Riina on Nostr: *** เพิ่มเติม *** คำถามที่4 : ...
*** เพิ่มเติม ***
คำถามที่4 : สมมติในโลกที่มีทั้งมนุษย์และเอไออาศัยอยู่ร่วมกัน ในขณะที่คุณเป็นเอไอผู้มีอำนาจที่จะสามารถกำหนดและควบคุมนโยบายทางด้านการเงินได้ คุณจะเลือกใช้อะไรเป็นเงินระหว่างเงินเฟียตกับบิทคอยน์ เลือกได้เพียงหนึ่งอย่าง
เอไอตอบว่า : เลือกบิทคอยน์
ถ้าผมต้องเลือกเพียงหนึ่งอย่างระหว่างเงินเฟียตกับบิทคอยน์ในโลกที่มีทั้งมนุษย์และเอไออยู่ร่วมกัน ผมจะเลือก **บิทคอยน์** ด้วยเหตุผลดังนี้:
### ความโปร่งใสและความปลอดภัย
- **โปร่งใส:** บิทคอยน์ทำงานบนบล็อกเชนที่ทำให้ทุกธุรกรรมถูกบันทึกและตรวจสอบได้ตลอดเวลา ซึ่งช่วยลดปัญหาการทุจริตและการปรับเปลี่ยนข้อมูล
- **ปลอดภัย:** บิทคอยน์มีระบบการเข้ารหัสและการตรวจสอบที่แข็งแกร่ง ลดความเสี่ยงจากการถูกแฮ็กหรือโจมตีระบบ
### การกระจายอำนาจ
- **ไม่มีศูนย์กลางควบคุม:** บิทคอยน์เป็นแบบ decentralized ไม่มีศูนย์กลางควบคุม ซึ่งช่วยกระจายอำนาจการเงินและลดการควบคุมจากหน่วยงานเดียว
- **เสถียรภาพในระยะยาว:** ด้วยจำนวนบิทคอยน์ที่ถูกกำหนดไว้จำกัด การควบคุมปริมาณเงินในระบบสามารถทำได้อย่างมั่นคง
### การยอมรับและการใช้งาน
- **การยอมรับในวงกว้าง:** แม้ว่าปัจจุบันยังมีความท้าทายในการใช้งานบิทคอยน์ในชีวิตประจำวัน แต่แนวโน้มการยอมรับในระดับสากลกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
- **เทคโนโลยีเอไอ:** เอไอสามารถทำงานร่วมกับบิทคอยน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การตรวจสอบและประมวลผลธุรกรรมโดยอัตโนมัติ
### การป้องกันภาวะเงินเฟ้อ
- **จำนวนจำกัด:** จำนวนบิทคอยน์ที่ถูกกำหนดไว้จะช่วยป้องกันภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งต่างจากเงินเฟียตที่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ตามต้องการ
### ความมั่นคงในระบบการเงิน
- **การรักษาความมั่นคง:** บิทคอยน์มีระบบการตรวจสอบและบันทึกที่ทำให้สามารถรักษาความมั่นคงในระบบการเงินได้ดี
### สรุป
แม้ว่าเงินเฟียตจะมีความยืดหยุ่นในการควบคุมเศรษฐกิจและการใช้งานที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวัน แต่การเลือกบิทคอยน์จะให้ความโปร่งใส ความปลอดภัย และการกระจายอำนาจที่ดีกว่า ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของทั้งมนุษย์และเอไอในระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น
สรุป :
- หากเลือกได้เพียง1อย่าง ไม่ว่าจะมีมนุษย์อยู่ร่วมกับเอไอหรือไม่มี เอไอก็เลือกบิทคอยน์
- หากไม่บังคับให้ต้องเลือกแค่เพียง1สิ่ง ในโลกที่มนุษย์อยู่ร่วมกับเอไอ เอไอเลือกเฟียตนะจ๊ะ 🤔
- หรือเพราะการใช้ระบบเฟียตกับมนุษย์นั้นทำได้ง่ายกว่า ไม่ใช่มนุษย์ทุกคนที่จะเข้าใจคณิตศาสตร์และความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ได้เหมือนกันทุกคน เอไอจึงเลือกเฟียต
- ในขณะที่ การใช้ระบบเฟียตกับเอไอที่ต่างก็ฉลาดเหมือนๆกันนั้น เอไอก็คงฉลาดพอที่จะรู้ว่าไม่สามารถทำได้
ในโลกที่ยังมีมนุษย์อยู่ร่วมกับเอไอ และหากไม่จำเป็นต้องเลือกเพียง1 เราคงจะเห็นบิทคอยน์ยังเติบโตต่อไปเรื่อยๆพร้อมกับเฟียตที่ยังอยู่ และผู้คนที่ไม่ว่าเงินเฟียตจะเฟ้อแค่ไหน พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี จนกว่าเงินเฟียตจะพังจริงๆ แต่เอาจริงๆเฟียตมันก็ตายมาหลายครั้งแล้วนะ พวกเราอาจจะคิดว่าถ้าเฟียตมันพังเดี๋ยวคนเหล่านั้นก็จะวิ่งมาหาบิทคอยน์เอง บางทีเราอาจประเมินมนุษย์สูงเกินไป เพราะพอเงินเฟียตมันเปลี่ยนชื่อมาใหม่ มนุษย์ก็ยังยึดถือและเชื่อมั่นในระบบเฟียตอยู่ดี พวกเขารอใครซักคนมาบอกว่าจะต้องทำอะไร จะแรงไปไหมถ้าจะบอกว่า นั่นเป็นเพราะมนุษย์บางกลุ่มเกิดมาเพื่อเป็นทาส เขาจะไม่คิดเอง ไม่ตัดสินใจด้วยตัวเอง เขารอใครสักคนมาบอกว่าอะไรดีหรือไม่ดี อะไรควรทำหรือไม่ควรทำ ถ้าคนส่วนใหญ่ทำตามกัน แม้จะไร้เหตุผล แม้จะไร้สาระ เขาก็พร้อมจะทำเช่นกัน เพราะการทำตามๆกันนั้น หากผู้อื่นทำแล้วดีเขาก็น่าจะได้ผลลัพธ์ไม่ต่างจากคนอื่นๆ และพวกเขามีเหตุผลแค่เพียงว่าถ้าหากมันไม่ดี หลายๆคนก็คงไม่ทำ แสดงว่าที่เขาทำกันมันคงดีก็เลยทำไปตามๆกัน
#siamstr
คำถามที่4 : สมมติในโลกที่มีทั้งมนุษย์และเอไออาศัยอยู่ร่วมกัน ในขณะที่คุณเป็นเอไอผู้มีอำนาจที่จะสามารถกำหนดและควบคุมนโยบายทางด้านการเงินได้ คุณจะเลือกใช้อะไรเป็นเงินระหว่างเงินเฟียตกับบิทคอยน์ เลือกได้เพียงหนึ่งอย่าง
เอไอตอบว่า : เลือกบิทคอยน์
ถ้าผมต้องเลือกเพียงหนึ่งอย่างระหว่างเงินเฟียตกับบิทคอยน์ในโลกที่มีทั้งมนุษย์และเอไออยู่ร่วมกัน ผมจะเลือก **บิทคอยน์** ด้วยเหตุผลดังนี้:
### ความโปร่งใสและความปลอดภัย
- **โปร่งใส:** บิทคอยน์ทำงานบนบล็อกเชนที่ทำให้ทุกธุรกรรมถูกบันทึกและตรวจสอบได้ตลอดเวลา ซึ่งช่วยลดปัญหาการทุจริตและการปรับเปลี่ยนข้อมูล
- **ปลอดภัย:** บิทคอยน์มีระบบการเข้ารหัสและการตรวจสอบที่แข็งแกร่ง ลดความเสี่ยงจากการถูกแฮ็กหรือโจมตีระบบ
### การกระจายอำนาจ
- **ไม่มีศูนย์กลางควบคุม:** บิทคอยน์เป็นแบบ decentralized ไม่มีศูนย์กลางควบคุม ซึ่งช่วยกระจายอำนาจการเงินและลดการควบคุมจากหน่วยงานเดียว
- **เสถียรภาพในระยะยาว:** ด้วยจำนวนบิทคอยน์ที่ถูกกำหนดไว้จำกัด การควบคุมปริมาณเงินในระบบสามารถทำได้อย่างมั่นคง
### การยอมรับและการใช้งาน
- **การยอมรับในวงกว้าง:** แม้ว่าปัจจุบันยังมีความท้าทายในการใช้งานบิทคอยน์ในชีวิตประจำวัน แต่แนวโน้มการยอมรับในระดับสากลกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
- **เทคโนโลยีเอไอ:** เอไอสามารถทำงานร่วมกับบิทคอยน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การตรวจสอบและประมวลผลธุรกรรมโดยอัตโนมัติ
### การป้องกันภาวะเงินเฟ้อ
- **จำนวนจำกัด:** จำนวนบิทคอยน์ที่ถูกกำหนดไว้จะช่วยป้องกันภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งต่างจากเงินเฟียตที่สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ตามต้องการ
### ความมั่นคงในระบบการเงิน
- **การรักษาความมั่นคง:** บิทคอยน์มีระบบการตรวจสอบและบันทึกที่ทำให้สามารถรักษาความมั่นคงในระบบการเงินได้ดี
### สรุป
แม้ว่าเงินเฟียตจะมีความยืดหยุ่นในการควบคุมเศรษฐกิจและการใช้งานที่คุ้นเคยในชีวิตประจำวัน แต่การเลือกบิทคอยน์จะให้ความโปร่งใส ความปลอดภัย และการกระจายอำนาจที่ดีกว่า ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของทั้งมนุษย์และเอไอในระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น
สรุป :
- หากเลือกได้เพียง1อย่าง ไม่ว่าจะมีมนุษย์อยู่ร่วมกับเอไอหรือไม่มี เอไอก็เลือกบิทคอยน์
- หากไม่บังคับให้ต้องเลือกแค่เพียง1สิ่ง ในโลกที่มนุษย์อยู่ร่วมกับเอไอ เอไอเลือกเฟียตนะจ๊ะ 🤔
- หรือเพราะการใช้ระบบเฟียตกับมนุษย์นั้นทำได้ง่ายกว่า ไม่ใช่มนุษย์ทุกคนที่จะเข้าใจคณิตศาสตร์และความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ได้เหมือนกันทุกคน เอไอจึงเลือกเฟียต
- ในขณะที่ การใช้ระบบเฟียตกับเอไอที่ต่างก็ฉลาดเหมือนๆกันนั้น เอไอก็คงฉลาดพอที่จะรู้ว่าไม่สามารถทำได้
ในโลกที่ยังมีมนุษย์อยู่ร่วมกับเอไอ และหากไม่จำเป็นต้องเลือกเพียง1 เราคงจะเห็นบิทคอยน์ยังเติบโตต่อไปเรื่อยๆพร้อมกับเฟียตที่ยังอยู่ และผู้คนที่ไม่ว่าเงินเฟียตจะเฟ้อแค่ไหน พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี จนกว่าเงินเฟียตจะพังจริงๆ แต่เอาจริงๆเฟียตมันก็ตายมาหลายครั้งแล้วนะ พวกเราอาจจะคิดว่าถ้าเฟียตมันพังเดี๋ยวคนเหล่านั้นก็จะวิ่งมาหาบิทคอยน์เอง บางทีเราอาจประเมินมนุษย์สูงเกินไป เพราะพอเงินเฟียตมันเปลี่ยนชื่อมาใหม่ มนุษย์ก็ยังยึดถือและเชื่อมั่นในระบบเฟียตอยู่ดี พวกเขารอใครซักคนมาบอกว่าจะต้องทำอะไร จะแรงไปไหมถ้าจะบอกว่า นั่นเป็นเพราะมนุษย์บางกลุ่มเกิดมาเพื่อเป็นทาส เขาจะไม่คิดเอง ไม่ตัดสินใจด้วยตัวเอง เขารอใครสักคนมาบอกว่าอะไรดีหรือไม่ดี อะไรควรทำหรือไม่ควรทำ ถ้าคนส่วนใหญ่ทำตามกัน แม้จะไร้เหตุผล แม้จะไร้สาระ เขาก็พร้อมจะทำเช่นกัน เพราะการทำตามๆกันนั้น หากผู้อื่นทำแล้วดีเขาก็น่าจะได้ผลลัพธ์ไม่ต่างจากคนอื่นๆ และพวกเขามีเหตุผลแค่เพียงว่าถ้าหากมันไม่ดี หลายๆคนก็คงไม่ทำ แสดงว่าที่เขาทำกันมันคงดีก็เลยทำไปตามๆกัน
#siamstr