Mr.Note on Nostr: GM #siamstr The Psychology of Money ...
GM #siamstr The Psychology of Money จิตวิทยาว่าด้วยการเงิน เป็นหนังสือที่ดีมากๆเล่มหนึ่งที่ผมเคยอ่านมา สามารถเปลี่ยน Mindset เรื่องการเงินได้ ใครที่สนใจเรื่องการเงินควรต้องอ่านเป็นอย่างยิ่ง แค่บทนำเรื่อง โรนัลด์ รีด ภารโรง กับ ริชาร์ด ฟัสโคนผู้บริหารที่สมบูรณ์แบบทุกอย่าง ปั้นปลายชีวิตกลับพลิกผัน!! ทำให้อยากอ่านแต่ละบทเลยทีเดียว😁 สรุปเนื้อหามีดังนี้
บทที่ 1 ไม่มีใครเป็นบ้า
คนส่วนใหญ่นั้นจะมองเรื่องการเงินผ่านจากประสบการณ์ในอดีต ต่างยุคต่างสมัย ส่งผลให้แต่ละคนเข้าใจคนรอบข้าง สถานการณ์ที่แตกต่างกันไป รวมถึงเรื่องการเงิน บางอย่างอาจจะใช้ได้ในช่วงเวลานั้น แต่ใช้กับปัจจุบันอาจจะไม่ได้
บทที่ 2 โชคและความเสี่ยง
โชคลาภและความเสี่ยงเป็นของคู่กัน ความสำเร็จและความล้มเหลวก็เป็นเรื่องธรรมดา การรับมือกับความล้มเหลวคือการเตรียมความพร้อมไว้เสมอแบบว่า ไม่มีใครสามารถเขี่ยคุณออกจากเกมส์นี้และอยู่ในเกมส์ต่อไปจนกว่าโอกาสจะเข้าข้างคุณ
บทที่ 3 ไม่เคยพอ
- ทักษะทางการเงินที่ยากที่สุดคือการทำให้เป้าหมายหยุดเคลื่อน หยุดการอยากได้อยากมี ด้วยคำว่า ”พอ”
-การเปรียบเทียบทางสังคมคือปัญหา อย่าเปรียบเทียบตัวเรากับใครเพราะมันเป็นสงครามที่ไม่มีวันชนะ
-คำว่า “พอ” อาจจะทำให้คุณพลาดโอกาสบางอย่าง แต่มันจะไม่ทำให้คุณเสียใจแน่นอน
-มีหลายสิ่งที่ไม่ควรค่าแก่การเสี่ยง ไม่ว่ามันจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากขนาดไหน คุณต้องรู้เสมอว่า เมื่อไรที่คุณต้องหยุดรับความเสี่ยง ให้จบที่คำว่า “พอ“
บทที่ 4 ผลตอบแทนทบต้น
คุณไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างผลตอบแทนให้ได้มากที่สุดในแต่ละปี แต่ให้เน้นถึงการสร้างผลตอบแทนให้เหมาะสมและยืนยาวโดยอยู่ให้นานที่สุด เหมือนกับหิมะที่ตกลงมาทับถมจากชั้นบางๆ กันจนเป็นน้ำแข็งแผ่นใหญ่ได้ การเริ่มต้นเล็กๆ ก็สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้
บทที่ 5 ได้มาซึ่งความมั่งคั่ง กับ รักษาไว้ซึ่งความมั่งคั่ง
การลงทุนเพื่อได้รับความมั่งคั่งนั้น ไม่เพียงแค่คุณจะต้องรักษาความมั่งคั่งเหล่านั้นให้อยู่ได้ในระยะยาว ที่เรียกว่า “การอยู่รอด” คุณต้องมองเห็นคุณค่าของสิ่งต่อไปนี้
-ฉันต้องการเป็นคนที่ฆ่าไม่ตายทางการเงิน ฉันสามารถยืนระยะได้นานพอที่การทบต้นจะทำงานได้อย่างน่าอัศจรรย์
-มองโลกในแง่ดีในเรื่องอนาคต แต่ต้องวิตกกังวลกับสิ่งที่จะขัดขวางไม่ให้คุณไปถึงอนาคตนั้นต้องมองไปคู่กันเสมอ
บทที่ 6 หางยาว คุณชนะ
ปลายทางจะเป็นตัวขับเคลื่อนทุกสิ่ง การลงทุนและการเงินนั้นย่อมมีการผิดพลาด พังทลาย ล้มเหลว นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่คุณต้องพยายามที่จะทำให้ขาดทุนน้อยที่สุด แต่ในยามที่คุณจะชนะ คุณจะต้องพยายามรักษาการรับผลตอบแทนที่มากเกินคาดให้ได้ ซึ่งในระยะยาวจะทำให้คุณมั่งคั่ง
บทที่ 7 อิสรภาพ
คุณค่าที่แท้จริงของเงิน คือ ศักยภาพของเงินที่มอบการควบคุม “เวลา”ให้กับคุณ คุณจะสามารถทำอะไรที่ไหนตอนไหนก็ได้ คุณสามารถที่จะตื่นขึ้นมาจะทำงานหรือจะนอนต่อหรือจะไปใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องกังวลถึงเรื่องของการเงินอีกเลย มันเรียกว่า “อิสรภาพ”
บทที่ 8 ความย้อนแย้งของชายในรถยนต์
ถ้าหากเรานั้นได้ขับรถสปอร์ตหรู เช่น เฟอร์รารี, ปอเช่ร์ จะทำให้คนอื่นที่เวลามองเรานั้น รู้สึกว่าเราเป็นคนรวย เป็นคนที่เท่ห์ น่าชื่นชม แต่ในความเป็นจริงแล้วคนอื่นที่มองเข้ามานั้นไม่ได้ชื่นชมตัวคุณแต่เค้ามอบมาที่รถของคุณต่างหาก คุณคิดไปเอง เพราะเขานั้นฝันว่าจะได้ขับรถในแบบของคุณมากกว่า แต่ทำตัวให้มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ความเมตตา และความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นต่างหากที่จะนำพาความศรัทธาให้คุณ
บทที่ 9 ความมั่งคั่งคือสิ่งที่คุณมองไม่เห็น
คนส่วนใหญ่มักคิดว่าการโชว์ใช้เงินเยอะๆ เพื่อให้ตัวเองนั้นดูร่ำรวย ดูดี ให้คนอื่นยกย่อง หารู้ไม่ว่ามันคือวิธีการที่ทำให้คุณจนลงเร็วที่สุด
-ความร่ำรวย คือ สถานะรายได้ในปัจจุบัน จะมีรถหรู บ้านหลังใหญ่ แต่ต้องมีรายได้เพียงพอต่อหนี้ที่ตัวเองทำไว้ด้วย
-ความมั่งคั่ง คือรายรับที่ไม่ถูกจ่ายออกไป เป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินที่สร้างกระแสรายได้เงินสดให้กับเขาหรือธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้
โลกใบนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่ดูสมถะแต่แท้จริงแล้วมั่งคั่ง และเต็มไปด้วยผู้คนที่ดูร่ำรวยแต่อยู่บนคมดาบแห่งความล้มละลาย
บทที่ 10 การเก็บออม
-การสร้างความมั่งคั่งนั้นแทบจะไม่เกี่ยวข้องกับรายได้หรือผลตอบแทนจากการลงทุนของคุณ แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คืออัตราการออมของคุณ
-ปริมาณของความมั่งคั่งนั้นมีความสัมพันธ์กับสิ่งที่คุณอยากได้ เรียนรู้ที่จะมีความสุขในการลดความอยากได้ของตัวเอง
-ลดอัตตาในตัวคุณ เพิ่มความอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ต้องสนใจกับคนอื่นว่าคิดอะไรกับคุณ
-การเก็บออม คือการเก็บออม ป้องกันความเสี่ยงต่อสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิต ใช้จ่ายให้น้อยออมให้เยอะ
-ความยืดหยุ่นและความสามารถในการควบคุมเวลา คือผลตอบแทนจากความมั่งคั่งที่มองไม่เห็น ความยืดหยุ่นจะทำให้คุณรอคอยโอกาสดีๆได้ คุณจะมีโอกาสในการเรียนรู้ คุณจะเร่งรีบน้อยลงและมีเวลามากขึ้นในการค้นหาความหลงใหลของคุณตามจังหวะก้าวเดินของตัวคุณเอง
บทที่ 11 สมเหตุสมผล มากกว่ายึดเหตุผล
การตั้งเป้าหมายด้านการเงินแล้วต้องทำมันให้ได้ตามเป้าหมายนั้น จริงๆแล้วเราควรตั้งเป้าให้สมเหตุสมผล เพราะความสมเหตุผลจะทำให้เป้าหมายของคุณมีความสมจริงมากขึ้นและสามารถทำจริงได้ในระยะยาวซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดการทางการเงิน
บทที่ 12 เซอร์ไพรส์
กับดักที่นักลงทุนตกหลุม คือเชื่อว่าข้อมูลในอดีตเป็นสัญญาณของเงื่อนไขในอนาคต ที่ซึ่งนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงกระบวนการ ถ้าเชื่อข้อมูลเหล่านี้มาก จะทำให้
-มองไม่เห็นเหตุการณ์ผิดปกติที่เป็นตัวการสำคัญที่สุดในการเปลี่ยนแปลง
-ประวัติศาสตร์อาจเป็นตัวชี้นำที่ทำให้เข้าใจผิดเรื่องอนาคตของเศรษฐกิจและตลาดหุ้น เพราะมันไม่ได้นับรวมปัจจัยการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับโลกปัจจุบันเข้าไปด้วย
บทที่ 13 เผื่อที่ให้กับความผิดพลาด
คุณสามารถเรียกมันว่า เป็นพื้นที่สำหรับความผิดพลาด คือวิธีการทรงประสิทธิภาพวิธีเดียวที่จะนำทางคุณไปบนโลกที่ถูกปกคลุมด้วยความน่าจะเป็น ไม่ใช่ความแน่นอน และเกือบทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินนั้นอยู่ในโลกประเภทนี้ การเงินจะต้องมีแผนสำรองเสมอ แล้วส่วนสำคัญที่สุดของทุกแผนการ คือ การวางแผนให้กับแผนที่ไม่เป็นไปตามแผน
บทที่ 14 คุณจะเปลี่ยนไป
-การวางแผนการเงินระยะยาวนั้นเป็นสิ่งสำคัญแต่อนาคตก็ไม่มีความแน่นอน ควรหลีกเลี่ยงแผนการเงินที่สุดโต่งมากจนเกินไป
-เราควรยอมรับความจริงของการเปลี่ยนใจ ถ้าเรารู้ว่าสิ่งที่เราทำนั้นไม่ใช่ ให้เปลี่ยนแปลงและก้าวออกมาให้เร็วที่สุด อย่าไปยึดติดหรือเสียดายกับสิ่งที่ทำลงไปแล้ว
บทที่ 15 ไม่มีอะไรได้มาฟรี
ทุกสิ่งล้วนมีราคาในของตัวมัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีป้ายราคาแปะไว้ก็ตาม ราคาของความสำเร็จในการลงทุนนั้นไม่สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน มันไม่มีป้ายแป่ะให้คุณมองเห็นจนกว่าถึงเวลาที่ต้องชำระบิล คำว่า “บิล” นี้ขึ้นอยู่กับคุณว่า คุณมองเป็นค่าธรรมเนียมหรือค่าปรับ ถ้าคุณมองว่าเป็นค่าปรับ คุณก็จะพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่จ่าย แต่ถ้าคุณมองว่าเป็นค่าธรรมเนียม คุณจะคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะจ่าย นั่นคือหนทางเดียวที่จะรับมือกับความผันผวนและความไม่แน่นอนได้อย่างเหมาะสม คุณจะตระหนักได้ว่า มันเป็นค่าธรรมเนียมผ่านประตูที่คุ้มค่าไปสู่ความมั่งคั่ง
บทที่ 16 คุณและผม
จงระวังคำแนะนำทางการเงิน จากคนที่เล่นเกมต่างจากคุณ ตัวอย่าง เช่นถ้าคุณถือหุ้นในระยะยาวแต่คุณไปฟังคำแนะนำกับคนที่เล่นเทรดถือหุ้นระยะสั้น คุณจะซื้อและถือหุ้นเหล่านี้ในระยะยาวไม่ได้ ซึ่งมันเป็นเกมการลงทุนที่ต่างจากคุณ
บทที่ 17 ความเย้ายวนของการมองโลกในแง่ร้าย
การมองโลกในแง่ดีนั้นฟังดูเหมือนจะเป็นปกติ ส่วนการมองโลกในแง่ร้ายก็เป็นสิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ดังนี้
-เงินนั้นอยู่ในทุกหนทุกแห่ง ฉะนั้นเวลาที่เกิดเรื่องบางอย่างที่เลวร้ายขึ้น มันมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อทุกๆคนและดึงความสนใจของทุกๆคนเข้ามา
-การมองโลกในแง่ร้ายมักจะคาดการณ์แนวโน้มปัจจุบันโดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องความสามารถในการปรับตัวของตลาด
-กระบวนการนั้นเกิดขึ้นช้าเกินกว่าที่จะสังเกตเห็นแต่ความพ่ายแพ้นั่นเกิดขึ้นรวดเร็วเกินกว่าที่จะเพิกเฉย
การมองโลกในแง่ร้ายนั้นช่วยลดความคาดหวัง และช่วยทำให้ช่องว่างระหว่างผลลัพธ์ที่เป็นไปได้กับผลลัพธ์ที่คุณรู้สึกดีกับมันนั้นแคบลง
บทที่ 18 เวลาที่คุณมีความเชื่อในเรื่องใดก็ตาม
- ยิ่งคุณต้องการให้อะไรบางอย่างเป็นจริงมากเท่าไร คุณก็มีแนวโน้มที่จะเชื่อเรื่องนั้นและประเมินโอกาสของการเกิดสิ่งนั้นไว้สูงเกินไปมากขึ้นเสมอ
-ไม่มีใครที่จะสามารถมองโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกมุมมอง แต่เราสร้างเรื่องเล่านี้ขึ้นมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างเหล่านั้น
บทที่ 19 เอาเรื่องทั้งหมดมาร้อยเรียงเข้าด้วยกัน
ในบทนี้จะนำข้อคิดต่างๆขอหนังสือเล่มนี้มารวมไว้ในบทความเดียวกัน ดังนึ้
-พยายามค้นหาความถ่อมตัวในเวลาที่สิ่งต่างๆ เป็นไปตามที่คุณคิดและค้นหาการให้อภัยและความเห็นอกเห็นใจในเวลาที่สิ่งต่างๆไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
-อัตตาน้อย ความมั่งคั่งเพิ่ม
-บริหารจัดการเงินของคุณในแบบที่จะทำให้คุณนอนหลับสนิทได้ตลอดคืน
-ถ้าหากคุณต้องการเป็นนักลงทุนที่ดีขึ้น สิ่งที่มีพลังมากที่สุดสิ่งเดียวที่คุณทำได้คือการเพิ่มระยะเวลาการลงทุนของคุณให้ดอกเบี้ยทบต้นทำงาน
-เป็นคนที่ Ok กับสิ่งต่างๆที่ไม่เป็นไปตามที่คิด คุณสามารถที่จะทำผิดได้ครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด แต่ยังสามารถสร้างความมั่งคั่งได้
-ใช้เงินเพื่อควบคุมเวลาของคุณ
-เป็นคนที่ดีขึ้นและหรูหราน้อยลง
-ออมเงินเพื่อออมเงิน คุณไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลเฉพาะให้กับการออมเงิน
-หาต้นทุนของความสำเร็จให้เจอและเตรียมพร้อมที่จะจ่ายมัน
-ยกย่องบูชาพื้นที่เผื่อความผิดพลาด
-หลีกเลี่ยงการตัดสินใจการเงินแบบสุดโต่ง
-คุณควรที่จะชอบความเสี่ยงเนื่องจากมันจะจ่ายผลตอบแทนให้คุณเมื่อเวลาผ่านไป
-กำหนดเกมส์ที่คุณกำลังเล่นอยู่
-เคารพความยุ่งเหยิง ไม่มีคำตอบใดถูกต้องที่สุด มีเพียงคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ
ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ ยาวมากๆๆๆเลย😅….ใครไม่เคยอ่านต้องหามาอ่านนะครับ เล่มนี้ดีมากจริงๆ สอนให้เราอยู่กับตัวเองและสอนให้เรา Stay Humble, Stack Sats ได้ดีเลยครับ🙏❤️
บทที่ 1 ไม่มีใครเป็นบ้า
คนส่วนใหญ่นั้นจะมองเรื่องการเงินผ่านจากประสบการณ์ในอดีต ต่างยุคต่างสมัย ส่งผลให้แต่ละคนเข้าใจคนรอบข้าง สถานการณ์ที่แตกต่างกันไป รวมถึงเรื่องการเงิน บางอย่างอาจจะใช้ได้ในช่วงเวลานั้น แต่ใช้กับปัจจุบันอาจจะไม่ได้
บทที่ 2 โชคและความเสี่ยง
โชคลาภและความเสี่ยงเป็นของคู่กัน ความสำเร็จและความล้มเหลวก็เป็นเรื่องธรรมดา การรับมือกับความล้มเหลวคือการเตรียมความพร้อมไว้เสมอแบบว่า ไม่มีใครสามารถเขี่ยคุณออกจากเกมส์นี้และอยู่ในเกมส์ต่อไปจนกว่าโอกาสจะเข้าข้างคุณ
บทที่ 3 ไม่เคยพอ
- ทักษะทางการเงินที่ยากที่สุดคือการทำให้เป้าหมายหยุดเคลื่อน หยุดการอยากได้อยากมี ด้วยคำว่า ”พอ”
-การเปรียบเทียบทางสังคมคือปัญหา อย่าเปรียบเทียบตัวเรากับใครเพราะมันเป็นสงครามที่ไม่มีวันชนะ
-คำว่า “พอ” อาจจะทำให้คุณพลาดโอกาสบางอย่าง แต่มันจะไม่ทำให้คุณเสียใจแน่นอน
-มีหลายสิ่งที่ไม่ควรค่าแก่การเสี่ยง ไม่ว่ามันจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากขนาดไหน คุณต้องรู้เสมอว่า เมื่อไรที่คุณต้องหยุดรับความเสี่ยง ให้จบที่คำว่า “พอ“
บทที่ 4 ผลตอบแทนทบต้น
คุณไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างผลตอบแทนให้ได้มากที่สุดในแต่ละปี แต่ให้เน้นถึงการสร้างผลตอบแทนให้เหมาะสมและยืนยาวโดยอยู่ให้นานที่สุด เหมือนกับหิมะที่ตกลงมาทับถมจากชั้นบางๆ กันจนเป็นน้ำแข็งแผ่นใหญ่ได้ การเริ่มต้นเล็กๆ ก็สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้
บทที่ 5 ได้มาซึ่งความมั่งคั่ง กับ รักษาไว้ซึ่งความมั่งคั่ง
การลงทุนเพื่อได้รับความมั่งคั่งนั้น ไม่เพียงแค่คุณจะต้องรักษาความมั่งคั่งเหล่านั้นให้อยู่ได้ในระยะยาว ที่เรียกว่า “การอยู่รอด” คุณต้องมองเห็นคุณค่าของสิ่งต่อไปนี้
-ฉันต้องการเป็นคนที่ฆ่าไม่ตายทางการเงิน ฉันสามารถยืนระยะได้นานพอที่การทบต้นจะทำงานได้อย่างน่าอัศจรรย์
-มองโลกในแง่ดีในเรื่องอนาคต แต่ต้องวิตกกังวลกับสิ่งที่จะขัดขวางไม่ให้คุณไปถึงอนาคตนั้นต้องมองไปคู่กันเสมอ
บทที่ 6 หางยาว คุณชนะ
ปลายทางจะเป็นตัวขับเคลื่อนทุกสิ่ง การลงทุนและการเงินนั้นย่อมมีการผิดพลาด พังทลาย ล้มเหลว นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่คุณต้องพยายามที่จะทำให้ขาดทุนน้อยที่สุด แต่ในยามที่คุณจะชนะ คุณจะต้องพยายามรักษาการรับผลตอบแทนที่มากเกินคาดให้ได้ ซึ่งในระยะยาวจะทำให้คุณมั่งคั่ง
บทที่ 7 อิสรภาพ
คุณค่าที่แท้จริงของเงิน คือ ศักยภาพของเงินที่มอบการควบคุม “เวลา”ให้กับคุณ คุณจะสามารถทำอะไรที่ไหนตอนไหนก็ได้ คุณสามารถที่จะตื่นขึ้นมาจะทำงานหรือจะนอนต่อหรือจะไปใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องกังวลถึงเรื่องของการเงินอีกเลย มันเรียกว่า “อิสรภาพ”
บทที่ 8 ความย้อนแย้งของชายในรถยนต์
ถ้าหากเรานั้นได้ขับรถสปอร์ตหรู เช่น เฟอร์รารี, ปอเช่ร์ จะทำให้คนอื่นที่เวลามองเรานั้น รู้สึกว่าเราเป็นคนรวย เป็นคนที่เท่ห์ น่าชื่นชม แต่ในความเป็นจริงแล้วคนอื่นที่มองเข้ามานั้นไม่ได้ชื่นชมตัวคุณแต่เค้ามอบมาที่รถของคุณต่างหาก คุณคิดไปเอง เพราะเขานั้นฝันว่าจะได้ขับรถในแบบของคุณมากกว่า แต่ทำตัวให้มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ความเมตตา และความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นต่างหากที่จะนำพาความศรัทธาให้คุณ
บทที่ 9 ความมั่งคั่งคือสิ่งที่คุณมองไม่เห็น
คนส่วนใหญ่มักคิดว่าการโชว์ใช้เงินเยอะๆ เพื่อให้ตัวเองนั้นดูร่ำรวย ดูดี ให้คนอื่นยกย่อง หารู้ไม่ว่ามันคือวิธีการที่ทำให้คุณจนลงเร็วที่สุด
-ความร่ำรวย คือ สถานะรายได้ในปัจจุบัน จะมีรถหรู บ้านหลังใหญ่ แต่ต้องมีรายได้เพียงพอต่อหนี้ที่ตัวเองทำไว้ด้วย
-ความมั่งคั่ง คือรายรับที่ไม่ถูกจ่ายออกไป เป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินที่สร้างกระแสรายได้เงินสดให้กับเขาหรือธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้
โลกใบนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่ดูสมถะแต่แท้จริงแล้วมั่งคั่ง และเต็มไปด้วยผู้คนที่ดูร่ำรวยแต่อยู่บนคมดาบแห่งความล้มละลาย
บทที่ 10 การเก็บออม
-การสร้างความมั่งคั่งนั้นแทบจะไม่เกี่ยวข้องกับรายได้หรือผลตอบแทนจากการลงทุนของคุณ แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คืออัตราการออมของคุณ
-ปริมาณของความมั่งคั่งนั้นมีความสัมพันธ์กับสิ่งที่คุณอยากได้ เรียนรู้ที่จะมีความสุขในการลดความอยากได้ของตัวเอง
-ลดอัตตาในตัวคุณ เพิ่มความอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ต้องสนใจกับคนอื่นว่าคิดอะไรกับคุณ
-การเก็บออม คือการเก็บออม ป้องกันความเสี่ยงต่อสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิต ใช้จ่ายให้น้อยออมให้เยอะ
-ความยืดหยุ่นและความสามารถในการควบคุมเวลา คือผลตอบแทนจากความมั่งคั่งที่มองไม่เห็น ความยืดหยุ่นจะทำให้คุณรอคอยโอกาสดีๆได้ คุณจะมีโอกาสในการเรียนรู้ คุณจะเร่งรีบน้อยลงและมีเวลามากขึ้นในการค้นหาความหลงใหลของคุณตามจังหวะก้าวเดินของตัวคุณเอง
บทที่ 11 สมเหตุสมผล มากกว่ายึดเหตุผล
การตั้งเป้าหมายด้านการเงินแล้วต้องทำมันให้ได้ตามเป้าหมายนั้น จริงๆแล้วเราควรตั้งเป้าให้สมเหตุสมผล เพราะความสมเหตุผลจะทำให้เป้าหมายของคุณมีความสมจริงมากขึ้นและสามารถทำจริงได้ในระยะยาวซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดการทางการเงิน
บทที่ 12 เซอร์ไพรส์
กับดักที่นักลงทุนตกหลุม คือเชื่อว่าข้อมูลในอดีตเป็นสัญญาณของเงื่อนไขในอนาคต ที่ซึ่งนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงกระบวนการ ถ้าเชื่อข้อมูลเหล่านี้มาก จะทำให้
-มองไม่เห็นเหตุการณ์ผิดปกติที่เป็นตัวการสำคัญที่สุดในการเปลี่ยนแปลง
-ประวัติศาสตร์อาจเป็นตัวชี้นำที่ทำให้เข้าใจผิดเรื่องอนาคตของเศรษฐกิจและตลาดหุ้น เพราะมันไม่ได้นับรวมปัจจัยการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับโลกปัจจุบันเข้าไปด้วย
บทที่ 13 เผื่อที่ให้กับความผิดพลาด
คุณสามารถเรียกมันว่า เป็นพื้นที่สำหรับความผิดพลาด คือวิธีการทรงประสิทธิภาพวิธีเดียวที่จะนำทางคุณไปบนโลกที่ถูกปกคลุมด้วยความน่าจะเป็น ไม่ใช่ความแน่นอน และเกือบทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินนั้นอยู่ในโลกประเภทนี้ การเงินจะต้องมีแผนสำรองเสมอ แล้วส่วนสำคัญที่สุดของทุกแผนการ คือ การวางแผนให้กับแผนที่ไม่เป็นไปตามแผน
บทที่ 14 คุณจะเปลี่ยนไป
-การวางแผนการเงินระยะยาวนั้นเป็นสิ่งสำคัญแต่อนาคตก็ไม่มีความแน่นอน ควรหลีกเลี่ยงแผนการเงินที่สุดโต่งมากจนเกินไป
-เราควรยอมรับความจริงของการเปลี่ยนใจ ถ้าเรารู้ว่าสิ่งที่เราทำนั้นไม่ใช่ ให้เปลี่ยนแปลงและก้าวออกมาให้เร็วที่สุด อย่าไปยึดติดหรือเสียดายกับสิ่งที่ทำลงไปแล้ว
บทที่ 15 ไม่มีอะไรได้มาฟรี
ทุกสิ่งล้วนมีราคาในของตัวมัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีป้ายราคาแปะไว้ก็ตาม ราคาของความสำเร็จในการลงทุนนั้นไม่สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน มันไม่มีป้ายแป่ะให้คุณมองเห็นจนกว่าถึงเวลาที่ต้องชำระบิล คำว่า “บิล” นี้ขึ้นอยู่กับคุณว่า คุณมองเป็นค่าธรรมเนียมหรือค่าปรับ ถ้าคุณมองว่าเป็นค่าปรับ คุณก็จะพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่จ่าย แต่ถ้าคุณมองว่าเป็นค่าธรรมเนียม คุณจะคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะจ่าย นั่นคือหนทางเดียวที่จะรับมือกับความผันผวนและความไม่แน่นอนได้อย่างเหมาะสม คุณจะตระหนักได้ว่า มันเป็นค่าธรรมเนียมผ่านประตูที่คุ้มค่าไปสู่ความมั่งคั่ง
บทที่ 16 คุณและผม
จงระวังคำแนะนำทางการเงิน จากคนที่เล่นเกมต่างจากคุณ ตัวอย่าง เช่นถ้าคุณถือหุ้นในระยะยาวแต่คุณไปฟังคำแนะนำกับคนที่เล่นเทรดถือหุ้นระยะสั้น คุณจะซื้อและถือหุ้นเหล่านี้ในระยะยาวไม่ได้ ซึ่งมันเป็นเกมการลงทุนที่ต่างจากคุณ
บทที่ 17 ความเย้ายวนของการมองโลกในแง่ร้าย
การมองโลกในแง่ดีนั้นฟังดูเหมือนจะเป็นปกติ ส่วนการมองโลกในแง่ร้ายก็เป็นสิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ดังนี้
-เงินนั้นอยู่ในทุกหนทุกแห่ง ฉะนั้นเวลาที่เกิดเรื่องบางอย่างที่เลวร้ายขึ้น มันมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อทุกๆคนและดึงความสนใจของทุกๆคนเข้ามา
-การมองโลกในแง่ร้ายมักจะคาดการณ์แนวโน้มปัจจุบันโดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องความสามารถในการปรับตัวของตลาด
-กระบวนการนั้นเกิดขึ้นช้าเกินกว่าที่จะสังเกตเห็นแต่ความพ่ายแพ้นั่นเกิดขึ้นรวดเร็วเกินกว่าที่จะเพิกเฉย
การมองโลกในแง่ร้ายนั้นช่วยลดความคาดหวัง และช่วยทำให้ช่องว่างระหว่างผลลัพธ์ที่เป็นไปได้กับผลลัพธ์ที่คุณรู้สึกดีกับมันนั้นแคบลง
บทที่ 18 เวลาที่คุณมีความเชื่อในเรื่องใดก็ตาม
- ยิ่งคุณต้องการให้อะไรบางอย่างเป็นจริงมากเท่าไร คุณก็มีแนวโน้มที่จะเชื่อเรื่องนั้นและประเมินโอกาสของการเกิดสิ่งนั้นไว้สูงเกินไปมากขึ้นเสมอ
-ไม่มีใครที่จะสามารถมองโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบในทุกมุมมอง แต่เราสร้างเรื่องเล่านี้ขึ้นมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างเหล่านั้น
บทที่ 19 เอาเรื่องทั้งหมดมาร้อยเรียงเข้าด้วยกัน
ในบทนี้จะนำข้อคิดต่างๆขอหนังสือเล่มนี้มารวมไว้ในบทความเดียวกัน ดังนึ้
-พยายามค้นหาความถ่อมตัวในเวลาที่สิ่งต่างๆ เป็นไปตามที่คุณคิดและค้นหาการให้อภัยและความเห็นอกเห็นใจในเวลาที่สิ่งต่างๆไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
-อัตตาน้อย ความมั่งคั่งเพิ่ม
-บริหารจัดการเงินของคุณในแบบที่จะทำให้คุณนอนหลับสนิทได้ตลอดคืน
-ถ้าหากคุณต้องการเป็นนักลงทุนที่ดีขึ้น สิ่งที่มีพลังมากที่สุดสิ่งเดียวที่คุณทำได้คือการเพิ่มระยะเวลาการลงทุนของคุณให้ดอกเบี้ยทบต้นทำงาน
-เป็นคนที่ Ok กับสิ่งต่างๆที่ไม่เป็นไปตามที่คิด คุณสามารถที่จะทำผิดได้ครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด แต่ยังสามารถสร้างความมั่งคั่งได้
-ใช้เงินเพื่อควบคุมเวลาของคุณ
-เป็นคนที่ดีขึ้นและหรูหราน้อยลง
-ออมเงินเพื่อออมเงิน คุณไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลเฉพาะให้กับการออมเงิน
-หาต้นทุนของความสำเร็จให้เจอและเตรียมพร้อมที่จะจ่ายมัน
-ยกย่องบูชาพื้นที่เผื่อความผิดพลาด
-หลีกเลี่ยงการตัดสินใจการเงินแบบสุดโต่ง
-คุณควรที่จะชอบความเสี่ยงเนื่องจากมันจะจ่ายผลตอบแทนให้คุณเมื่อเวลาผ่านไป
-กำหนดเกมส์ที่คุณกำลังเล่นอยู่
-เคารพความยุ่งเหยิง ไม่มีคำตอบใดถูกต้องที่สุด มีเพียงคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ
ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ ยาวมากๆๆๆเลย😅….ใครไม่เคยอ่านต้องหามาอ่านนะครับ เล่มนี้ดีมากจริงๆ สอนให้เราอยู่กับตัวเองและสอนให้เรา Stay Humble, Stack Sats ได้ดีเลยครับ🙏❤️