Pong on Nostr: รถไฟฟ้ายอดขายไม่ถึงเป้า ...
รถไฟฟ้ายอดขายไม่ถึงเป้า
เนื่องจากธนาคารไทย ไม่ปล่อยกู้ เพราะกลัวเป็นหนี้เสีย
รถไฟฟ้าราคารถตกไว เวลายึดมาขายทอดตลาดก็คงไม่คุ้ม
ยอดกู้ไม่ผ่านเลยอยู่ที่ราวๆ 20-30%
จีนอยากดันยอดรถไฟฟ้าเลยจะปล่อยสินเชื่อเอง
มีโอกาสเกิดขึ้นหลายอย่าง และมีโอกาสที่การปล่อยกู้จะมีรูปแบบใหม่ๆบางอย่าง เช่น
การดึงข้อมูลการใช้งานจาก platform ต่างๆเช่น grab
เพื่อดูรายจ่ายจากการใช้งาน และรายได้จากการทำงานผ่าน platform
ทำให้เห็นพฤติกรรมมากขึ้น โอกาสอนุมัติกับคนทำงานกลุ่มใหม่ๆมีมากขึ้น
โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ธนาคารของไทยละเลย และไม่สนใจ
ที่น่าสนใจคือรูปแบบการปล่อยกู้ และเรื่อง data privacy ต่างๆ
เอาเงินกู้ก่อน ต่อไปดอกเบี้ยอาจจะไม่คงที่
ปรับมากน้อยตามสภาพรายได้ช่วงนั้นๆ เพราะมี data มากกว่าเดิม
เช่น รายได้ของคนขับ grab หรือขายของออนไลน์ ยอดแต่ละเดือนไม่เท่ากัน
ปรับดอกมากน้อยตามรายได้ สามารถทำได้
หรืออนุมัติเงินกู้ได้ง่ายมากขึ้นจากพฤติกรรม อย่างเช่น
ออกไปขับรถรับงานกี่วันต่อเดือน กี่ชม.ต่อวัน น่าสนใจนะ
หรือจะเป็นการผลักดันโปรโมชั่นการทำงาน ทำงานเท่านั้นเท่านี้ ได้รางวัลลดดอกเท่านั้นเท่านี้
เพราะ platform ได้เงินมากขึ้น ถือว่าถัวๆกันไป
นอกจากนี้จะลดขั้นตอนการซื้อเพราะแบรนด์รถอาจจะมาทำเอง คุยกับแบรนด์โดยตรงได้เลย
แต่ตรงนี้อาจจะต้องดูว่าแบรนด์เก่งกว่าธนาคารไหม
การประเมินเครดิตต่างๆจะเปลี่ยนไปอย่างมาก
นอกจากนี้พฤติกรรมการจับจ่าย อย่างเช่นการจ่ายบิลต่างๆจ่ายตรงไหม
ซื้อของผ่อนจ่ายไหม จ่ายตรงรอบไหม อาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่เอาเข้ามาคำนวนได้
มองไปลึกอีกนิด ไหนๆจะทำ finance แล้ว พ่วงประกันไปด้วยเลยดีไหมนะ
ไหนๆก็พอจะคำนวนความเสี่ยงบางส่วนได้แล้ว รู้ราคาต้นทุนการซ่อมต่างๆแล้ว
พ่วงไปเลยทีเดียวจบ คนซื้อรถก็คำนวนสิ่งต่างๆได้มากขึ้น เลือก option ได้ด้วย
ไหนๆอยากเสกลแล้ว ก็จัดการให้คุ้มการเสกลซะ sample หรือลูกค้ายิ่งมาก
date ยิ่งเยอะ product ก็ยิ่งพัฒนาได้แม่นและดีขึ้น
รวมถึงเวลามีปัญหาลูกค้าก็สะดวก คุยกับแบรนด์รถที่เดียวจบ
แต่ก็เจอปัญหารวมศูนย์กลางอีกแล้ววววว
ประเด็นความเป็นส่วนตัว คือสุดยอดคลาสสิคคคคคค!
อยากสะดวก อยากสบาย ต้องเอาข้อมูลไปแลก
ต้องเอาความเป็นส่วนตัวไปแลก
ที่ตามมาก็คือ เป็นหนี้ง่ายขึ้น
matrix แน่นกว่าเดิม หลุดออกจากระบบ fiat ยากขึ้นอีก
แล้วถ้ารวมร่างกับ CBDC อีกนะ อู้วหูวเลยล่ะตัวเองงงงง
ถ้ามองอีกระดับนึงก็คือจะมีเงินเฟ้อที่ง่ายกว่าเดิมไหมนะ แล้วมันจะเฟ้อที่ไทยหรือที่จี่นวะนั่น
บริษัทจีนแต่ปล่อยกู้ในไทย อั๊ยย่ะ ท่ายาก เพิ่มความซับซ้อนของการเงินเข้าไปอีกรอบ
คิดออกไวไวก็ประมาณนี้ฮะ
#siamstr
เนื่องจากธนาคารไทย ไม่ปล่อยกู้ เพราะกลัวเป็นหนี้เสีย
รถไฟฟ้าราคารถตกไว เวลายึดมาขายทอดตลาดก็คงไม่คุ้ม
ยอดกู้ไม่ผ่านเลยอยู่ที่ราวๆ 20-30%
จีนอยากดันยอดรถไฟฟ้าเลยจะปล่อยสินเชื่อเอง
มีโอกาสเกิดขึ้นหลายอย่าง และมีโอกาสที่การปล่อยกู้จะมีรูปแบบใหม่ๆบางอย่าง เช่น
การดึงข้อมูลการใช้งานจาก platform ต่างๆเช่น grab
เพื่อดูรายจ่ายจากการใช้งาน และรายได้จากการทำงานผ่าน platform
ทำให้เห็นพฤติกรรมมากขึ้น โอกาสอนุมัติกับคนทำงานกลุ่มใหม่ๆมีมากขึ้น
โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ธนาคารของไทยละเลย และไม่สนใจ
ที่น่าสนใจคือรูปแบบการปล่อยกู้ และเรื่อง data privacy ต่างๆ
เอาเงินกู้ก่อน ต่อไปดอกเบี้ยอาจจะไม่คงที่
ปรับมากน้อยตามสภาพรายได้ช่วงนั้นๆ เพราะมี data มากกว่าเดิม
เช่น รายได้ของคนขับ grab หรือขายของออนไลน์ ยอดแต่ละเดือนไม่เท่ากัน
ปรับดอกมากน้อยตามรายได้ สามารถทำได้
หรืออนุมัติเงินกู้ได้ง่ายมากขึ้นจากพฤติกรรม อย่างเช่น
ออกไปขับรถรับงานกี่วันต่อเดือน กี่ชม.ต่อวัน น่าสนใจนะ
หรือจะเป็นการผลักดันโปรโมชั่นการทำงาน ทำงานเท่านั้นเท่านี้ ได้รางวัลลดดอกเท่านั้นเท่านี้
เพราะ platform ได้เงินมากขึ้น ถือว่าถัวๆกันไป
นอกจากนี้จะลดขั้นตอนการซื้อเพราะแบรนด์รถอาจจะมาทำเอง คุยกับแบรนด์โดยตรงได้เลย
แต่ตรงนี้อาจจะต้องดูว่าแบรนด์เก่งกว่าธนาคารไหม
การประเมินเครดิตต่างๆจะเปลี่ยนไปอย่างมาก
นอกจากนี้พฤติกรรมการจับจ่าย อย่างเช่นการจ่ายบิลต่างๆจ่ายตรงไหม
ซื้อของผ่อนจ่ายไหม จ่ายตรงรอบไหม อาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่เอาเข้ามาคำนวนได้
มองไปลึกอีกนิด ไหนๆจะทำ finance แล้ว พ่วงประกันไปด้วยเลยดีไหมนะ
ไหนๆก็พอจะคำนวนความเสี่ยงบางส่วนได้แล้ว รู้ราคาต้นทุนการซ่อมต่างๆแล้ว
พ่วงไปเลยทีเดียวจบ คนซื้อรถก็คำนวนสิ่งต่างๆได้มากขึ้น เลือก option ได้ด้วย
ไหนๆอยากเสกลแล้ว ก็จัดการให้คุ้มการเสกลซะ sample หรือลูกค้ายิ่งมาก
date ยิ่งเยอะ product ก็ยิ่งพัฒนาได้แม่นและดีขึ้น
รวมถึงเวลามีปัญหาลูกค้าก็สะดวก คุยกับแบรนด์รถที่เดียวจบ
แต่ก็เจอปัญหารวมศูนย์กลางอีกแล้ววววว
ประเด็นความเป็นส่วนตัว คือสุดยอดคลาสสิคคคคคค!
อยากสะดวก อยากสบาย ต้องเอาข้อมูลไปแลก
ต้องเอาความเป็นส่วนตัวไปแลก
ที่ตามมาก็คือ เป็นหนี้ง่ายขึ้น
matrix แน่นกว่าเดิม หลุดออกจากระบบ fiat ยากขึ้นอีก
แล้วถ้ารวมร่างกับ CBDC อีกนะ อู้วหูวเลยล่ะตัวเองงงงง
ถ้ามองอีกระดับนึงก็คือจะมีเงินเฟ้อที่ง่ายกว่าเดิมไหมนะ แล้วมันจะเฟ้อที่ไทยหรือที่จี่นวะนั่น
บริษัทจีนแต่ปล่อยกู้ในไทย อั๊ยย่ะ ท่ายาก เพิ่มความซับซ้อนของการเงินเข้าไปอีกรอบ
คิดออกไวไวก็ประมาณนี้ฮะ
#siamstr