What is Nostr?
maiakee
npub1hge…8hs2
2025-01-26 17:48:50

maiakee on Nostr: ...



กฎแห่งกรรม เจตจำนงเสรี การเลือกเส้นทางของชีวิต เกี่ยวโยงกับ จักรวาลควอนตัมอย่างไร ⚛️

คำถามเรื่อง Free Will (เจตจำนงเสรี) ในบริบทของทฤษฎี Orch OR และคำสอนในพุทธศาสนา เช่น กฎแห่งกรรม และ ปฏิจจสมุปบาท เป็นหัวข้อที่ซับซ้อนและน่าสนใจ โดยสามารถอธิบายและเชื่อมโยงกับปรากฏการณ์ในระดับควอนตัม เช่น Quantum Entanglement และ Quantum Tunneling ได้ดังนี้:

1. Free Will ในมุมมองของ Orch OR

Orch OR และกระบวนการตัดสินใจในสมอง
• Orch OR (Orchestrated Objective Reduction) เสนอว่าจิต (consciousness) เกิดจากกระบวนการควอนตัมใน microtubules ภายในเซลล์สมอง การล่มสลายของฟังก์ชันคลื่นควอนตัม (wave function collapse) ใน microtubules ทำให้เกิด “การเลือก” ระหว่างความเป็นไปได้ต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนถึงการทำงานของจิตที่สามารถตัดสินใจได้
• กระบวนการนี้ไม่ใช่กลไกที่เป็นเหตุ-ผลแบบคลาสสิก (deterministic) แต่เป็นกระบวนการที่มี ความสุ่มแบบควอนตัม (quantum randomness) และ เจตนาแบบออร์แกนิก (orchestrated intentionality)

Free Will ใน Orch OR
• การล่มสลายของฟังก์ชันคลื่นใน Orch OR เกิดจากแรงโน้มถ่วงควอนตัมและการพัวพันควอนตัม (quantum entanglement) ซึ่งไม่ได้ถูกกำหนดอย่างสมบูรณ์โดยกฎทางฟิสิกส์แบบคลาสสิก
• อย่างไรก็ตาม กระบวนการควอนตัมนี้มีความเชื่อมโยงกับ “เครือข่ายความทรงจำ” และ “บริบทของสมอง” ทำให้ดูเหมือนว่าเรามีอิสระในการเลือกในระดับจิตสำนึก แต่ยังคงอยู่ในกรอบของเหตุปัจจัยที่หล่อหลอมโดยธรรมชาติ

สรุป: Free Will ในมุมมอง Orch OR คือการผสมผสานระหว่าง ความสุ่มควอนตัม กับ เหตุปัจจัยที่กำหนดโดยสภาพแวดล้อมและประสบการณ์

2. กฎแห่งกรรมและปฏิจจสมุปบาท

ความหมายของกฎแห่งกรรมและปฏิจจสมุปบาท
• กฎแห่งกรรม: ทุกการกระทำ (เจตนา) มีผลที่ตามมา (วิบาก) โดยเป็นผลจากเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นในอดีตและปัจจุบัน
• ปฏิจจสมุปบาท: หลักการที่ว่าทุกสิ่งล้วนเกิดจากการอาศัยซึ่งกันและกัน (dependent origination) ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นโดยลำพังหรือขาดเหตุปัจจัย

Free Will ในบริบทของกฎแห่งกรรม
• กฎแห่งกรรมยอมรับว่ามนุษย์มี เจตนา (intention) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างกรรม แต่เจตนานี้ไม่ได้เกิดจากอิสระที่สมบูรณ์ (absolute free will) เพราะจิตใจถูกหล่อหลอมโดยประสบการณ์ในอดีต (กรรมเก่า) และสภาพแวดล้อมปัจจุบัน
• การกระทำในปัจจุบันสามารถสร้าง “กรรมใหม่” ซึ่งจะส่งผลต่ออนาคต ดังนั้น เจตจำนงเสรีในพุทธศาสนาจึงเป็น “เสรีภาพภายใต้กรอบของเหตุปัจจัย”

3. Quantum Entanglement และการเชื่อมโยงกับปฏิจจสมุปบาท

Quantum Entanglement คืออะไร?

Quantum Entanglement เป็นปรากฏการณ์ที่อนุภาคควอนตัมสองอนุภาคหรือมากกว่ามีสถานะเชื่อมโยงกัน เมื่อเปลี่ยนแปลงสถานะของอนุภาคหนึ่ง อีกอนุภาคหนึ่งจะเปลี่ยนตามในทันที แม้ว่าจะอยู่ห่างกันมากแค่ไหน (ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “non-locality”)

⚛️ปฏิจจสมุปบาทและ Quantum Entanglement
• ในพุทธศาสนา ปฏิจจสมุปบาทอธิบายว่าทุกสิ่งในจักรวาลเชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นโดยอิสระ ปรากฏการณ์ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ “เหตุและปัจจัย”
• Quantum Entanglement สามารถอธิบายว่า อนุภาคควอนตัมที่มีความเชื่อมโยงกันเหมือนสะท้อนหลักปฏิจจสมุปบาทในระดับลึกของฟิสิกส์ โดยแสดงให้เห็นว่าแม้ในระดับที่เล็กที่สุด ทุกสิ่งล้วนพึ่งพาอาศัยกัน

ตัวอย่าง:
• การตัดสินใจของมนุษย์ในระดับจิตใจอาจสะท้อนถึงกระบวนการพัวพันควอนตัมที่เกิดขึ้นใน microtubules ซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก

4. Quantum Tunneling กับการเลือกเส้นทางของกรรม

Quantum Tunneling คืออะไร?

Quantum Tunneling เป็นปรากฏการณ์ที่อนุภาคควอนตัมสามารถ “ทะลุผ่าน” อุปสรรคพลังงานที่ควรจะกั้นมันไว้ได้ แม้จะไม่ควรเป็นไปได้ในฟิสิกส์คลาสสิก

การเชื่อมโยงกับกรรมและ Free Will
• Quantum Tunneling สามารถเปรียบเทียบกับ “การเลือก” หรือ “การเปลี่ยนแปลง” ที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ในกรอบเหตุปัจจัยปกติ
• เช่นเดียวกับในกฎแห่งกรรม การกระทำหรือเจตนาในปัจจุบันอาจดูเหมือนไม่สามารถหลุดพ้นจากกรรมเก่าได้ แต่ด้วยความพยายามและการตัดสินใจที่ถูกต้อง มนุษย์สามารถ “ทะลุผ่าน” ผลของกรรมเก่าได้ในบางกรณี

ตัวอย่าง:
• การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เช่น การเลิกนิสัยที่ไม่ดี (ซึ่งสะสมจากกรรมเก่า) อาจเป็นเหมือนกระบวนการ Quantum Tunneling ที่ต้องการพลังงานและความตั้งใจอย่างยิ่ง

5. สรุป: Free Will ใน Orch OR และพุทธศาสนา

การมีอยู่ของ Free Will:
• ใน Orch OR: Free Will มีอยู่ในระดับหนึ่ง เนื่องจากกระบวนการควอนตัมใน microtubules ทำให้การตัดสินใจไม่ได้ถูกกำหนดอย่างสมบูรณ์
• ในพุทธศาสนา: Free Will มีอยู่ในกรอบของเหตุปัจจัย กรรมเก่าอาจกำหนดเงื่อนไขพื้นฐาน แต่เจตจำนงในปัจจุบันสามารถสร้างผลลัพธ์ใหม่ได้

⚛️Quantum Entanglement และปฏิจจสมุปบาท:
• ทั้งสองแนวคิดแสดงถึงการเชื่อมโยงของทุกสิ่งในจักรวาล ไม่ว่าจะเป็นอนุภาคควอนตัมหรือปรากฏการณ์ในชีวิต

Quantum Tunneling และกรรม:
• Quantum Tunneling แสดงถึงศักยภาพในการ “เปลี่ยนแปลง” แม้ในสถานการณ์ที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ ซึ่งคล้ายกับการเปลี่ยนเส้นทางของกรรมผ่านการกระทำที่มีเจตนา

Free Will ในมุมมองของ Orch OR และพุทธศาสนา จึงเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างธรรมชาติของกระบวนการควอนตัมและกฎแห่งกรรมที่แสดงถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งในจักรวาล ทั้งสองแนวคิดช่วยให้เราเข้าใจว่ามนุษย์มีอิสระในระดับหนึ่งในการเลือกกระทำ แต่ยังอยู่ภายใต้กรอบของเหตุและปัจจัยที่ครอบคลุมทุกสิ่งในจักรวาล

#Siamstr #quantum #nostr #BTC #ธรรมะ #พุทธศาสนา #rightshift
Author Public Key
npub1hge4uuggdfspu0wmffxqs9vj38m55238q3z2jzd907e8qnjmlsyql78hs2