chontit on Nostr: ต่างกันที่ Locking script ...
ต่างกันที่ Locking script และความเก่าแก่ครับ (Legacy -> Segwit -> Native Segwit -> Taproot)
ตอนนี้ Native Segwit เป็นที่นิยมที่สุด Address ขึ้นต้นด้วย bc1q…
Address ฝั่งผู้ส่งและผู้รับ สามารถส่งไปมาหากันได้หมด มิได้กำหนดว่าต้องส่งแบบเดียวกัน เพียงแต่ว่าต้องส่งบน Bitcoin Mainnet (On chain) เท่านั้นครับ
และเมื่อความยาวของ Script ไม่เท่ากัน จะส่งผลให้จ่ายค่าธรรมเนียมตอนโอนออกไม่เท่ากันครับ
ปล. ผมขออนุญาตแปะการคำนวนค่าธรรมเนียมในการส่งบิตคอยน์ ที่เคยโพสในเฟสบุ๊คครับ
===========
ค่าโอน BTC On-chain จาก Non-Custodial Wallet ต้องคำนวนจากหลายปัจจัยมากเลยครับ เช่น
- ประเภทของกระเป๋าที่เราใช้ (ความซับซ้อนของ Locking script)
- จำนวน UTXO ที่เราจะโอนออก (จำนวนยิ่งมาก ยิ่งเพิ่มขนาด ยิ่งจ่ายแพงขึ้น)
- จำนวน UTXO ที่รับเงิน (จำนวนยิ่งมาก ยิ่งเพิ่มขนาด ยิ่งแพงขึ้น)
***แต่ไม่เกี่ยวกับจำนวนบิตคอยน์ที่ใช้โอน***
เพราะฉะนั้นค่าฟีที่ต้องจ่าย คือ "ขนาดของธุรกรรมรวมทั้งหมด คูณด้วย จำนวน sat/vB" ที่เราเลือกครับ
ผมยกตัวอย่างขนาดของธุรกรรมสำหรับการโอน Input 1 utxo ไป Output 1 utxo ครับ (ความยาวของ address ก็มีผล ซึ่งกระเป๋าแต่ละแบบมีความยาวไม่เท่ากัน, กระเป๋า Taproot มีความยาว Address มากที่สุด แต่ Locking script สั้นสุด เหมาะแก่การใช้งานในอนาคต 5555)
- กระเป๋า Native Segwit (Receive Address ขึ้นต้นด้วย bc1q...) ประมาณ 155 vB
- กระเป๋า Legacy (Receive Address ขึ้นต้นด้วย 1...) ประมาณ 235 vB
- กระเป๋า Segwit (Receive Address ขึ้นต้นด้วย 3...) ประมาณ 165 vB
- กระเป๋า Taproot (Receive Address ขึ้นต้นด้วย bc1p...) ประมาณ 145 vB
- กระเป๋า Multisig 2-of-3 แบบ Native Segwit (Receive Address bc1q...) ประมาณ 200 vB
ทั้งนี้ให้คำนวนขนาดของธุรกรรมเพิ่มขึ้น 25-50% ต่อ UTXO ที่จำนวนมากกว่า 1 อัน
อ้ออ … ถ้าโอนหมดทั้ง UTXO โดยไม่มีเงินทอนกลับมาหาเรา … ชุดคำสั่งใน Tx ก็จะสั้นลงอีก => ขนาดเล็กลง => ฟีลดลง
HW โดยทั่วไปจะให้เราใช้กระเป๋าแบบ Native Segwit เพราะฉะนั้นสามารถใช้เลขกลม ๆ 200 vB คูณด้วยจำนวน sat/vB ที่เราเลือกโอนได้เลยครับ
เช่น เลือกขนาด 20 sat/vB ก็จะต้องจ่ายค่าฟีโดยประมาณ = 200 x 20 = 4,000 satoshi
จากนั้นก็คำนวน satoshi เป็น "บาท" ตรง ๆ ก็จะได้ประมาณ 1,428,791.40 x 0.00004000 = 57.15 บาท
ตอนนี้ Native Segwit เป็นที่นิยมที่สุด Address ขึ้นต้นด้วย bc1q…
Address ฝั่งผู้ส่งและผู้รับ สามารถส่งไปมาหากันได้หมด มิได้กำหนดว่าต้องส่งแบบเดียวกัน เพียงแต่ว่าต้องส่งบน Bitcoin Mainnet (On chain) เท่านั้นครับ
และเมื่อความยาวของ Script ไม่เท่ากัน จะส่งผลให้จ่ายค่าธรรมเนียมตอนโอนออกไม่เท่ากันครับ
ปล. ผมขออนุญาตแปะการคำนวนค่าธรรมเนียมในการส่งบิตคอยน์ ที่เคยโพสในเฟสบุ๊คครับ
===========
ค่าโอน BTC On-chain จาก Non-Custodial Wallet ต้องคำนวนจากหลายปัจจัยมากเลยครับ เช่น
- ประเภทของกระเป๋าที่เราใช้ (ความซับซ้อนของ Locking script)
- จำนวน UTXO ที่เราจะโอนออก (จำนวนยิ่งมาก ยิ่งเพิ่มขนาด ยิ่งจ่ายแพงขึ้น)
- จำนวน UTXO ที่รับเงิน (จำนวนยิ่งมาก ยิ่งเพิ่มขนาด ยิ่งแพงขึ้น)
***แต่ไม่เกี่ยวกับจำนวนบิตคอยน์ที่ใช้โอน***
เพราะฉะนั้นค่าฟีที่ต้องจ่าย คือ "ขนาดของธุรกรรมรวมทั้งหมด คูณด้วย จำนวน sat/vB" ที่เราเลือกครับ
ผมยกตัวอย่างขนาดของธุรกรรมสำหรับการโอน Input 1 utxo ไป Output 1 utxo ครับ (ความยาวของ address ก็มีผล ซึ่งกระเป๋าแต่ละแบบมีความยาวไม่เท่ากัน, กระเป๋า Taproot มีความยาว Address มากที่สุด แต่ Locking script สั้นสุด เหมาะแก่การใช้งานในอนาคต 5555)
- กระเป๋า Native Segwit (Receive Address ขึ้นต้นด้วย bc1q...) ประมาณ 155 vB
- กระเป๋า Legacy (Receive Address ขึ้นต้นด้วย 1...) ประมาณ 235 vB
- กระเป๋า Segwit (Receive Address ขึ้นต้นด้วย 3...) ประมาณ 165 vB
- กระเป๋า Taproot (Receive Address ขึ้นต้นด้วย bc1p...) ประมาณ 145 vB
- กระเป๋า Multisig 2-of-3 แบบ Native Segwit (Receive Address bc1q...) ประมาณ 200 vB
ทั้งนี้ให้คำนวนขนาดของธุรกรรมเพิ่มขึ้น 25-50% ต่อ UTXO ที่จำนวนมากกว่า 1 อัน
อ้ออ … ถ้าโอนหมดทั้ง UTXO โดยไม่มีเงินทอนกลับมาหาเรา … ชุดคำสั่งใน Tx ก็จะสั้นลงอีก => ขนาดเล็กลง => ฟีลดลง
HW โดยทั่วไปจะให้เราใช้กระเป๋าแบบ Native Segwit เพราะฉะนั้นสามารถใช้เลขกลม ๆ 200 vB คูณด้วยจำนวน sat/vB ที่เราเลือกโอนได้เลยครับ
เช่น เลือกขนาด 20 sat/vB ก็จะต้องจ่ายค่าฟีโดยประมาณ = 200 x 20 = 4,000 satoshi
จากนั้นก็คำนวน satoshi เป็น "บาท" ตรง ๆ ก็จะได้ประมาณ 1,428,791.40 x 0.00004000 = 57.15 บาท