Tung Khempila on Nostr: ...
ผมศึกษาเรื่องการเมืองมาสักพักวันนี้ผมก็มาตกตระกอนเรื่องหนึ่ง
จากหนังสือและคำถามง่ายๆ ของ Jordan Peterson
ในแนวคิดคำถามง่ายๆ “วันนี้คุณเป็นใคร แล้วคุณจะเกิดมาเพื่อเป็นอะไร”
Nietzsche นักปรัชญาที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม
ได้สร้างแนวคิด เชิงเปรียบเทียบทางชนชั้น ไว้สามทาง
Slave Morality,Master Morality และ Ubermench ซึ่งในมุมมองนี้มันไปเป็นแนวคิดหลักที่ขัดแย้งกับตัวของ Karl Marx ที่เชื่อว่าสภาวะแวดล้อมนั่นสามารถสร้างชนชั้นของประชาชน และ ประชาชนจะรวมกันเป็น United ได้ หรือเราเรียกมันว่าสังคมคอมมิวนิสต์ ในเชิงโลกยุคศิวิไลในอนาคต
ซึ่งมองมุมนี้มันมีแนวคิดที่ค่อนข้างจะเป็นจริง หากเรามีวิวัฒนการในเชิงอุตสาหกรรม หรือ เชิงการผลิตได้มากเพียงพอ แต่สิ่งๆนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันเพื่อเฉลี่ย ศีลธรรม ให้ทุกคนเลือกใช้ได้เท่ากัน ทั้งในด้านปริมาณของการผลิต นอกเสียจากจะทำตามเพื่อคนๆเดียว แน่นอนว่าเราถูกแนวคิดนี้ล้างสมองในช่วงยุคปฏิวัติรัสเซีย
ภาวะที่สุญนิยม วัตถุนิยม หลังสงคราม การพิมพ์เงินเพื่อมารบของซาร์ส นิโคลัส หรือเราสามารถพูดง่ายๆว่ามันมีหลายปัจจัย
หากพูดในเชิงปรัชญา ภาวะสุญนิยม ได้เข้าครอบงำผู้ที่อับจนหนทาง และประเทศที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงแต่ ถูกบังคับภายใต้ระบอบกษัตริย์
การวิ่งเข้าหาอำนาจนำทางเชิงปกครองจึงสร้างปีศาจ เผด็จการ ตัวใหม่ขึ้นมา
สภาวะนี้เกิดขึ้นเช่นกันกับผู้แพ้สงครามอย่างเยอรมันนี หลัง The Great depression เมื่อการตัดสินใจของผู้นำเป็นพิษต่อสังคม และ ทางรอดของชาติคือการไร้ความรับผิดชอบของลูกแกะ(นี่จึงเป็นการดีที่จะอธิบายให้เข้าใจว่า ลูกแกะ ที่นิทเช่หมายถึง คือ เหล่าสังคมนิยมนี่เอง ที่ถูกสร้างจากสภาวะ เพื่อนำเอาตัวเองเข้าไปร่วมขบวนการของผู้ถูกกระทำมิใช่ผู้รับผิดชอบ)
นิทเช่กล่าวเรื่อง เจตจำนงแห่งอำนาจผ่านหนังสือของเค้า The Will to Power เพื่อโจมตีสิ่งที่ง่าย การคิดในรูปแบบที่ง่ายของสัตว์บางชนิดทำให้พวกเค้าตกเป็นทาส มิต่างสิ่งใดกับมนุษย์ซึ่งบางคนไม่ใช่เด็กเลี้ยงแกะ เป็นเพียงแกะเท่านั้น ซึ่งวิธีคิดที่คล้ายกันของพวกเค้า(นิทเช่เปรียบเปรยดังเช่นลัทธิสังคมนิยม) สิ่งเหล่านั้นนำพาสัตว์บางชนิดไปสู่หายนะ เฉกเช่นเดียวกันกับหลังจากที่เค้าตายแล้ว ชาวรัสเซียนั้นมุ่งเข้าสู่หายนะรวมศูนย์จากเผด็จการสตาลิน
การปฏิเสธความเป็นจริง และกฏของธรรมชาติ เพื่อสำเร็จความใคร่ด้วยน้ำกรามร่วมกันนั้นทำให้การมีเพศสัมพันธ์นั่นดูมีความสุข เฉกเช่นเดียวกับวันที่พวกเค้าสำเร็จโทษพระเจ้าซาร์ส และ ราชวงศ์โรมานอฟ
การเป็นลูกแกะนั้นก็เปรียบเสมือนการเป็นคนที่ธรรมดาอยู่วันยังค่ำ
“พระเจ้าตายแล้ว” ประโยคสั้นๆที่เหมือนหนามทิ่มแทงแต่ละฝ่าย ด้านจริยธรรม หรือ ความสงสัย ด้านความจริง หรือ บางครั้งเป็นเพียงแค่คำอุปมาเท่านั้น
อย่างที่ผมกล่าวไปข้างตนว่าเราต้องดูประโยคทั้งหมด หรือ บริบท นั้นๆ
ศาสนาคริสต์เคยครอบครองยุโรปและนำพาผู้ที่ซึ่งเชื่อในพระเจ้าองค์ก่อนๆ ได้ถวิลหา ความเมตตา คุณเชื่อหรอว่าพระเจ้าที่ทรงรู้ความจริงว่าความเมตตา นำพาไปสู่หายนะนั้นคือพระเจ้าจริงๆ
เยซูคริส เปรียบเสมือนความอ่อนแอของมนุษย์ที่บ่อนทำลายมนุษย์เทียบเคียงกับนะบีห์มูหมัด ที่สร้างค่านิยม ของตนขึ้นมาเพื่อหลีกเลี่ยงความเป็นจริง พระเจ้าของพวกเค้า ไม่ใช่พระเจ้า ที่เรานั้นให้ความเคารพ เฉกเช่นเดียวกันกับยุคสมัยใหม่ สิ่งที่คุณเลือกได้นั้น มาจากจุดที่คุณคู่ควรที่จะมีมัน
คุณจะมีมันคุณต้องคู่ควร แล้วคุณก็จะพบคำตอบว่าคุณเป็นอะไรก็ได้ที่คุณคู่ควร
จากหนังสือและคำถามง่ายๆ ของ Jordan Peterson
ในแนวคิดคำถามง่ายๆ “วันนี้คุณเป็นใคร แล้วคุณจะเกิดมาเพื่อเป็นอะไร”
Nietzsche นักปรัชญาที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม
ได้สร้างแนวคิด เชิงเปรียบเทียบทางชนชั้น ไว้สามทาง
Slave Morality,Master Morality และ Ubermench ซึ่งในมุมมองนี้มันไปเป็นแนวคิดหลักที่ขัดแย้งกับตัวของ Karl Marx ที่เชื่อว่าสภาวะแวดล้อมนั่นสามารถสร้างชนชั้นของประชาชน และ ประชาชนจะรวมกันเป็น United ได้ หรือเราเรียกมันว่าสังคมคอมมิวนิสต์ ในเชิงโลกยุคศิวิไลในอนาคต
ซึ่งมองมุมนี้มันมีแนวคิดที่ค่อนข้างจะเป็นจริง หากเรามีวิวัฒนการในเชิงอุตสาหกรรม หรือ เชิงการผลิตได้มากเพียงพอ แต่สิ่งๆนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันเพื่อเฉลี่ย ศีลธรรม ให้ทุกคนเลือกใช้ได้เท่ากัน ทั้งในด้านปริมาณของการผลิต นอกเสียจากจะทำตามเพื่อคนๆเดียว แน่นอนว่าเราถูกแนวคิดนี้ล้างสมองในช่วงยุคปฏิวัติรัสเซีย
ภาวะที่สุญนิยม วัตถุนิยม หลังสงคราม การพิมพ์เงินเพื่อมารบของซาร์ส นิโคลัส หรือเราสามารถพูดง่ายๆว่ามันมีหลายปัจจัย
หากพูดในเชิงปรัชญา ภาวะสุญนิยม ได้เข้าครอบงำผู้ที่อับจนหนทาง และประเทศที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงแต่ ถูกบังคับภายใต้ระบอบกษัตริย์
การวิ่งเข้าหาอำนาจนำทางเชิงปกครองจึงสร้างปีศาจ เผด็จการ ตัวใหม่ขึ้นมา
สภาวะนี้เกิดขึ้นเช่นกันกับผู้แพ้สงครามอย่างเยอรมันนี หลัง The Great depression เมื่อการตัดสินใจของผู้นำเป็นพิษต่อสังคม และ ทางรอดของชาติคือการไร้ความรับผิดชอบของลูกแกะ(นี่จึงเป็นการดีที่จะอธิบายให้เข้าใจว่า ลูกแกะ ที่นิทเช่หมายถึง คือ เหล่าสังคมนิยมนี่เอง ที่ถูกสร้างจากสภาวะ เพื่อนำเอาตัวเองเข้าไปร่วมขบวนการของผู้ถูกกระทำมิใช่ผู้รับผิดชอบ)
นิทเช่กล่าวเรื่อง เจตจำนงแห่งอำนาจผ่านหนังสือของเค้า The Will to Power เพื่อโจมตีสิ่งที่ง่าย การคิดในรูปแบบที่ง่ายของสัตว์บางชนิดทำให้พวกเค้าตกเป็นทาส มิต่างสิ่งใดกับมนุษย์ซึ่งบางคนไม่ใช่เด็กเลี้ยงแกะ เป็นเพียงแกะเท่านั้น ซึ่งวิธีคิดที่คล้ายกันของพวกเค้า(นิทเช่เปรียบเปรยดังเช่นลัทธิสังคมนิยม) สิ่งเหล่านั้นนำพาสัตว์บางชนิดไปสู่หายนะ เฉกเช่นเดียวกันกับหลังจากที่เค้าตายแล้ว ชาวรัสเซียนั้นมุ่งเข้าสู่หายนะรวมศูนย์จากเผด็จการสตาลิน
การปฏิเสธความเป็นจริง และกฏของธรรมชาติ เพื่อสำเร็จความใคร่ด้วยน้ำกรามร่วมกันนั้นทำให้การมีเพศสัมพันธ์นั่นดูมีความสุข เฉกเช่นเดียวกับวันที่พวกเค้าสำเร็จโทษพระเจ้าซาร์ส และ ราชวงศ์โรมานอฟ
การเป็นลูกแกะนั้นก็เปรียบเสมือนการเป็นคนที่ธรรมดาอยู่วันยังค่ำ
“พระเจ้าตายแล้ว” ประโยคสั้นๆที่เหมือนหนามทิ่มแทงแต่ละฝ่าย ด้านจริยธรรม หรือ ความสงสัย ด้านความจริง หรือ บางครั้งเป็นเพียงแค่คำอุปมาเท่านั้น
อย่างที่ผมกล่าวไปข้างตนว่าเราต้องดูประโยคทั้งหมด หรือ บริบท นั้นๆ
ศาสนาคริสต์เคยครอบครองยุโรปและนำพาผู้ที่ซึ่งเชื่อในพระเจ้าองค์ก่อนๆ ได้ถวิลหา ความเมตตา คุณเชื่อหรอว่าพระเจ้าที่ทรงรู้ความจริงว่าความเมตตา นำพาไปสู่หายนะนั้นคือพระเจ้าจริงๆ
เยซูคริส เปรียบเสมือนความอ่อนแอของมนุษย์ที่บ่อนทำลายมนุษย์เทียบเคียงกับนะบีห์มูหมัด ที่สร้างค่านิยม ของตนขึ้นมาเพื่อหลีกเลี่ยงความเป็นจริง พระเจ้าของพวกเค้า ไม่ใช่พระเจ้า ที่เรานั้นให้ความเคารพ เฉกเช่นเดียวกันกับยุคสมัยใหม่ สิ่งที่คุณเลือกได้นั้น มาจากจุดที่คุณคู่ควรที่จะมีมัน
คุณจะมีมันคุณต้องคู่ควร แล้วคุณก็จะพบคำตอบว่าคุณเป็นอะไรก็ได้ที่คุณคู่ควร