sitt on Nostr: 😅 ตกหลุมรักรอบที่ล้าน !! ...
😅 ตกหลุมรักรอบที่ล้าน !! นี่มันถึงเวลาเราต้องคุยเรื่อง Scaling Bitcoin อีกแล้วเหรอเนี่ย เป็นเรื่องที่เข้าถึงยากที่สุดเลยนะสำหรับบิทคอยเน่อร์ทั้งมือใหม่ แล้วตัวเต็งโอจีก็เถอะ เพราะว่าตัองมานั่งฟังพาเนลเด็กเนิร์ด ๆ อย่างทุกคนในรูปที่มาจาก 𝙰𝚕𝚋𝚢, 𝚄𝚖𝚋𝚛𝚎𝚕, 𝚂𝚎𝚌𝚘𝚗𝚍 (𝙰𝚛𝚔 𝙿𝚛𝚘𝚝𝚘𝚌𝚘𝚕) และทีม Krutt เองก็อาสามาป่วนเช่นกัน
#Siamstr #TBC2024 #ScalingBitcoin
เรื่องที่ทำให้การวิจัยศึกษาเรื่อง Scaling เป็นเรื่องปวดหัว มีสามเหตุผลด้วยกัน หนึ่งคือการต่อล้อต่อเถียงกันเกี่ยวกับซอฟท์ฟอร์ก หรือการนำเสนอข้อนำเสนอพัฒนาบิทคอยน์ (BIP) ที่เข้าถึงยาก สองคือคำพูดจากน้อง ๆ ที่งานที่ผมยืมมาตอนยืนหลังห้อง Advance Stage ว่า "Shitcoins on Bitcoin," รึเปล่านะ และสามก็คือการตีขุ่นของคนมักง่าย ที่อยากให้นำชื่อสลากโทเค่นของเขามาเป็นทางออกการเสกลบิทคอยน์ จากวงการนายทุนที่ไม่ยอมฟังผู้ศึกษาพัฒนาบิทคอยน์มาก่อนหน้าพวกเขา ในใต้ร่มใหญ่ของบิทคอยน์ เราจะหาความจริงควบคู่กับเหตุทำปวดหัวสามข้อนี้ได้อย่างไร ?
"𝖯𝖾𝗈𝗉𝗅𝖾 𝗐𝗂𝗍𝗁𝗈𝗎𝗍 𝖽𝗂𝗋𝗍𝗒 𝗁𝖺𝗇𝖽𝗌 𝖺𝗋𝖾 𝗐𝗋𝗈𝗇𝗀," 𝖢𝗎𝗅𝗍 𝗈𝖿 𝖣𝗈𝗇𝖾 𝖬𝖺𝗇𝗂𝖿𝖾𝗌𝗍𝗈. (See appendix)
เหตุน่าปวดหัวข้อแรกก็คือความลึกซึ้งของไซเฟอร์พังก์เทคโนโลยี (Cypherpunk Technology) อย่างเช่นไลบราลี่ที่อยู่ใต้การดูแลของนักถอดรหัสตัวเต็ง 𝘀𝗲𝗰𝗽𝟮𝟱𝟲𝗸𝟭 เพราะฉะนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลย ที่เราจะสามารถตัดพ้อความสำคัญของเด็ฟเวล็อปเปอร์ และมุมมองของพวกเขา เวลาเราต้องการศึกษาหนทางเสกลบิทคอยน์ ไม่ว่าเราจะต้องการเสกล UTXO set หรือดาต้าเบสธุรกรรมกระจายศูนย์ ให้ตอบรับมวลชนทั่วโลกได้ หรือว่าหมายถึงการเสกลความต้องการบล็อกเสปซ ให้กับนักขุดเหมืองบิทคอยน์ทั้งโลก ได้รับกำไรในการขุดและอยู่กับเราไปนาน ๆ เพียงแต่ว่าเราจำเป็นต้องเลือกฟังเด็ฟเวล็อปเปอร์ที่มีมุมมองมากกว่าการทำกำไรเฉียบพลัน และเข้าใจว่าสกิลของการสร้างแอพพลิเคชั่นให้ใช้ง่ายเจาะเน้นบุคคล กับสกิลของนักออกแบบและพัฒนาโปรโตคอลรองรับความต้องการหลายฝ่าย ไม่ใช่สกิลเดียวกันเลย
Digital Assets และเหตุผลอื่น ๆ ที่นายทุนนางทุนทั่วโลกลุ่มหลงในเทคโนโลยีบล็อกเชน และสิ่งที่บิทคอยเน่อร์หลายคนเรียกว่า Shitcoins ก็เป็นเหตุผลที่สองที่เราต้องกล่าวถึงปรัชญาผู้บุกเบิกบิทคอยน์ตั้งแต่ยุคแรก เราจำเป็นต้องเสกลและยอมรับนายทุนแปลกตาหรือไม่ ถ้าหากเราสามารถแก้ปัญหาสภาพคล่องและการใช้งานของบิทคอยน์ทั้งโลกได้ด้วยบิทคอยน์และไลท์นิ่งอยู่แล้ว ? คำถามนี้ผมขอพลิกให้ทุกคนเป็นฝ่ายตอบ เนื่องจากในมุมมองของทีมครุฑแล้ว เรามองเห็นปัญหามากกว่าปรัชญา แต่ in practice เรื่อง cost of capital ของสินทรัพย์ดิจิทัลทุกตัวที่ต้องการมาเปิดตลาดอยู่บนบล็อกเสปซของบิทคอยน์ (หรือบนไลท์นิ่งสำหรับ Taproot Assets และ RGB) ว่าเมื่อคุณมินท์หรือเปิดกองกษาปณ์อยู่บนรากฐานของ hardest asset in the world เงินที่แข็งที่สุดบนโลก เฟ้อน้อยลงทุกสี่ปี เรายังมีโอกาสให้นายทุนเฟ้อฝันทำงานได้อีกเหรอ
สำหรับ Altcoins และสายตีขุ่นที่ประกาศตนว่าชอบบิทคอยน์แต่มาใช้ชิทคอยน์ของผมสินั้น ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรยาวเลยเนื่องจากบิทคอยเน่อร์ทุกคนก็สามารถตอบสั้นได้ใจความว่า "Few."
Appendix:
1.) Cult of Done Manifesto by Bre Pettis, https://medium.com/@bre/the-cult-of-done-manifesto-724ca1c2ff13
#Siamstr #TBC2024 #ScalingBitcoin
เรื่องที่ทำให้การวิจัยศึกษาเรื่อง Scaling เป็นเรื่องปวดหัว มีสามเหตุผลด้วยกัน หนึ่งคือการต่อล้อต่อเถียงกันเกี่ยวกับซอฟท์ฟอร์ก หรือการนำเสนอข้อนำเสนอพัฒนาบิทคอยน์ (BIP) ที่เข้าถึงยาก สองคือคำพูดจากน้อง ๆ ที่งานที่ผมยืมมาตอนยืนหลังห้อง Advance Stage ว่า "Shitcoins on Bitcoin," รึเปล่านะ และสามก็คือการตีขุ่นของคนมักง่าย ที่อยากให้นำชื่อสลากโทเค่นของเขามาเป็นทางออกการเสกลบิทคอยน์ จากวงการนายทุนที่ไม่ยอมฟังผู้ศึกษาพัฒนาบิทคอยน์มาก่อนหน้าพวกเขา ในใต้ร่มใหญ่ของบิทคอยน์ เราจะหาความจริงควบคู่กับเหตุทำปวดหัวสามข้อนี้ได้อย่างไร ?
"𝖯𝖾𝗈𝗉𝗅𝖾 𝗐𝗂𝗍𝗁𝗈𝗎𝗍 𝖽𝗂𝗋𝗍𝗒 𝗁𝖺𝗇𝖽𝗌 𝖺𝗋𝖾 𝗐𝗋𝗈𝗇𝗀," 𝖢𝗎𝗅𝗍 𝗈𝖿 𝖣𝗈𝗇𝖾 𝖬𝖺𝗇𝗂𝖿𝖾𝗌𝗍𝗈. (See appendix)
เหตุน่าปวดหัวข้อแรกก็คือความลึกซึ้งของไซเฟอร์พังก์เทคโนโลยี (Cypherpunk Technology) อย่างเช่นไลบราลี่ที่อยู่ใต้การดูแลของนักถอดรหัสตัวเต็ง 𝘀𝗲𝗰𝗽𝟮𝟱𝟲𝗸𝟭 เพราะฉะนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลย ที่เราจะสามารถตัดพ้อความสำคัญของเด็ฟเวล็อปเปอร์ และมุมมองของพวกเขา เวลาเราต้องการศึกษาหนทางเสกลบิทคอยน์ ไม่ว่าเราจะต้องการเสกล UTXO set หรือดาต้าเบสธุรกรรมกระจายศูนย์ ให้ตอบรับมวลชนทั่วโลกได้ หรือว่าหมายถึงการเสกลความต้องการบล็อกเสปซ ให้กับนักขุดเหมืองบิทคอยน์ทั้งโลก ได้รับกำไรในการขุดและอยู่กับเราไปนาน ๆ เพียงแต่ว่าเราจำเป็นต้องเลือกฟังเด็ฟเวล็อปเปอร์ที่มีมุมมองมากกว่าการทำกำไรเฉียบพลัน และเข้าใจว่าสกิลของการสร้างแอพพลิเคชั่นให้ใช้ง่ายเจาะเน้นบุคคล กับสกิลของนักออกแบบและพัฒนาโปรโตคอลรองรับความต้องการหลายฝ่าย ไม่ใช่สกิลเดียวกันเลย
Digital Assets และเหตุผลอื่น ๆ ที่นายทุนนางทุนทั่วโลกลุ่มหลงในเทคโนโลยีบล็อกเชน และสิ่งที่บิทคอยเน่อร์หลายคนเรียกว่า Shitcoins ก็เป็นเหตุผลที่สองที่เราต้องกล่าวถึงปรัชญาผู้บุกเบิกบิทคอยน์ตั้งแต่ยุคแรก เราจำเป็นต้องเสกลและยอมรับนายทุนแปลกตาหรือไม่ ถ้าหากเราสามารถแก้ปัญหาสภาพคล่องและการใช้งานของบิทคอยน์ทั้งโลกได้ด้วยบิทคอยน์และไลท์นิ่งอยู่แล้ว ? คำถามนี้ผมขอพลิกให้ทุกคนเป็นฝ่ายตอบ เนื่องจากในมุมมองของทีมครุฑแล้ว เรามองเห็นปัญหามากกว่าปรัชญา แต่ in practice เรื่อง cost of capital ของสินทรัพย์ดิจิทัลทุกตัวที่ต้องการมาเปิดตลาดอยู่บนบล็อกเสปซของบิทคอยน์ (หรือบนไลท์นิ่งสำหรับ Taproot Assets และ RGB) ว่าเมื่อคุณมินท์หรือเปิดกองกษาปณ์อยู่บนรากฐานของ hardest asset in the world เงินที่แข็งที่สุดบนโลก เฟ้อน้อยลงทุกสี่ปี เรายังมีโอกาสให้นายทุนเฟ้อฝันทำงานได้อีกเหรอ
สำหรับ Altcoins และสายตีขุ่นที่ประกาศตนว่าชอบบิทคอยน์แต่มาใช้ชิทคอยน์ของผมสินั้น ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรยาวเลยเนื่องจากบิทคอยเน่อร์ทุกคนก็สามารถตอบสั้นได้ใจความว่า "Few."
Appendix:
1.) Cult of Done Manifesto by Bre Pettis, https://medium.com/@bre/the-cult-of-done-manifesto-724ca1c2ff13