Tung Khempila on Nostr: ...
หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาผมเผชิญกับอาการที่เรียกว่า High time preference lover
ผมจะไม่ท้าวความถึงผู้หญิงที่ผมได้เจอเพราะเธอยังเป็นคนที่ผมรู้จัก แต่ผมจะพูดถึงจิตใจของผู้ชายที่ยังโสดและสามารถเลือกที่จะรักได้ผ่าน Note นี้
“ถ้าคุณต้องการใช้เหตุผลในการรักใครสักคน มันไม่ใช่ความรัก”
-Salavoj Zizěk-
คุณเคยไหมที่รู้สึกขาดแคลนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความขาดแคลน ความรักที่น่าทะนุถนอม การสัมผัส การโอบกอด สิ่งที่วัยรุ่นคู่หนึ่งพึงกระทำได้ นั่นคือสิ่งที่ชายหนุ่มอย่างผมไม่เคยได้พบเจอ
ผมและเธอเป็นเพื่อนร่วมงานกัน เราต่างรู้ว่าเรากำลังอยู่ในวัยยี่สิบปลายๆที่กำลังต้องการเติบโตในทางหน้าที่การงาน
การใช้เวลาอยู่กับเธอ การได้ฟังเรื่องราว หรือการได้สัมผัสหรือแค่การจับมือไปด้วยกันมันทำให้ผมมองเรื่องความรักของผมช่างสวยงาม ผู้หญิงใส่แว่น ตัวสูงคนนั้น กลับมาทำให้ผมดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ในการไขว่คว้าสิ่งต่างๆ ผมเริ่มจินตนาการถึงจุดเริ่มต้นของเรา และการได้ใช้ชีวิตกับใครสักคนหนึ่งอย่างจริงจัง
เหตุการณ์นี้จบลงเพียงชั่วขณะครับ ความขาดแคลน ของผมที่มันถูกกระทำอย่างรวดเร็วและการเรียนรู้ซึ่งกันอย่างจริงจังภายในไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์พังทลายลงอย่างที่ผมไม่คาดฝัน
มันไม่ใช่ความผิดพลาดของเธอเลยครับ มันคือผมที่หิวกระหายทุกๆอย่าง ความรีบร้อนจากการกระทำที่เรามีร่วมกัน(ไม่ใช่เรื่องอย่างว่านะ) ทุกอย่างคือความรีบร้อน แม้กระทั่งจิตใจที่เผาไหม้
ผมรู้สึกถึงเรื่องราวที่จบลงแบบไม่สวยงาม ทั้งที่ผมและเธอยังต้องพบหน้ากันในฐานะอย่างอื่น
เมื่อความเป็นผู้ชายมันไม่ได้สื่อถึงความมั่นคง แต่กลับสร้างปีศาจแห่งความเห็นแก่ตัวและอ่อนแอขึ้นมา เมื่อนั้นเค้าก็พอรู้ตัวทันทีครับว่าเค้าไม่เหมาะสมกับสถานะนี้
ผมพึ่งเข้าใจว่านี่ไม่ใช่รัก ทั้งที่มันควรจะเป็นความรักที่สวยงามตั้งแต่ผมจำความได้
และสิ่งใดเล่าคือรัก แม้แต่ความหลงไหลยังกลายเป็นคำลวง คำโป้ปด หรือ ความแข็งแกร่งที่ผมเคยมีทางความรู้สึก
ผมทำลายผู้ที่อ่อนแอ จากความไว้ใจของเธอ โดยทิ้งความหวัง ปล่อยเธอเจอเหตุการณ์เลวร้ายนั้นอีกครั้ง
นี่คือจุดที่เราต้องมาพิจารณากันว่า ความแข็งแกร่งมันสำคัญเพียงไหน
ในโลกของสภาวะแบบเสรีนิยม เรารักผู้ใดก็ได้โดยไร้ความรับผิดชอบ หรือเลือกที่จะรักแล้วรับผิดชอบ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นปัญหาอย่างสม่ำเสมอ มิได้ต่างกับการบังคับ เพราะเราก็พร้อมจะทอดทิ้งสิ่งที่ได้มาโดยง่ายเสมอ สภาวะการหย่าล้าง จึงเพิ่มขึ้นสูงพร้อมทั้งอัตราการใข้ชีวิตที่มีปริมาณการใช้จ่ายสูงขึ้น
ถามว่าตอนนี้ผมผิดหวังไหม ผมรู้สึกผิดหวังกับตัวเองครับที่ผมรู้สึกว่าเองนั้น ให้ความหวังผู้อื่นเพียงเพราะความต้องการที่เห็นแก่ตัวของตน แต่ผมก็เชื่อว่าอย่างน้อยผมไม่ได้โกหกตัวเอง และต้องเสียเวลาไปกับคนที่ผมไม่ได้ชอบ จริงๆ เพียงหวังแค่ถึงปลายทางและถีบเธอคนนั้นลงมาจากเขา ผมคงเป็นผู้ชายที่แย่กว่านี้
จากโพสนี้ไม่ได้มีอะไรมาก ในฐานะชายโสดคนหนึ่งที่อยากแนะนำชายโสดด้วยกัน อยากให้ทุกคนดึงศักยภาพแม้กระทั่ง ความรู้สึกตัวเองออกมาให้ชัดที่สุดและอย่ากลัวการพูดความจริงกับสิ่งที่ได้พบเจอครับ
ผมจะไม่ท้าวความถึงผู้หญิงที่ผมได้เจอเพราะเธอยังเป็นคนที่ผมรู้จัก แต่ผมจะพูดถึงจิตใจของผู้ชายที่ยังโสดและสามารถเลือกที่จะรักได้ผ่าน Note นี้
“ถ้าคุณต้องการใช้เหตุผลในการรักใครสักคน มันไม่ใช่ความรัก”
-Salavoj Zizěk-
คุณเคยไหมที่รู้สึกขาดแคลนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความขาดแคลน ความรักที่น่าทะนุถนอม การสัมผัส การโอบกอด สิ่งที่วัยรุ่นคู่หนึ่งพึงกระทำได้ นั่นคือสิ่งที่ชายหนุ่มอย่างผมไม่เคยได้พบเจอ
ผมและเธอเป็นเพื่อนร่วมงานกัน เราต่างรู้ว่าเรากำลังอยู่ในวัยยี่สิบปลายๆที่กำลังต้องการเติบโตในทางหน้าที่การงาน
การใช้เวลาอยู่กับเธอ การได้ฟังเรื่องราว หรือการได้สัมผัสหรือแค่การจับมือไปด้วยกันมันทำให้ผมมองเรื่องความรักของผมช่างสวยงาม ผู้หญิงใส่แว่น ตัวสูงคนนั้น กลับมาทำให้ผมดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ในการไขว่คว้าสิ่งต่างๆ ผมเริ่มจินตนาการถึงจุดเริ่มต้นของเรา และการได้ใช้ชีวิตกับใครสักคนหนึ่งอย่างจริงจัง
เหตุการณ์นี้จบลงเพียงชั่วขณะครับ ความขาดแคลน ของผมที่มันถูกกระทำอย่างรวดเร็วและการเรียนรู้ซึ่งกันอย่างจริงจังภายในไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์พังทลายลงอย่างที่ผมไม่คาดฝัน
มันไม่ใช่ความผิดพลาดของเธอเลยครับ มันคือผมที่หิวกระหายทุกๆอย่าง ความรีบร้อนจากการกระทำที่เรามีร่วมกัน(ไม่ใช่เรื่องอย่างว่านะ) ทุกอย่างคือความรีบร้อน แม้กระทั่งจิตใจที่เผาไหม้
ผมรู้สึกถึงเรื่องราวที่จบลงแบบไม่สวยงาม ทั้งที่ผมและเธอยังต้องพบหน้ากันในฐานะอย่างอื่น
เมื่อความเป็นผู้ชายมันไม่ได้สื่อถึงความมั่นคง แต่กลับสร้างปีศาจแห่งความเห็นแก่ตัวและอ่อนแอขึ้นมา เมื่อนั้นเค้าก็พอรู้ตัวทันทีครับว่าเค้าไม่เหมาะสมกับสถานะนี้
ผมพึ่งเข้าใจว่านี่ไม่ใช่รัก ทั้งที่มันควรจะเป็นความรักที่สวยงามตั้งแต่ผมจำความได้
และสิ่งใดเล่าคือรัก แม้แต่ความหลงไหลยังกลายเป็นคำลวง คำโป้ปด หรือ ความแข็งแกร่งที่ผมเคยมีทางความรู้สึก
ผมทำลายผู้ที่อ่อนแอ จากความไว้ใจของเธอ โดยทิ้งความหวัง ปล่อยเธอเจอเหตุการณ์เลวร้ายนั้นอีกครั้ง
นี่คือจุดที่เราต้องมาพิจารณากันว่า ความแข็งแกร่งมันสำคัญเพียงไหน
ในโลกของสภาวะแบบเสรีนิยม เรารักผู้ใดก็ได้โดยไร้ความรับผิดชอบ หรือเลือกที่จะรักแล้วรับผิดชอบ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นปัญหาอย่างสม่ำเสมอ มิได้ต่างกับการบังคับ เพราะเราก็พร้อมจะทอดทิ้งสิ่งที่ได้มาโดยง่ายเสมอ สภาวะการหย่าล้าง จึงเพิ่มขึ้นสูงพร้อมทั้งอัตราการใข้ชีวิตที่มีปริมาณการใช้จ่ายสูงขึ้น
ถามว่าตอนนี้ผมผิดหวังไหม ผมรู้สึกผิดหวังกับตัวเองครับที่ผมรู้สึกว่าเองนั้น ให้ความหวังผู้อื่นเพียงเพราะความต้องการที่เห็นแก่ตัวของตน แต่ผมก็เชื่อว่าอย่างน้อยผมไม่ได้โกหกตัวเอง และต้องเสียเวลาไปกับคนที่ผมไม่ได้ชอบ จริงๆ เพียงหวังแค่ถึงปลายทางและถีบเธอคนนั้นลงมาจากเขา ผมคงเป็นผู้ชายที่แย่กว่านี้
จากโพสนี้ไม่ได้มีอะไรมาก ในฐานะชายโสดคนหนึ่งที่อยากแนะนำชายโสดด้วยกัน อยากให้ทุกคนดึงศักยภาพแม้กระทั่ง ความรู้สึกตัวเองออกมาให้ชัดที่สุดและอย่ากลัวการพูดความจริงกับสิ่งที่ได้พบเจอครับ