70980946 on Nostr: ...
สิ่งที่สามารถทำลายบิตคอยน์ได้มันคือ Strategy ที่ Satochi วางไว้
------------------------------------------------------------------------
ผมยังไม่เคยเห็นใครพูดถึงประเด็นนี้หรืออาจจะมีแต่ผมไม่เห็นเอง
------------------------------------------------------------------------
ตาม Strategy ที่ถูกวางไว้ของผู้สร้าง บิตคอยน์ต้องมีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
อย่างที่ซาโตชิบอก ถ้ามันไม่มีค่ามหาศาลไปเลยก็มีค่าเท่ากับศูนย์และนี่ล่ะ
คือปัญหาของสิ่งที่ผมพยายามคิด ผมลองคิดว่าหากบิตคอยน์มีมูลค่าสูงโครตๆ
มันจะเกิดปัญหาคือคนที่มีบิตคอยน์จะไม่อยากขายจะเก็บเป็นทรัพย์สมบัติเพราะรู้
ว่าถ้าเก็บไปเรื่อยๆราคามันก็จะเพิ่มขึ้น หรือพวกคนเหล่านี้มีอันจะกินอยู่แล้วซึ่งก็ไม่รู้
ว่าจะขายบิตคอยน์เพื่อไปซื้ออะไรที่มันดีกว่า อีกฝั่งหนึ่งคนก็จะเอื้อมไม่ถึง มันคล้ายๆ
ที่ดินในเมืองที่เจริญแล้วจะมีราคาที่สูงและเกิดการเปลี่ยนมือในอัตราที่ต่ำมากๆ
ทำให้ transaction มันน้อยลงไปเรื่อยๆ ประจวบกับการหมดไปของ Block Reward
Miner ก็จะทำงานคล้ายๆ Part time มีงานทำบางเป็นบางวัน ต่อให้เปิดขุดทุกวัน
ก็ไม่ได้การันตีว่า จะเป็นผู้ชนะการคำนวณ ทีนี่ Miner ก็อาจจะคิดก็ได้
ว่ารายได้ในส่วนนี้ มันไม่แน่นอนแล้ว บางวันมีรายได้ บางวันไม่มีรายได้ เราหันไปทำ
อย่างอื่นที่มันดีกว่านี้ดีกว่าไหม ถ้าไม่มี Miner ธุรกรรมเราก็ไม่สามารถถูกตรวจสอบ
ทำให้การที่เราจะทำธุรกรรมในแต่ละครั้ง ต้องหวังพึ่งโชค ขอให้วันนี้มี Miner มา
ทำงานเถอะ พอคนเห็นแบบนี้เข้า ก็ตกใจกลัวว่า บิตคอยน์ที่เราเก็บไว้นั้น
มันอาจจะไม่สามาถนำออกมาใช้ได้ ในเวลาที่เราจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ
อีกอย่างกลัวว่าหากเราขายช้าเท่าไหร่มูลค่าของเงินเราก็จะลดลงไปเรื่อยๆ
ก็เลยคิดอยากจะถอนออกจาก hardware wallet แล้วนำออกมาขายผ่าน
Exchange ทีนี่เกิดการ Dump ขายในจำนวนที่เยอะๆ ราคาก็จะล่วง เพราะว่า
ไม่มี Demand พอที่จะรองรับบิตคอยน์จำนวนมหาศาลจาก panic sell ทำให้
มูลค่าของบิตคอยน์ลดลงอย่างลวดเร็วจนทำให้ระบบนิเวศของบิตคอยน์พังไม่คุ้ม
กับการที่จะมีการทำธุรกรรมกันเกิดขึ้น เพราะต้นทุนในการทำธุรกรรมมีมูลค่าที่
สูงกว่ามูลค่าของบิตคอยน์ ณ เวลานั้น ที่ผมคิดได้มีประมาณนี้ครับ ความรู้ในเชิง
ลึกของบิตคอยน์ผมมีไม่ค่อยมากเท่าไหร่ ความคิดของผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็น
ไปได้มากน้อยเพียงใด ยังไงถ้าความคิดเห็นของผมผิดพลาดตรงไหน ต้องขออภัย
ไว้ ณ ที่นี่ด้วยครับ แต่กรณีนี้ไม่น่าจะเกิดในยุคเราๆครับ ขอบคุณครับผม
#Siamstr
------------------------------------------------------------------------
ผมยังไม่เคยเห็นใครพูดถึงประเด็นนี้หรืออาจจะมีแต่ผมไม่เห็นเอง
------------------------------------------------------------------------
ตาม Strategy ที่ถูกวางไว้ของผู้สร้าง บิตคอยน์ต้องมีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
อย่างที่ซาโตชิบอก ถ้ามันไม่มีค่ามหาศาลไปเลยก็มีค่าเท่ากับศูนย์และนี่ล่ะ
คือปัญหาของสิ่งที่ผมพยายามคิด ผมลองคิดว่าหากบิตคอยน์มีมูลค่าสูงโครตๆ
มันจะเกิดปัญหาคือคนที่มีบิตคอยน์จะไม่อยากขายจะเก็บเป็นทรัพย์สมบัติเพราะรู้
ว่าถ้าเก็บไปเรื่อยๆราคามันก็จะเพิ่มขึ้น หรือพวกคนเหล่านี้มีอันจะกินอยู่แล้วซึ่งก็ไม่รู้
ว่าจะขายบิตคอยน์เพื่อไปซื้ออะไรที่มันดีกว่า อีกฝั่งหนึ่งคนก็จะเอื้อมไม่ถึง มันคล้ายๆ
ที่ดินในเมืองที่เจริญแล้วจะมีราคาที่สูงและเกิดการเปลี่ยนมือในอัตราที่ต่ำมากๆ
ทำให้ transaction มันน้อยลงไปเรื่อยๆ ประจวบกับการหมดไปของ Block Reward
Miner ก็จะทำงานคล้ายๆ Part time มีงานทำบางเป็นบางวัน ต่อให้เปิดขุดทุกวัน
ก็ไม่ได้การันตีว่า จะเป็นผู้ชนะการคำนวณ ทีนี่ Miner ก็อาจจะคิดก็ได้
ว่ารายได้ในส่วนนี้ มันไม่แน่นอนแล้ว บางวันมีรายได้ บางวันไม่มีรายได้ เราหันไปทำ
อย่างอื่นที่มันดีกว่านี้ดีกว่าไหม ถ้าไม่มี Miner ธุรกรรมเราก็ไม่สามารถถูกตรวจสอบ
ทำให้การที่เราจะทำธุรกรรมในแต่ละครั้ง ต้องหวังพึ่งโชค ขอให้วันนี้มี Miner มา
ทำงานเถอะ พอคนเห็นแบบนี้เข้า ก็ตกใจกลัวว่า บิตคอยน์ที่เราเก็บไว้นั้น
มันอาจจะไม่สามาถนำออกมาใช้ได้ ในเวลาที่เราจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ
อีกอย่างกลัวว่าหากเราขายช้าเท่าไหร่มูลค่าของเงินเราก็จะลดลงไปเรื่อยๆ
ก็เลยคิดอยากจะถอนออกจาก hardware wallet แล้วนำออกมาขายผ่าน
Exchange ทีนี่เกิดการ Dump ขายในจำนวนที่เยอะๆ ราคาก็จะล่วง เพราะว่า
ไม่มี Demand พอที่จะรองรับบิตคอยน์จำนวนมหาศาลจาก panic sell ทำให้
มูลค่าของบิตคอยน์ลดลงอย่างลวดเร็วจนทำให้ระบบนิเวศของบิตคอยน์พังไม่คุ้ม
กับการที่จะมีการทำธุรกรรมกันเกิดขึ้น เพราะต้นทุนในการทำธุรกรรมมีมูลค่าที่
สูงกว่ามูลค่าของบิตคอยน์ ณ เวลานั้น ที่ผมคิดได้มีประมาณนี้ครับ ความรู้ในเชิง
ลึกของบิตคอยน์ผมมีไม่ค่อยมากเท่าไหร่ ความคิดของผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็น
ไปได้มากน้อยเพียงใด ยังไงถ้าความคิดเห็นของผมผิดพลาดตรงไหน ต้องขออภัย
ไว้ ณ ที่นี่ด้วยครับ แต่กรณีนี้ไม่น่าจะเกิดในยุคเราๆครับ ขอบคุณครับผม
#Siamstr