Hipknox on Nostr: ช่วงนี้ไม่ค่อยได้โพสนั่นนี่ ...
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้โพสนั่นนี่ งานรุมเร้าเหลือเกิน แต่ยังคงแวะเข้ามาติดตามคอมมูของเราอยู่บ้าง, วันนี้โล่ง ๆ มีเวลาเช้า ๆ นิดหน่อยขอสักโน้ตแล้วกัน หายไปนานแล้วรู้สึกคัน 555
อันนี้คือไปเจอมาว่า นอกจากงานเขียนพระคัมภีร์อย่างไบเบิลจะมีการผูกโย่งเรื่องราวได้อย่างน่าทึ่ง เวลาที่ผู้อ่านเกิดคำถามถึงบางอย่างในบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในพระคัมภีร์ เรามักจะไปเจอคำตอบถูกเขียนอยู่ในบทอื่น ๆ ถูกเฉลยเอาไว้อยู่ ที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกันเลย หรือแม้แต่อยู่กันคนละไทม์ไลน์ คนเขียนคนเป็นคนละคนกัน แต่กลับเชื่อมโยงกันได้อย่างลงตัว
นอกเหนือจากเรื่องพวกนี้ "ชื่อ" ของตัวละครต่าง ๆ ที่ถูกเรียกยังมีความหมายที่พิเศษ หรือเมื่อแปลความหมายจากชื่อนั้นแล้ว ชื่อนั้นกลับมีความหมายที่เกี่ยวโยงโดยตรงกลับเรื่องราวที่กำลังถูกเล่า ผมยกตัวอย่างชื่อของผู้พยากรท่านหนึ่งที่ชีวิตต้องตกตระกำลำบาก หลบหนีจากผู้ปกครองที่เป็นทรราช และหญิงแพศยาที่จ้องจะฆ่าเขา เพียงเพราะเขาคือคนของพระเจ้าที่แท้จริง (แท้จริงในที่นี่ผมหมายถึง เรื่องราวในไบเบิลบอกถึงพระเจ้าสูงสุดองค์เดียวคือ "พระยาห์เวห์" พระเจ้าของอิสราเอล) และผู้พยากรคนนี้คือ "เอลียาห์"
เอลียาห์ - Elijah - אליה หรือ เอลียาฮู - Elijahu - אליהו
ชื่อนี้ประกอบไปด้วยสองส่วนคือ Eli (เอลิ) หรือ El (เอล) : אל ที่แปลว่า พระเจ้า และ Yahu (ยาฮู) หรือ Yah (ยาห์) : יה ที่เป็นคำย่อจากชื่อเต็มของพระเจ้า Yahweh (ยาห์เวห์) : יהוה ชื่อของเอลียาห์จึงมีความหมายถึง "พระยาห์เวห์คือพระเจ้า" ผู้ที่ใช้ชื่อนี้จึงได้รับบทบาทเป็นผู้พิสูจน์พระเจ้าแท้จริงให้กับผู้อื่นได้เห็น
ตอนหนึ่งในพระคัมภีร์ได้เล่าถึงเหตุการณ์หนึ่งที่กษัตริย์ของอิสราเอล "อาหับ" ได้นอกใจจากพระเจ้าพระยาห์เวห์ด้วยการไปติดตามบูชาพระเจ้าอื่นอย่าง "บาอัล" และ "อัชเชราห์" ตามพระมเหสีชาวต่างชาติ (ฟินิเชียน) เยเซเบล ทำให้เกิดการทำลายล้างศาสนายูดาห์ และก็เป็นผู้หญิงคนนี้ที่สังให้มีการประหารผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าพระยาห์เวห์ จนเอลียาห์ต้องหนีไปหลบซ้อนจากการตามล่า (ครั้งก่อนผมโน้ตคลิปนกอีกกาก็มาจากตอนนี้แหละ) ซึ่งเขาก็ได้นกอีกกาที่คอยไปคาบเนื้อกับขนมปังมาให้เพื่อประทังชีวิตในช่วงที่อยู่ในถิ่นกันดาล ซึ่งบทบาทตามชื่อของเขาคือผู้ที่จะพิสูจน์พระเจ้าที่แท้จริง หลังจากที่พักฟื้นฮิลใจอยู่สักพัก พระเจ้าก็ให้เขากลับไปทำหน้าที่ของเขาตามความหมายในชื่อ ๆ นี้
เขากลับไปหากษัตริย์อาหับอีกครั้ง และครั้งนี้คือการท้าทายระหว่างเอลียาห์ผู้พยากรเพียงคนเดียวที่ยังรอดชีวิตอยู่ของพระเจ้าพระยาห์เวห์ กับผู้พยากร 450 คนของพระบาอัลจากพระนางเยเซเบล เอลียาห์ท้าทายให้พวกเขามาพิสูจน์ว่าพระเจ้าของใครจะเป็นพระเจ้าที่แท้จริง ด้วยการให้มีการเตรียมวัวหนุ่ม 2 ตัว เพื่อการเผาบูชาที่หน้าแท่นพิธีของพระเจ้าแต่ละองค์ โดยให้ฝ่ายของพระบาอัลเลือกไป 1 ตัว และเขาจะรับเอาตัวที่เหลือไป
หลังจากการเตรียมพิธีและเครื่องถวายเป็นวัวตัวนั้นที่ถูกวางลงบนฟืนสำหรับการเผาบูชา ฝ่ายของพระบาอัลได้เริ่มร้องรำและเรียกหาปาฏิหาริย์การสำแดงอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาเที่ยง เอลียาห์ที่เห็นแบบนั้นก็เริ่มถากถางพวกผู้พยากรของพระบาอัลว่า "ตะโกนดังขึ้นอีกหน่อย! ก็บาอัลเป็นพระเจ้านี่! บางทีอาจจะกำลังเข้าสมาธิ หรือเข้าห้องน้ำอยู่ หรือเดินทาง ไม่ก็หลับไป ต้องช่วยกันปลุกให้ตื่น" (ปากแซ็บเอาเรื่อง 555) พวกผู้พยากรของพระบาอัลได้ยินก็ยิ่งร้อนรน ถึงกับเอามีดมาแล่เนื้อเถือหนังตัวเอง แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นตลอดช่วงบ่าย
เอลียาห์ที่เห็นดังนั้นจึงเริ่มพิธีของเขาในช่วงบ่าย โดยเรียกให้ผู้คนที่มาเป็นพยานในวันนั้นมาที่แท่นพิธีของพระยาห์เวห์ที่มีสภาพทรุดโทรม โดยก่อหิน 12 ก้อน (แทนอิสราเอลทั้ง 12 เผ่า) ใช้หินก่อแท่นบูชาแทนพระนามของพระเจ้า ขุดร่องรอบ ๆ แท่นพิธี เตรียมวัวหนุ่มไว้บนฟืนสำหรับการจุดเผาบูชา และสั่งให้คนนำน้ำมาเทใส่วัวที่อยู่บนกองฟืน และร่องที่ถูกขุดไว้รอบ ๆ แท่นพิธี พอถึงเวลาเอลียาห์ก็ไปยืนอยู่ที่หน้าแท่นพิธีและเริ่มอธิษฐาน ทันใดนั้นก็มีเปลวไฟตกลงมาจากฟ้า ลงไปที่กองไฟที่ชุ่มน้ำลุกไหม้เผาวัวตัวนั้น และแม้แต่น้ำที่ถูกใส่ไว้ในร่องรอบแท่นพิธีก็ระเหยออกไปจนหมด
ผู้คนที่มาเข้าร่วมการพิสูจน์ในครั้งนั้นต่างก็ซบหน้าลงกับดิน และร้องออกพระนามของพระเจ้าว่า "พระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า พระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า" เอลียาห์จึงสั่งให้ผู้คนจับตัวผู้พยากรของพระบาอัล พระเจ้าที่เทียมเท็จ
คือถ้าเราแค่อ่านข้อความพวกนี้ในพระคัมภีร์ มันก็อ่านดูแล้วสนุกหรือเป็นเรื่องราวที่ดูปรัมปราดี คืออ่านแล้วก็เฉย ๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่หากเรารับรู้ความหมายแฝงที่มีอยู่ภายในข้อความเหล่านั้น นอกจากนั่นจะทำให้เรารู้สึกสนุกไปกับเรื่องราวเหล่านั้นมากขึ้นแล้ว เรายังสามารถรับรู้ความยอดเยี่ยมของงานเขียนงานนี้ถึงความลึกซึ้ง ความลึกลับ และเราไม่รู้ว่ามันจะพาเราไปเจอกับอะไรบางอย่างที่ถูกแอบซ่อนไว้อีกรึเปล่า ผมอ่านตรงนี้หลายรอบมาก คือทั้งฟังที่เป็น audio book และอ่านด้วย แต่ละรอบก็จะเจออะไรใหม่ ๆ ทุกรอบเลย มันเป็นอะไรที่น่าทึงมาก
โอเค.. ปลดปล่อยความคันกันเพียงเท่านี้, ขอให้เป็นวันที่ดี :)
#Siamstr
อันนี้คือไปเจอมาว่า นอกจากงานเขียนพระคัมภีร์อย่างไบเบิลจะมีการผูกโย่งเรื่องราวได้อย่างน่าทึ่ง เวลาที่ผู้อ่านเกิดคำถามถึงบางอย่างในบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในพระคัมภีร์ เรามักจะไปเจอคำตอบถูกเขียนอยู่ในบทอื่น ๆ ถูกเฉลยเอาไว้อยู่ ที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกันเลย หรือแม้แต่อยู่กันคนละไทม์ไลน์ คนเขียนคนเป็นคนละคนกัน แต่กลับเชื่อมโยงกันได้อย่างลงตัว
นอกเหนือจากเรื่องพวกนี้ "ชื่อ" ของตัวละครต่าง ๆ ที่ถูกเรียกยังมีความหมายที่พิเศษ หรือเมื่อแปลความหมายจากชื่อนั้นแล้ว ชื่อนั้นกลับมีความหมายที่เกี่ยวโยงโดยตรงกลับเรื่องราวที่กำลังถูกเล่า ผมยกตัวอย่างชื่อของผู้พยากรท่านหนึ่งที่ชีวิตต้องตกตระกำลำบาก หลบหนีจากผู้ปกครองที่เป็นทรราช และหญิงแพศยาที่จ้องจะฆ่าเขา เพียงเพราะเขาคือคนของพระเจ้าที่แท้จริง (แท้จริงในที่นี่ผมหมายถึง เรื่องราวในไบเบิลบอกถึงพระเจ้าสูงสุดองค์เดียวคือ "พระยาห์เวห์" พระเจ้าของอิสราเอล) และผู้พยากรคนนี้คือ "เอลียาห์"
เอลียาห์ - Elijah - אליה หรือ เอลียาฮู - Elijahu - אליהו
ชื่อนี้ประกอบไปด้วยสองส่วนคือ Eli (เอลิ) หรือ El (เอล) : אל ที่แปลว่า พระเจ้า และ Yahu (ยาฮู) หรือ Yah (ยาห์) : יה ที่เป็นคำย่อจากชื่อเต็มของพระเจ้า Yahweh (ยาห์เวห์) : יהוה ชื่อของเอลียาห์จึงมีความหมายถึง "พระยาห์เวห์คือพระเจ้า" ผู้ที่ใช้ชื่อนี้จึงได้รับบทบาทเป็นผู้พิสูจน์พระเจ้าแท้จริงให้กับผู้อื่นได้เห็น
ตอนหนึ่งในพระคัมภีร์ได้เล่าถึงเหตุการณ์หนึ่งที่กษัตริย์ของอิสราเอล "อาหับ" ได้นอกใจจากพระเจ้าพระยาห์เวห์ด้วยการไปติดตามบูชาพระเจ้าอื่นอย่าง "บาอัล" และ "อัชเชราห์" ตามพระมเหสีชาวต่างชาติ (ฟินิเชียน) เยเซเบล ทำให้เกิดการทำลายล้างศาสนายูดาห์ และก็เป็นผู้หญิงคนนี้ที่สังให้มีการประหารผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าพระยาห์เวห์ จนเอลียาห์ต้องหนีไปหลบซ้อนจากการตามล่า (ครั้งก่อนผมโน้ตคลิปนกอีกกาก็มาจากตอนนี้แหละ) ซึ่งเขาก็ได้นกอีกกาที่คอยไปคาบเนื้อกับขนมปังมาให้เพื่อประทังชีวิตในช่วงที่อยู่ในถิ่นกันดาล ซึ่งบทบาทตามชื่อของเขาคือผู้ที่จะพิสูจน์พระเจ้าที่แท้จริง หลังจากที่พักฟื้นฮิลใจอยู่สักพัก พระเจ้าก็ให้เขากลับไปทำหน้าที่ของเขาตามความหมายในชื่อ ๆ นี้
เขากลับไปหากษัตริย์อาหับอีกครั้ง และครั้งนี้คือการท้าทายระหว่างเอลียาห์ผู้พยากรเพียงคนเดียวที่ยังรอดชีวิตอยู่ของพระเจ้าพระยาห์เวห์ กับผู้พยากร 450 คนของพระบาอัลจากพระนางเยเซเบล เอลียาห์ท้าทายให้พวกเขามาพิสูจน์ว่าพระเจ้าของใครจะเป็นพระเจ้าที่แท้จริง ด้วยการให้มีการเตรียมวัวหนุ่ม 2 ตัว เพื่อการเผาบูชาที่หน้าแท่นพิธีของพระเจ้าแต่ละองค์ โดยให้ฝ่ายของพระบาอัลเลือกไป 1 ตัว และเขาจะรับเอาตัวที่เหลือไป
หลังจากการเตรียมพิธีและเครื่องถวายเป็นวัวตัวนั้นที่ถูกวางลงบนฟืนสำหรับการเผาบูชา ฝ่ายของพระบาอัลได้เริ่มร้องรำและเรียกหาปาฏิหาริย์การสำแดงอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาเที่ยง เอลียาห์ที่เห็นแบบนั้นก็เริ่มถากถางพวกผู้พยากรของพระบาอัลว่า "ตะโกนดังขึ้นอีกหน่อย! ก็บาอัลเป็นพระเจ้านี่! บางทีอาจจะกำลังเข้าสมาธิ หรือเข้าห้องน้ำอยู่ หรือเดินทาง ไม่ก็หลับไป ต้องช่วยกันปลุกให้ตื่น" (ปากแซ็บเอาเรื่อง 555) พวกผู้พยากรของพระบาอัลได้ยินก็ยิ่งร้อนรน ถึงกับเอามีดมาแล่เนื้อเถือหนังตัวเอง แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นตลอดช่วงบ่าย
เอลียาห์ที่เห็นดังนั้นจึงเริ่มพิธีของเขาในช่วงบ่าย โดยเรียกให้ผู้คนที่มาเป็นพยานในวันนั้นมาที่แท่นพิธีของพระยาห์เวห์ที่มีสภาพทรุดโทรม โดยก่อหิน 12 ก้อน (แทนอิสราเอลทั้ง 12 เผ่า) ใช้หินก่อแท่นบูชาแทนพระนามของพระเจ้า ขุดร่องรอบ ๆ แท่นพิธี เตรียมวัวหนุ่มไว้บนฟืนสำหรับการจุดเผาบูชา และสั่งให้คนนำน้ำมาเทใส่วัวที่อยู่บนกองฟืน และร่องที่ถูกขุดไว้รอบ ๆ แท่นพิธี พอถึงเวลาเอลียาห์ก็ไปยืนอยู่ที่หน้าแท่นพิธีและเริ่มอธิษฐาน ทันใดนั้นก็มีเปลวไฟตกลงมาจากฟ้า ลงไปที่กองไฟที่ชุ่มน้ำลุกไหม้เผาวัวตัวนั้น และแม้แต่น้ำที่ถูกใส่ไว้ในร่องรอบแท่นพิธีก็ระเหยออกไปจนหมด
ผู้คนที่มาเข้าร่วมการพิสูจน์ในครั้งนั้นต่างก็ซบหน้าลงกับดิน และร้องออกพระนามของพระเจ้าว่า "พระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า พระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า" เอลียาห์จึงสั่งให้ผู้คนจับตัวผู้พยากรของพระบาอัล พระเจ้าที่เทียมเท็จ
คือถ้าเราแค่อ่านข้อความพวกนี้ในพระคัมภีร์ มันก็อ่านดูแล้วสนุกหรือเป็นเรื่องราวที่ดูปรัมปราดี คืออ่านแล้วก็เฉย ๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่หากเรารับรู้ความหมายแฝงที่มีอยู่ภายในข้อความเหล่านั้น นอกจากนั่นจะทำให้เรารู้สึกสนุกไปกับเรื่องราวเหล่านั้นมากขึ้นแล้ว เรายังสามารถรับรู้ความยอดเยี่ยมของงานเขียนงานนี้ถึงความลึกซึ้ง ความลึกลับ และเราไม่รู้ว่ามันจะพาเราไปเจอกับอะไรบางอย่างที่ถูกแอบซ่อนไว้อีกรึเปล่า ผมอ่านตรงนี้หลายรอบมาก คือทั้งฟังที่เป็น audio book และอ่านด้วย แต่ละรอบก็จะเจออะไรใหม่ ๆ ทุกรอบเลย มันเป็นอะไรที่น่าทึงมาก
โอเค.. ปลดปล่อยความคันกันเพียงเท่านี้, ขอให้เป็นวันที่ดี :)
#Siamstr