layman_economics on Nostr: ...
หนึ่งในกฎหมายที่ผมไม่เห็นด้วยมากที่สุดคือการทำให้การขับรถโดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ หากเราซื้อรถสักคันที่ไม่มีเข็มขัดนิรภัย และเราขับรถคันนั้น นี่ก็ถือว่าผิดกฎหมายอีกด้วย
การที่ผมไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้อาจจะฟังดูประหลาดนะครับ
อันที่จริง การที่ผมไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้จะยิ่งประหลาดเข้าไปอีกสำหรับคนที่รู้จักผมเป็นการส่วนตัว
เพราะทุกครั้งที่ผมขับรถ ผมจะคาดเข็มขัดนิรภัยทุกรอบ ต่อให้มันเป็นการขับรถภายในระยะทางไม่ถึง 1 กิโลเมตรก็ตาม
ทำไมผมถึงไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ตัวผมเองก็ปฏิบัติในชีวิตส่วนตัว
เพราะกฎหมายนี้กำลังบอกว่า “แม้สิ่งที่คุณทำจะไม่สร้างภัยอันตรายกับคนอื่นก็ตาม (การไม่คาดเข็มขัดนิรภัยมีแต่จะทำให้เกิดอันตรายกับตัวผมเอง แต่จะไม่สร้างอันตรายให้คนอื่นบนท้องถนน) แต่รัฐรู้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่ดีสำหรับคุณ ฉะนั้น คุณต้องทำสิ่งที่รัฐรู้ดีนี้เสีย”
หากเรายอมรับ “หลักการ” ที่อยู่ในกฎหมายนี้ นั่นเท่ากับเรากำลังยอมให้รัฐเข้ามามีอำนาจในการชี้นิ้วสั่งเราในเรื่องอื่นๆที่ “ไม่ดีกับตัวเรา (แต่ไม่เดือดร้อนคนอื่น)” ด้วย
ถ้าเรายอมรับ “หลักการ” ที่อยู่ในกฎหมายนี้ วันหนึ่ง รัฐก็สามารถเอา “หลักการ” นี้มาทำให้การกินอาหารขยะเป็นเรื่องผิดกฎหมายได้ รัฐก็สามารถเอา “หลักการ” นี้มาทำให้การใช้โทรศัพท์มือถือหรือ tablet วันละเกิน 5 ชั่วโมงเป็นเรื่องผิดกฎหมายได้ รัฐก็สามารถเอา “หลักการ” นี้มาทำให้การดูดวงเป็นเรื่องผิดกฎหมายได้ ฯลฯ
จะเห็นได้ว่า หากเรายอมรับ “หลักการ” นี้ รัฐก็จะสามารถเข้ามามีอำนาจบงการชีวิตเราได้หลายอย่างเลยทีเดียว
และมันมีความสุ่มเสี่ยงมากที่พฤติกรรมของรัฐจะใกล้เคียงคำว่า “ทรราชย์” มากขึ้น
ดังนั้น ต่อให้กฎหมายทำนองนี้จะฟังดูดีขนาดไหน จะฟังดูเป็นห่วงประชาชนขนาดไหน ผมมองว่าเราก็จำเป็นต้อง “ขีดเส้น” กับรัฐให้ชัดเจนว่า รัฐจะใช้ “ความหวังดี” มาเป็นข้ออ้างในการออกกฎหมายที่สุ่มเสี่ยงจะ “ล้ำเส้น” ประชาชนแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาดครับ
#siamstr
นอกจากนี้ หากเราซื้อรถสักคันที่ไม่มีเข็มขัดนิรภัย และเราขับรถคันนั้น นี่ก็ถือว่าผิดกฎหมายอีกด้วย
การที่ผมไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้อาจจะฟังดูประหลาดนะครับ
อันที่จริง การที่ผมไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้จะยิ่งประหลาดเข้าไปอีกสำหรับคนที่รู้จักผมเป็นการส่วนตัว
เพราะทุกครั้งที่ผมขับรถ ผมจะคาดเข็มขัดนิรภัยทุกรอบ ต่อให้มันเป็นการขับรถภายในระยะทางไม่ถึง 1 กิโลเมตรก็ตาม
ทำไมผมถึงไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ตัวผมเองก็ปฏิบัติในชีวิตส่วนตัว
เพราะกฎหมายนี้กำลังบอกว่า “แม้สิ่งที่คุณทำจะไม่สร้างภัยอันตรายกับคนอื่นก็ตาม (การไม่คาดเข็มขัดนิรภัยมีแต่จะทำให้เกิดอันตรายกับตัวผมเอง แต่จะไม่สร้างอันตรายให้คนอื่นบนท้องถนน) แต่รัฐรู้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่ดีสำหรับคุณ ฉะนั้น คุณต้องทำสิ่งที่รัฐรู้ดีนี้เสีย”
หากเรายอมรับ “หลักการ” ที่อยู่ในกฎหมายนี้ นั่นเท่ากับเรากำลังยอมให้รัฐเข้ามามีอำนาจในการชี้นิ้วสั่งเราในเรื่องอื่นๆที่ “ไม่ดีกับตัวเรา (แต่ไม่เดือดร้อนคนอื่น)” ด้วย
ถ้าเรายอมรับ “หลักการ” ที่อยู่ในกฎหมายนี้ วันหนึ่ง รัฐก็สามารถเอา “หลักการ” นี้มาทำให้การกินอาหารขยะเป็นเรื่องผิดกฎหมายได้ รัฐก็สามารถเอา “หลักการ” นี้มาทำให้การใช้โทรศัพท์มือถือหรือ tablet วันละเกิน 5 ชั่วโมงเป็นเรื่องผิดกฎหมายได้ รัฐก็สามารถเอา “หลักการ” นี้มาทำให้การดูดวงเป็นเรื่องผิดกฎหมายได้ ฯลฯ
จะเห็นได้ว่า หากเรายอมรับ “หลักการ” นี้ รัฐก็จะสามารถเข้ามามีอำนาจบงการชีวิตเราได้หลายอย่างเลยทีเดียว
และมันมีความสุ่มเสี่ยงมากที่พฤติกรรมของรัฐจะใกล้เคียงคำว่า “ทรราชย์” มากขึ้น
ดังนั้น ต่อให้กฎหมายทำนองนี้จะฟังดูดีขนาดไหน จะฟังดูเป็นห่วงประชาชนขนาดไหน ผมมองว่าเราก็จำเป็นต้อง “ขีดเส้น” กับรัฐให้ชัดเจนว่า รัฐจะใช้ “ความหวังดี” มาเป็นข้ออ้างในการออกกฎหมายที่สุ่มเสี่ยงจะ “ล้ำเส้น” ประชาชนแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาดครับ
#siamstr