maiakee on Nostr: ...

✍️ลีโอ ตอลสตอย: การวิพากษ์ศาสนาคริสต์, ปรัชญาแห่งสัจจะ และการเชื่อมโยงกับแนวคิด “ตถตา”
ลีโอ ตอลสตอย (Leo Tolstoy, 1828–1910) เป็นหนึ่งในนักเขียนและนักปรัชญาคนสำคัญของโลก ผู้ที่มีอิทธิพลต่อแนวคิดด้านศีลธรรม ศาสนา และการดำรงชีวิตอย่างลึกซึ้ง เขาไม่เพียงแต่เป็นนักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่ของรัสเซีย แต่ยังเป็นนักคิดที่ท้าทายกรอบความเชื่อของศาสนาคริสต์ กระแสทุนนิยม และการเมืองแบบเผด็จการในยุคของเขา
ตอลสตอยเชื่อว่า ศาสนาคริสต์ได้เบี่ยงเบนจากคำสอนดั้งเดิมของพระเยซู และกลายเป็นเครื่องมือของอำนาจรัฐและสถาบันทางศาสนาในการควบคุมประชาชน นอกจากนี้ เขายังมีแนวคิดเกี่ยวกับ “สัจจะ” (truth) ในแบบที่สะท้อนถึงปรัชญาตะวันออก โดยเฉพาะแนวคิดเรื่อง “ตถตา” (Suchness) ซึ่งเกี่ยวข้องกับธรรมชาติของความเป็นจริง และการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งตามหลักการเกิดดับของอนุภาค (Quantum Mechanics)
1. ตอลสตอยวิพากษ์ศาสนาคริสต์: ศรัทธาหรือเครื่องมือทางการเมือง?
ตอลสตอยมองว่า ศาสนาคริสต์ดั้งเดิมของพระเยซูเป็นคำสอนแห่งความรัก ความเมตตา และการปลดเปลื้องจากอำนาจโลก แต่เมื่อเวลาผ่านไป คริสตจักรกลับกลายเป็นสถาบันที่ให้ความร่วมมือกับอำนาจรัฐ และใช้หลักศาสนาในการสนับสนุนสงคราม ความรุนแรง และการแบ่งแยกชนชั้น
“Churches are as much a tool of deception as governments.”
— Leo Tolstoy
เขาเชื่อว่าคำสอนของพระเยซูไม่ได้ถูกปฏิบัติตามอย่างแท้จริง คริสตจักรและผู้นำทางศาสนาเพียงแต่ใช้ศรัทธาเพื่อควบคุมจิตใจของผู้คน และสร้างระบบอำนาจให้กับตนเอง
2. คำสอนที่แท้จริงของพระเยซู: เสรีภาพและความเมตตา
ตอลสตอยเห็นว่าหัวใจของศาสนาคือ เสรีภาพจากพันธนาการของอำนาจและวัตถุ เขาเน้นแนวคิดของพระเยซูเกี่ยวกับ “การไม่ใช้ความรุนแรง” (Non-violence) และการให้อภัยศัตรู ซึ่งเป็นแนวคิดที่ต่อมาเป็นแรงบันดาลใจให้ มหาตมา คานธี ในการต่อสู้เพื่อเอกราชของอินเดีย
“The kingdom of God is within you.”
— Leo Tolstoy
คำพูดนี้แสดงให้เห็นว่า สัจจะทางศาสนาไม่ได้อยู่ในพิธีกรรมหรือองค์กรทางศาสนา แต่อยู่ในจิตใจของแต่ละบุคคล
3. ความเชื่อมโยงกับแนวคิด “ตถตา” (Suchness) ในปรัชญาตะวันออก
ตอลสตอยเชื่อว่าโลกนี้มี “สัจจะ” ที่ดำรงอยู่โดยไม่ขึ้นกับสถาบันหรืออำนาจใด ๆ ซึ่งสะท้อนกับแนวคิด “ตถตา” ในพุทธปรัชญา ซึ่งหมายถึง “สภาวะที่เป็นเช่นนั้นเอง” หรือ “สิ่งทั้งหลายเป็นไปตามเหตุปัจจัย”
“Truth, like gold, is to be obtained not by its growth, but by washing away from it all that is not gold.”
— Leo Tolstoy
คำพูดนี้คล้ายกับแนวคิด “ตถตา” ที่มองว่าสัจจะไม่สามารถถูกสร้างขึ้น แต่ต้องค้นพบผ่านการปล่อยวางมายาภาพของโลก
4. การเกิดดับของอนุภาค: สัจจะที่ไม่มีแก่นสาร
หากพิจารณาแนวคิดของตอลสตอยในแง่ฟิสิกส์ควอนตัม แนวคิดเรื่อง การเกิดดับของอนุภาค ในระดับจุลภาค (Quantum Fluctuations) สอดคล้องกับปรัชญาของเขาเกี่ยวกับ ความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง
ฟิสิกส์ควอนตัมแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่เรามองว่าเป็น “ของแข็ง” นั้นแท้จริงเป็นเพียงคลื่นพลังงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นี่สอดคล้องกับแนวคิดของตอลสตอยที่ว่า “ความจริง” ไม่ได้อยู่ในสิ่งที่ตามองเห็น แต่เป็นกระบวนการของการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งกว่า
5. ความไม่จีรังของอาณาจักรมนุษย์และสัจจะนิรันดร์
ตอลสตอยเชื่อว่า อำนาจทางโลกเป็นสิ่งชั่วคราว และมนุษย์ควรแสวงหาสัจจะที่เหนือไปกว่านั้น
“All governments are in their essence a conspiracy against the people.”
— Leo Tolstoy
คำพูดนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดแบบ อนิจจัง (Impermanence) ในพุทธศาสนา ที่ว่าอำนาจและความรุ่งเรืองของโลกมนุษย์ล้วนแล้วแต่ไม่จีรัง
6. การปฏิเสธความหรูหราและวัตถุนิยม
ตอลสตอยในช่วงปลายชีวิตเลือกที่จะ ละทิ้งทรัพย์สินของเขา และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เพื่อสอดคล้องกับหลักศีลธรรมของตนเอง
“There is no greatness where simplicity, goodness, and truth are absent.”
— Leo Tolstoy
แนวคิดนี้มีความคล้ายคลึงกับ หลักอปริครหะ (Aparigraha) ในศาสนาพุทธและเชน ที่ส่งเสริมการปล่อยวางจากวัตถุ
7. ศีลธรรมและจริยธรรมเหนือศาสนา
ตอลสตอยเชื่อว่าศีลธรรมต้องมีรากฐานจากเหตุผลและความรัก ไม่ใช่จากบทบัญญัติทางศาสนา
“Wrong does not cease to be wrong because the majority share in it.”
— Leo Tolstoy
นี่เป็นแนวคิดที่คล้ายกับ “สติปัญญาเหนือศรัทธา” (Reason over Faith) ในปรัชญาตะวันตก
8. การวิพากษ์สงครามและรัฐชาติ
ตอลสตอยต่อต้านสงครามและมองว่ารัฐชาติเป็นต้นเหตุของความรุนแรง
“War is so unjust and ugly that all who wage it must try to stifle the voice of conscience within themselves.”
— Leo Tolstoy
แนวคิดนี้สะท้อนถึงหลักอหิงสา (Ahimsa) ในพุทธศาสนาและฮินดู
9. ความรักและการไม่ใช้ความรุนแรง
ตอลสตอยเสนอว่าความรักเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการเปลี่ยนแปลงโลก
“The sole meaning of life is to serve humanity.”
— Leo Tolstoy
เขาเชื่อว่าแนวคิดนี้คือหัวใจของคำสอนพระเยซูที่ถูกบิดเบือนไป
10. การแสวงหาสัจจะด้วยตนเอง
ตอลสตอยเน้นว่ามนุษย์ต้องค้นหาสัจจะด้วยตนเอง ไม่ใช่พึ่งศาสนาหรือรัฐ
“The truth is more important than anything else.”
— Leo Tolstoy
แนวคิดนี้คล้ายกับหลัก “เอหิปัสสิโก” ของพุทธศาสนา
ตอลสตอยเป็นนักคิดที่วิพากษ์ทั้งศาสนา อำนาจ และสังคม แต่ในขณะเดียวกัน เขายังเสนอหนทางสู่ความจริงผ่าน ความรัก, ความเรียบง่าย และการเข้าใจธรรมชาติของสรรพสิ่ง ซึ่งเป็นแนวคิดที่สะท้อนถึง “ตถตา” และความเป็นไปตามเหตุปัจจัยของโลก
#Siamstr #ปรัชญาชีวิต #nostr #ปรัชญา