Hipknox on Nostr: สำหรับผม ...
สำหรับผม ถ้าหากว่าเราสามารถตอบคำถาม หรือมีคำตอบให้กับตัวเราเองได้ว่าเพราะอะไรเราจึงเลือกที่จะเชื่อแบบนั้น มันน่าจะเป็นการ verify ให้กับตัวเราเองแล้วนะครับ :)
ไม่มีสิ่งไหนที่ถูกหรือผิด เพราะยังไงแล้ว ความเชื่อมันเป็นเรื่องของปัจเจก เพียงแค่พอมันใหญ่มากพอที่จะกลายเป็นศาสนาที่คนที่มีความเชื่อแบบเดียวกันไปรวมกลุ่มกัน มันเลยมักจะต้องพิสูจน์ความเชื่อต่อผู้ที่ไม่เชื่อ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน เพื่อการสนับสนุนความเชื่อ หรือเพื่อการปกป้องความเชื่อ
คำถามก็คือเราต้องการที่จะพิสูจน์ความเชื่อของเราให้กับตัวเราเอง หรือต้องการที่จะพิสูจน์ความเชื่อของเราเพื่อให้ผู้อื่นยอมรับ
ถ้าเชื่อว่าพระเจ้าไม่มีจริง ต่อตัวเรามันก็แค่พระเจ้าไม่มีจริง (คนอื่นจะคิดยังไงเป็นเรื่องของคนอื่น) ถ้าเชื่อว่าพระเจ้ามีจริง ต่อตัวเราเองมันก็แค่พระเจ้าที่เป็นพระเจ้าของเรา หรือพระเจ้าของเขาที่เรารับเอามาเชื่อ
สุดท้ายแล้วเราเป็นคนที่ได้เลือกรึเปล่า
คนคริสต์มีประสบการณ์ของพระเจ้าผ่านการทรงนำ เช่น พวกเขาคุยกับพระเจ้าผ่านการอธิฐาน และพระเจ้าตอบกลับพวกเขาผ่านการที่พวกเขาอ่านสิ่งที่ถูกเขียนไว้ในพระคัมภีร์
คนพุธมีประสบการณ์ของการเขาถึงความสงบผ่านการทำสมาธิ บางคนอาจบอกกับตัวเองว่าการปฏิบัติการบำเพ็ญนั้นไปถึงขั้นของโสดาบัน บางคนอาจะไปได้ไกลกว่านั้น
ถ้าเราเลือกเชื่อตามคริสต์ เราก็อาจจะต้องอธิฐานต่อพระเจ้าและอ่านไบเบิล เพื่อพิสูจน์ว่าทำแบบนั้นแล้วมันยังจริงอยู่ไหม การทรงนำเกิดขึ้นได้จริงไหม
ถ้าเราเลือกเชื่อตามพุธ เราก็อาจจะต้องรักษาศีลและฝึกสมาธิทำตามสิ่งที่เป็นแบบอย่างอย่างที่พระพุทธเจ้าทำ เพื่อพิสูจน์ว่าเราจะไปจนถึงนิพพานได้ไหม
แต่ถ้าเราเลือกที่จะเชื่อเพราะมีความเชื่อเป็นของตัวเองที่ไม่เหมือนใครเลย มันก็จะมีเพียงเราเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเราเองจะต้องทำยังไง
ไม่รู้ว่าตอบตรงคำถามมั้ยนะครับ, ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ :) ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนกันครับ
ไม่มีสิ่งไหนที่ถูกหรือผิด เพราะยังไงแล้ว ความเชื่อมันเป็นเรื่องของปัจเจก เพียงแค่พอมันใหญ่มากพอที่จะกลายเป็นศาสนาที่คนที่มีความเชื่อแบบเดียวกันไปรวมกลุ่มกัน มันเลยมักจะต้องพิสูจน์ความเชื่อต่อผู้ที่ไม่เชื่อ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน เพื่อการสนับสนุนความเชื่อ หรือเพื่อการปกป้องความเชื่อ
คำถามก็คือเราต้องการที่จะพิสูจน์ความเชื่อของเราให้กับตัวเราเอง หรือต้องการที่จะพิสูจน์ความเชื่อของเราเพื่อให้ผู้อื่นยอมรับ
ถ้าเชื่อว่าพระเจ้าไม่มีจริง ต่อตัวเรามันก็แค่พระเจ้าไม่มีจริง (คนอื่นจะคิดยังไงเป็นเรื่องของคนอื่น) ถ้าเชื่อว่าพระเจ้ามีจริง ต่อตัวเราเองมันก็แค่พระเจ้าที่เป็นพระเจ้าของเรา หรือพระเจ้าของเขาที่เรารับเอามาเชื่อ
สุดท้ายแล้วเราเป็นคนที่ได้เลือกรึเปล่า
คนคริสต์มีประสบการณ์ของพระเจ้าผ่านการทรงนำ เช่น พวกเขาคุยกับพระเจ้าผ่านการอธิฐาน และพระเจ้าตอบกลับพวกเขาผ่านการที่พวกเขาอ่านสิ่งที่ถูกเขียนไว้ในพระคัมภีร์
คนพุธมีประสบการณ์ของการเขาถึงความสงบผ่านการทำสมาธิ บางคนอาจบอกกับตัวเองว่าการปฏิบัติการบำเพ็ญนั้นไปถึงขั้นของโสดาบัน บางคนอาจะไปได้ไกลกว่านั้น
ถ้าเราเลือกเชื่อตามคริสต์ เราก็อาจจะต้องอธิฐานต่อพระเจ้าและอ่านไบเบิล เพื่อพิสูจน์ว่าทำแบบนั้นแล้วมันยังจริงอยู่ไหม การทรงนำเกิดขึ้นได้จริงไหม
ถ้าเราเลือกเชื่อตามพุธ เราก็อาจจะต้องรักษาศีลและฝึกสมาธิทำตามสิ่งที่เป็นแบบอย่างอย่างที่พระพุทธเจ้าทำ เพื่อพิสูจน์ว่าเราจะไปจนถึงนิพพานได้ไหม
แต่ถ้าเราเลือกที่จะเชื่อเพราะมีความเชื่อเป็นของตัวเองที่ไม่เหมือนใครเลย มันก็จะมีเพียงเราเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเราเองจะต้องทำยังไง
ไม่รู้ว่าตอบตรงคำถามมั้ยนะครับ, ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ :) ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนกันครับ