ESYEN on Nostr: ...
เราเลิกสนใจราคาบิทตคอยน์ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ..
ก่อนที่จะกระโดดลงหลุมกระต่าย เราเป็นหนึ่งคน ที่สนใจราคา สนใจวิธีการหาเงิน fiat มาเพื่อประทังชีวิต โดยคิดว่าเป็นเรื่องง่ายๆ สบายๆ.. โลก Defi คือคำตอบ
มีช่วงหนึ่ง เหรียญไทยบูมมาก เรากำไรหลักล้านบาท จากเงินต้นแค่ไม่ถึงหมื่น ใช่ครับ อ่านไม่ผิด
ต่อมาเจอ DeFi โอ้โห เอาละเว้ย ชีวิตนี้ ไม่ต้องทำงานแล้วมั้ง แค่ฝากเงินไว้ 2-3 วัน ได้มาเกิน 50k รายได้ดีกว่างานประจำอีก นอนฝันเลยช่วงนั้น จะเอาเงินไปซื้ออะไรดีนะ BMW ก็ดี หรือซื้อ Harley Davidson ดีนะ ตอนนั้นเราไม่รู้จักการรักษากำไร ไม่ประเมิณความเสี่ยงใดๆ แล้วผลลัพธ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น..
ส่วนตัวเราเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าเสี่ยง (แต่ก็เสี่ยงพอสมควร) ตอนนั้นเราฝากเงินเข้าใน DeFi ก็เอา stable coin ไปฝาก ในแพลตฟอร์มที่เรียกว่าไม่ค่อยมีชื่อเท่าใดนัก แต่อย่างน้อยๆ ก็ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าพอที่จะเสี่ยง
เพียงแค่ไม่กี่วันถัดมา เราก็เสียท่าให้กับDefi เจ้านั้น (Titan) เราไม่ได้โดน Rug Pull แต่เรามองอัลกอริทึมของมันไม่ขาดเอง สุดท้ายเกิด Death Spiral เสียไปหลักแสน เรียกว่าแขนขาดไปหนึ่งข้าง
ระหว่างนั้น ด้วยความอยากได้ทุนคืน เลยไปนั่งเทรด เปิดดูวิธีเทรดไปเรื่อย อาศัยความรู้แบบงูๆ ปลาๆ เสียไปอีกหลายหมื่น (แขนขาดไปอีกหนึ่งข้าง)
จนสุดท้ายกำไรที่ได้ จากหลักล้าน เหลือหลักหมื่น เชี่ยยยย แม่งเฟลจัด ยังดีที่แค่ขาดทุนกำไร ไอ้ที่ควรจะได้กลับไม่ได้ นึกย้อนไปทีไรเจ็บทุกที ให้ตายเถอะ ยังโชคดีที่เปิดเจอคลิป CDC จำไม่ได้ว่าตอนที่เท่าไหร่ แต่ทำให้เราเห็นทางสว่างอีกครั้ง หลังจากนั้นเราก็ไปไล่ดูย้อนหลังทุกคลิปเลย (ว่างจัด)
แต่ก็ยังมิวายแอบมอง Mirror กับ Anchor Protocol ไว้บ้างนะ ก็แหม ผลตอบแทนล่อตาล่อใจขนาดนั้น แต่ด้วยความที่เราเพิ่งจะเจ็บตัวไป ยังไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม เลยไม่ได้ทำอะไรกับมัน เก็บแต่ BTC ลูกเดียว หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มเป็นช่วงขาลง แต่เราศึกษาบิทคอนย์มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ไม่สนใจราคาหรอกนะ
ต่อให้ราคาจะลงไปแค่ไหนก็ตาม เราไม่ได้สนใจเลย เราตั้งใจจะเก็บไว้ไปเรื่อยๆ สนใจแต่จำนวน BTC ที่เรามีมากกว่า อาจจะเป็นบั้นปลายชีวิตเราที่ BTC ถูกยอมรับมากกว่านี้ (สามารถใช้จ่ายมันแทนเงิน fiat ได้ง่ายกว่านี้) เราถึงจะเริ่มใช้มัน ไม่ก็ส่งต่อไปให้รุ่นลูก รุ่นหลานแทน
แต่เห้ยยยยย การมาถึงของ LN และ #Nostr แม่ง เปลี่ยนความคิดเราไปเลย เรารู้จักกับ Nostr ราวๆ 6-7 เดือนก่อน โอ้โห นี่มันโลกใหม่ โลกที่แม่ง ไม่มี cencership ไม่มี อัลกอริทึม มาคอยปั่นหัวเรา แถม ไอ้เงินที่เราคิดว่าต้องใช้เวลาอีกหลายช่วงชีวิต ถึงจะได้รับการยอมรับ ผู้คนบน nostr แม่งใช้กันแบบไม่สนสี่สนแปดใดๆ
การส่งเงินให้กันข้ามโลก เป็นเรื่องที่ง่ายดายชั่วพริบตา มันง่ายเสียยิ่งกว่าการไปเปิดบัญชีธนาคารอีก วันก่อนให้เพื่อนโหลด WoS มาลอง มันบอกขนลุกสัดๆ ไอ้นี่แม่งจะเปลี่ยนโลกได้ เราคิดเห็นตรงกัน จากโลกที่ดูสิ้นหวัง เริ่มมีความหวังขึ้นมาทันใด
ขอบคุณ อาจารย์พิริยะ ขอบคุณอาจารย์เดชา ขอบคุณพี่ชิต ขอบคุณ ทีม rightshift ทุกคน ที่ช่วยกันส่งมอบแสงสว่างให้กับคนรุ่นหลังต่อไป ขอบคุณจากใจจริงๆครับ 💜
#siamstr
ก่อนที่จะกระโดดลงหลุมกระต่าย เราเป็นหนึ่งคน ที่สนใจราคา สนใจวิธีการหาเงิน fiat มาเพื่อประทังชีวิต โดยคิดว่าเป็นเรื่องง่ายๆ สบายๆ.. โลก Defi คือคำตอบ
มีช่วงหนึ่ง เหรียญไทยบูมมาก เรากำไรหลักล้านบาท จากเงินต้นแค่ไม่ถึงหมื่น ใช่ครับ อ่านไม่ผิด
ต่อมาเจอ DeFi โอ้โห เอาละเว้ย ชีวิตนี้ ไม่ต้องทำงานแล้วมั้ง แค่ฝากเงินไว้ 2-3 วัน ได้มาเกิน 50k รายได้ดีกว่างานประจำอีก นอนฝันเลยช่วงนั้น จะเอาเงินไปซื้ออะไรดีนะ BMW ก็ดี หรือซื้อ Harley Davidson ดีนะ ตอนนั้นเราไม่รู้จักการรักษากำไร ไม่ประเมิณความเสี่ยงใดๆ แล้วผลลัพธ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น..
ส่วนตัวเราเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าเสี่ยง (แต่ก็เสี่ยงพอสมควร) ตอนนั้นเราฝากเงินเข้าใน DeFi ก็เอา stable coin ไปฝาก ในแพลตฟอร์มที่เรียกว่าไม่ค่อยมีชื่อเท่าใดนัก แต่อย่างน้อยๆ ก็ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าพอที่จะเสี่ยง
เพียงแค่ไม่กี่วันถัดมา เราก็เสียท่าให้กับDefi เจ้านั้น (Titan) เราไม่ได้โดน Rug Pull แต่เรามองอัลกอริทึมของมันไม่ขาดเอง สุดท้ายเกิด Death Spiral เสียไปหลักแสน เรียกว่าแขนขาดไปหนึ่งข้าง
ระหว่างนั้น ด้วยความอยากได้ทุนคืน เลยไปนั่งเทรด เปิดดูวิธีเทรดไปเรื่อย อาศัยความรู้แบบงูๆ ปลาๆ เสียไปอีกหลายหมื่น (แขนขาดไปอีกหนึ่งข้าง)
จนสุดท้ายกำไรที่ได้ จากหลักล้าน เหลือหลักหมื่น เชี่ยยยย แม่งเฟลจัด ยังดีที่แค่ขาดทุนกำไร ไอ้ที่ควรจะได้กลับไม่ได้ นึกย้อนไปทีไรเจ็บทุกที ให้ตายเถอะ ยังโชคดีที่เปิดเจอคลิป CDC จำไม่ได้ว่าตอนที่เท่าไหร่ แต่ทำให้เราเห็นทางสว่างอีกครั้ง หลังจากนั้นเราก็ไปไล่ดูย้อนหลังทุกคลิปเลย (ว่างจัด)
แต่ก็ยังมิวายแอบมอง Mirror กับ Anchor Protocol ไว้บ้างนะ ก็แหม ผลตอบแทนล่อตาล่อใจขนาดนั้น แต่ด้วยความที่เราเพิ่งจะเจ็บตัวไป ยังไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม เลยไม่ได้ทำอะไรกับมัน เก็บแต่ BTC ลูกเดียว หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มเป็นช่วงขาลง แต่เราศึกษาบิทคอนย์มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ไม่สนใจราคาหรอกนะ
ต่อให้ราคาจะลงไปแค่ไหนก็ตาม เราไม่ได้สนใจเลย เราตั้งใจจะเก็บไว้ไปเรื่อยๆ สนใจแต่จำนวน BTC ที่เรามีมากกว่า อาจจะเป็นบั้นปลายชีวิตเราที่ BTC ถูกยอมรับมากกว่านี้ (สามารถใช้จ่ายมันแทนเงิน fiat ได้ง่ายกว่านี้) เราถึงจะเริ่มใช้มัน ไม่ก็ส่งต่อไปให้รุ่นลูก รุ่นหลานแทน
แต่เห้ยยยยย การมาถึงของ LN และ #Nostr แม่ง เปลี่ยนความคิดเราไปเลย เรารู้จักกับ Nostr ราวๆ 6-7 เดือนก่อน โอ้โห นี่มันโลกใหม่ โลกที่แม่ง ไม่มี cencership ไม่มี อัลกอริทึม มาคอยปั่นหัวเรา แถม ไอ้เงินที่เราคิดว่าต้องใช้เวลาอีกหลายช่วงชีวิต ถึงจะได้รับการยอมรับ ผู้คนบน nostr แม่งใช้กันแบบไม่สนสี่สนแปดใดๆ
การส่งเงินให้กันข้ามโลก เป็นเรื่องที่ง่ายดายชั่วพริบตา มันง่ายเสียยิ่งกว่าการไปเปิดบัญชีธนาคารอีก วันก่อนให้เพื่อนโหลด WoS มาลอง มันบอกขนลุกสัดๆ ไอ้นี่แม่งจะเปลี่ยนโลกได้ เราคิดเห็นตรงกัน จากโลกที่ดูสิ้นหวัง เริ่มมีความหวังขึ้นมาทันใด
ขอบคุณ อาจารย์พิริยะ ขอบคุณอาจารย์เดชา ขอบคุณพี่ชิต ขอบคุณ ทีม rightshift ทุกคน ที่ช่วยกันส่งมอบแสงสว่างให้กับคนรุ่นหลังต่อไป ขอบคุณจากใจจริงๆครับ 💜
#siamstr