fastingfatdentist on Nostr: จากเอกสารวัคซีน C o v i d ...
จากเอกสารวัคซีน C o v i d ที่ได้รับการเปิดเผยมาบางส่วนตามคำสั่งศาลเท๊กซัส (BNT162b2)
มีชื่อของโรคที่มีโอกาสพบได้เมื่อได้รับวัคซีน คือ mycoplasma pneumoniae อยู่ใน list ด้วย
ซึ่งเชื้อที่ทำให้เกิดโรคปอดอักเสบ
มี ไวรัส 5 ชนิด คือ
ไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza Virus),
ไรโนไวรัส (Rhinovirus),
ไวรัสริสไพราโทรี ซินไซเทียล (Respiratory Syncytial Virus : RSV),
อะดีโนไวรัส (Adenovirus)
และ ไวรัสโคโรนา 2019
ส่วนเชื้ออีกชนิดเป็น 'แบคทีเรีย' ชื่อว่า
ไมโคพลาสมา เนมโมเนีย (Mycoplasma Pneumoniae)
และเมื่อดูที่เอกสารอีกครั้ง จะพบว่า มีเชื้อไม่ต่ำกว่า 2 ตัวที่อาจจะมีผลมาจากวัคซีนทำให้เกิดปอดอักเสบได้ ยังไม่นับเรื่องของประสิทธิภาพในการป้องกันตัว C O V I D เองที่ได้รับการประเมินใหม่ว่าป้องกันได้แค่ 0.85% ที่ศาสเท็กซัสและสภาคองเกรสกำลังสอบสวนอยู่
ซึ่งโรคปอดอักเสบที่เกิดขึ้นตอนนี้ เริ่มตรวจพบเชื้อเกือบครบทุกสายพันธ์ุ โดยพบการระบาดในช่วงเด็กอ่อนถึงอายุประมาณ 12 ปี แต่ ไม่ใช่ว่าไม่มีการพบโรคนี้ในประเทศอื่น เพราะอย่าง สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย และในยุโรป เริ่มมีรายงานการระบาดลักษณะนี้สูงขึ้นผิดปกติ (แปลว่าปกติก็มีติดอยู่บ้างแล้ว) เพียงแต่หากเทียบประเทศอื่น กลับพบตัวเลขในจีนมากกว่า แต่เมื่อเทียบสัดส่วนประชากรถือว่าพอๆกันกับชาติอื่นๆ (อย่าให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อหลอกนะครับ 100ติด5 กับ 10000คนติด5 มันต่างกันเยอะ)
ซึ่งจริงๆแนวโน้มเรื่องโรคปอดอักเสบที่เพิ่มสูงขึ้น มีแนวโน้มสูงผิดปกติมาปีกว่าแล้ว โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่ (ตามสถิติประเทศไทย เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว) แต่ไม่ถูกนำมาพูดถึงกันมากนัก แต่พอเกิดกรณีนี้ขึ้นในจีน กลับพบการเสนอข่าวอย่างเมามัน
ซึ่งหากเป็นเพราะวัตซีน ถ้าแยกอายุจะมีสองกลุ่มคือ กลุ่มเด็กที่พึ่งคลอดในช่วงโควิดซึ่งแม่จะได้รับการฉีดวัคซีนขณะตั้งครรภ์ กับกลุ่มเด็กโตที่ได้รับการฉีดโดยตรง
กับอีกกรณีนึงคือ ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า 'ช่องโหว่ของภูมิคุ้มกัน' (Immunity gap) หรืออาจจะเรียกว่า 'หนี้ทางภูมิคุ้มกันที่ต้องจ่ายคืน' (immunity debt) คือ ในช่วง lockdown เด็กๆจะไม่ค่อยได้สัมผัสกับเชื้ออื่นๆในธรรมชาติ เพราะถูกกักตัวในบ้าน รวมถึง การที่เราอนามัยขึ้นจนถึงขีดสุด ร่างกายจึงไม่เคยรู้จักไวรัส-แบคทีเรียเหล่านี้มาก่อน ภูมิคุ้มกันจึงไม่ได้ไปทำลายไวรัสเมื่อมันเข้ามา ผิดกับผู้ใหญ่ที่จะมีภูมิคุ้มกัน เพราะเคยรับเชื้อมาก่อน ทำให้เกิดการระบาดในผู้ใหญ่น้อย"
#ความน่ากลัวในการดูแลสุขภาพคือการที่เชื่อโดยไม่มีความรู้
#fastingfatdentist
#หมอบ่นfiat
#healthstr
#health
#IFF
#nutrition
#fiat
#siamstr
#siamstrOG
#bitcoin
#siamesebitcoiners
มีชื่อของโรคที่มีโอกาสพบได้เมื่อได้รับวัคซีน คือ mycoplasma pneumoniae อยู่ใน list ด้วย
ซึ่งเชื้อที่ทำให้เกิดโรคปอดอักเสบ
มี ไวรัส 5 ชนิด คือ
ไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza Virus),
ไรโนไวรัส (Rhinovirus),
ไวรัสริสไพราโทรี ซินไซเทียล (Respiratory Syncytial Virus : RSV),
อะดีโนไวรัส (Adenovirus)
และ ไวรัสโคโรนา 2019
ส่วนเชื้ออีกชนิดเป็น 'แบคทีเรีย' ชื่อว่า
ไมโคพลาสมา เนมโมเนีย (Mycoplasma Pneumoniae)
และเมื่อดูที่เอกสารอีกครั้ง จะพบว่า มีเชื้อไม่ต่ำกว่า 2 ตัวที่อาจจะมีผลมาจากวัคซีนทำให้เกิดปอดอักเสบได้ ยังไม่นับเรื่องของประสิทธิภาพในการป้องกันตัว C O V I D เองที่ได้รับการประเมินใหม่ว่าป้องกันได้แค่ 0.85% ที่ศาสเท็กซัสและสภาคองเกรสกำลังสอบสวนอยู่
ซึ่งโรคปอดอักเสบที่เกิดขึ้นตอนนี้ เริ่มตรวจพบเชื้อเกือบครบทุกสายพันธ์ุ โดยพบการระบาดในช่วงเด็กอ่อนถึงอายุประมาณ 12 ปี แต่ ไม่ใช่ว่าไม่มีการพบโรคนี้ในประเทศอื่น เพราะอย่าง สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย และในยุโรป เริ่มมีรายงานการระบาดลักษณะนี้สูงขึ้นผิดปกติ (แปลว่าปกติก็มีติดอยู่บ้างแล้ว) เพียงแต่หากเทียบประเทศอื่น กลับพบตัวเลขในจีนมากกว่า แต่เมื่อเทียบสัดส่วนประชากรถือว่าพอๆกันกับชาติอื่นๆ (อย่าให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อหลอกนะครับ 100ติด5 กับ 10000คนติด5 มันต่างกันเยอะ)
ซึ่งจริงๆแนวโน้มเรื่องโรคปอดอักเสบที่เพิ่มสูงขึ้น มีแนวโน้มสูงผิดปกติมาปีกว่าแล้ว โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่ (ตามสถิติประเทศไทย เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว) แต่ไม่ถูกนำมาพูดถึงกันมากนัก แต่พอเกิดกรณีนี้ขึ้นในจีน กลับพบการเสนอข่าวอย่างเมามัน
ซึ่งหากเป็นเพราะวัตซีน ถ้าแยกอายุจะมีสองกลุ่มคือ กลุ่มเด็กที่พึ่งคลอดในช่วงโควิดซึ่งแม่จะได้รับการฉีดวัคซีนขณะตั้งครรภ์ กับกลุ่มเด็กโตที่ได้รับการฉีดโดยตรง
กับอีกกรณีนึงคือ ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า 'ช่องโหว่ของภูมิคุ้มกัน' (Immunity gap) หรืออาจจะเรียกว่า 'หนี้ทางภูมิคุ้มกันที่ต้องจ่ายคืน' (immunity debt) คือ ในช่วง lockdown เด็กๆจะไม่ค่อยได้สัมผัสกับเชื้ออื่นๆในธรรมชาติ เพราะถูกกักตัวในบ้าน รวมถึง การที่เราอนามัยขึ้นจนถึงขีดสุด ร่างกายจึงไม่เคยรู้จักไวรัส-แบคทีเรียเหล่านี้มาก่อน ภูมิคุ้มกันจึงไม่ได้ไปทำลายไวรัสเมื่อมันเข้ามา ผิดกับผู้ใหญ่ที่จะมีภูมิคุ้มกัน เพราะเคยรับเชื้อมาก่อน ทำให้เกิดการระบาดในผู้ใหญ่น้อย"
#ความน่ากลัวในการดูแลสุขภาพคือการที่เชื่อโดยไม่มีความรู้
#fastingfatdentist
#หมอบ่นfiat
#healthstr
#health
#IFF
#nutrition
#fiat
#siamstr
#siamstrOG
#bitcoin
#siamesebitcoiners