Saba on Nostr: ...
โพสท์นี้ในเฟสบุ๊คของผมเมื่อปีก่อน ช่วงตลาดหมี ผมเคยพิมพ์คำว่า บิตคอยน์ นี่ดูประหลาด ยังกะชวนเล่นพนัน เลยพยายามเลี่ยง แต่อยากอธิบาย CBDC ให้เพื่อนในเฟสฟัง เห็นไปแห่ลงทะเบียนทดลองใช้กันช่วงนั้น
“ผมจะหนี ไม่เอา CBDC (Central Bank Digital Currency) คงยากมาก แต่จะพยายามตั้งคำถามมากๆ และพยายามอยู่กับมันให้ได้แบบระวังตัว
ตามความเข้าใจของผมตอนนี้ มันคือเครื่องมือควบคุมมนุษย์ชั้นดี (blockchainที่ถูกควบคุมด้วยรัฐบาลจะทำให้ รู้ได้ว่า เงินแต่ละเม็ด แต่ละบาทมันอยู่ที่ใคร เคยมาจากไหนบ้าง ส่งไปไหน มีsmart contractที่สามารถโปรแกรมข้อกำหนดต่างๆลงไป
ถึงในแต่ละหน่วยได้)
- ถ้าเงินสามารถกำหนดได้ว่าหมดอายุเมื่อไหร่
- กำหนดได้ว่าให้ใช้เฉพาะตรงเขตหรือพื้นที่ไหน
- ความสามารถในการจับจ่ายอาจไปผูกกับประวัติอาชญากรรม
-ความสามารถในการใช้จ่ายอาจผูกคะแนนความประพฤติ
- ประวัติหนี้ค้างจ่าย ค่าปรับ ค่าเบี้ย
- นโยบายรัฐ
ซึ่งทั้งหมดนี้อิสระภาพเราจะถูกควบคุม ด้วยองค์กรสักองค์กรหนึ่งหรือหลายองค์กรที่มี “คน” อยู่เบื้องหลัง
แล้วตัดสินว่าอะไรถูกหรือผิด ตามกฎหมาย หรือนโยบายตามความคิดเห็นของกลุ่มบุคคลหนึ่ง ณ เวลานั้นๆ
เงินเราจะเหมือนไม่ใช่เงินเราอีกต่อไป ในมุมของความเสรีภาพ
ถ้ามีคนถามผมว่าจะกลัวทำไม ถ้าเราเป็นคนดี …? คนดีผมไม่กลัว ถ้าตัวผมชั่วก็รู้ได้ถึงผลที่จะตามมา แต่ที่กลัวมากกว่าคือ เสรีภาพที่จะถูกควบคุมโดยระบบที่ขึ้นอยู่กับศูนย์กลาง และสามารถลงลึกมาในกระเป๋าเงินของเราทุกคน ทุกเวลา และผมก็ไม่เชื่อว่าผมจะเห็นด้วยกับกฎส่วนรวม100% ถ้าเมื่อก่อน ไม่เห็นด้วยก็ไม่กระทบเรื่องเงินของเรา ต่อไปอาจมีกระทบโดยตรง และผมก็ยังเชื่อว่าไม่มีใครหรือองค์กรไหนถูกหรือดี100%
ซึ่งCBDCจะทำให้เรื่องเงินของเรา ต้องขึ้นกับระบบ100%
ถ้ามีคนถามว่าแล้วมันต่างยังไงกับระบบธนาคารปัจจุบัน ที่ใช้ internet banking หรือ promptpay หรือ เป๋าตังค์
ผมว่ามันก็เกือบไม่ต่าง แต่เรายังมีทางเลือก เงินยังไม่ได้ถูกควบคุมโดยระบบใหญ่ ลงไปถึงเงินแต่ละบาท
เราสามารถเลือกได้ว่าเราจะเชื่อแบงค์ไหน หรือระบบไหน หรือเชื่อตัวเอง
เงินบาทของเรายังโยกย้ายกระจายความเสี่ยงได้บ้าง แต่ละแบงค์ก็ไปเคลียร์ธุรกรรมระหว่างกัน โดยมีเงินเป็นตัวกลางที่ไม่ได้ถูกควบคุมจากรัฐแบบ100%
และเรายังสามารถเก็บและใช้จ่ายเป็นเงินสดถ้าเราไม่อยากใช้NITMX
ผมเข้าใจว่าช่วงแรก คงยังมีให้ใช้ทั้งเงินกระดาษและCBDC ควบคู่กันไป แต่ในที่สุดรัฐคงพยายามดันให้เป็นCBDCทั้งหมด ซึ่งอาจต้องใช้เวลา ระหว่างทางอาจมีการปรับปรุงแก้ไข ปิดgap สิ่งที่ผมคิดกังวลเหล่านี้ไปก็ได้
ส่วนตัวผมคงพยายามหลีกเลี่ยงการเอาเสรีภาพในการสะสม โยกย้าย ใช้จ่าย wealthที่แลกมาด้วยเวลาและพลังงานอันจำกัดในชีวิตของผม ไปฝากไว้กับserverที่ถูกควบคุมด้วยกลุ่มคนหนึ่งๆ เวลาจะใช้ตัวเงินบาท ค่อยเข้าระบบ
ซึ่งแน่นอนช่วงแรกจะมีโปรโมชันดึงดูดใจ หรือ เริ่มการผลักดันจากหน่วยงานภาครัฐ ข้าราชการคือภาคส่วนแรกที่จะได้รับเงินเดือนเป็น Baht Digital (ถ้าให้เดา) ดูจากจีนเป็นต้น
คำถามสำคัญคือ ถ้ารัฐ มีสิทธิ์ รู้และ สามารถtrack ledger และควบคุมเงินของประชาชนแต่ละคนได้
เป็นไปได้มั้ยที่ CBDC จะเป็นopen source ให้ประชาชนสามารถ ติดตามtransactionการใช้จ่ายงบประมาณและภาษีของรัฐได้บนblockchainได้ด้วยในทางกลับกัน
ถ้าได้ อันนั้น fair รับได้” —> ไม่มีทาง
มันกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งโลก!
1. รีบเก็บทอง ต้องแอบยัดก้นออกนอกประเทศ
2. รีบเก็บเงินสด (ที่พิมพ์มาจากหนี้) เอาฝังตุ่มไว้
3. รีบเก็บเงิน เป็นตัวเลข ที่โชว์บนหน้าจอของแต่ละแอพธนาคาร
4. รีบเอาไปซื้อบ้าน ที่ดิน เดี๋ยวกรมที่ดินปิดปีใหม่
5. ไม่ต้องทำอะไร ทำตัวเป็นคนดี ว่านอน สอนง่าย
เห็นด้วยกับใครที่ชนะ และมีอำนาจเสมอ
6. ไม่สนขอให้มีCBDC เยอะๆ รวยๆ
7. รีบซื้อเก็บพระเครื่อง ของเก่า งานศิลปะ มีมูลค่ามาเก็บแทน
8. มีความสุขอยู่กับตรงนี้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ไม่ต้องสนใจ ระบบมาไง ก็สนับสนุน เน้นมองข้อดีที่เค้าอธิบาย อะไรดี บุ๋มก็ว่าดี
9. ไปอยู่ป่า
ถ้า 1. ถึง 9. ไม่ใช่คำตอบ
ขอข้อ 10. ให้ชื่นใจหน่อยครับ
#siamstr
“ผมจะหนี ไม่เอา CBDC (Central Bank Digital Currency) คงยากมาก แต่จะพยายามตั้งคำถามมากๆ และพยายามอยู่กับมันให้ได้แบบระวังตัว
ตามความเข้าใจของผมตอนนี้ มันคือเครื่องมือควบคุมมนุษย์ชั้นดี (blockchainที่ถูกควบคุมด้วยรัฐบาลจะทำให้ รู้ได้ว่า เงินแต่ละเม็ด แต่ละบาทมันอยู่ที่ใคร เคยมาจากไหนบ้าง ส่งไปไหน มีsmart contractที่สามารถโปรแกรมข้อกำหนดต่างๆลงไป
ถึงในแต่ละหน่วยได้)
- ถ้าเงินสามารถกำหนดได้ว่าหมดอายุเมื่อไหร่
- กำหนดได้ว่าให้ใช้เฉพาะตรงเขตหรือพื้นที่ไหน
- ความสามารถในการจับจ่ายอาจไปผูกกับประวัติอาชญากรรม
-ความสามารถในการใช้จ่ายอาจผูกคะแนนความประพฤติ
- ประวัติหนี้ค้างจ่าย ค่าปรับ ค่าเบี้ย
- นโยบายรัฐ
ซึ่งทั้งหมดนี้อิสระภาพเราจะถูกควบคุม ด้วยองค์กรสักองค์กรหนึ่งหรือหลายองค์กรที่มี “คน” อยู่เบื้องหลัง
แล้วตัดสินว่าอะไรถูกหรือผิด ตามกฎหมาย หรือนโยบายตามความคิดเห็นของกลุ่มบุคคลหนึ่ง ณ เวลานั้นๆ
เงินเราจะเหมือนไม่ใช่เงินเราอีกต่อไป ในมุมของความเสรีภาพ
ถ้ามีคนถามผมว่าจะกลัวทำไม ถ้าเราเป็นคนดี …? คนดีผมไม่กลัว ถ้าตัวผมชั่วก็รู้ได้ถึงผลที่จะตามมา แต่ที่กลัวมากกว่าคือ เสรีภาพที่จะถูกควบคุมโดยระบบที่ขึ้นอยู่กับศูนย์กลาง และสามารถลงลึกมาในกระเป๋าเงินของเราทุกคน ทุกเวลา และผมก็ไม่เชื่อว่าผมจะเห็นด้วยกับกฎส่วนรวม100% ถ้าเมื่อก่อน ไม่เห็นด้วยก็ไม่กระทบเรื่องเงินของเรา ต่อไปอาจมีกระทบโดยตรง และผมก็ยังเชื่อว่าไม่มีใครหรือองค์กรไหนถูกหรือดี100%
ซึ่งCBDCจะทำให้เรื่องเงินของเรา ต้องขึ้นกับระบบ100%
ถ้ามีคนถามว่าแล้วมันต่างยังไงกับระบบธนาคารปัจจุบัน ที่ใช้ internet banking หรือ promptpay หรือ เป๋าตังค์
ผมว่ามันก็เกือบไม่ต่าง แต่เรายังมีทางเลือก เงินยังไม่ได้ถูกควบคุมโดยระบบใหญ่ ลงไปถึงเงินแต่ละบาท
เราสามารถเลือกได้ว่าเราจะเชื่อแบงค์ไหน หรือระบบไหน หรือเชื่อตัวเอง
เงินบาทของเรายังโยกย้ายกระจายความเสี่ยงได้บ้าง แต่ละแบงค์ก็ไปเคลียร์ธุรกรรมระหว่างกัน โดยมีเงินเป็นตัวกลางที่ไม่ได้ถูกควบคุมจากรัฐแบบ100%
และเรายังสามารถเก็บและใช้จ่ายเป็นเงินสดถ้าเราไม่อยากใช้NITMX
ผมเข้าใจว่าช่วงแรก คงยังมีให้ใช้ทั้งเงินกระดาษและCBDC ควบคู่กันไป แต่ในที่สุดรัฐคงพยายามดันให้เป็นCBDCทั้งหมด ซึ่งอาจต้องใช้เวลา ระหว่างทางอาจมีการปรับปรุงแก้ไข ปิดgap สิ่งที่ผมคิดกังวลเหล่านี้ไปก็ได้
ส่วนตัวผมคงพยายามหลีกเลี่ยงการเอาเสรีภาพในการสะสม โยกย้าย ใช้จ่าย wealthที่แลกมาด้วยเวลาและพลังงานอันจำกัดในชีวิตของผม ไปฝากไว้กับserverที่ถูกควบคุมด้วยกลุ่มคนหนึ่งๆ เวลาจะใช้ตัวเงินบาท ค่อยเข้าระบบ
ซึ่งแน่นอนช่วงแรกจะมีโปรโมชันดึงดูดใจ หรือ เริ่มการผลักดันจากหน่วยงานภาครัฐ ข้าราชการคือภาคส่วนแรกที่จะได้รับเงินเดือนเป็น Baht Digital (ถ้าให้เดา) ดูจากจีนเป็นต้น
คำถามสำคัญคือ ถ้ารัฐ มีสิทธิ์ รู้และ สามารถtrack ledger และควบคุมเงินของประชาชนแต่ละคนได้
เป็นไปได้มั้ยที่ CBDC จะเป็นopen source ให้ประชาชนสามารถ ติดตามtransactionการใช้จ่ายงบประมาณและภาษีของรัฐได้บนblockchainได้ด้วยในทางกลับกัน
ถ้าได้ อันนั้น fair รับได้” —> ไม่มีทาง
มันกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งโลก!
1. รีบเก็บทอง ต้องแอบยัดก้นออกนอกประเทศ
2. รีบเก็บเงินสด (ที่พิมพ์มาจากหนี้) เอาฝังตุ่มไว้
3. รีบเก็บเงิน เป็นตัวเลข ที่โชว์บนหน้าจอของแต่ละแอพธนาคาร
4. รีบเอาไปซื้อบ้าน ที่ดิน เดี๋ยวกรมที่ดินปิดปีใหม่
5. ไม่ต้องทำอะไร ทำตัวเป็นคนดี ว่านอน สอนง่าย
เห็นด้วยกับใครที่ชนะ และมีอำนาจเสมอ
6. ไม่สนขอให้มีCBDC เยอะๆ รวยๆ
7. รีบซื้อเก็บพระเครื่อง ของเก่า งานศิลปะ มีมูลค่ามาเก็บแทน
8. มีความสุขอยู่กับตรงนี้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ไม่ต้องสนใจ ระบบมาไง ก็สนับสนุน เน้นมองข้อดีที่เค้าอธิบาย อะไรดี บุ๋มก็ว่าดี
9. ไปอยู่ป่า
ถ้า 1. ถึง 9. ไม่ใช่คำตอบ
ขอข้อ 10. ให้ชื่นใจหน่อยครับ
#siamstr