Ekaphol on Nostr: เมื่อซิเคียวก็มีเวลา ...
เมื่อซิเคียวก็มีเวลา
เวลาที่หายากขึ้นทุกวันในระบบเฟียต
เวลา ทรัพยากรที่จำกัด ใช้ได้แค่สองทาง
1ใช้กับตัวเรา 2ใช้ให้กับระบบ...
หลายๆคนเคยขึ้นเขาใหญ่ แต่น้อยคนจะเคยเดินขึ้นเขาใหญ่ จากด่านหน้าอช.ถึงจุดชมวิว ระยะทาง7km ขับรถขึ้นไม่เกิน10นาที แต่เดินขึ้นใช้หมื่นก้าว(1-2ชม.) แล้วต่างกันยังไง?
ต่างทุกอย่างครับ ขับรถขึ้นทุกอย่างผ่านไปเร็ว ไม่มีเวลาให้พินิจมาก แต่เดินเท้าเราเดินทีละก้าวทุกอย่างค่อยๆผ่าน ต้นไม่ทีละต้น ก้อนหินที่ขวางทาง กิ่งไม้ แมลง เสียงนก มูลสัตว์ หลืบซอกระหว่างต้น ลม แดด ทุกสิ่งอย่างมันผ่านการเห็นแบบพินิจช้าๆ เกิดเป็นหัวข้อของการพูดคุยระหว่างทางสารพัด เป็นเวลาที่เราได้ใช้กับตัวเองและคนข้างกายแบบเต็มๆ
และแม้เส้นทางเดิมเราจะขึ้นซ้ำๆกี่ครั้งก็ตาม แต่มันให้ความรู้สึกและประสบการณ์ไม่ซ้ำกันเลยซักครั้ง
ข้อดีของการเดินขึ้นทางกายภาพยังมีอีกหลายข้อ
1มันคือการออกกำลังกาย ไม่ต้องบอกก็รู้ดียังไง
2แสงแดดอ่อน วิตมินd ที่ดีต่อมนุษย์แน่นอน
3การอาบป่า มันช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันอย่างดีเชียวแหละ ผมจะขอพูดถึงเรื่องนี้
การอาบป่า (Forest Bathing) เป็นศาสตร์บำบัดจากญี่ปุ่นที่เรียกว่า Shinrin Yoku ที่ใช้การสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดเพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้า ศาสตร์นี้เป็นที่รู้จักของชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 1982 กระทั่งปี 2002 จึงมีการก่อตั้งสมาคมป่าบำบัดขึ้น เพื่อวิจัยผลกระทบของสิ่งแวดล้อมในป่าที่ส่งผลต่อสุขภาพของคนเรา
การอาบป่าเหมาะสำหรับเหล่าคนเมืองที่มีวิถีชีวิตรีบเร่ง อยู่กับความวุ่นวายรอบตัว รวมถึงผู้ที่เผชิญกับความเครียด การเข้าป่าเพื่อซึมซับธรรมชาติผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส ด้วยใจที่นิ่งสงบและมีสมาธิ
ธรรมชาติบำบัด
การอาบป่าคือการเชื่อมโยงตัวเราเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ จึงต่างกับการเดินป่าที่ต้องการสำรวจสิ่งรอบตัวระหว่างทาง ฉะนั้น การอาบป่าจึงใช้พื้นที่ไม่เยอะและไม่ได้มีจุดหมายปลายทางเหมือนการเดินป่า เพราะแค่เดินเข้าป่ามีสติกับการย่างก้าว และรู้สึกว่าได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติแล้ว จิตใจที่เริ่มนิ่งและบรรยากาศที่สงบรอบตัว เราจะเริ่มได้ยินเสียงนกร้อง เสียงน้ำไหล เสียงลมพัด ได้สูดความหอมของดอกไม้ ได้กลิ่นดินกลิ่นฝน ให้ปล่อยกายใจเป็นอิสระในการได้สัมผัสกับธรรมชาติ ณ ป่าแห่งนั้น
มหัศจรรย์การอาบป่า
ศาสตร์นี้ได้รับการทดลองและวิจัยในญี่ปุ่น พบว่า ช่วยฟื้นฟูกลไกของร่างกาย ช่วยลดความเครียด บรรเทาอาการซึมเศร้า แล้วยังช่วยให้มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นการส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิตในคราวเดียวกัน ที่สำคัญการได้สูดออกซิเจนจากธรรมชาติให้เต็มปอด ยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทานและเพิ่ม NK Cells ที่ช่วยรักษาโรคมะเร็งได้
***NK Cell (Natural Killer Cell) คือเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกาย พบได้เพียง15%ของจำนวนเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์(Lymphocyte)ทั้งหมด แต่มีหน้าที่สำคัญในการทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสและเซลล์มะเร็ง โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการกระตุ้นและการเรียนรู้ต่อเซลล์ที่ผิดปกตินั้น (Antigen Stimulation) ดังนั้นเม็ดเลือดขาว NK Cell จึงมีบทบาทสำคัญซึ่งเปรียบเสมือนด่านแรกของระบบภูมิคุ้มกัน (Innate Immune System) ในการค้นหาและทำลายเซลล์มะเร็งในระยะเริ่มต้นและควบคุมการติดเชื้อไวรัสต่าง ๆ
ปล.ข้อดีข้อสุดท้ายคือ เมื่อถึงจุดหมายปลายทางเราจะได้พบวิวที่สวยงาม น่ารัก ตะมุตะมิมากมายจากเหล่านักท่องเทียวในชุดสุดสวย เพลินตาสุดๆ อย่างกับมาเดินงาน khaoyai fashion week เลยทีเดียว 😆😆😆
งานมีทอัพ #korat102 ท่านใดสนใจชิลล์แบบนี้ รวมกลุ่มกันมาได้นะครับ แค่รองเท้าผ้าใบกับใจถึงๆเองครับ
#siamstr #khaoyai
เวลาที่หายากขึ้นทุกวันในระบบเฟียต
เวลา ทรัพยากรที่จำกัด ใช้ได้แค่สองทาง
1ใช้กับตัวเรา 2ใช้ให้กับระบบ...
หลายๆคนเคยขึ้นเขาใหญ่ แต่น้อยคนจะเคยเดินขึ้นเขาใหญ่ จากด่านหน้าอช.ถึงจุดชมวิว ระยะทาง7km ขับรถขึ้นไม่เกิน10นาที แต่เดินขึ้นใช้หมื่นก้าว(1-2ชม.) แล้วต่างกันยังไง?
ต่างทุกอย่างครับ ขับรถขึ้นทุกอย่างผ่านไปเร็ว ไม่มีเวลาให้พินิจมาก แต่เดินเท้าเราเดินทีละก้าวทุกอย่างค่อยๆผ่าน ต้นไม่ทีละต้น ก้อนหินที่ขวางทาง กิ่งไม้ แมลง เสียงนก มูลสัตว์ หลืบซอกระหว่างต้น ลม แดด ทุกสิ่งอย่างมันผ่านการเห็นแบบพินิจช้าๆ เกิดเป็นหัวข้อของการพูดคุยระหว่างทางสารพัด เป็นเวลาที่เราได้ใช้กับตัวเองและคนข้างกายแบบเต็มๆ
และแม้เส้นทางเดิมเราจะขึ้นซ้ำๆกี่ครั้งก็ตาม แต่มันให้ความรู้สึกและประสบการณ์ไม่ซ้ำกันเลยซักครั้ง
ข้อดีของการเดินขึ้นทางกายภาพยังมีอีกหลายข้อ
1มันคือการออกกำลังกาย ไม่ต้องบอกก็รู้ดียังไง
2แสงแดดอ่อน วิตมินd ที่ดีต่อมนุษย์แน่นอน
3การอาบป่า มันช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันอย่างดีเชียวแหละ ผมจะขอพูดถึงเรื่องนี้
การอาบป่า (Forest Bathing) เป็นศาสตร์บำบัดจากญี่ปุ่นที่เรียกว่า Shinrin Yoku ที่ใช้การสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดเพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้า ศาสตร์นี้เป็นที่รู้จักของชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 1982 กระทั่งปี 2002 จึงมีการก่อตั้งสมาคมป่าบำบัดขึ้น เพื่อวิจัยผลกระทบของสิ่งแวดล้อมในป่าที่ส่งผลต่อสุขภาพของคนเรา
การอาบป่าเหมาะสำหรับเหล่าคนเมืองที่มีวิถีชีวิตรีบเร่ง อยู่กับความวุ่นวายรอบตัว รวมถึงผู้ที่เผชิญกับความเครียด การเข้าป่าเพื่อซึมซับธรรมชาติผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส ด้วยใจที่นิ่งสงบและมีสมาธิ
ธรรมชาติบำบัด
การอาบป่าคือการเชื่อมโยงตัวเราเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ จึงต่างกับการเดินป่าที่ต้องการสำรวจสิ่งรอบตัวระหว่างทาง ฉะนั้น การอาบป่าจึงใช้พื้นที่ไม่เยอะและไม่ได้มีจุดหมายปลายทางเหมือนการเดินป่า เพราะแค่เดินเข้าป่ามีสติกับการย่างก้าว และรู้สึกว่าได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติแล้ว จิตใจที่เริ่มนิ่งและบรรยากาศที่สงบรอบตัว เราจะเริ่มได้ยินเสียงนกร้อง เสียงน้ำไหล เสียงลมพัด ได้สูดความหอมของดอกไม้ ได้กลิ่นดินกลิ่นฝน ให้ปล่อยกายใจเป็นอิสระในการได้สัมผัสกับธรรมชาติ ณ ป่าแห่งนั้น
มหัศจรรย์การอาบป่า
ศาสตร์นี้ได้รับการทดลองและวิจัยในญี่ปุ่น พบว่า ช่วยฟื้นฟูกลไกของร่างกาย ช่วยลดความเครียด บรรเทาอาการซึมเศร้า แล้วยังช่วยให้มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นการส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิตในคราวเดียวกัน ที่สำคัญการได้สูดออกซิเจนจากธรรมชาติให้เต็มปอด ยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทานและเพิ่ม NK Cells ที่ช่วยรักษาโรคมะเร็งได้
***NK Cell (Natural Killer Cell) คือเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกาย พบได้เพียง15%ของจำนวนเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์(Lymphocyte)ทั้งหมด แต่มีหน้าที่สำคัญในการทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสและเซลล์มะเร็ง โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการกระตุ้นและการเรียนรู้ต่อเซลล์ที่ผิดปกตินั้น (Antigen Stimulation) ดังนั้นเม็ดเลือดขาว NK Cell จึงมีบทบาทสำคัญซึ่งเปรียบเสมือนด่านแรกของระบบภูมิคุ้มกัน (Innate Immune System) ในการค้นหาและทำลายเซลล์มะเร็งในระยะเริ่มต้นและควบคุมการติดเชื้อไวรัสต่าง ๆ
ปล.ข้อดีข้อสุดท้ายคือ เมื่อถึงจุดหมายปลายทางเราจะได้พบวิวที่สวยงาม น่ารัก ตะมุตะมิมากมายจากเหล่านักท่องเทียวในชุดสุดสวย เพลินตาสุดๆ อย่างกับมาเดินงาน khaoyai fashion week เลยทีเดียว 😆😆😆
งานมีทอัพ #korat102 ท่านใดสนใจชิลล์แบบนี้ รวมกลุ่มกันมาได้นะครับ แค่รองเท้าผ้าใบกับใจถึงๆเองครับ
#siamstr #khaoyai