Mikey_S09 on Nostr: ขออนุญาต ...
ขออนุญาต เอาข้อความของเพื่อนใน FB มาส่งต่อให้อ่านนะครับ แสดงให้เห็นถึงอำนาจล้นฟ้าที่ไม่จำเป็นต้องสนใครหน้าไหน
"สิ่งที่เกรงว่าจะเกิดขึ้นหลังจากนี้สำหรับวิกฤติมนุษยธรรมต่อชาวกาซ่าคือ
1. อิสราเอลจะถล่มกาซ่าไม่ยั้ง โดยมุ่งหวังให้ราบเป็นหน้ากลอง ไม่มีที่ให้คนกาซ่าอาศัยอยู่อีก
2. นานาชาติรวมถึงประเทศที่หนุนอิสราเอลจะพยายามให้ชาวปาเลสไตน์ในกาซ่าอพยพไปที่แคมป์ผู้อพยพที่อ้างว่าเป็น "ชั่วคราว" ในอิยิปต์
3. หลังจากอิสราเอลกวาดล้างคนดั้งเดิม ทั้งประชาชนทั่วไปและกองกำลังฮามาสจนหมดจากกาซ่าแล้ว อิสราเอลจะเคลมกาซ่าเป็นของตนเองโดยสมบูรณ์ และไม่ให้สิทธิ์ในการหวนคืนของประชาชนปาเลสไตน์ที่โดนขับไล่เป็นผู้อพยพ และให้ประชาคมโลกรับมือกับวิกฤติผู้อพยพกันเอง
เหตุการณ์ครั้งนี้ จะเป็นวิกฤติมนุษยธรรมครั้งใหญ่ ไม่ต่างกับสงครามในซีเรีย และสามารถนับได้ว่าเป็น Nakba หรือวันมหาวิปโยคครั้งที่สอง เหมือนกับที่อิสราเอลเคยขับไล่คนปาเลสไตน์ออกจากแผ่นดินเกิดของตนกว่า 7 แสนคนในอดีต
สิ่งที่เราเห็น ณ วันนี้ จะเป็นอะไรไม่ได้ นอกไปจากการอ้างการก่อการร้ายมาใช้ในการฆ่าล้างไล่ล่าเผ่าพันธุ์เพื่อแย่งแผ่นดินอาศัยแบบเจ้าลัทธิล่าอาณานิคม
นั่งดูแล้วก็เป็นเรื่องน่าเศร้า ที่ในโลกใบนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล มีอำนาจล้นฟ้าจนรู้สึกว่าไม่ต้องสนใจคุณธรรมมนุษยธรรมอีกต่อไป แม้เกือบทั้งโลกโหวตคัดค้านก็ไม่ฟัง
แม้ว่าการล่าอาณานิคมจะเกิดขึ้นในทุกยุคทุกสมัยในประวัติศาสตร์ไม่ว่าอาณาจักรใดจะขึ้นมายิ่งใหญ่ แต่ในฐานะมนุษย์ เราไม่ควรลืมว่าราคาที่ต้องจ่ายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ไม่ใช่แค่คอนเซป มันคือเลือดเนื้อชีวิตของมนุษย์จริงๆ โดยเฉพาะหากเราเชื่อว่าจิตใจมนุษย์สามารถพัฒนาได้ ดีขึ้นได้ เราก็จะพบว่าในศตวรรษที่ 21 ยังมีการล้างเผ่าพันธุ์โดยประเทศที่เชื่อว่าตนเองศิวิไลซ์ เป็นอะไรที่น่าเศร้ามาก"
Credit: A.S.
"สิ่งที่เกรงว่าจะเกิดขึ้นหลังจากนี้สำหรับวิกฤติมนุษยธรรมต่อชาวกาซ่าคือ
1. อิสราเอลจะถล่มกาซ่าไม่ยั้ง โดยมุ่งหวังให้ราบเป็นหน้ากลอง ไม่มีที่ให้คนกาซ่าอาศัยอยู่อีก
2. นานาชาติรวมถึงประเทศที่หนุนอิสราเอลจะพยายามให้ชาวปาเลสไตน์ในกาซ่าอพยพไปที่แคมป์ผู้อพยพที่อ้างว่าเป็น "ชั่วคราว" ในอิยิปต์
3. หลังจากอิสราเอลกวาดล้างคนดั้งเดิม ทั้งประชาชนทั่วไปและกองกำลังฮามาสจนหมดจากกาซ่าแล้ว อิสราเอลจะเคลมกาซ่าเป็นของตนเองโดยสมบูรณ์ และไม่ให้สิทธิ์ในการหวนคืนของประชาชนปาเลสไตน์ที่โดนขับไล่เป็นผู้อพยพ และให้ประชาคมโลกรับมือกับวิกฤติผู้อพยพกันเอง
เหตุการณ์ครั้งนี้ จะเป็นวิกฤติมนุษยธรรมครั้งใหญ่ ไม่ต่างกับสงครามในซีเรีย และสามารถนับได้ว่าเป็น Nakba หรือวันมหาวิปโยคครั้งที่สอง เหมือนกับที่อิสราเอลเคยขับไล่คนปาเลสไตน์ออกจากแผ่นดินเกิดของตนกว่า 7 แสนคนในอดีต
สิ่งที่เราเห็น ณ วันนี้ จะเป็นอะไรไม่ได้ นอกไปจากการอ้างการก่อการร้ายมาใช้ในการฆ่าล้างไล่ล่าเผ่าพันธุ์เพื่อแย่งแผ่นดินอาศัยแบบเจ้าลัทธิล่าอาณานิคม
นั่งดูแล้วก็เป็นเรื่องน่าเศร้า ที่ในโลกใบนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล มีอำนาจล้นฟ้าจนรู้สึกว่าไม่ต้องสนใจคุณธรรมมนุษยธรรมอีกต่อไป แม้เกือบทั้งโลกโหวตคัดค้านก็ไม่ฟัง
แม้ว่าการล่าอาณานิคมจะเกิดขึ้นในทุกยุคทุกสมัยในประวัติศาสตร์ไม่ว่าอาณาจักรใดจะขึ้นมายิ่งใหญ่ แต่ในฐานะมนุษย์ เราไม่ควรลืมว่าราคาที่ต้องจ่ายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ไม่ใช่แค่คอนเซป มันคือเลือดเนื้อชีวิตของมนุษย์จริงๆ โดยเฉพาะหากเราเชื่อว่าจิตใจมนุษย์สามารถพัฒนาได้ ดีขึ้นได้ เราก็จะพบว่าในศตวรรษที่ 21 ยังมีการล้างเผ่าพันธุ์โดยประเทศที่เชื่อว่าตนเองศิวิไลซ์ เป็นอะไรที่น่าเศร้ามาก"
Credit: A.S.