Somnuke on Nostr: ...
โลกยุคใหม่ต้องไม่มีความเหลื่อมล้ำ ทุกคนควรมีรายได้ที่เท่าเทียมกัน
แต่ลองมองดูดี ๆ ความเหลื่อมล้ำก็คือธรรมชาติ เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะเท่าเทียม คนที่เรียกร้องสิ่งเหล่านี้คุณคิดดีๆ ต่อให้เรียนเชิญมนุษย์ต่างดาวมาเป็นนายก เราก็ไม่มีวันแก้ไขสิ่งเหล่านี้ได้
.
คุณทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่ได้หลับไม่ได้นอน กับผมที่นอนเกาไข่ไปวันๆ ผมควรได้เงินเท่าคุณเหรอ
.
คนที่ทำมากก็ได้มาก คนที่ทำน้อยก็ได้น้อย มันไม่เท่าเทียมตรงไหน? คนที่ไม่พยายามแต่มีเส้นสายได้ประโยชน์จากอำนาจรัฐต่างหาก ที่น่ารังเกียจ
.
ส่วนคนที่ยากจนเพราะพิการหรือไม่สามารถทำงานได้ที่สมควรช่วยเหลือจริงๆ คนรับหน้าที่ควรเป็นกองทุนที่บริหารโดยเอกชน คนที่มีกำลังทรัพย์ส่วนใหญ่เขาพร้อมช่วยเหลือและสนับสนุนคนที่ลำบากจริงๆ อยู่แล้ว แต่ต้องเป็นไปด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่บังคับให้เราช่วยภายใต้โครงสร้างที่ เงินจากเรา 10 มันไปถึงมือเขาแค่ 1 แถมได้หน้า ได้คะแนนนิยม ได้การตลาดโดยไม่ต้องลงทุน เป็นนักบุญทุนชาวบ้าน
.
รัฐไม่มีวันบริหารสวัสดิการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
และอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะบริหารกองทุนเพื่อคนยากจน คือ "เงิน" มันต้องเป็นเงินที่ทุกบาททุกสตางค์สามารถตรวจสอบได้โดยประชาชนทุกคน ซึ่งเงินเฟียตอย่างบาทหรือดอลลาร์ ไม่ตอบโจทย์นี้ เพราะบัญชีมันตบแต่งได้
.
การที่รัฐบังคับดึงเงินที่เปื้อนหยาดเหงื่อจากคุณ 30% หรือครึ่งนึงมาให้ผม ผมโคตรชอบเลย หลายคนคงเป็นแบบผม คือข้ออ้างเยอะแยะมากมาย สังคมกดทับ นายทุนกดขี่ ต้นทุนชีวิตไม่ดี เข้าไม่ถึงโอกาส บลาๆๆๆๆๆ แต่จริงๆ แล้ว ขี้เกียจเป็นหลัก ไม่มีอะไร..
.
แล้วมันเท่าเทียมต่อคนที่อดทน มุ่งมั่น พยายาม ขยันหมั่นเพียรรึเปล่า ยิ่งขยันมากเท่าไรก็ยิ่งถูกปล้นมากเท่านั้น แล้วจะพยายามไปเพื่ออะไร โดยเฉพาะรัฐสวัสดิการเบ็ดเสร็จในฝัน ที่พ่อพระผู้เจริญดึงเงินออกจากคนที่สร้างคุณค่าและจัดสรรให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
.
สุดท้ายใครจะลุกขึ้นมาสร้างคุณค่าให้สังคม ทุกคนก็จะไหลไปเก่าไข่เหมือนๆ กัน ใครจะอยากพยายาม เพราะยิ่งพยายามยิ่งถูกลงโทษ
.
เงินจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ก็ต่อเมื่ออยู่ในมือคนที่มีความสามารถในการสร้างคุณค่า สร้าง productivity
.
เช่น คุณที่เป็นเจ้าของกิจการ กับผมที่ดูดม้าไปวันๆ มีชีวิตเพื่อหาเงินซื้อม้าดูด ใครจะบริหารเงิน 1 ก้อนได้ดีกว่ากัน
.
คนที่ประสบความสำเร็จ ร่ำรวย ก็ถูกต้องแล้วที่จะได้เปรียบคนอื่น เข้าถึงโอกาสและทรัพยากรได้มากกว่าคนอื่น แต่เฉพาะกับกติกาที่แฟร์
.
กระแสสังคมกำลังหลอกให้เราไปผิดทาง เพราะต้นตอของหายนะแห่งความเหลื่อมล้ำที่ดูเหมือนจะหนักขึ้นทุกวันๆ นี้ มันมาจากระบบการเงินที่เราใช้ วายร้ายมันคือเงินเฟียตที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อเรานี่แหละ มันดึงความมั่งคั่งของทุกคนไปอยู่ในมือคนไม่กี่คน ใครยังไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร เดี๋ยววันนึงคุณก็จะเข้าใจเอง
.
ระบบเฟียตสร้างมหาเศรษฐีมากมาย ที่ร่ำรวยจากการถืออำนาจหรืออยู่ใกล้แหล่งอำนาจในการควบคุมเงิน มันไม่ได้เก่งจริงไอฟาย เช่น กูประสบความสำเร็จเพราะพ่อกูเป็นรัฐมนตรี กูโคตรรวยเพราะได้สัมปทานผูกขาด ไม่ต้องดิ้นรน ไม่ต้องแข่งขันกับใคร เซ็นสัญญารับเงินล่วงหน้าเป็นสิบๆ ปี
.
อันนี้แหละผมว่าความเหลื่อมล้ำที่แท้จริง สำหรับเรา คนทั่วไปต้องปีนหน้าผา แต่บางคนมันขึ้นลิฟท์
.
ดังนั้น โลกไม่ได้ต้องการรัฐบาลที่เป็นคนดี ไม่คดโกง แต่ต้องการระบบที่ทุกคนสามารถ Work ภายใต้ Proof เดียวกัน
#Siamstr
แต่ลองมองดูดี ๆ ความเหลื่อมล้ำก็คือธรรมชาติ เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะเท่าเทียม คนที่เรียกร้องสิ่งเหล่านี้คุณคิดดีๆ ต่อให้เรียนเชิญมนุษย์ต่างดาวมาเป็นนายก เราก็ไม่มีวันแก้ไขสิ่งเหล่านี้ได้
.
คุณทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่ได้หลับไม่ได้นอน กับผมที่นอนเกาไข่ไปวันๆ ผมควรได้เงินเท่าคุณเหรอ
.
คนที่ทำมากก็ได้มาก คนที่ทำน้อยก็ได้น้อย มันไม่เท่าเทียมตรงไหน? คนที่ไม่พยายามแต่มีเส้นสายได้ประโยชน์จากอำนาจรัฐต่างหาก ที่น่ารังเกียจ
.
ส่วนคนที่ยากจนเพราะพิการหรือไม่สามารถทำงานได้ที่สมควรช่วยเหลือจริงๆ คนรับหน้าที่ควรเป็นกองทุนที่บริหารโดยเอกชน คนที่มีกำลังทรัพย์ส่วนใหญ่เขาพร้อมช่วยเหลือและสนับสนุนคนที่ลำบากจริงๆ อยู่แล้ว แต่ต้องเป็นไปด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่บังคับให้เราช่วยภายใต้โครงสร้างที่ เงินจากเรา 10 มันไปถึงมือเขาแค่ 1 แถมได้หน้า ได้คะแนนนิยม ได้การตลาดโดยไม่ต้องลงทุน เป็นนักบุญทุนชาวบ้าน
.
รัฐไม่มีวันบริหารสวัสดิการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
และอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะบริหารกองทุนเพื่อคนยากจน คือ "เงิน" มันต้องเป็นเงินที่ทุกบาททุกสตางค์สามารถตรวจสอบได้โดยประชาชนทุกคน ซึ่งเงินเฟียตอย่างบาทหรือดอลลาร์ ไม่ตอบโจทย์นี้ เพราะบัญชีมันตบแต่งได้
.
การที่รัฐบังคับดึงเงินที่เปื้อนหยาดเหงื่อจากคุณ 30% หรือครึ่งนึงมาให้ผม ผมโคตรชอบเลย หลายคนคงเป็นแบบผม คือข้ออ้างเยอะแยะมากมาย สังคมกดทับ นายทุนกดขี่ ต้นทุนชีวิตไม่ดี เข้าไม่ถึงโอกาส บลาๆๆๆๆๆ แต่จริงๆ แล้ว ขี้เกียจเป็นหลัก ไม่มีอะไร..
.
แล้วมันเท่าเทียมต่อคนที่อดทน มุ่งมั่น พยายาม ขยันหมั่นเพียรรึเปล่า ยิ่งขยันมากเท่าไรก็ยิ่งถูกปล้นมากเท่านั้น แล้วจะพยายามไปเพื่ออะไร โดยเฉพาะรัฐสวัสดิการเบ็ดเสร็จในฝัน ที่พ่อพระผู้เจริญดึงเงินออกจากคนที่สร้างคุณค่าและจัดสรรให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
.
สุดท้ายใครจะลุกขึ้นมาสร้างคุณค่าให้สังคม ทุกคนก็จะไหลไปเก่าไข่เหมือนๆ กัน ใครจะอยากพยายาม เพราะยิ่งพยายามยิ่งถูกลงโทษ
.
เงินจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ก็ต่อเมื่ออยู่ในมือคนที่มีความสามารถในการสร้างคุณค่า สร้าง productivity
.
เช่น คุณที่เป็นเจ้าของกิจการ กับผมที่ดูดม้าไปวันๆ มีชีวิตเพื่อหาเงินซื้อม้าดูด ใครจะบริหารเงิน 1 ก้อนได้ดีกว่ากัน
.
คนที่ประสบความสำเร็จ ร่ำรวย ก็ถูกต้องแล้วที่จะได้เปรียบคนอื่น เข้าถึงโอกาสและทรัพยากรได้มากกว่าคนอื่น แต่เฉพาะกับกติกาที่แฟร์
.
กระแสสังคมกำลังหลอกให้เราไปผิดทาง เพราะต้นตอของหายนะแห่งความเหลื่อมล้ำที่ดูเหมือนจะหนักขึ้นทุกวันๆ นี้ มันมาจากระบบการเงินที่เราใช้ วายร้ายมันคือเงินเฟียตที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อเรานี่แหละ มันดึงความมั่งคั่งของทุกคนไปอยู่ในมือคนไม่กี่คน ใครยังไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร เดี๋ยววันนึงคุณก็จะเข้าใจเอง
.
ระบบเฟียตสร้างมหาเศรษฐีมากมาย ที่ร่ำรวยจากการถืออำนาจหรืออยู่ใกล้แหล่งอำนาจในการควบคุมเงิน มันไม่ได้เก่งจริงไอฟาย เช่น กูประสบความสำเร็จเพราะพ่อกูเป็นรัฐมนตรี กูโคตรรวยเพราะได้สัมปทานผูกขาด ไม่ต้องดิ้นรน ไม่ต้องแข่งขันกับใคร เซ็นสัญญารับเงินล่วงหน้าเป็นสิบๆ ปี
.
อันนี้แหละผมว่าความเหลื่อมล้ำที่แท้จริง สำหรับเรา คนทั่วไปต้องปีนหน้าผา แต่บางคนมันขึ้นลิฟท์
.
ดังนั้น โลกไม่ได้ต้องการรัฐบาลที่เป็นคนดี ไม่คดโกง แต่ต้องการระบบที่ทุกคนสามารถ Work ภายใต้ Proof เดียวกัน
#Siamstr