TATUN on Nostr: การเงิน ดนตรี และ Dream Theater 🤘 ...
การเงิน ดนตรี และ Dream Theater 🤘
----------------------
รายได้หลักของน้า John และ Dream Theater มาจากไหน?
“ วง Dream Theater ของเราไม่ได้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์เลย ถึงแม้เราจะมีเพลงอย่าง Pull Me Under ที่ขึ้นชาร์ทวิทยุและกลายเป็นเพลงดังของเรา แต่นอกจากเพลงนี้แล้วเราไม่สามารถพึ่งพารายได้จากยอดขายอัลบั้มได้เลย
เราสร้างอาชีพของพวกเราโดยวางแผนว่าเราจะอยู่ได้ด้วยการทัวร์และการแสดงคอนเสิร์ต เราเลยเริ่มทัวร์ตั้งแต่เริ่มแรก เราคือวงที่จะเดินทางไปเพื่อสร้างแฟนๆจากทั่วโลกขึ้นมา
เราไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่นักจากการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลของอุตสาหกรรมดนตรี เพราะเราวางแผนแบบนี้ไว้แต่แรก
วงของเรานั้นเน้นทัวร์เป็นหลัก และรายได้ของเรามาจากการทัวร์และการขาย Merchandise เราไม่เหมือนกับวงป๊อปที่ขายอัลบั้มได้หลายล้านชุด และสามารถแสดงโชว์ปีละไม่กี่โชว์ได้
เราเล่นกันปีละ 150 โชว์ เราเดินทางไปทั่วโลก นั่นคือวิธีหาเงินของเรา และมันเป็นแบบนั้นมาตลอด ”
John Petrucci มือกีตาร์ของวงได้เล่าถึงโมเดลการทำเงินของ Dream Theater
----------------------
“ ผมอยากแนะนำว่า แม้คุณจะเล่นดนตรีเก่งมากแค่ไหน แต่โอกาสที่จะทำเงินจากดนตรีเพียวๆนั้นยากมากๆ คุณควรจะหาหลายๆช่องทางในการหาเงินด้วย อย่าพึ่งพาดนตรีเพียงอย่างเดียว มันจะช่วยให้ดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น
ถ้าใครซักคนมีความสามารถที่จะหาเงินในช่องทางอื่นๆได้นอกเหนือจากการพึ่งพาดนตรี...
คุณจะมีทั้ง “เงิน” และ “เวลา” ที่จะสนุกกับ “ดนตรี” ได้ (มากยิ่งขึ้น)
มันเศร้านะที่ผมต้องพูดแบบนี้ เพราะทั้งคนรุ่นใหม่และรุ่นเก่า ทุกวันนี้ทุกคนที่รักดนตรี กลับต้องพบความยากลำบากในการหาเลี้ยงตัวเองด้วยดนตรี และทุกอย่างมันยากขึ้นเรื่อยๆ ”
Jordan Rudess มือคีย์บอร์ดของ Dream Theater ได้กล่าวเสริมกับเรื่องนี้
----------------------
ข้อมูลจาก f : Peter Sow
#Siamstr #Music
#DreamTheater
![](https://image.nostr.build/597696e19b85ada20c241281e790cdfac6ef4919846fb5c9eb19edd78fd4aabe.jpg)
----------------------
รายได้หลักของน้า John และ Dream Theater มาจากไหน?
“ วง Dream Theater ของเราไม่ได้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์เลย ถึงแม้เราจะมีเพลงอย่าง Pull Me Under ที่ขึ้นชาร์ทวิทยุและกลายเป็นเพลงดังของเรา แต่นอกจากเพลงนี้แล้วเราไม่สามารถพึ่งพารายได้จากยอดขายอัลบั้มได้เลย
เราสร้างอาชีพของพวกเราโดยวางแผนว่าเราจะอยู่ได้ด้วยการทัวร์และการแสดงคอนเสิร์ต เราเลยเริ่มทัวร์ตั้งแต่เริ่มแรก เราคือวงที่จะเดินทางไปเพื่อสร้างแฟนๆจากทั่วโลกขึ้นมา
เราไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่นักจากการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลของอุตสาหกรรมดนตรี เพราะเราวางแผนแบบนี้ไว้แต่แรก
วงของเรานั้นเน้นทัวร์เป็นหลัก และรายได้ของเรามาจากการทัวร์และการขาย Merchandise เราไม่เหมือนกับวงป๊อปที่ขายอัลบั้มได้หลายล้านชุด และสามารถแสดงโชว์ปีละไม่กี่โชว์ได้
เราเล่นกันปีละ 150 โชว์ เราเดินทางไปทั่วโลก นั่นคือวิธีหาเงินของเรา และมันเป็นแบบนั้นมาตลอด ”
John Petrucci มือกีตาร์ของวงได้เล่าถึงโมเดลการทำเงินของ Dream Theater
----------------------
“ ผมอยากแนะนำว่า แม้คุณจะเล่นดนตรีเก่งมากแค่ไหน แต่โอกาสที่จะทำเงินจากดนตรีเพียวๆนั้นยากมากๆ คุณควรจะหาหลายๆช่องทางในการหาเงินด้วย อย่าพึ่งพาดนตรีเพียงอย่างเดียว มันจะช่วยให้ดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น
ถ้าใครซักคนมีความสามารถที่จะหาเงินในช่องทางอื่นๆได้นอกเหนือจากการพึ่งพาดนตรี...
คุณจะมีทั้ง “เงิน” และ “เวลา” ที่จะสนุกกับ “ดนตรี” ได้ (มากยิ่งขึ้น)
มันเศร้านะที่ผมต้องพูดแบบนี้ เพราะทั้งคนรุ่นใหม่และรุ่นเก่า ทุกวันนี้ทุกคนที่รักดนตรี กลับต้องพบความยากลำบากในการหาเลี้ยงตัวเองด้วยดนตรี และทุกอย่างมันยากขึ้นเรื่อยๆ ”
Jordan Rudess มือคีย์บอร์ดของ Dream Theater ได้กล่าวเสริมกับเรื่องนี้
----------------------
ข้อมูลจาก f : Peter Sow
#Siamstr #Music
#DreamTheater