Panai Lawasut on Nostr: #toffeecakechonburi LN Monthly Report ...
#toffeecakechonburi LN Monthly Report
ผลประกอบการการรับไลท์นิ่งประจำเดือน พฤศจิกายน
มี transaction ทั้งหมด 31 ครั้ง รวม 231,897 sat
—————————-
พอร์ต cash flow ของคุณมี bitcoin อยู่ในนั้นมั้ย!!?
ผมมีความเชื่อว่า เราจำเป็นต้องมอบหน้าที่ให้กับเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เข้ามาในชีวิตของเรา ไม่ว่ามันจะมากน้อยแค่ไหน และเมื่อเงินแต่ละก้อนได้รับหน้าที่ของมันไปแล้ว เราก็ต้องช่วยให้เกียรติมันทำหน้าที่ของมันตามวัตถุประสงค์ด้วย
อย่างพอร์ตเงินเก็บจะระยะสั้นระยะยาว จะเพื่อดาว์นรถ เพื่อใช้หลังเกษียณหรือเพื่อเป็นมรดก เราคงต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัด เพื่อที่จะได้รู้ ขนาด ระยะเวลา เพื่อว่าเราจะได้เห็น solution ในการบรรลุเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม จะต้องมีสินทรัพย์ประเภทไหน กี่กิโล กี่ไร่ กี่BTC ก็ว่าไป
หลังจากนั้นก็แค่มีวินัย take action ให้ได้ตามแผน
อันนั้นเรื่องทั่วไปแบบการเงิน 101
แต่ที่ผมอยากถามคือ คุณมี bitcoin อยู่ในบัญชี cash flow กันไหม!!?
ผมมี !!!!! 55555 😎
ไม่รู้ว่าคนอื่นๆนั้นมองบัญชีรายจ่ายทั่วไปไว้ยังไงกัน แต่ของผมคือ
“มันไม่ใช่เงินของผมแล้ว ในทันทีที่ทันเข้าไปอยู่ในบัญชีนี้”
ผมไม่เคยนับรวมเงินในบัญชีนี้ว่าเป็น wealth ของผม ผมไม่เคยมองว่ามันจะโดนเงินเฟ้อกิน หรือมันจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ผมมีหน้าที่ rebalance ให้เหมาะสมตามขนาดและระยะเวลาที่ผมวางแผนไว้ตอนแรก
บัญชีนี้ทำหน้าที่ Means of Payment ล้วนๆ ไม่ว่าสิ่งที่อยู่ในบัญชีนี้จะเป็นอะไรก็แล้วแต่
แล้วก็เป็นเรื่องปกติมนุษย์มากที่ในบัญชีนี้จะเป็นเงินบาท 100% แล้วก็ไม่แปลกเลยที่จะมีสัดส่วนของสินทรัพย์อะไรก็ได้ที่สามรถเป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยนอยู่ในบัญชีนี้ คนที่ค้าขายกับเมืองจีนบ่อยอาจจะต้องมีเงินหยวน คนทึ่ไปต่างประเทศบ่อยอาจต้องมีดอลล่าร์ สำหรับคนเล่นเกมส์อาจมี token ของ platform หรือแม้แต่หนี้สิน(บัตรเครดิต)ผมก็นับรวมว่าอยู่ในบัญชีนี้ด้วย
และถ้าผมมีโอกาสให้ได้ใช้บิทคอยน์อยู่บ่อยๆ มันก็คงไม่แปลกที่ผมจะมี Bitcoin อยู่ในบัญชี Cash Flow ไว้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยนสำหรับคนที่พร้อมจะรับมัน
แล้วผมก็ไม่เคยสนใจการขึ้นลงของมันเพราะบัญชีนี้ “Cash มันต้อง Flow” ถ้ามันไม่ flow แปลว่าคุณเอาสินทรัพย์มาใส่ผิดประเภท ไม่ตรงกับวิถีชีวิตของคุณ
ในทางกลับกัน ผมจะไม่มีวันเอาเงินเก็บหลังเกษียณมาซื้อกาแฟ เงินที่จะใช้ปลูกบ้านมาจ่ายค่าเช่าบ้าน หรือเอาบิทคอยน์ที่จะเป็นมรดกของลูกมา Zap ให้ RS
ถ้าหากการจ่ายด้วยบิทคอยน์มันทำให้รู้สึกเสียดายมูลค่าของมันในอนาคตแปลว่าคุณหยิบเงินผิดกองมาจ่าย หรือบางทีคุณอาจไม่ได้มีการจัดสรรการเงินตั้งแต่แรกก็ได้ ถ้าเป็นอย่างหลังน่าห่วงนะ
การจ่าย Bitcoin ผ่าน Lightning Network เพียงไม่กี่ซาโตชิ จะทำให้ Bitcoin อีกหลายล้านซาโตชิใน Hardware Wallet ของคุณ “จริง” ขึ้นมาอย่างที่คุณไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ไม่เชื่อลองดู
#Siamstr
————————-
ปล.บทความนี้มิได้ตั้งใจให้ความเห็นต่อการสัมภาษณ์คุณ CK โดยตรงแต่อย่างใด เพียงแค่อยากถ่ายทอดมุมมองที่ผมคิดไว้นานแล้ว เพราะแม้แต่ bitcoiner ด้วยกันเองหลายท่านก็มี argument นี้เช่นกัน
ส่วนตัวแล้วชื่นชมคุณ CK มากที่เสนอแนวคิดทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา
ผลประกอบการการรับไลท์นิ่งประจำเดือน พฤศจิกายน
มี transaction ทั้งหมด 31 ครั้ง รวม 231,897 sat
—————————-
พอร์ต cash flow ของคุณมี bitcoin อยู่ในนั้นมั้ย!!?
ผมมีความเชื่อว่า เราจำเป็นต้องมอบหน้าที่ให้กับเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เข้ามาในชีวิตของเรา ไม่ว่ามันจะมากน้อยแค่ไหน และเมื่อเงินแต่ละก้อนได้รับหน้าที่ของมันไปแล้ว เราก็ต้องช่วยให้เกียรติมันทำหน้าที่ของมันตามวัตถุประสงค์ด้วย
อย่างพอร์ตเงินเก็บจะระยะสั้นระยะยาว จะเพื่อดาว์นรถ เพื่อใช้หลังเกษียณหรือเพื่อเป็นมรดก เราคงต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัด เพื่อที่จะได้รู้ ขนาด ระยะเวลา เพื่อว่าเราจะได้เห็น solution ในการบรรลุเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม จะต้องมีสินทรัพย์ประเภทไหน กี่กิโล กี่ไร่ กี่BTC ก็ว่าไป
หลังจากนั้นก็แค่มีวินัย take action ให้ได้ตามแผน
อันนั้นเรื่องทั่วไปแบบการเงิน 101
แต่ที่ผมอยากถามคือ คุณมี bitcoin อยู่ในบัญชี cash flow กันไหม!!?
ผมมี !!!!! 55555 😎
ไม่รู้ว่าคนอื่นๆนั้นมองบัญชีรายจ่ายทั่วไปไว้ยังไงกัน แต่ของผมคือ
“มันไม่ใช่เงินของผมแล้ว ในทันทีที่ทันเข้าไปอยู่ในบัญชีนี้”
ผมไม่เคยนับรวมเงินในบัญชีนี้ว่าเป็น wealth ของผม ผมไม่เคยมองว่ามันจะโดนเงินเฟ้อกิน หรือมันจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ผมมีหน้าที่ rebalance ให้เหมาะสมตามขนาดและระยะเวลาที่ผมวางแผนไว้ตอนแรก
บัญชีนี้ทำหน้าที่ Means of Payment ล้วนๆ ไม่ว่าสิ่งที่อยู่ในบัญชีนี้จะเป็นอะไรก็แล้วแต่
แล้วก็เป็นเรื่องปกติมนุษย์มากที่ในบัญชีนี้จะเป็นเงินบาท 100% แล้วก็ไม่แปลกเลยที่จะมีสัดส่วนของสินทรัพย์อะไรก็ได้ที่สามรถเป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยนอยู่ในบัญชีนี้ คนที่ค้าขายกับเมืองจีนบ่อยอาจจะต้องมีเงินหยวน คนทึ่ไปต่างประเทศบ่อยอาจต้องมีดอลล่าร์ สำหรับคนเล่นเกมส์อาจมี token ของ platform หรือแม้แต่หนี้สิน(บัตรเครดิต)ผมก็นับรวมว่าอยู่ในบัญชีนี้ด้วย
และถ้าผมมีโอกาสให้ได้ใช้บิทคอยน์อยู่บ่อยๆ มันก็คงไม่แปลกที่ผมจะมี Bitcoin อยู่ในบัญชี Cash Flow ไว้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยนสำหรับคนที่พร้อมจะรับมัน
แล้วผมก็ไม่เคยสนใจการขึ้นลงของมันเพราะบัญชีนี้ “Cash มันต้อง Flow” ถ้ามันไม่ flow แปลว่าคุณเอาสินทรัพย์มาใส่ผิดประเภท ไม่ตรงกับวิถีชีวิตของคุณ
ในทางกลับกัน ผมจะไม่มีวันเอาเงินเก็บหลังเกษียณมาซื้อกาแฟ เงินที่จะใช้ปลูกบ้านมาจ่ายค่าเช่าบ้าน หรือเอาบิทคอยน์ที่จะเป็นมรดกของลูกมา Zap ให้ RS
ถ้าหากการจ่ายด้วยบิทคอยน์มันทำให้รู้สึกเสียดายมูลค่าของมันในอนาคตแปลว่าคุณหยิบเงินผิดกองมาจ่าย หรือบางทีคุณอาจไม่ได้มีการจัดสรรการเงินตั้งแต่แรกก็ได้ ถ้าเป็นอย่างหลังน่าห่วงนะ
การจ่าย Bitcoin ผ่าน Lightning Network เพียงไม่กี่ซาโตชิ จะทำให้ Bitcoin อีกหลายล้านซาโตชิใน Hardware Wallet ของคุณ “จริง” ขึ้นมาอย่างที่คุณไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ไม่เชื่อลองดู
#Siamstr
————————-
ปล.บทความนี้มิได้ตั้งใจให้ความเห็นต่อการสัมภาษณ์คุณ CK โดยตรงแต่อย่างใด เพียงแค่อยากถ่ายทอดมุมมองที่ผมคิดไว้นานแล้ว เพราะแม้แต่ bitcoiner ด้วยกันเองหลายท่านก็มี argument นี้เช่นกัน
ส่วนตัวแล้วชื่นชมคุณ CK มากที่เสนอแนวคิดทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา