Tim S on Nostr: โอ้ยยย ชอบบบ ...
โอ้ยยย ชอบบบ
quoting note1ehe…kc7m### นิทานยามบ่าย (แต่ลงยามค่ำ)
เรื่อง : ห้องเรียน
ตอน : ศาสนาใดเก่าแก่ที่สุดในโลก?
*Caution : เขียนจากจินตนาการ, เรื่องจริงหรือ fact. ถ้าอยากได้ไปหาเอาจากที่อื่น
But อยากให้คนที่มีลูกหรือมีชีวิตผ่านวัยเรียนได้อ่าน
---
คุณครู : วันนี้เราจะมาเรียนวิชาสังคมศึกษา เรื่องศาสนาต่าง ๆ ในโลกกันนะคะ
นักเรียน (ร่วม) : ครับ/ค่ะ
คุณครู : ก่อนอื่น มีใครรู้มั้ยว่าศาสนาอะไรที่เก่าแก่ที่สุดในโลก?
นักเรียน (1) : ศาสนาพุทธ
นักเรียน (2) : ศาสนาเต๋า
นักเรียน (3) : ศาสนาเชน
นักเรียน (4) : ศาสนาฮินดู
คุณครู : เก่งมากเลขที่ 4, ศาสนาฮินดูเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกนะคะ
นักเรียน (5) : (ยกมือ) เอ่อ... ครูครับ แต่ผมเคยอ่านเจอในหนังสือประวัติศาสตร์ ว่าศาสนา “ซูเมอร์” ของชาวสุเมเรียนมีความเก่าแก่ที่สุดในโลก ตามหลักฐานที่ขุดพบนะครับ
คุณครู : มันไม่ได้มีเขียนเอาไว้ในหนังสือแบบเรียนนะคะ เลขที่ 5, ดังนั้นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกคือศาสนาฮินดูค่ะ
นักเรียน (5) : ...
[การสอนผ่านไปสักครู่หนึ่ง]
นักเรียน (1) : ครูครับ, ศาสนาพุทธเชื่อในเรื่องอะไรหรอครับ?
คุณครู : ศาสนาพุทธเชื่อในการเวียนว่ายตายเกิด การหลุดพ้นทุกข์และนิพพาน การปฏิบัติตามหลักอริยสัจสี่ และการถือศิลห้า
นักเรียน (2) : แล้วเรื่องของบาปกรรม, พวกเราแก้บาปกรรมที่ทำได้มั้ยครับ?
คุณครู : น่าจะไม่ได้นะคะ, เพราะพระอาจารย์เคยบอกเอาไว้ว่า ถ้าเราทำบุญเยอะ ๆ เราก็จะหนีจากกรรมชัวร์ได้ คือการทำกรรมดีให้มากกว่ากรรมชั่ว ไม่ใช่การแก้บาปกรรมแก้กรรมแล้วสิ่งที่เคยทำจะหายไป
นักเรียน (5) : แต่ว่าครูครับ, ในหนังสือแบบเรียนไม่มีเขียนบอกเอาไว้นะครับ ว่าทำบุญเยอะ ๆ จะทำให้หนีจากกรรมชั่วได้
คุณครู : ถึงจะไม่มีเขียนไว้ แต่ถ้าเลขที่ 5 เข้าวัดฟังธรรมบ่อย ๆ ก็จะเข้าใจได้เอง บางสิ่งบางอย่างก็ไม่ได้มีในหนังสือเรียนเสมอไป
นักเรียน (5) : ...
นักเรียน (3) : ถ้างั้น, ศาสนาคริสต์ที่บอกว่าล้างบาปได้ แบบนี้เราทำเรื่องไม่ดีเอาไว้ ถ้าเราเป็นคนคริสต์เราก็ขอล้างบาปจากพระเจ้าได้สิครับ
คุณครู : ครูเป็นพุทธ ดังนั้นครูไม่แน่ใจหรอกคะ ว่านับถือคริสต์แล้วล้างบาปได้จริงมั้ย แต่ครูไม่คิดว่าใครจะล้างบาปกรรมได้นะคะ สิ่งไหนที่ทำไปแล้วเราก็ต้องรับผลของมัน
นักเรียน (5) : แต่ผมเคยอ่านในไบเบิล, ความบาปของคริสต์มันหมายถึงความผิดบาปต่อพระเจ้านะครับ ไม่ใช่บาปกรรมแบบที่คนพุทธเข้าใจ
คุณครู : ในแบบเรียนไม่ได้เอาไบเบิลมาใส่ไว้นะคะ, รายละเอียดแบบนั้นครูก็ไม่รู้หรอก ครูไม่ใช่คนคริสต์
นักเรียน (5) : ...
[จบคาบเรียน... พักเที่ยง]
นักเรียน (3) : เฮ้ย ๆ , ที่บอกในห้องเรียนว่าบาปของคริสต์กับของพุทธต่างกัน มันต่างกันไงอะ อยากรู้เลย
นักเรียน (5) : อ่อ.. บาปของคริสต์คือบาปตั้งแต่อาดัมกับเอวาขัดคำสั่งของพระเจ้า ว่าอย่ากินผลแห่งการรู้ดีรู้ชั่ว เพราะเอวาถูกงูมันล่อลวงให้กินผลที่พระเจ้าสั่งห้าม ก็เลยทำผิดบาปต่อพระเจ้า
นักเรียน (3) : แล้วมันเกียวอะไรกับมนุษย์ในปัจจุบันอะ?
นักเรียน (5) : ก็เพราะว่าเขาเชื่อว่ามนุษย์คู่แรกของโลกคืออาดัมกับเอวา ดังนั้นมนุษย์ในปัจจุบันจึงเป็นลูกหลานของอาดัมกับเอวาที่มีบาปติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด
นักเรียน (3) : ถ้างั้นก็แปลว่าบาปที่ว่าคือต่อพระเจ้า, แล้วถ้าเกิดเดินไปต่อยหน้าคนอันนี้ก็ไม่บาปอะดิ
นักเรียน (5) : บาปต่อพระเจ้าสิ เพราะว่ามันผิดบัญญัติที่พระเจ้าให้ไว้กับโมเสส เรื่อง “อย่าฆ่าคน” เพราะงั้นคนคริสต์เลยต้องมีการสารภาพบาปและสำนึกผิดต่อพระเจ้าเพื่อขอการอภัย
นักเรียน (3) : แบบนั้นถ้าทำไม่ดีกับคนอื่น, คนที่จะให้อภัยคือพระเจ้าหรอ แล้วทำไมไม่ไปเคลียร์กับคนที่เราทำไม่ดีด้วย
นักเรียน (5) : เพราะว่าเคลียร์กับคนที่ทำไม่ดีด้วยมันจบแค่ในเรื่องของฝ่ายโลกนะสิ, ส่วนฝ่ายวิญญาณที่ผิดต่อพระเจ้าก็มีแค่พระเจ้าเท่านั้นที่จะตัดสินว่าจะให้อภัยเราหรือไม่ให้อภัยเรา
ส่วนของพุทธยังงง ๆ อยู่เลยว่าบาปกรรมที่ว่า ใครเป็นคนตัดสิน, ฮ่า ๆ ๆ จริง ๆ แล้วพุทธอาจจะไม่ได้สอนเรื่องบาปกรรมเรื่องกรรมก็ได้นะ
นักเรียน (3) : โห... ลึกจัง
นักเรียน (5) : ใช่แหละ, มันต้องไปศึกษาเรื่องราวของแต่ละศาสนา ศึกษาวัฒนธรรม และก็พวกประวัติศาสตร์ด้วย ไอ้ที่อยู่ในหนังสือสังคมอะไรนั่นมันไม่ละเอียดพอหรอก
นักเรียน (5) : ว่าแต่, เห็นเล่น Diablo IV อยู่นิ. รู้เปล่าว่า lore เนื้อเรื่องมันก็เอามาจากไบเบิลนี่แหละ
นักเรียน (3) : เฮ้ย... จริงดิ, เดี๋ยวนะ..หมายถึง Lilith ใน Diablo IV มีตัวตนในไบเบิลด้วยหรอวะ?
นักเรียน (5) : ไม่เชิง ๆ , มันอยู่ในพวกหนังสืออโพคริฟา พวกตำรานอกศาสนา คนทำเกมมันก็ดัดแปลงมาแหละ ไม่ได้เป๊ะขนาดนั้น
นักเรียน (3) : นี่รู้เยอะมากเลยนะเนีย สนุกดีวะ มีอะไรวันหลังเล่าให้ฟังอีกดิ
นักเรียน (5) : ได้ดิ, เอาจริง ๆ ไม่มีอะไรหรอก แค่รู้เรื่องพวกนี้แล้วมันเล่นเกมได้สนุกดี ก็เลยหาอ่านพวกเรื่องที่ไม่ได้มีสอนในห้อง คืออ่านอะไรพวกนี้เยอะเลย
[สอบกลางภาค]
ข้อที่ 20.) ศาสนาใดมีความเก่าแก่ที่สุดในโลก
ก. ศาสนาพุทธ
ข. ศาสนาคริสต์
ค. ศาสนาเชน
ง. ศาสนาฮินดู
นักเรียน (5) : (คิดในใจ) ตอบอะไรดีวะเนี่ย ศาสนาซูเมอร์กูอยู่ไหน?
[ณ ห้องเรียน]
คุณครู : วันนี้ครูจะประกาศคะแนนสอบกลางภาค และจะเอาข้อสอบมาเฉลยนะคะ...
นักเรียน(รวม) : ครับ/ค่ะ
[นักเรียน เลขที่ 5]
คุณครู : ข้อสอบข้อที่ 20 ของเลขที่ 5 ทำไมถึงไม่กาข้อสอบมาคะ? หรือว่าลืมกาข้อสอบหรือเปล่า?
นักเรียน (5) : คือ... มันไม่มีคำตอบที่ถูกต้องอ่าครับ, ผมก็เลยไม่ได้กาลงไป
คุณครู : ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องยังไง ข้อ ง. ศาสนาฮินดูไงคะ เพื่อน ๆ ในห้องตอบข้อนี้กันได้หมดเลยนะ ครูจำได้ว่าสอนตั้งแต่คาบแรกเลย มีแค่เธอคนเดียวที่ไม่ได้กาคำตอบมา
นักเรียน (5) : เพราะว่าศาสนาฮินดูมันมีอายุประมาณ 3,500 ปี ถึง 1,500 ปีก่อนคริสตกาล แต่ศาสนาซูเมอร์ของชาวสุเมเรียนมีอายุประมาณ 4,500 ปี ถึง 2,500 ปีก่อนคริสตกาลอะครับ มันเลยไม่ถูกที่จะตอบว่าฮินดูเก่าแก่ที่สุด จริง ๆ อาจจะมีที่เก่าแก่กว่านี้แต่เรายังไม่ค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ก็ได้
คุณครู : ครูออกข้อสอบตามในหนังสิ่งที่หนังสือแบบเรียนที่เขียนเอาไว้, เธอจะให้ครูออกข้อสอบสิ่งที่ไม่อยู่ในหนังสือเรียนหรอ? เพื่อนคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้อ่านหนังสือนอกตำราเรียนอย่างเธอจะทำข้อสอบกันยังไง?
คุณครู : เธอรู้เยอะดีนะ, แต่เธอไม่รู้ว่าต้องตอบอะไรในกระดาษข้อสอบ สิ่ง ๆ นี้จะทำให้เธอสอบไม่ผ่านนะรู้มั้ย
นักเรียน (5) : ...
[ที่บ้าน]
พ่อ : เป็นไงวันนี้, ผลสอบเป็นไงบ้างไหนเล่าให้พ่อฟังซิ๊
นักเรียน (5) : ก็พอผ่านอยู่นะครับ, แต่โดนครูว่ามาว่า ผมรู้เยอะแต่ไม่ยอมกาข้อสอบให้ถูกต้องตามที่เรียนในหนังสือ มันมีข้อสอบข้อนึงที่ผมไม่ได้กาคำตอบ
พ่อ : ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ
นักเรียน (5) : หัวเราะอะไรน่ะครับพ่อ?
พ่อ : ก็ครูเขาต้องออกข้อสอบตามในหนังสือที่ลูกเรียนนั้นแหละ เขาก็ต้องเอาตัวเลือกของคำตอบมาใส่เท่าที่มันถูกต้องตามที่หนังสือเรียนเขียนเอาไว้
แต่ลูกต้องแยกให้ออกว่าโลกแคบ ๆ อย่างในโรงเรียนที่มีตัวเลือกของคำตอบไม่กี่ตัวเลือกสำหรับหนึ่งคำถาม กับโลกกว้างในโลกความเป็นจริงที่ตัวเลือกของคำตอบสำหรับคำถาม ๆ เดียวสามารถที่จะมีคำตอบได้เป็นอนันต์
สำหรับเรื่องในโรงเรียน การสอบก็แค่ตอบไปตามความจริงที่ลูกเรียนนั่นแหละ แค่เลือกตอบเท่าที่ตัวเลือกจะมีให้ แต่ลูกจะต้องรู้ไว้ว่าในโลกข้างนอกโรงเรียน คำถามใด ๆ เมื่อลูกพร้อมที่จะมีคำตอบสำหรับตัวเองแล้ว ตอนนั้นแหละคือคำตอบที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้นสำหรับของชีวิตลูก
นักเรียน (5) : ครับ, ขอบคุณครับพ่อ
...
ขอสอบที่มีตัวเลือกเพียงแค่สี่ตัวเลือก ที่มีเพียงความจริงเดียวเป็นไปตามความเป็นจริงของครูผู้สอน ให้อะไรกับเด็กคนหนึ่ง? เราเอาเด็ก ๆ จับใส่โลกจำลองใบแคบ ๆ เพื่อให้พวกเขาได้เติบโตขึ้นมา เผชิญหน้ากับโลกอันกว้างใหญ่ที่คำถามต่อสิ่ง ๆ หนึ่ง สามารถมีคำตอบที่ถูกต้องบนความเป็นไปได้ที่มีจำนวนเท่ากับอนันต์ พวกเขาจะตอบคำถามของตัวเองได้อย่างไร เมื่อพวกเขาไม่เคยได้รับการฝึกฝนในการที่จะมีคำตอบ ที่เป็นคำตอบของตัวเขาเอง?
จากอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรืองในยุคโบราณที่ล่มสลายไปเมื่อ 4,000 ปีก่อนคริสตกาลสู่ความรุ่งเรืองในปัจจุบัน พวกเรายังคงติดอยู่ในโลกใบแคบของห้องเรียนที่สั่งสอนให้พวกเรา เติบโตขึ้นมาเป็นเพียงเครื่องจักรแรงงานในระบบทาส ปิดกันจินตนาการและตีกรอบขีดจำกัดถึงความเป็นไปได้ของมนุษยชาติ
บนความเจริญของโลกวัตถุ พวกเราอาจจะกำลังล้าหลังมาแล้วนานแสนนาน วันเวลาของพวกเราอาจจะหยุดเดินตั้งแต่เราได้เริ่มเอาระบบการเลี้ยงดูพวกเด็ก ๆ ลูก ๆ ของพวกเราจับพวกเขาใส่เอาไว้ในกรอบแคบ ๆ ของโลกจำลองใบเล็ก ๆ ที่เรียกว่า ”ห้องเรียน“
#Siamstr
#SiamstrOG