exchthaicrypto on Nostr: 22 พฤศจิกายน 2565 ...
22 พฤศจิกายน 2565
ทำไมโรงเรียนเอกชนได้รับความนิยมมากกว่าโรงเรียนรัฐ
เป้าหมายของการจัดการศึกษา มุ่งเน้นให้ “ผู้เรียน” เป็นคนเก่ง คนดี มีคุณธรรม และ… หลายๆ อย่างที่นักการศึกษาจะนึกขึ้นมาได้ บางทีก็อดนึกสงสัยในระบบการจัดการศึกษาของบ้านเราไม่ได้ว่ามุ่งเน้นไปที่ทิศทางใด ผู้รับบริการจริงๆ คือใครกันแน่ ทั้งหมดทั้งมวลหากจะหาเหตุผลมาเพื่ออธิบาย หลายๆ เรื่อง หลายๆ ครั้ง ที่เราสามารถเข้าใจได้ว่า ต้นเหตุส่วนใหญ่มาจาก เงิน (money) หรือ งบประมาณในการนั้นๆ ก่อนอื่น ต้องเข้าใจก่อนว่า มนุษย์นั้นทำงาน (Proof) เพื่อแลกกับเงินมาหลายร้อยปีแล้ว ทั้งนี้เพราะรัฐได้กำหนดให้เงินสามารถใช้แลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของต่างๆ ซึ่งกันและกันได้ จึงอาจกล่าวได้ว่า มนุษย์ทำงานเพื่อเงิน และเงินนั้นก็มาจากผู้ว่าจ้างหรือผู้จ่ายเงินให้กับเรา อาจเรียกว่า “เราทำงานให้กับผู้จ่ายเงิน” นั่นเอง
ที่นี้ หากเรามองย้อนกลับไปที่ระบบการศึกษา เอาแค่ส่วนย่อยๆ คือ ในโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนของภาครัฐ อันประกอบไปด้วยมนุษย์หรือบุคลากร หลายส่วน เช่น ผู้บริหาร ครู นักการ ภารโรง พ่อค้าแม่ค้า และที่สำคัญ คือ นักเรียน (และผู้ปกครอง) เราจะมาพิจารณาดูว่า ในแต่ละส่วนนั้นทำงานให้กับสิ่งใดกันแน่ แล้วเราจะพบข้อน่าตกใจอย่างหนึ่งว่า ที่เรากล่าวกันว่า โรงเรียนคือสถานที่เพื่อมุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนหรือนักเรียนนั้น จริงๆ กลับไม่ใช่
เริ่มจากผู้บริหาร ครู และนักการภารโรง ที่ได้รับเงินเดือนจากภาครัฐโดยตรง ท่านคงจะเข้าใจได้ง่ายๆ หากพิจารณาจากข้อความในย่อหน้าแรกว่า แสดงว่าคนเหล่านี้ก็ทำงานให้กับผู้จ่ายเงิน ฉะนั้นผู้รับบริการของเขาโดยตรงนั้นไม่ใช่นักเรียน แต่เป็นภาครัฐต่างหาก ซึ่งเขาจะต้องทำให้ภาครัฐพอใจในผลงานของเขา ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจเลย ที่เขาจะทำงานต่างๆ เพื่อเอาใจภาครัฐ เอาใจผู้บริหาร และผู้บริหารก็ทำงานเพื่อเอาใจผู้บริหารในระดับสูงๆ ต่อไป ดังนั้นคำกล่าวที่ว่า นักเรียนคือผู้รับบริการ จึงไม่เป็นความจริง ตัวนักเรียนเองกลับอยู่ล่างสุดของฐานปิระมิด แห่งการศึกษานี้ เรียนตามกรอบแนวทางที่กำหนด อาจครบจบกระบวนการหรือไม่ก็ได้ ความรู้นั้นไม่จำเป็นต้องมีสิ่งใดมาการันตี ความดูแลเอาใจใส่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง อาจจะมีบ้างที่มีสถานศึกษาบางแห่ง ที่เหล่าบุคลากรอาจต้องทำงานมากกว่าการแค่เอาใจผู้จ่ายเงิน แต่จำเป็นต้องเอาใจทางสังคม เนื่องจากได้รับการจับจ้องจากสังคมมากกว่า เช่นโรงเรียนประจำจังหวัด โรงเรียนที่มีชื่อเสียงทางสังคม เป็นต้น แต่ก็ต้องยอมรับกันว่า คุณภาพของนักเรียนในภาครัฐนั้น ส่วนใหญ่ ยังเทียบไม่ได้กับนักเรียนในภาคเอกชน เพราะจริงๆ แล้ว โรงเรียนในภาคเอกชน ผู้รับบริการคือนักเรียนและผู้ปกครองจริงๆ เพราะเป็นผู้จ่ายเงินให้กับทางโรงเรียน โรงเรียนในภาคเอกชน จึงจำเป็นต้นดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้นักเรียนและผู้ปกครอง นั้นพึงพอใจ ซึ่งตรงกันข้ามกับโรงเรียนในภาครัฐนั้น ผู้จ่ายเงินคือรัฐ ส่วนนักเรียนคือส่วนหนึ่งของภาระกิจที่ต้องดำเนินให้เสร็จสิ้นไปในแต่ละปีการศึกษา โดยที่โรงเรียนไม่จำเป็นต้องสนใจว่า จะมีผลตอบรับที่ดีหรือไม่ หรือนักเรียนและผู้ปกครองจะพึงพอใจแค่ไหน
นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่มีเงิน ถึงเลือกที่จะส่งลูกหลานของตน ไปเรียนที่โรงเรียเอกชน หรือโรงเรียนที่มีชื่อเสียง (ทางสังคม ซึ่งมักจะมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาด้วย) เพราะ เมื่อนักเรียนหรือผู้ปกครองเป็นผู้จ่ายเงิน โรงเรียนจึงต้องทำงานเพื่อให้ผู้จ่ายเงินพึงพอใจ ส่วนโรงเรียนอื่นๆ ที่เป็นประเภทเรียนฟรี รัฐสวัสดิการต่างๆ ก็จะได้รับการปฏิบัติอีกแบบหนึ่ง โดยจะเน้นการทำงานไปที่เพื่อให้ผู้จ่ายเงินให้เขาคือรัฐนั้นพึงพอใจ จึงไม่จำเป็นต้องทำงานให้นักเรียน หรือผู้ปกครองพอใจ เพียงแค่ทำงานให้เสร็จภาระกิจไปก็เพียงพอ แล้วเอาเวลาไปทำงานหรือทำภาระกิจเพื่อผู้จ่ายเงินนั้น คือ รัฐ ผู้บริหาร และอื่นๆ
สรุป โรงเรียนรัฐ ประเภทเรียนฟรี นักเรียน ไม่ใช่ผู้รับบริการ เป็นเพียงภาระกิจ ส่วนโรงเรียนที่มีการเรียกเก็บเงิน นักเรียนและผู้ปกครอง คือผู้รับบริการ จึงได้รับการเอาใจใส่เพื่อให้เกิดความพึงพอใจ นั่นเอง
*** (มาเพิ่มเติมบทความ 29 พ.ย. 2565 หลังจากได้ศึกษาหนังสือ fiat standard)
ข้อเสนอแนะ เพื่อแก้ปัญหา มีผู้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาลักษณะนี้ไว้ ในหนังสือ fiat standard ซึ่งเขียนโดย seifedean ammous ซึ่งเขียนเรื่องเกี่ยวกับ fiat education โดยเสนอวิธิแก้ปัญหาคือ ในระบบรัฐสวัสดิการ โครงการเรียนฟรี แทนที่รัฐจะจ่ายให้เงินให้กับโรงเรียนโดยตรง ก็เปลี่ยนไปจ่ายเงินให้กับนักเรียนแทน และให้นักเรียนเลือกเองว่าจะไปเรียนที่ไหนก็ได้ ซึ่งจะทำให้โรงเรียนต่างๆ ต้องปรับตัวและหันมาดำเนินกิจการที่ทำเพื่อนักรียนจริงๆ เพราะหากโรงเรียนใดไม่สามารถสร้างความพึงพอใจให้นักเรียนและผู้ปกครองได้แล้ว ก็จะไม่มีนักเรียนไปเรียน และจะต้องปรับปรุงตนเองในการดำเนินงาน เพื่อให้มีนักเรียนมาเรียนหรือไม่ก็ต้องล่มสลายไปในที่สุด
Exch Thai Crypto
ทำไมโรงเรียนเอกชนได้รับความนิยมมากกว่าโรงเรียนรัฐ
เป้าหมายของการจัดการศึกษา มุ่งเน้นให้ “ผู้เรียน” เป็นคนเก่ง คนดี มีคุณธรรม และ… หลายๆ อย่างที่นักการศึกษาจะนึกขึ้นมาได้ บางทีก็อดนึกสงสัยในระบบการจัดการศึกษาของบ้านเราไม่ได้ว่ามุ่งเน้นไปที่ทิศทางใด ผู้รับบริการจริงๆ คือใครกันแน่ ทั้งหมดทั้งมวลหากจะหาเหตุผลมาเพื่ออธิบาย หลายๆ เรื่อง หลายๆ ครั้ง ที่เราสามารถเข้าใจได้ว่า ต้นเหตุส่วนใหญ่มาจาก เงิน (money) หรือ งบประมาณในการนั้นๆ ก่อนอื่น ต้องเข้าใจก่อนว่า มนุษย์นั้นทำงาน (Proof) เพื่อแลกกับเงินมาหลายร้อยปีแล้ว ทั้งนี้เพราะรัฐได้กำหนดให้เงินสามารถใช้แลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของต่างๆ ซึ่งกันและกันได้ จึงอาจกล่าวได้ว่า มนุษย์ทำงานเพื่อเงิน และเงินนั้นก็มาจากผู้ว่าจ้างหรือผู้จ่ายเงินให้กับเรา อาจเรียกว่า “เราทำงานให้กับผู้จ่ายเงิน” นั่นเอง
ที่นี้ หากเรามองย้อนกลับไปที่ระบบการศึกษา เอาแค่ส่วนย่อยๆ คือ ในโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนของภาครัฐ อันประกอบไปด้วยมนุษย์หรือบุคลากร หลายส่วน เช่น ผู้บริหาร ครู นักการ ภารโรง พ่อค้าแม่ค้า และที่สำคัญ คือ นักเรียน (และผู้ปกครอง) เราจะมาพิจารณาดูว่า ในแต่ละส่วนนั้นทำงานให้กับสิ่งใดกันแน่ แล้วเราจะพบข้อน่าตกใจอย่างหนึ่งว่า ที่เรากล่าวกันว่า โรงเรียนคือสถานที่เพื่อมุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนหรือนักเรียนนั้น จริงๆ กลับไม่ใช่
เริ่มจากผู้บริหาร ครู และนักการภารโรง ที่ได้รับเงินเดือนจากภาครัฐโดยตรง ท่านคงจะเข้าใจได้ง่ายๆ หากพิจารณาจากข้อความในย่อหน้าแรกว่า แสดงว่าคนเหล่านี้ก็ทำงานให้กับผู้จ่ายเงิน ฉะนั้นผู้รับบริการของเขาโดยตรงนั้นไม่ใช่นักเรียน แต่เป็นภาครัฐต่างหาก ซึ่งเขาจะต้องทำให้ภาครัฐพอใจในผลงานของเขา ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจเลย ที่เขาจะทำงานต่างๆ เพื่อเอาใจภาครัฐ เอาใจผู้บริหาร และผู้บริหารก็ทำงานเพื่อเอาใจผู้บริหารในระดับสูงๆ ต่อไป ดังนั้นคำกล่าวที่ว่า นักเรียนคือผู้รับบริการ จึงไม่เป็นความจริง ตัวนักเรียนเองกลับอยู่ล่างสุดของฐานปิระมิด แห่งการศึกษานี้ เรียนตามกรอบแนวทางที่กำหนด อาจครบจบกระบวนการหรือไม่ก็ได้ ความรู้นั้นไม่จำเป็นต้องมีสิ่งใดมาการันตี ความดูแลเอาใจใส่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง อาจจะมีบ้างที่มีสถานศึกษาบางแห่ง ที่เหล่าบุคลากรอาจต้องทำงานมากกว่าการแค่เอาใจผู้จ่ายเงิน แต่จำเป็นต้องเอาใจทางสังคม เนื่องจากได้รับการจับจ้องจากสังคมมากกว่า เช่นโรงเรียนประจำจังหวัด โรงเรียนที่มีชื่อเสียงทางสังคม เป็นต้น แต่ก็ต้องยอมรับกันว่า คุณภาพของนักเรียนในภาครัฐนั้น ส่วนใหญ่ ยังเทียบไม่ได้กับนักเรียนในภาคเอกชน เพราะจริงๆ แล้ว โรงเรียนในภาคเอกชน ผู้รับบริการคือนักเรียนและผู้ปกครองจริงๆ เพราะเป็นผู้จ่ายเงินให้กับทางโรงเรียน โรงเรียนในภาคเอกชน จึงจำเป็นต้นดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้นักเรียนและผู้ปกครอง นั้นพึงพอใจ ซึ่งตรงกันข้ามกับโรงเรียนในภาครัฐนั้น ผู้จ่ายเงินคือรัฐ ส่วนนักเรียนคือส่วนหนึ่งของภาระกิจที่ต้องดำเนินให้เสร็จสิ้นไปในแต่ละปีการศึกษา โดยที่โรงเรียนไม่จำเป็นต้องสนใจว่า จะมีผลตอบรับที่ดีหรือไม่ หรือนักเรียนและผู้ปกครองจะพึงพอใจแค่ไหน
นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่มีเงิน ถึงเลือกที่จะส่งลูกหลานของตน ไปเรียนที่โรงเรียเอกชน หรือโรงเรียนที่มีชื่อเสียง (ทางสังคม ซึ่งมักจะมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาด้วย) เพราะ เมื่อนักเรียนหรือผู้ปกครองเป็นผู้จ่ายเงิน โรงเรียนจึงต้องทำงานเพื่อให้ผู้จ่ายเงินพึงพอใจ ส่วนโรงเรียนอื่นๆ ที่เป็นประเภทเรียนฟรี รัฐสวัสดิการต่างๆ ก็จะได้รับการปฏิบัติอีกแบบหนึ่ง โดยจะเน้นการทำงานไปที่เพื่อให้ผู้จ่ายเงินให้เขาคือรัฐนั้นพึงพอใจ จึงไม่จำเป็นต้องทำงานให้นักเรียน หรือผู้ปกครองพอใจ เพียงแค่ทำงานให้เสร็จภาระกิจไปก็เพียงพอ แล้วเอาเวลาไปทำงานหรือทำภาระกิจเพื่อผู้จ่ายเงินนั้น คือ รัฐ ผู้บริหาร และอื่นๆ
สรุป โรงเรียนรัฐ ประเภทเรียนฟรี นักเรียน ไม่ใช่ผู้รับบริการ เป็นเพียงภาระกิจ ส่วนโรงเรียนที่มีการเรียกเก็บเงิน นักเรียนและผู้ปกครอง คือผู้รับบริการ จึงได้รับการเอาใจใส่เพื่อให้เกิดความพึงพอใจ นั่นเอง
*** (มาเพิ่มเติมบทความ 29 พ.ย. 2565 หลังจากได้ศึกษาหนังสือ fiat standard)
ข้อเสนอแนะ เพื่อแก้ปัญหา มีผู้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาลักษณะนี้ไว้ ในหนังสือ fiat standard ซึ่งเขียนโดย seifedean ammous ซึ่งเขียนเรื่องเกี่ยวกับ fiat education โดยเสนอวิธิแก้ปัญหาคือ ในระบบรัฐสวัสดิการ โครงการเรียนฟรี แทนที่รัฐจะจ่ายให้เงินให้กับโรงเรียนโดยตรง ก็เปลี่ยนไปจ่ายเงินให้กับนักเรียนแทน และให้นักเรียนเลือกเองว่าจะไปเรียนที่ไหนก็ได้ ซึ่งจะทำให้โรงเรียนต่างๆ ต้องปรับตัวและหันมาดำเนินกิจการที่ทำเพื่อนักรียนจริงๆ เพราะหากโรงเรียนใดไม่สามารถสร้างความพึงพอใจให้นักเรียนและผู้ปกครองได้แล้ว ก็จะไม่มีนักเรียนไปเรียน และจะต้องปรับปรุงตนเองในการดำเนินงาน เพื่อให้มีนักเรียนมาเรียนหรือไม่ก็ต้องล่มสลายไปในที่สุด
Exch Thai Crypto