BeYourCyber on Nostr: วันนี้ หยิบเอาหนังสือ ...
วันนี้ หยิบเอาหนังสือ จิตวิทยาว่าด้วยเงิน มาอ่านซ้ำรอบสอง แบบละเอียด แบบสับๆ
พบประเด็นสำคัญหลายเรื่องเลยครับ แต่เรื่องที่อยากเล่าให้ฟังวันนี้ คือเรื่องของ
"ความสุขในชีวิต ขึ้นอยู่กับอำนาจในการควบคุมเวลาของตัวเราเอง ไม่ใช่เงินที่มีมาก,ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่, รถคันงาม และ อื่นๆที่แวดล้อมอยู่"
มีงานวิจัยของ Richard M. Ryan และ Edward L. Deci กล่าวว่า ความสุขของมนุษย์ขึ้นอยู่กับการที่เราได้มีอิสระในการควบคุมชีวิตตนเอง โดยเน้นความสำคัญของสามองค์ประกอบหลักคือ ความสามารถในการควบคุมตนเอง (autonomy), ความสามารถในการทำสิ่งต่างๆ (competence) และความสัมพันธ์กับผู้อื่น (relatedness)
หรืออีกงานวิจัย ถ้ามีคนจำได้ เคยดังอยู่พักนึง ของ Daniel Kahneman และ Angus Deaton: การศึกษาในปี 2010 ที่แสดงให้เห็นว่ารายได้มีผลต่อความสุขในระดับหนึ่งเท่านั้น หลังจากที่ถึงระดับรายได้หนึ่ง (ประมาณ $75,000 ต่อปีในสหรัฐอเมริกา) การเพิ่มขึ้นของรายได้ไม่ได้ทำให้ความสุขเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
** ผมไม่ได้บอกว่า การไม่มีเงินแล้วจะไม่มีความสุข และ จงรู้ไว้เลย ว่าความจนก็ไม่ได้ทำให้มีความสุขในชีวิตด้วยเช่นกัน
สิ่งที่อยากให้มองให้ทะลุลงไปมากกว่าตัวเงิน ก็คือ สิ่งนี้ถูกเรียกว่า "อิสรภาพ" หมายถึงว่า ถ้าเรามีอิสรภาพได้มากเท่าไร เราก็น่าจะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้นเท่านั้น
แล้ว อิสรภาพ คืออะไร?
จินตนาการตาม ถ้างานที่ทำอยู่ รู้สึกว่า ปสด กับเพื่อนร่วมงาน หรือ เจ้านายมากๆ อยากลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ไม่กลับมาในที่ทำงานห่วยๆนี้อีกเลย โดยที่.... ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ไม่เดือดร้อนเรื่องบิลค้างจ่าย หรือ หนี้สินที่มีภาระต้องจัดการอยู่ ถ้าทำได้ แปลว่า มีอิสรภาพในเรื่องเงินระดับนึงแล้ว
หรือ อีกเรื่อง ก็คือ ถ้าวันนี้มีคนเสนอตำแหน่งงานที่ดีกว่า ให้เงินเดือนมากกว่าเดิม 3 เท่า พร้อมเริ่มงานได้เลย โดยเป็นงานที่สบายกว่าที่ทำอยู่ตอนนี้ แต่ว่าเรารู้สึกว่า งานนั้น มันอาจจะไม่สนุก และ ไม่ท้าทาย ไม่เหมาะกับสิ่งที่เรากำลังค้นหาอยู่ และเรากล้าปฏิเสธ นี่ก็ถือว่าเป็นอิสรภาพ ในเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่าขึ้นไปอีก คือ มีอิสรภาพในการตัดสินใจที่จะปฏิเสธโอกาสที่ดีกว่า เพียงเพราะนั่นอาจจะไม่ได้สร้างความสุขให้ชีวิตเราได้มากขึ้น
นอกเหนือจากนี้ ก็จะเป็นเรื่องที่คนทั่วไปจินตนาการได้อยู่แล้ว เช่น ถ้าเดือนหน้า อยากออกไปเที่ยวต่างประเทศสักครึ่งเดือน ซึ่งจะไม่มีใครเดือดร้อนเรื่อง งาน เรื่องเงิน เรื่องอะไรต่างๆเลย ทั้งในวันนี้ และ อนาคต นี่คือ อิสรภาพอีกแบบนึงด้วยเช่นกัน
อิสรภาพเนี่ย โดยปกติ ราคามันแพงด้วยนะ แม้ว่าจะตีราคาเป็นตัวเลขได้บ้าง ไม่ได้บ้างในบางกรณี เช่น อยากไปเก็บ life bucket list ให้หมดใน 3 ปี ต่อจากนี้ บางคนอาจจะบอกว่า ต้องมีสิบล้านบาท ก็เป็นไปได้ ในขณะที่บางคนบอกว่า ออ ที่เราเก็บมาถึงวันนี้ ก็มากพอที่จะมีอิสรภาพได้แล้วนี่นา ก็แปลว่า ไม่ต้องหาอะไรมาเพิ่มอีกเลยเช่นกัน (แต่ก็คือสิ่งที่อดออมมาทั้งชีวิต)
จริงอยู่ ว่า การมีอิสรภาพ ก็ต้องใช้เงิน เรื่องนี้ไม่เถียง แต่ผมอยากชวนให้คิดสักเล็กน้อยว่า เรากำลังหาเงินไปเพื่ออะไร เพื่อความสุขของชีวิตใช่หรือไม่ ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ว่า เราหาเงิน เพื่อที่จะไปให้ถึงจุดที่เราจะมีอิสรภาพดู ว่ามันจะเป็นยังไง บางคนอาจจะง่ายมากกว่าที่คิดก็ได้ เพราะอิสรภาพแต่ละคนไม่เหมือนกัน ใช้เงินไม่เท่ากัน มากน้อยต่างกันไป
สำคัญที่ได้คิดว่า อิสรภาพ ที่จะสามารถสร้างความสุขให้ชีวิตเรานั้นคืออะไร?
ผมไม่ใช้คำว่า "อิสรภาพทางการเงิน" เพราะปัจจุบัน มักจะเอาไปเชื่อมโยงว่า เราต้องสร้าง passive income เพื่อให้เรามีอิสรภาพทางการเงิน ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัวผมบอกได้เลย ว่ามันไม่จริง เรามี "อิสรภาพ" ได้ โดยที่เราไม่ต้องมี passive income แต่อย่างใด ดังนั้น จุดสูงสุด ควรเป็นเพียง "อิสรภาพ" เท่านั้น
พบประเด็นสำคัญหลายเรื่องเลยครับ แต่เรื่องที่อยากเล่าให้ฟังวันนี้ คือเรื่องของ
"ความสุขในชีวิต ขึ้นอยู่กับอำนาจในการควบคุมเวลาของตัวเราเอง ไม่ใช่เงินที่มีมาก,ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่, รถคันงาม และ อื่นๆที่แวดล้อมอยู่"
มีงานวิจัยของ Richard M. Ryan และ Edward L. Deci กล่าวว่า ความสุขของมนุษย์ขึ้นอยู่กับการที่เราได้มีอิสระในการควบคุมชีวิตตนเอง โดยเน้นความสำคัญของสามองค์ประกอบหลักคือ ความสามารถในการควบคุมตนเอง (autonomy), ความสามารถในการทำสิ่งต่างๆ (competence) และความสัมพันธ์กับผู้อื่น (relatedness)
หรืออีกงานวิจัย ถ้ามีคนจำได้ เคยดังอยู่พักนึง ของ Daniel Kahneman และ Angus Deaton: การศึกษาในปี 2010 ที่แสดงให้เห็นว่ารายได้มีผลต่อความสุขในระดับหนึ่งเท่านั้น หลังจากที่ถึงระดับรายได้หนึ่ง (ประมาณ $75,000 ต่อปีในสหรัฐอเมริกา) การเพิ่มขึ้นของรายได้ไม่ได้ทำให้ความสุขเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
** ผมไม่ได้บอกว่า การไม่มีเงินแล้วจะไม่มีความสุข และ จงรู้ไว้เลย ว่าความจนก็ไม่ได้ทำให้มีความสุขในชีวิตด้วยเช่นกัน
สิ่งที่อยากให้มองให้ทะลุลงไปมากกว่าตัวเงิน ก็คือ สิ่งนี้ถูกเรียกว่า "อิสรภาพ" หมายถึงว่า ถ้าเรามีอิสรภาพได้มากเท่าไร เราก็น่าจะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้นเท่านั้น
แล้ว อิสรภาพ คืออะไร?
จินตนาการตาม ถ้างานที่ทำอยู่ รู้สึกว่า ปสด กับเพื่อนร่วมงาน หรือ เจ้านายมากๆ อยากลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ไม่กลับมาในที่ทำงานห่วยๆนี้อีกเลย โดยที่.... ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ไม่เดือดร้อนเรื่องบิลค้างจ่าย หรือ หนี้สินที่มีภาระต้องจัดการอยู่ ถ้าทำได้ แปลว่า มีอิสรภาพในเรื่องเงินระดับนึงแล้ว
หรือ อีกเรื่อง ก็คือ ถ้าวันนี้มีคนเสนอตำแหน่งงานที่ดีกว่า ให้เงินเดือนมากกว่าเดิม 3 เท่า พร้อมเริ่มงานได้เลย โดยเป็นงานที่สบายกว่าที่ทำอยู่ตอนนี้ แต่ว่าเรารู้สึกว่า งานนั้น มันอาจจะไม่สนุก และ ไม่ท้าทาย ไม่เหมาะกับสิ่งที่เรากำลังค้นหาอยู่ และเรากล้าปฏิเสธ นี่ก็ถือว่าเป็นอิสรภาพ ในเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่าขึ้นไปอีก คือ มีอิสรภาพในการตัดสินใจที่จะปฏิเสธโอกาสที่ดีกว่า เพียงเพราะนั่นอาจจะไม่ได้สร้างความสุขให้ชีวิตเราได้มากขึ้น
นอกเหนือจากนี้ ก็จะเป็นเรื่องที่คนทั่วไปจินตนาการได้อยู่แล้ว เช่น ถ้าเดือนหน้า อยากออกไปเที่ยวต่างประเทศสักครึ่งเดือน ซึ่งจะไม่มีใครเดือดร้อนเรื่อง งาน เรื่องเงิน เรื่องอะไรต่างๆเลย ทั้งในวันนี้ และ อนาคต นี่คือ อิสรภาพอีกแบบนึงด้วยเช่นกัน
อิสรภาพเนี่ย โดยปกติ ราคามันแพงด้วยนะ แม้ว่าจะตีราคาเป็นตัวเลขได้บ้าง ไม่ได้บ้างในบางกรณี เช่น อยากไปเก็บ life bucket list ให้หมดใน 3 ปี ต่อจากนี้ บางคนอาจจะบอกว่า ต้องมีสิบล้านบาท ก็เป็นไปได้ ในขณะที่บางคนบอกว่า ออ ที่เราเก็บมาถึงวันนี้ ก็มากพอที่จะมีอิสรภาพได้แล้วนี่นา ก็แปลว่า ไม่ต้องหาอะไรมาเพิ่มอีกเลยเช่นกัน (แต่ก็คือสิ่งที่อดออมมาทั้งชีวิต)
จริงอยู่ ว่า การมีอิสรภาพ ก็ต้องใช้เงิน เรื่องนี้ไม่เถียง แต่ผมอยากชวนให้คิดสักเล็กน้อยว่า เรากำลังหาเงินไปเพื่ออะไร เพื่อความสุขของชีวิตใช่หรือไม่ ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ว่า เราหาเงิน เพื่อที่จะไปให้ถึงจุดที่เราจะมีอิสรภาพดู ว่ามันจะเป็นยังไง บางคนอาจจะง่ายมากกว่าที่คิดก็ได้ เพราะอิสรภาพแต่ละคนไม่เหมือนกัน ใช้เงินไม่เท่ากัน มากน้อยต่างกันไป
สำคัญที่ได้คิดว่า อิสรภาพ ที่จะสามารถสร้างความสุขให้ชีวิตเรานั้นคืออะไร?
ผมไม่ใช้คำว่า "อิสรภาพทางการเงิน" เพราะปัจจุบัน มักจะเอาไปเชื่อมโยงว่า เราต้องสร้าง passive income เพื่อให้เรามีอิสรภาพทางการเงิน ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัวผมบอกได้เลย ว่ามันไม่จริง เรามี "อิสรภาพ" ได้ โดยที่เราไม่ต้องมี passive income แต่อย่างใด ดังนั้น จุดสูงสุด ควรเป็นเพียง "อิสรภาพ" เท่านั้น