เส้นทางสู่ Bitcoin Dev ตอนที่ 0 : บทเรียนปรับพื้นฐาน
บทความชุดนี้ผมคิดว่าจะเขียนแยกเป็นตอน ๆ ตามบทเรียนที่ได้รับจาก Bitcoin FOSS Program ของทาง Chaincode Labs โดยจะมาแชร์การแก้โจทย์ปัญหาตามบททดสอบในแต่ละสัปดาห์
สัปดาห์แรกนี้ผมได้โจยท์มาทั้งหมด 8 ข้อ และการตอบปัญหาทั้งหมดจะใช้ Bash Script เขียนคำสั่งร่วมกับ bitcoin-cli
ในการทำความเข้าใจพื้นฐานของ Bitcoin-Core ระบบการบันทึกบัญชีลง Blockchain การดู/ตรวจสอบ ข้อมูลบน Block รวมถึงพื้นฐานข้อมูลภายใน Block จนถึง Transaction เบื้ิองต้น และในบทความนี้จะควบคุมความรู้ในหนังสือนั้นในบทที่ 1-3 ของหนังสือ Mastering Bitcoin หากท่านต้องการศึกษาเพิ่มเติมให้เข้าใจมากขึ้น แนะนำให้อ่านไปด้วย
ข้อที่ 1: แฮชของบล็อคที่ 654,321 คืออะไร?
ข้อนี้ง่ายมาก ๆ โดยเราจะใช้โปรแกรม bitcoin-cli
จาก bitcoin-core ที่ติดตั้งไว้แล้ว เชื่อมไปยัง RPC server ที่เป็น Full-node ของเรา พร้อมกับคำสั่ง getblockhash
เราสามารถดูได้ว่ามันใช้งานยังไงด้วยการพิมพ์ help
นำหน้าคำสั่ง เราก็จะได้คำอธิบายพร้อมกับตัวอย่างการใช่งานมา
$ bitcoin-cli help getblockhash
getblockhash height
Returns hash of block in best-block-chain at height provided.
Arguments:
1. height (numeric, required) The height index
Result:
"hex" (string) The block hash
Examples:
> bitcoin-cli getblockhash 1000
> curl --user myusername --data-binary '{"jsonrpc": "1.0", "id": "curltest", "method": "getblockhash", "params": [1000]}' -H 'content-type: text/plain;' http://127.0.0.1:8332/
ในโจทย์นี้เราจะใช้เพียงคำสั่งเดียวเท่านั้น มาดูกัน
$ bitcoin-cli getblockhash 654321
000000000000000000058452bbe379ad4364fe8fda68c45e299979b492858095
ผมได้เรียกใช้ bitcoin-cli
พร้อมกับคำสั่ง getblockhash 654321
และได้คำตอบมาว่า 000000000000000000058452bbe379ad4364fe8fda68c45e299979b492858095
นั้นคือแฮชของบล็อคที่ 654,321 นั่นเอง ข้อมูลเหล่านี้เราจะได้ใช้มันในข้อหลัง ๆ ไปข้อต่อไปกัน
ข้อที่ 2: จงพิสูจน์ข้อความนี้ว่าถูกเซนต์โดยที่อยู่นี้ถูกต้องหรือไม่
(true / false) Verify the signature by this address over this message:
address: `1E9YwDtYf9R29ekNAfbV7MvB4LNv7v3fGa`
message: `1E9YwDtYf9R29ekNAfbV7MvB4LNv7v3fGa`
signature: `HCsBcgB+Wcm8kOGMH8IpNeg0H4gjCrlqwDf/GlSXphZGBYxm0QkKEPhh9DTJRp2IDNUhVr0FhP9qCqo2W0recNM=`
ตามโจทย์นี้อาจจะดูงง ๆ ผมจึงไปค้นใน Docs ของ Bitcoin-Core ดูและพบกับคำสั่ง verifymessage
มาลองดูกัน
$ bitcoin-cli help verifymessage
verifymessage "address" "signature" "message"
Verify a signed message.
Arguments:
1. address (string, required) The bitcoin address to use for the signature.
2. signature (string, required) The signature provided by the signer in base 64 encoding (see signmessage).
3. message (string, required) The message that was signed.
Result:
true|false (boolean) If the signature is verified or not.
Examples:
Unlock the wallet for 30 seconds
> bitcoin-cli walletpassphrase "mypassphrase" 30
Create the signature
> bitcoin-cli signmessage "1D1ZrZNe3JUo7ZycKEYQQiQAWd9y54F4XX" "my message"
Verify the signature
> bitcoin-cli verifymessage "1D1ZrZNe3JUo7ZycKEYQQiQAWd9y54F4XX" "signature" "my message"
As a JSON-RPC call
> curl --user myusername --data-binary '{"jsonrpc": "1.0", "id": "curltest", "method": "verifymessage", "params": ["1D1ZrZNe3JUo7ZycKEYQQiQAWd9y54F4XX", "signature", "my message"]}' -H 'content-type: text/plain;' http://127.0.0.1:8332/
สังเกตุว่าคำสั่งนี้ใช้ 3 ตัวแปรตามที่โจทย์ให้มาเป๊ะ ๆ มาลองใช้ดูกัน
address="1E9YwDtYf9R29ekNAfbV7MvB4LNv7v3fGa"
message="1E9YwDtYf9R29ekNAfbV7MvB4LNv7v3fGa"
signature="HCsBcgB+Wcm8kOGMH8IpNeg0H4gjCrlqwDf/GlSXphZGBYxm0QkKEPhh9DTJRp2IDNUhVr0FhP9qCqo2W0recNM="
เริ่มจากการประกาศตัวแปรไว้ตามฉบับสายผู้ใช้ Linux แล้วก็ลองส่งคำสั่งกันเลย
$ bitcoin-cli verifymessage $address $signature $message
false
false
… ตอนแรกก็ยังงง ๆ แต่ข้อนี้คำตอบคือ false จริง ๆ นั่นแหละ อาจจะเพราะคนทำโจทย์ลืมดูว่า message มันซ้ำกับ address อยู่ หรือไม่ก็จงใจ ช่างมัน ไปข้อต่อไปกัน
ข้อที่ 3: บล็อคที่ 123,456 มีจำนวน outputs Transaction ทั้งหมดเท่าไหร่?
ข้อนี้จะไปไวหน่อยเพราะว่าเราไม่จำเป็นต้อง loop เพื่อดูข้อมูล Transaction ในบล็อคเพื่อนับเอา outputs เราสามารถใช้คำสั่ง getblockstats
ได้เลย แล้วใช่ jq
แปลงข้อมูลให้เป็น JSON เพื่อให้เราอ่านได้ง่ายขึ้น
$ bitcoin-cli getblockstats 123456 | jq .
{
"avgfee": 416666,
"avgfeerate": 1261,
"avgtxsize": 330,
"blockhash": "0000000000002917ed80650c6174aac8dfc46f5fe36480aaef682ff6cd83c3ca",
"feerate_percentiles": [
0,
0,
0,
3861,
3891
],
"height": 123456,
"ins": 17,
"maxfee": 1000000,
"maxfeerate": 3891,
"maxtxsize": 618,
"medianfee": 0,
"mediantime": 1305197900,
"mediantxsize": 258,
"minfee": 0,
"minfeerate": 0,
"mintxsize": 257,
"outs": 24,
"subsidy": 5000000000,
"swtotal_size": 0,
"swtotal_weight": 0,
"swtxs": 0,
"time": 1305200806,
"total_out": 16550889992,
"total_size": 3964,
"total_weight": 15856,
"totalfee": 5000000,
"txs": 13,
"utxo_increase": 7,
"utxo_increase_actual": 7,
"utxo_size_inc": 567,
"utxo_size_inc_actual": 567
}
นี่คือข้อมูลเบื้องต้นของบล็อค 123,456 ที่มีรายการ transaction อยู่ 13 รายการ และมี outputs รวม 24 รายการ เราสามารถใช้ jq
แสดงผลเฉพาะข้อมูลที่เราต้องการได้ง่าย ๆ โดยพิมพ์ชื่อข้อมูลที่เราต้องการตามไปหลังจุด .
ข้อนี้สามารถตอบได้เลย
$ bitcoin-cli getblockstats 123456 | jq .outs
24
ข้อที่ 4: จงหา taproot address ลำดับที่ 100 โดยคำนวนจาก xpub ต่อไปนี้
ตัว extended public key หรือ xpub ที่ผมได้มาคือ xpub6Cx5tvq6nACSLJdra1A6WjqTo1SgeUZRFqsX5ysEtVBMwhCCRa4kfgFqaT2o1kwL3esB1PsYr3CUdfRZYfLHJunNWUABKftK2NjHUtzDms2
เอาหล่ะ แล้วจะทำยังไงต่อหล่ะเนี่ย
แล้วผมก็ไปเจอกับคำสั่งนี้ในที่สุด deriveaddresses
ว่าแต่มันใช้ยังไงหว่า
$ bitcoin-cli help deriveaddresses
deriveaddresses "descriptor" ( range )
Derives one or more addresses corresponding to an output descriptor.
Examples of output descriptors are:
pkh(<pubkey>) P2PKH outputs for the given pubkey
wpkh(<pubkey>) Native segwit P2PKH outputs for the given pubkey
sh(multi(<n>,<pubkey>,<pubkey>,...)) P2SH-multisig outputs for the given threshold and pubkeys
raw(<hex script>) Outputs whose scriptPubKey equals the specified hex scripts
tr(<pubkey>,multi_a(<n>,<pubkey>,<pubkey>,...)) P2TR-multisig outputs for the given threshold and pubkeys
In the above, <pubkey> either refers to a fixed public key in hexadecimal notation, or to an xpub/xprv optionally followed by one
or more path elements separated by "/", where "h" represents a hardened child key.
For more information on output descriptors, see the documentation in the doc/descriptors.md file.
Arguments:
1. descriptor (string, required) The descriptor.
2. range (numeric or array, optional) If a ranged descriptor is used, this specifies the end or the range (in [begin,end] notation) to derive.
Result:
[ (json array)
"str", (string) the derived addresses
...
]
Examples:
First three native segwit receive addresses
> bitcoin-cli deriveaddresses "wpkh([d34db33f/84h/0h/0h]xpub6DJ2dNUysrn5Vt36jH2KLBT2i1auw1tTSSomg8PhqNiUtx8QX2SvC9nrHu81fT41fvDUnhMjEzQgXnQjKEu3oaqMSzhSrHMxyyoEAmUHQbY/0/*)#cjjspncu" "[0,2]"
> curl --user myusername --data-binary '{"jsonrpc": "1.0", "id": "curltest", "method": "deriveaddresses", "params": ["wpkh([d34db33f/84h/0h/0h]xpub6DJ2dNUysrn5Vt36jH2KLBT2i1auw1tTSSomg8PhqNiUtx8QX2SvC9nrHu81fT41fvDUnhMjEzQgXnQjKEu3oaqMSzhSrHMxyyoEAmUHQbY/0/*)#cjjspncu", "[0,2]"]}' -H 'content-type: text/plain;' http://127.0.0.1:8332/
อื้อหือ ยิ่งงงไปอิ๊กก เอาวะลองดูตามตัวอย่างของ P2TR ละกัน
$ bitcoin-cli deriveaddresses "tr(xpub6Cx5tvq6nACSLJdra1A6WjqTo1SgeUZRFqsX5ysEtVBMwhCCRa4kfgFqaT2o1kwL3esB1PsYr3CUdfRZYfLHJunNWUABKftK2NjHUtzDms2)"
error code: -5
error message:
Missing checksum
อะ…อ้าว ย้อนกลับไปดูตัวอย่าง และอ่าน Docs ดี ๆ จะพบว่าการ deriveaddresses นั้นจะมีรูปแบบอยู่ เช่น
wpkh([d34db33f/84h/0h/0h]xpub6DJ2dNUysrn5Vt36jH2KLBT2i1auw1tTSSomg8PhqNiUtx8QX2SvC9nrHu81fT41fvDUnhMjEzQgXnQjKEu3oaqMSzhSrHMxyyoEAmUHQbY/0/*)#cjjspncu
- wpkh() นั้นคือรูปแบบของการเข้ารหัส ซึ่งมีหลายอย่างให้ใช้ตามวัตถุประสงค์ อย่าง multisig ก็จะเป็นอีกแบบ
- [d34db33f/84h/0h/0h] ส่วนนี้ึคือ fingerprint จาก pubkey หลักก่อนจะคำนวน xpub ซึ่งโจทย์ข้อนี้ไม่มีให้ และหลังจากศึกษามาก็พบว่ามันไม่จำเป็นสำหรับการสร้าง address แบบ basic ง่าย ๆ
- xpub6DJ2dNUysrn5Vt36jH2KLBT2i1auw1tTSSomg8PhqNiUtx8QX2SvC9nrHu81fT41fvDUnhMjEzQgXnQjKEu3oaqMSzhSrHMxyyoEAmUHQbY ส่วนนี้คืิอ extended public key ซึ่งคำนวนมาจาก pubkey หลักที่คำนวนมาจาก private key หรือ seed ของเราอีกที
- /0/_ คือ path สำหรับระยะการคำนวน address โดยให้มองเป็น /เริ่มต้น/สิ้นสุด เช่น /0/99 หมายถึง เราจะคำนวน address จากตำแหน่งที่ 0 ถึงตำแหน่ง 99 ถ้าใช้ _ คือจะคำนวนกี่ที่อยู่ก็ได้
- #cjjspncu คือ checksum ของ descriptor กระเป๋านี้ และสามารถใช้คำสั่ง
getdescriptorinfo
เพื่อดูข้อมูลได้
เอาหล่ะ มาลองกันใหม่ โดยที่ผมจะ derive ตำแหน่งที่ /100 ที่อยู่เดียวเท่านั้น
$ bitcoin-cli getdescriptorinfo "tr(xpub6Cx5tvq6nACSLJdra1A6WjqTo1SgeUZRFqsX5ysEtVBMwhCCRa4kfgFqaT2o1kwL3esB1PsYr3CUdfRZYfLHJunNWUABKftK2NjHUtzDms2/100)"
{
"checksum": "5p2mg7zx",
"descriptor": "tr(xpub6Cx5tvq6nACSLJdra1A6WjqTo1SgeUZRFqsX5ysEtVBMwhCCRa4kfgFqaT2o1kwL3esB1PsYr3CUdfRZYfLHJunNWUABKftK2NjHUtzDms2/100)#5p2mg7zx",
"hasprivatekeys": false,
"isrange": false,
"issolvable": true
}
ได้แฮะ ลองเอา checksum ที่ได้ไปคำนวนที่อยู่กัน
$ bitcoin-cli deriveaddresses "tr(xpub6Cx5tvq6nACSLJdra1A6WjqTo1SgeUZRFqsX5ysEtVBMwhCCRa4kfgFqaT2o1kwL3esB1PsYr3CUdfRZYfLHJunNWUABKftK2NjHUtzDms2/100)#5p2mg7zx"
[
"bc1p3yrtpvv6czx63h2sxwmeep8q98h94w4288fc4cvrkqephalydfgszgacf9"
]
หลังจากนั้นผมก็ใช้ jq -r .[0]
เพื่อดึงข้อมูลออกจาก JSON array แล้วส่งคำตอบ ผ่านได้ด้วยดี
ข้อที่ 5 สร้าง P2SH multisig address ด้วย public keys 4 ชุดจาก inputs ใน transaction นี้
37d966a263350fe747f1c606b159987545844a493dd38d84b070027a895c4517
ไหนดูซิ transaction นี้เป็นยังไง
$ bitcoin-cli getrawtransaction "37d966a263350fe747f1c606b159987545844a493dd38d84b070027a895c4517" 1
{
"blockhash": "000000000000000000024a848a9451143278f60e4c3e73003da60c7b0ef74b62",
"blocktime": 1701158269,
"confirmations": 7751,
"hash": "e28a0885b6f413e24a89e9c2bac74d4c6f335e17545f0b860da9146caf7ffe39",
"hex": "02000000000104b5f641e80e9065f09b12f3e373072518885d1bd1ddd9298e5b9840de515edac90000000000feffffffd54f8986afbb6ff18572acaee58fa3ad64446dd770ffe9b6a04f798becdafb440000
000000feffffff475e3062b1c3ee87544c29d723866da2b65a1b1a42e6ea4a4fd48d79f83c26c50000000000feffffffa56387352ecc93dfd37648e6ebd4d9effb37ffefcad02eb7b85860c9097cf8090000000000feff
ffff02fa440f00000000001600148070ec3954ecdcbfc210d0117e8d28a19eb8467270947d0000000000160014b5fe46c647353ec9c06374655502094095f0289c0247304402200dd758801b40393f68dad8ab57558803
efcd2b681ee31eb44fb3cfa9666d2bf90220254d34fa4990e23652bf669053c5e16fd2fbb816bed2eeb44c1f1e6e54143e3e012102bbb4ba3f39b5f3258f0014d5e4eab5a6990009e3e1dba6e8eaff10b3832394f70247
304402201694761a5749b6a84f71459c04a44cf9d34a36ae8c9044c3af7a3a5514ef2e64022058f61feb92d6d54b71fdea47e7dfcd20f6a5c12e2fbcb15bc44fe95c73f2e808012103aaf17b1a7b4108f7e5bc4f7d59c2
0f7fb1a72dbc74a9a3d6d1f8488df159c76002473044022014b65c60f65e62d9dac893e404c8de2a007c7c6b74dbac18e454d8374e159759022012453f69112adadf9495fd3fe288aa5ed9e3d836340da06fa1e82c8e09
adef57012103a6d919c76d9117c23570a767450013edf31cf6be7d3b5a881c06a9aa1f2c24ce0247304402203d3b02390803c1d673fa49bd64d4a26fbeb29e3fc152af8f844d776c9409e41302206903a011a04e00a7f4
ec606da4320226d2d393f565702cc58cfcef6dca67f84c01210383d12258e3e294a6d7754336f6b4baef992ec4b91694d3460bcb022b11da8cd2817e0c00",
"locktime": 818817,
"size": 666,
"time": 1701158269,
"txid": "37d966a263350fe747f1c606b159987545844a493dd38d84b070027a895c4517",
"version": 2,
"vin": [
{
"scriptSig": {
"asm": "",
"hex": ""
},
"sequence": 4294967294,
"txid": "c9da5e51de40985b8e29d9ddd11b5d8818250773e3f3129bf065900ee841f6b5",
"txinwitness": [
"304402200dd758801b40393f68dad8ab57558803efcd2b681ee31eb44fb3cfa9666d2bf90220254d34fa4990e23652bf669053c5e16fd2fbb816bed2eeb44c1f1e6e54143e3e01",
"02bbb4ba3f39b5f3258f0014d5e4eab5a6990009e3e1dba6e8eaff10b3832394f7"
],
"vout": 0
},
{
"scriptSig": {
"asm": "",
"hex": ""
},
"sequence": 4294967294,
"txid": "44fbdaec8b794fa0b6e9ff70d76d4464ada38fe5aeac7285f16fbbaf86894fd5",
"txinwitness": [
"304402201694761a5749b6a84f71459c04a44cf9d34a36ae8c9044c3af7a3a5514ef2e64022058f61feb92d6d54b71fdea47e7dfcd20f6a5c12e2fbcb15bc44fe95c73f2e80801",
"03aaf17b1a7b4108f7e5bc4f7d59c20f7fb1a72dbc74a9a3d6d1f8488df159c760"
],
"vout": 0
},
{
"scriptSig": {
"asm": "",
"hex": ""
},
"sequence": 4294967294,
"txid": "c5263cf8798dd44f4aeae6421a1b5ab6a26d8623d7294c5487eec3b162305e47",
"txinwitness": [
"3044022014b65c60f65e62d9dac893e404c8de2a007c7c6b74dbac18e454d8374e159759022012453f69112adadf9495fd3fe288aa5ed9e3d836340da06fa1e82c8e09adef5701",
"03a6d919c76d9117c23570a767450013edf31cf6be7d3b5a881c06a9aa1f2c24ce"
],
"vout": 0
},
{
"scriptSig": {
"asm": "",
"hex": ""
},
"sequence": 4294967294,
"txid": "09f87c09c96058b8b72ed0caefff37fbefd9d4ebe64876d3df93cc2e358763a5",
"txinwitness": [
"304402203d3b02390803c1d673fa49bd64d4a26fbeb29e3fc152af8f844d776c9409e41302206903a011a04e00a7f4ec606da4320226d2d393f565702cc58cfcef6dca67f84c01",
"0383d12258e3e294a6d7754336f6b4baef992ec4b91694d3460bcb022b11da8cd2"
],
"vout": 0
}
],
"vout": [
{
"n": 0,
"scriptPubKey": {
"address": "bc1qspcwcw25anwtlsss6qgharfg5x0ts3njad8uve",
"asm": "0 8070ec3954ecdcbfc210d0117e8d28a19eb84672",
"desc": "addr(bc1qspcwcw25anwtlsss6qgharfg5x0ts3njad8uve)#pzjnvw8p",
"hex": "00148070ec3954ecdcbfc210d0117e8d28a19eb84672",
"type": "witness_v0_keyhash"
},
"value": 0.01000698
},
{
"n": 1,
"scriptPubKey": {
"address": "bc1qkhlyd3j8x5lvnsrrw3j42qsfgz2lq2yu3cs5lr",
"asm": "0 b5fe46c647353ec9c06374655502094095f0289c",
"desc": "addr(bc1qkhlyd3j8x5lvnsrrw3j42qsfgz2lq2yu3cs5lr)#hzcalwww",
"hex": "0014b5fe46c647353ec9c06374655502094095f0289c",
"type": "witness_v0_keyhash"
},
"value": 0.0823
}
],
"vsize": 344,
"weight": 1374
}
เราจำเป็นต้องเรียนรู้เรื่อง Witness program ของ bip-141 เพื่อเข้าใจ scriptPubKey หรือ redeemScript เบื่องต้นเสียก่อน โดยพื้นฐานธุรกรรมแบบ P2WPKH ภายใน txinwitness จะมี signature และ public keys ตามลำดับ เราจะลองใช้ pubkey นี้ในการสร้างกระเป๋า multisig กัน
txinfo=$(bitcoin-cli getrawtransaction "37d966a263350fe747f1c606b159987545844a493dd38d84b070027a895c4517" 1)
ad1=$(echo $txinfo | jq '.vin[0] | .txinwitness[1]')
ad2=$(echo $txinfo | jq '.vin[1] | .txinwitness[1]')
ad3=$(echo $txinfo | jq '.vin[2] | .txinwitness[1]')
ad4=$(echo $txinfo | jq '.vin[3] | .txinwitness[1]')
bitcoin-cli createmultisig 1 ["$ad1","$ad2","$ad3","$ad4"] | jq -r '.address'
3GyWg1CCD3RDpbwCbuk9TTRQptkRfczDz8
ง่ายเลยข้อนี้ ไปข้อต่อไปกัน
ข้อที่ 6: transaction ไหนในบล็อค 257,343 ใช้เงินรางวัลจากการขุดจากบล็อค 256,128?
Which tx in block 257,343 spends the coinbase output of block 256,128?
ข้อนี้ต้องไปหาว่า coinbase output ก็คือเงินรางวัลจากการขุดบล็อคนั้น ๆ รวมกับค่า fee นั่นเอง ซึ่งจะอยู่ในลำดับแรกของบล็อคนั้น ๆ เสมอ เรามาเขียนน Bash Script หา coinbase txid กัน
blockhash=$(bitcoin-cli getblockhash 256128)
tx256=$(bitcoin-cli getblock $blockhash 2)
ด้วยคำสั่ง getblock ตามด้วยแฮชของบล็อค และระดับข้อมูล
โดยที่ระดับ
- จะแสดงข้อมูลบล็อค ไม่มี transaction
- จะแสดงข้อมูล transaction แต่ไม่รวม inputs
- จะแสดงข้อมูลทั้งหมดของบล็อคนั้น ๆ
coinbase_txid=$(echo $tx256 | jq -r '.tx[0].txid')
echo $coinbase_txid
แล้วก็เลือก txid จากข้อมูลแรกมา ซึ่งก็คือ coinbase output ของเรา
611c5a0972d28e421a2308cb2a2adb8f369bb003b96eb04a3ec781bf295b74bc นี่คือ txid ที่เราจะเอาไปหาว่ามันมีใน inputs ไหนของ transaction ไหนใน block 257,343 ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหากเรา loop หากทีละ transaction คงเสียเวลาน่าดู เราลองมาใช้ฟังชั่น select() ของ
jq
กัน
blockhash=$(bitcoin-cli getblockhash 256128)
tx256=$(bitcoin-cli getblock $blockhash 2)
coinbase_txid=$(echo $tx256 | jq -r '.tx[0].txid')
blockhash=$(bitcoin-cli getblockhash 257343)
tx257=$(bitcoin-cli getblock $blockhash 3)
# เลือกข้อมูล transaction
block257tx=$(echo $tx257 | jq -r '.tx')
# ใน .tx นั้นเราจะได้ JSON array ที่มีรายการ transaction เยอะมาก ๆ เราจะเลือกอันเดียวที่มี coinbase txid ใน vin หรือ inputs นั้น ๆ กัน และใช้ jq อีกครั้งเพื่อให้แสดงผลแค่ txid
echo "$block257tx" | jq ".[] | select(.vin[].txid==\"$coinbase_txid\")" | jq -r '.txid'
และนี่คือคำตอบของข้อนี้
c54714cb1373c2e3725261fe201f267280e21350bdf2df505da8483a6a4805fc
ข้อที่ 7: มี UTXO อันนึงที่ไม่เคยถูกใช้งานเลยในบล็อคที่ 123,321 UTXO นั้นคือ address อะไร?
Only one single output remains unspent from block 123,321. What address was it sent to?
ข้อนี้เราจะใช้คำสั่ง gettxout ที่จะ return ข้อมูลของ UTXO ที่ไม่เคยถูกใช้งานให้เรา โดยการ loop ไปทีละ transaction
blockhash=$(bitcoin-cli getblockhash 123321)
blockinfo=$(bitcoin-cli getblock $blockhash 3)
transaction=$(echo $blockinfo | jq '.tx[]')
txid=$(echo $transaction | jq -r '.txid')
for item in $txid; do
bitcoin-cli gettxout "$item" 0 | jq -r '.scriptPubKey.address'
done
1FPDNNmgwEnKuF7GQzSqUcVQdzSRhz4pgX ได้มาแล้วคำตอบของเรา โจทย์ข้อนี้คงผิดแน่ ๆ หากมี UTXO ที่ยังไม่ได้ใช้งานมากกว่า 1 อันเพราะเราสั่งให้แสดงมันทุก transaction เลย! ฮาาา
ข้อที่ 8: public key อะไรที่ใช้เซ็นอันดับแรกใน transaction e5969add849689854ac7f28e45628b89f7454b83e9699e551ce14b6f90c86163
ข้อนี้ค่อนข้างหินเลย ตอนแรกเอาไปเปิดในดูใน mempool พบว่าเป็นธุรกรรมที่ถูก force close lightning channel ซึ่งมันต้องเป็น multisig แน่ ๆ เอาหล่ะ ดูข้อมูลธุรกรรมนี้ก่อนแล้วกัน
bitcoin-cli getrawtransaction "e5969add849689854ac7f28e45628b89f7454b83e9699e551ce14b6f90c86163" 1
{
"blockhash": "0000000000000000000b0e5eec04d784347ef564b3ddb939eca019a66c9cedbe",
"blocktime": 1610254919,
"confirmations": 161208,
"hash": "881d7ab9ad60d6658283dbbad345f6f28491a264cd11d060b4fb4f121851a7f3",
"hex": "020000000001018b1aab3917e6595816c63bf9dd0ebf4303f2b2a23103aee1500282c944affd71000000000000000000010e26000000000000160014c47082b5a49065d85ab65730e8c28bb0b4810b960347
3044022050b45d29a3f2cf098ad0514dff940c78046c377a7e925ded074ad927363dc2dd02207c8a8ca7d099483cf3b50b00366ad2e2771805d6be900097c2c57bc58b4f34a50101014d6321025d524ac7ec6501d018d3
22334f142c7c11aa24b9cffec03161eca35a1e32a71f67029000b2752102ad92d02b7061f520ebb60e932f9743a43fee1db87d2feb1398bf037b3f119fc268ac00000000",
"locktime": 0,
"size": 237,
"time": 1610254919,
"txid": "e5969add849689854ac7f28e45628b89f7454b83e9699e551ce14b6f90c86163",
"version": 2,
"vin": [
{
"scriptSig": {
"asm": "",
"hex": ""
},
"sequence": 0,
"txid": "71fdaf44c9820250e1ae0331a2b2f20343bf0eddf93bc6165859e61739ab1a8b",
"txinwitness": [
"3044022050b45d29a3f2cf098ad0514dff940c78046c377a7e925ded074ad927363dc2dd02207c8a8ca7d099483cf3b50b00366ad2e2771805d6be900097c2c57bc58b4f34a501",
"01",
"6321025d524ac7ec6501d018d322334f142c7c11aa24b9cffec03161eca35a1e32a71f67029000b2752102ad92d02b7061f520ebb60e932f9743a43fee1db87d2feb1398bf037b3f119fc268ac"
],
"vout": 0
}
],
"vout": [
{
"n": 0,
"scriptPubKey": {
"address": "bc1qc3cg9ddyjpjask4k2ucw3s5tkz6gzzukzmg49s",
"asm": "0 c47082b5a49065d85ab65730e8c28bb0b4810b96",
"desc": "addr(bc1qc3cg9ddyjpjask4k2ucw3s5tkz6gzzukzmg49s)#c68e8rrv",
"hex": "0014c47082b5a49065d85ab65730e8c28bb0b4810b96",
"type": "witness_v0_keyhash"
},
"value": 9.742e-05
}
],
"vsize": 121,
"weight": 483
}
เรารู้แล้วว่าข้อมูลจะอยู่ใน txinwitness
ซึ่งอันดับแรก ๆ เป็น signature และอันหลังเป็น public key แต่ว่า มันมีหลาย public key ใช่มะ ในนี้
transaction=$(bitcoin-cli getrawtransaction "e5969add849689854ac7f28e45628b89f7454b83e9699e551ce14b6f90c86163" 1)
scriptpubkey=$(echo $txinfo | jq -r .vin[].txinwitness[2])
echo $scriptpubkey
6321025d524ac7ec6501d018d322334f142c7c11aa24b9cffec03161eca35a1e32a71f67029000b2752102ad92d02b7061f520ebb60e932f9743a43fee1db87d2feb1398bf037b3f119fc268ac เอาหล่ะ เรามาแกะข้อมูลนี้กัน หากเราไปอ่าน bip-143 จะมีรูปแบบตัวอย่างลำดับอยู่ และก็พบว่ามันคืออักษรลำดับที่ 5 ถึง 67 เราต้องใช้ Bash slicing string เพื่อตัดให้เหลือส่วนที่เราต้องการและส่งข้อสอบดู
echo ${scriptpubkey:4:66}
025d524ac7ec6501d018d322334f142c7c11aa24b9cffec03161eca35a1e32a71f