Mr.Pedlueng on Nostr: ตั้งแต่เด็ก ...
ตั้งแต่เด็ก เรียนมาว่าเงินฝืดไม่ดี เพราะแลกเงินจากต่างประเทศได้น้อย ถึงเวลาเงินเฟ้อ เอาไปแลกเงินต่างประเทศเราจะได้น้อย ก็สงสัยว่า สรุปแล้วไม่เกี่ยวกับเงินฝืดไม่ใช่หรอวะ ปัญหาเพราะมันมีเงินเฟ้อ แต่เงินเฟ้อไม่เคยมีภาพว่าไม่ดี มีภาพว่าเงินเฟ้อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็งงว่าเกี่ยวไรวะ เงินเฟ้อ ข้าวของแพงขึ้น แต่เราก็กินอาหารเท่าเดิม มันเกี่ยวอะไรกับว่าเศรษฐกิจโต ผมว่าการเติบโตของเงินเฟ้อ มันเป็นแค่การสะท้อนรอยรั่วของระบบรึเปล่า ที่ว่า คนขึ้นราคาสินค้า เพราะตลาดไม่สมดุล เคยเห็นแค่ของราคาขึ้นเพราะ"ขาดตลาด"แต่พอมันหายขาดก็ไม่เห็นจะกลับมาลดราคาเท่าเดิม (พวกของขำเร็จรูป) พวกอาหารสด ยังพอเห็นการปรับราคาบ้างในระยะสั้น ถึงแม้ระยะยาวจะ เพิ่มขึ้นเหมือนเดิม ตอนนี้กำลัง สงสัยว่าระบบเงินเฟียตนี่มันแย่จริงไหมนะ ข้อดีคือรัฐบาลช่วยจัดการวิกฤติในระยะสั้นได้ แน่ข้อเสียก็คือ การออมเงิน จะโดนด้อยค่า รายได้อาจโตไม่ทันเงินเฟ้อ สุดท้ายมันก็เป็นแค่การผลักภาระให้คนในอนาคต รับกรรมแทน จะเห็นได้ว่า เงินเดือนสมัยนี้ ส่วนใหญ่แค่พอให้รอดไปพลางๆ สะสมทรัพย์สินไม่ได้ ต้องตัดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น เพื่อให้มีเงินเหลือ ผมเองก็ย้ายกลับมาทำงานใกล้บ้านมากขึ้น เพราะค่าครองชีพต่ำกว่ากรุงเทพมาก และเก็บเงินได้ง่ายกว่า พึ่งจบมาได้ไม่กี่ปี ก็สงสัยว่า ขนาดเราที่ถือว่าโอเคแล้วสำหรับคนทั่วไปยังต้องต้องประหยัดขนาดนี้ คนที่ต้นทุนต่ำกว่าจะลำบากขนาดไหน แล้วในอนาคต เด็กที่จบตามหลังมา มันจะพอกินหรือเปล่า ตั้งแต่รู้จัก bitcoin ทำให้ผมเลิกไล่ตามโลก fiat และพยามใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันมากขึ้น ได้มุมมองที่หลากหลาย และตกผลึกเกี่ยวกับชีวิตว่า ความสุขมันก็มีไม่กี่อย่างที่เราต้องการ ยิ่งเราต้องการมากหรือการพยายามไล่ตาม ความพอใจของตัวเอง มันต้องแลกมากับอะไรหลายอย่าง มีเวลาพักน้อยลง อยู่กับครอบครัวน้อยลง รู้สึกมีคุณค่าน้อยลง(ในกรณีที่ทำอะไรซักอย่างล้มเหลว) การไล่ตามความสำเร็จก็ดีนะตราบที่มันไม่ทำลายชีวิตส่วนอื่นของเรา เช่น ความสัมพันธ์สุขภาพ ความเครียด ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ ตั้งเป้าหมายให้เหมาะสมสำหรับเรา ยอมรับความล้มเหลวให้เป็นเมื่อมันเกิดขึ้น และใช้เวลากับคนที่รักให้เยอะ และมีคุณภาพ เพราะสุดท้ายแล้ว แทบทุกสิ่งที่เราไล่ตาม มันเป็นสิ่งสมมุติ ที่แทบไม่สำคัญเลย และพยายาพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นถ้าทำได้ ก่อนหน้านี้สนใจแค่เป้าหมายของตัวเองและชีวิตตัวเอง ผลประโยชน์ของตัวเอง ผมว่านี่แหละเป็นผลจากระบบfiatที่สร้างให้คนเป็น ทั้งฉาบฉวย ไม่มั่นคง ตั้งแต่ อ่าน the bitcoin standard จบ มันพลิกวิธีคิดและมุมมองต่อชีวิต ของผมไป รวมทั้ง 4000weeks ผมรู้สึกเป็นอิสระ และพอใจในชีวิตมากขึ้น มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันมากขึ้น มองโลก ด้วยสายตาที่ ถ่อมตนมากขึ้น และ มีเวลาชื่นชม กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากขึ้น และมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้นกับครอบครัว
#siamstr
Published at
2024-04-04 15:35:51Event JSON
{
"id": "e7885eb1a4cd95170ab977321600ff7a429ffa965967bba9396e8bfed4cbfdd1",
"pubkey": "77587caa779b9f9b6930282f76c30870fec15d5b4240471092c16f5c84c11ea6",
"created_at": 1712244951,
"kind": 1,
"tags": [
[
"t",
"siamstr"
],
[
"t",
"siamstr"
]
],
"content": "ตั้งแต่เด็ก เรียนมาว่าเงินฝืดไม่ดี เพราะแลกเงินจากต่างประเทศได้น้อย ถึงเวลาเงินเฟ้อ เอาไปแลกเงินต่างประเทศเราจะได้น้อย ก็สงสัยว่า สรุปแล้วไม่เกี่ยวกับเงินฝืดไม่ใช่หรอวะ ปัญหาเพราะมันมีเงินเฟ้อ แต่เงินเฟ้อไม่เคยมีภาพว่าไม่ดี มีภาพว่าเงินเฟ้อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็งงว่าเกี่ยวไรวะ เงินเฟ้อ ข้าวของแพงขึ้น แต่เราก็กินอาหารเท่าเดิม มันเกี่ยวอะไรกับว่าเศรษฐกิจโต ผมว่าการเติบโตของเงินเฟ้อ มันเป็นแค่การสะท้อนรอยรั่วของระบบรึเปล่า ที่ว่า คนขึ้นราคาสินค้า เพราะตลาดไม่สมดุล เคยเห็นแค่ของราคาขึ้นเพราะ\"ขาดตลาด\"แต่พอมันหายขาดก็ไม่เห็นจะกลับมาลดราคาเท่าเดิม (พวกของขำเร็จรูป) พวกอาหารสด ยังพอเห็นการปรับราคาบ้างในระยะสั้น ถึงแม้ระยะยาวจะ เพิ่มขึ้นเหมือนเดิม ตอนนี้กำลัง สงสัยว่าระบบเงินเฟียตนี่มันแย่จริงไหมนะ ข้อดีคือรัฐบาลช่วยจัดการวิกฤติในระยะสั้นได้ แน่ข้อเสียก็คือ การออมเงิน จะโดนด้อยค่า รายได้อาจโตไม่ทันเงินเฟ้อ สุดท้ายมันก็เป็นแค่การผลักภาระให้คนในอนาคต รับกรรมแทน จะเห็นได้ว่า เงินเดือนสมัยนี้ ส่วนใหญ่แค่พอให้รอดไปพลางๆ สะสมทรัพย์สินไม่ได้ ต้องตัดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น เพื่อให้มีเงินเหลือ ผมเองก็ย้ายกลับมาทำงานใกล้บ้านมากขึ้น เพราะค่าครองชีพต่ำกว่ากรุงเทพมาก และเก็บเงินได้ง่ายกว่า พึ่งจบมาได้ไม่กี่ปี ก็สงสัยว่า ขนาดเราที่ถือว่าโอเคแล้วสำหรับคนทั่วไปยังต้องต้องประหยัดขนาดนี้ คนที่ต้นทุนต่ำกว่าจะลำบากขนาดไหน แล้วในอนาคต เด็กที่จบตามหลังมา มันจะพอกินหรือเปล่า ตั้งแต่รู้จัก bitcoin ทำให้ผมเลิกไล่ตามโลก fiat และพยามใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันมากขึ้น ได้มุมมองที่หลากหลาย และตกผลึกเกี่ยวกับชีวิตว่า ความสุขมันก็มีไม่กี่อย่างที่เราต้องการ ยิ่งเราต้องการมากหรือการพยายามไล่ตาม ความพอใจของตัวเอง มันต้องแลกมากับอะไรหลายอย่าง มีเวลาพักน้อยลง อยู่กับครอบครัวน้อยลง รู้สึกมีคุณค่าน้อยลง(ในกรณีที่ทำอะไรซักอย่างล้มเหลว) การไล่ตามความสำเร็จก็ดีนะตราบที่มันไม่ทำลายชีวิตส่วนอื่นของเรา เช่น ความสัมพันธ์สุขภาพ ความเครียด ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ ตั้งเป้าหมายให้เหมาะสมสำหรับเรา ยอมรับความล้มเหลวให้เป็นเมื่อมันเกิดขึ้น และใช้เวลากับคนที่รักให้เยอะ และมีคุณภาพ เพราะสุดท้ายแล้ว แทบทุกสิ่งที่เราไล่ตาม มันเป็นสิ่งสมมุติ ที่แทบไม่สำคัญเลย และพยายาพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นถ้าทำได้ ก่อนหน้านี้สนใจแค่เป้าหมายของตัวเองและชีวิตตัวเอง ผลประโยชน์ของตัวเอง ผมว่านี่แหละเป็นผลจากระบบfiatที่สร้างให้คนเป็น ทั้งฉาบฉวย ไม่มั่นคง ตั้งแต่ อ่าน the bitcoin standard จบ มันพลิกวิธีคิดและมุมมองต่อชีวิต ของผมไป รวมทั้ง 4000weeks ผมรู้สึกเป็นอิสระ และพอใจในชีวิตมากขึ้น มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันมากขึ้น มองโลก ด้วยสายตาที่ ถ่อมตนมากขึ้น และ มีเวลาชื่นชม กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากขึ้น และมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้นกับครอบครัว\n#siamstr",
"sig": "21d67113cf5fd207acf45dfe78419ed9b23e3775b7f659fcfcd2614ffbf2c81d2cba964481c2c4c2af77f9ad293ce67622a38dd228c77e64bcd3fd6e146f13d3"
}