก สื่อ หรือ คอนเทนต์ออนไลน์ พยายามที่จะทำคอนเทนต์เพื่อให้ความรู้ ในความตลก ความสนุก ในมุมมองที่เป็นปัจจุบัน จากเหล่าอดีตที่ล้มเหลวของสภาวะสังคมที่มีการปกครองทางจารีตรวมศูนย์นำ ในปัจจุบัน
นี่คือการปลดปล่อย อิสรเสรีภาพ ของประชาชน…
“ความขาดแคลน”
กฏข้อแรกของเศรษฐศาสตร์ นั้นคือ เรื่องความขาดแคลน มิใช่การจัดการความขาดแคลนจากองค์กรณ์ใดองค์กรณ์หนึ่ง เมื่อเสรีภาพหรืออิสรภาพเป็นสิ่งที่ไร้พันธนาการจากระเบียบที่มีความโกลาหล จึงกลายเป็นความโกลาหลไร้ซึ่งระเบียบ ณ ชั่วขณะ
การทำงานภายใต้ตลาดเสรีจึงเป็นตัวแปรในการจัดการโดยธรรมชาติผ่านสิ่งที่เราเรียกว่า มือที่มองไม่เห็น(ภวะ) เกิดขึ้น สิ่งที่มีมากมายหรืออิสรภาพนั้นจึงมีราคาที่ต้องจ่ายผ่านการกระทำ หรือ ที่เราเรียกว่า Human Action (ตามหลัก Praxyology) และ ราคาที่คุณและผมต้องสูญเสียตลอดในทุกๆวันคือ “เวลา”
ในสภาวะของเวลานั้นมิได้หยุดอยู่กับที่แต่เคลื่อนไปตามธรรมชาติของโลก และเราเป็นผู้ที่วิ่งไปกับมันจนกว่าเราจะหยุดนิ่ง สภาวะความเหนื่อยล้า ความทุกข์ยาก นั้นจึงเป็นเหตุนำไปสู่บ่อเกิดแห่งทุกข์ นั่นแหละครับ “ชีวิตคือความทุกข์ยาก”
ดังนั้นการปล่อยวางในช่วงที่กำลังติดท๊อปสปีดของชีวิตหรือช่วงเวลาประมาณการคือ 15-60 ปี จึงเป็นช่วงชีวิตที่เหมือนยืนยาวในกาลเวลานั้น แต่ในท้ายที่สุดธรรมชาติจะพามันผ่านไปตามกาลหมุนและการเติบโตของเรา มันเป็นช่วงชีวิตในการสร้างคุณค่า มากกว่าการปล่อยวาง สิ่งที่คุณทิ้งไว้ จึงเปรียบเสมือน ความเป็นระเบียบภายใต้ความโกลาหล ในโลกอนาคตเสมอ
ภายใต้ระบบหรือกลไกตลาดเสรีนั้น ตัวของมนุษย์เองมีสิ่งที่เรียกว่า ต้นทุนค่าเสียเวลา(cost of oppotunity) ซึ่งสิ่งเรานี้นำไปสู่สภาวะทางด้านอารมณ์ของตัวปัจเจกเอง เช่น ความเจ็บปวด ความเสียใจ หรือ กระทั่งรางวัล
รางวัลเป็นสิ่งมีค่า หรือ แม้แต่ช่วงจังหวะของชีวิตมนุษย์สามารถเรียกมันว่า คุณค่าของตัวตนเองได้ ตลาดเสรีนั้นคือความทุกข์ยาก เพราะมันสามารถเกิดสิ่งที่เรียกว่า การคัดสรรค์โดยธรรมชาติได้ ซึ่งมันคือความสวยงามโดยธรรมชาติตั้งแต่กำเนิด หากคุณมีนมที่สวย ขาเรียวยาว ใบหน้าที่เป็นค่านิยมของสังคมนั้นๆ ไม่ต้องแปลกใจ ที่การประกวดความสวยงามบางครั้ง สร้างเพียงแค่ค่านิยมใหม่ เท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เหล่ามนุษย์ไม่สามารถสร้างค่ามาตรฐานเพื่อให้คนเท่ากันได้
นั่นจึงเป็นเรื่องเพ้อฝันของเหล่าคอมมิวนิสต์ ที่พยายามสร้างสภาวะไร้คุณค่า โดยอ้างอิงธรรมชาติ ไว้ภายใต้ความธรรมดา นี่ไม่ใช่มาตรฐาน และ ความก้าวหน้า นี่ไม่นำไปสู่สิ่งที่ก่อให้กำเนิด สิ่งใหม่ๆ การแข่งขันในตลาดที่ใหม่กว่า
แม้สิ่งเหล่านี้จะเป็นสภาวะที่ไม่ได้แข่งขันโดยใช้ความสามารถก็ตาม…
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ผมอยากให้คุณสังเกตุเห็นข้อดีของสิ่งนั้นคือ ด้านความขาดแคลนภายใต้ตลาดเสรี ซึ่งเปรียบเสมือนการสร้างค่านิยมใหม่ๆ ภายใต้ระบบเสรีภาพที่มีเรื่องเพศสัมพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้อง มันสามารถสร้างการผลิตให้กับสังคมได้ แต่…
“สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ยกคุณค่าหรือระดับให้กับสังคมที่สูงยิ่งขึ้นไป…”
เพราะแท้จริงแล้วเรื่องเหล่านี้เป็นสภาวะธรรมชาติของมนุษย์ที่เป็นเพียงแค่การแสดงออกหรือปฏิกริยาในการที่ทุกคนนั้นจำยอม หรือ ยอมรับการมีความสุขหรือ การหลั่งสารโดพามีนที่ทำได้ง่ายดายด้วยตนเอง ในโลกยุคปัจจุบัน ผ่านเทคโนโลยีทางอินเตอร์เน็ต สภาวะในปัจจุบันที่ทุกอย่างเริ่มเป็นธรรมชาติ การช่วยตัวเอง ปลดปล่อยทางอารมณ์ ของตัวเอง เป็นสิ่งธรรมดาภายในชีวิตของมนุษย์ในยุคสมัยใหม่ สภาวะสังคมที่อ่อนแอหรือยามที่สังคมเข้มแข็ง มนุษย์ยังมีเพศสัมพันธ์หรือการปลดปล่อยตัวเองกันอยู่เสมอ นี่คือสภาวะธรรมชาติ ซึ่งไม่สามารถยกระดับความของมนุษย์ได้แม้แต่นิดเดียว
หรือเรียกสั้นๆก็คือ สภาวะที่เป็นเพียงธรรมชาติของสัตว์
หากชีวิตที่ผ่านความทุกข์ยากสามารถหาความสุขกับเหล่านารีมือหมอจอมปลอมจะทำให้คุณมีความสุขหรือหลั่งสารโดพามีนได้ชั่วขณะ นั้นเป็นเพียงรางวัลที่คุณไม่มีวันได้ครอบครอง เมื่อนารีเหล่านั้นย่อมเห็นด้วยตาของผู้อื่นได้เช่นกัน (ถึงขณะนั้นผมก็ยังคงเปิดเว็ปหา Saika Kawakita((ใต้ภาพ))ขวัญใจผมเสมอ)
สภาวะของสังคมที่พบเจอกับสิ่งที่ซื้อได้ง่ายหากินได้ง่าย ฉีกซองกินได้ กับ ผู้หญิงที่ทำตัวเองให้เปรียบเสมือนสิ่งของแล้วคิดว่าตัวเองสร้างมูลค่าได้ ผ่านเพียงเงินในกระเป๋าตังค์ นี่มันคือความอ่อนแอของการกระทำมนุษย์ที่สุดเท่าที่จะเคยหาได้ พวกลูกแกะเหล่านี้ สร้างและบ่มเพราะสังคมลูกแกะตัวใหม่ๆ สังคมที่โกลาหล เป็นสังคมที่นำไปสู่ความเสื่อมทราม แม้แต่เทคโนโลยีพวกเค้าก็คิดว่ามันนำมาซึ่งการตอบสนองตัญหาของพวกเค้าเอง
ในวันเวลาที่ใกล้เข้ามาถึงจุดจบของพวกเค้านั้นเหลือเพียงความว่างเปล่า ความสำเร็จจอมปลอมที่พวกเค้าสร้างสังคมและสภาวะความโกลาหลนั้นๆ ขึ้นมา ผ่านระเบียบที่พวกเค้าไม่สามารถต้านทานได้จากปัจจัยทั้งภายนอกภายในของมันได้ คนพวกนี้เมื่อขณะนั้นอาจจะอยู่ในภาวะที่จำยอมหรือปล่อยวาง ไม่เร่งรีบแต่พร้อมจะเดินไปอย่างช้าๆ รอดูความอัปยศในสิ่งที่พวกเค้ามอบมันให้แก่สังคม
นี่คือความหมายที่แท้จริง นี่ความจริงที่เกิดขึ้น นี่คือระเบียบที่ไร้ความรับผิดชอบ นี่คือมังกรที่ได้เข้ามาจู่โจมทั่วทั้งเมือง
และไม่มีใครยอมรับมันนอกเสียจากเลียวเห็นเพียงความจริงที่เป็นธรรมชาติอันโหดร้าย และ ความอ่อนแอที่มาจากการกระทำของผู้ที่อ่อนแอในอดีตเสียนั่นเอง
-ผู้ที่กล่าวว่า การมีเพศสัมพันธ์ คือ อิสรภาพและการปลดปล่อยที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์นั้นแท้จริงแล้ว เป็นผู้ที่มิไม่ได้เรียนรู้ว่าชีวิตนั้นมีต้นทุนที่ต้องจ่ายให้กับกรงขังห้องใหม่เสมอ-
ในวันที่คุณมีผู้ติดตาม 70,000 คนจากเพจเฟสบุ๊คส่วนตัว และได้เคยสัมภาษณ์เหล่าเซ็กเวิร์กเกอร์อินฟลูเอนเซอร์ที่โด่งดังในช่วงโควิดนี่เป็นอะไรที่สุดยอดมาก พอย้อนกลับไปถึงจุดนั้น กับ จุดที่ยืนอยู่ตรงนี้โคตรแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สำหรับตัวผมผู้ซึ่งพยายามศึกษาการทำงานของเรื่องพวกนี้ ณ จุดนั้นเราดีใจว่าสังคมจอมปลอมเริ่มที่จะยอมรับ เรื่องธรรมชาติของมนุษย์ ที่ทำงานได้อย่างปกติ คล้ายกับสังคมทางฝั่งตะวันตก สื่อ หรือ คอนเทนต์ออนไลน์ พยายามที่จะทำคอนเทนต์เพื่อให้ความรู้ ในความตลก ความสนุก ในมุมมองที่เป็นปัจจุบัน จากเหล่าอดีตที่ล้มเหลวของสภาวะสังคมที่มีการปกครองทางจารีตรวมศูนย์นำ ในปัจจุบัน
นี่คือการปลดปล่อย อิสรเสรีภาพ ของประชาชน…
“ความขาดแคลน”
กฏข้อแรกของเศรษฐศาสตร์ นั้นคือ เรื่องความขาดแคลน มิใช่การจัดการความขาดแคลนจากองค์กรณ์ใดองค์กรณ์หนึ่ง เมื่อเสรีภาพหรืออิสรภาพเป็นสิ่งที่ไร้พันธนาการจากระเบียบที่มีความโกลาหล จึงกลายเป็นความโกลาหลไร้ซึ่งระเบียบ ณ ชั่วขณะ
การทำงานภายใต้ตลาดเสรีจึงเป็นตัวแปรในการจัดการโดยธรรมชาติผ่านสิ่งที่เราเรียกว่า มือที่มองไม่เห็น(ภวะ) เกิดขึ้น สิ่งที่มีมากมายหรืออิสรภาพนั้นจึงมีราคาที่ต้องจ่ายผ่านการกระทำ หรือ ที่เราเรียกว่า Human Action (ตามหลัก Praxyology) และ ราคาที่คุณและผมต้องสูญเสียตลอดในทุกๆวันคือ “เวลา”
ในสภาวะของเวลานั้นมิได้หยุดอยู่กับที่แต่เคลื่อนไปตามธรรมชาติของโลก และเราเป็นผู้ที่วิ่งไปกับมันจนกว่าเราจะหยุดนิ่ง สภาวะความเหนื่อยล้า ความทุกข์ยาก นั้นจึงเป็นเหตุนำไปสู่บ่อเกิดแห่งทุกข์ นั่นแหละครับ “ชีวิตคือความทุกข์ยาก”
ดังนั้นการปล่อยวางในช่วงที่กำลังติดท๊อปสปีดของชีวิตหรือช่วงเวลาประมาณการคือ 15-60 ปี จึงเป็นช่วงชีวิตที่เหมือนยืนยาวในกาลเวลานั้น แต่ในท้ายที่สุดธรรมชาติจะพามันผ่านไปตามกาลหมุนและการเติบโตของเรา มันเป็นช่วงชีวิตในการสร้างคุณค่า มากกว่าการปล่อยวาง สิ่งที่คุณทิ้งไว้ จึงเปรียบเสมือน ความเป็นระเบียบภายใต้ความโกลาหล ในโลกอนาคตเสมอ
ภายใต้ระบบหรือกลไกตลาดเสรีนั้น ตัวของมนุษย์เองมีสิ่งที่เรียกว่า ต้นทุนค่าเสียเวลา(cost of oppotunity) ซึ่งสิ่งเรานี้นำไปสู่สภาวะทางด้านอารมณ์ของตัวปัจเจกเอง เช่น ความเจ็บปวด ความเสียใจ หรือ กระทั่งรางวัล
รางวัลเป็นสิ่งมีค่า หรือ แม้แต่ช่วงจังหวะของชีวิตมนุษย์สามารถเรียกมันว่า คุณค่าของตัวตนเองได้ ตลาดเสรีนั้นคือความทุกข์ยาก เพราะมันสามารถเกิดสิ่งที่เรียกว่า การคัดสรรค์โดยธรรมชาติได้ ซึ่งมันคือความสวยงามโดยธรรมชาติตั้งแต่กำเนิด หากคุณมีนมที่สวย ขาเรียวยาว ใบหน้าที่เป็นค่านิยมของสังคมนั้นๆ ไม่ต้องแปลกใจ ที่การประกวดความสวยงามบางครั้ง สร้างเพียงแค่ค่านิยมใหม่ เท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เหล่ามนุษย์ไม่สามารถสร้างค่ามาตรฐานเพื่อให้คนเท่ากันได้
นั่นจึงเป็นเรื่องเพ้อฝันของเหล่าคอมมิวนิสต์ ที่พยายามสร้างสภาวะไร้คุณค่า โดยอ้างอิงธรรมชาติ ไว้ภายใต้ความธรรมดา นี่ไม่ใช่มาตรฐาน และ ความก้าวหน้า นี่ไม่นำไปสู่สิ่งที่ก่อให้กำเนิด สิ่งใหม่ๆ การแข่งขันในตลาดที่ใหม่กว่า
แม้สิ่งเหล่านี้จะเป็นสภาวะที่ไม่ได้แข่งขันโดยใช้ความสามารถก็ตาม…
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ผมอยากให้คุณสังเกตุเห็นข้อดีของสิ่งนั้นคือ ด้านความขาดแคลนภายใต้ตลาดเสรี ซึ่งเปรียบเสมือนการสร้างค่านิยมใหม่ๆ ภายใต้ระบบเสรีภาพที่มีเรื่องเพศสัมพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้อง มันสามารถสร้างการผลิตให้กับสังคมได้ แต่…
“สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ยกคุณค่าหรือระดับให้กับสังคมที่สูงยิ่งขึ้นไป…”
เพราะแท้จริงแล้วเรื่องเหล่านี้เป็นสภาวะธรรมชาติของมนุษย์ที่เป็นเพียงแค่การแสดงออกหรือปฏิกริยาในการที่ทุกคนนั้นจำยอม หรือ ยอมรับการมีความสุขหรือ การหลั่งสารโดพามีนที่ทำได้ง่ายดายด้วยตนเอง ในโลกยุคปัจจุบัน ผ่านเทคโนโลยีทางอินเตอร์เน็ต สภาวะในปัจจุบันที่ทุกอย่างเริ่มเป็นธรรมชาติ การช่วยตัวเอง ปลดปล่อยทางอารมณ์ ของตัวเอง เป็นสิ่งธรรมดาภายในชีวิตของมนุษย์ในยุคสมัยใหม่ สภาวะสังคมที่อ่อนแอหรือยามที่สังคมเข้มแข็ง มนุษย์ยังมีเพศสัมพันธ์หรือการปลดปล่อยตัวเองกันอยู่เสมอ นี่คือสภาวะธรรมชาติ ซึ่งไม่สามารถยกระดับความของมนุษย์ได้แม้แต่นิดเดียว
หรือเรียกสั้นๆก็คือ สภาวะที่เป็นเพียงธรรมชาติของสัตว์
หากชีวิตที่ผ่านความทุกข์ยากสามารถหาความสุขกับเหล่านารีมือหมอจอมปลอมจะทำให้คุณมีความสุขหรือหลั่งสารโดพามีนได้ชั่วขณะ นั้นเป็นเพียงรางวัลที่คุณไม่มีวันได้ครอบครอง เมื่อนารีเหล่านั้นย่อมเห็นด้วยตาของผู้อื่นได้เช่นกัน (ถึงขณะนั้นผมก็ยังคงเปิดเว็ปหา Saika Kawakita((ใต้ภาพ))ขวัญใจผมเสมอ)
สภาวะของสังคมที่พบเจอกับสิ่งที่ซื้อได้ง่ายหากินได้ง่าย ฉีกซองกินได้ กับ ผู้หญิงที่ทำตัวเองให้เปรียบเสมือนสิ่งของแล้วคิดว่าตัวเองสร้างมูลค่าได้ ผ่านเพียงเงินในกระเป๋าตังค์ นี่มันคือความอ่อนแอของการกระทำมนุษย์ที่สุดเท่าที่จะเคยหาได้ พวกลูกแกะเหล่านี้ สร้างและบ่มเพราะสังคมลูกแกะตัวใหม่ๆ สังคมที่โกลาหล เป็นสังคมที่นำไปสู่ความเสื่อมทราม แม้แต่เทคโนโลยีพวกเค้าก็คิดว่ามันนำมาซึ่งการตอบสนองตัญหาของพวกเค้าเอง
ในวันเวลาที่ใกล้เข้ามาถึงจุดจบของพวกเค้านั้นเหลือเพียงความว่างเปล่า ความสำเร็จจอมปลอมที่พวกเค้าสร้างสังคมและสภาวะความโกลาหลนั้นๆ ขึ้นมา ผ่านระเบียบที่พวกเค้าไม่สามารถต้านทานได้จากปัจจัยทั้งภายนอกภายในของมันได้ คนพวกนี้เมื่อขณะนั้นอาจจะอยู่ในภาวะที่จำยอมหรือปล่อยวาง ไม่เร่งรีบแต่พร้อมจะเดินไปอย่างช้าๆ รอดูความอัปยศในสิ่งที่พวกเค้ามอบมันให้แก่สังคม
นี่คือความหมายที่แท้จริง นี่ความจริงที่เกิดขึ้น นี่คือระเบียบที่ไร้ความรับผิดชอบ นี่คือมังกรที่ได้เข้ามาจู่โจมทั่วทั้งเมือง
และไม่มีใครยอมรับมันนอกเสียจากเลียวเห็นเพียงความจริงที่เป็นธรรมชาติอันโหดร้าย และ ความอ่อนแอที่มาจากการกระทำของผู้ที่อ่อนแอในอดีตเสียนั่นเอง