maiakee on Nostr: ...

⚛️ทำไมการทำความเข้าใจความจริงของโลกต้องอิงอภิปรัชญา และบทบาทของปรัชญาในฟิสิกส์ควอนตัม
การทำความเข้าใจความจริงของโลกไม่อาจแยกออกจากอภิปรัชญาได้ แม้แต่ในฟิสิกส์ควอนตัม ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ใช้คณิตศาสตร์และการทดลองเชิงปริมาณ ก็ยังต้องพึ่งพาปรัชญาเพื่อกำหนดกรอบแนวคิด สมมติฐาน และการตีความผลลัพธ์ ปรากฏการณ์ทางควอนตัมแสดงให้เห็นว่าแนวคิดเชิงกลศาสตร์ดั้งเดิมไม่เพียงพอในการอธิบายธรรมชาติ นักฟิสิกส์จึงต้องมีความรู้ข้ามศาสตร์และเชื่อมโยงแนวคิดจากหลายแขนง รวมถึงปรัชญาและจิตวิทยา ซึ่งสอดคล้องกับพุทธพจน์ที่กล่าวถึงสภาวะของ “อนัตตา” (ความไม่มีตัวตน) และ “สุญญตา” (ความว่าง)
⚛️อภิปรัชญากับการทำความเข้าใจความจริงของโลก
อภิปรัชญา (Metaphysics) เป็นสาขาของปรัชญาที่ว่าด้วยธรรมชาติของความจริง ซึ่งครอบคลุมหัวข้อสำคัญ เช่น การดำรงอยู่ (ontology) สาเหตุ (causality) และความเป็นจริง (reality) ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ทุกศาสตร์ล้วนเริ่มต้นจากคำถามเชิงอภิปรัชญา เช่น
• “ความจริงคืออะไร?”
• “สิ่งที่เราเห็นเป็นความจริงหรือเพียงการรับรู้?”
• “สิ่งต่าง ๆ มีอยู่โดยอิสระจากการสังเกตหรือไม่?”
วิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะฟิสิกส์ มีรากฐานมาจากแนวคิดเชิงอภิปรัชญา เช่น อริสโตเติล (Aristotle) เชื่อว่าทุกสิ่งมี “สาเหตุ 4 ประการ” ในขณะที่เดส์การ์ต (Descartes) เสนอแนวคิด “Cogito, ergo sum” (ฉันคิด ฉันจึงมีอยู่) เพื่อพิสูจน์การดำรงอยู่ของตนเอง
แต่เมื่อนักฟิสิกส์เริ่มศึกษาโลกในระดับควอนตัม ก็พบว่าแนวคิดแบบกลศาสตร์ดั้งเดิมไม่สามารถอธิบายพฤติกรรมของอนุภาคได้โดยสมบูรณ์ สิ่งนี้นำไปสู่การตั้งคำถามทางอภิปรัชญาใหม่ ๆ ที่ต้องการการตอบสนองที่ซับซ้อนขึ้น
⚛️ฟิสิกส์ควอนตัม: วิทยาศาสตร์ที่ต้องพึ่งพาปรัชญา
ในฟิสิกส์ดั้งเดิม (Classical Physics) เช่น กลศาสตร์นิวตัน (Newtonian Mechanics) ทุกสิ่งดูเหมือนมีอยู่โดยอิสระและปฏิบัติตามกฎที่แน่นอน นักวิทยาศาสตร์สามารถทำนายอนาคตได้หากทราบสภาวะเริ่มต้นของระบบ แต่ในระดับควอนตัม กฎเกณฑ์เหล่านี้กลับพังทลายลง
1. ปัญหาการสังเกตและบทบาทของจิตใจ
หลักความไม่แน่นอนของไฮเซนแบร์ก (Heisenberg’s Uncertainty Principle) ระบุว่า เราไม่สามารถวัดค่าตำแหน่งและโมเมนตัมของอนุภาคได้พร้อมกันอย่างแม่นยำ และปรากฏการณ์ “การยุบตัวของฟังก์ชันคลื่น” (wave function collapse) ในการทดลองสองช่อง (Double-slit Experiment) ชี้ให้เห็นว่าการสังเกตมีผลต่อพฤติกรรมของอนุภาค คำถามที่เกิดขึ้นคือ:
• “อนุภาคมีอยู่จริงหรือไม่ ก่อนที่เราจะสังเกตมัน?”
• “ความเป็นจริงมีอยู่โดยไม่ขึ้นกับจิตใจหรือไม่?”
แนวคิดเหล่านี้สอดคล้องกับพุทธปรัชญาเรื่อง “สุญญตา” ซึ่งระบุว่าสรรพสิ่งไม่มีตัวตนที่แท้จริง และดำรงอยู่โดยอาศัยปัจจัยอื่น ๆ
พุทธศาสนาเน้นแนวคิดเรื่อง สุญญตา (Śūnyatā) หรือ ความว่าง ซึ่งระบุว่า ไม่มีสิ่งใดมีอยู่โดยตัวมันเอง แต่ดำรงอยู่ด้วยเหตุปัจจัย
“สุญญํ อิทํ อตฺตโต วา โลกํ เปกฺขามิ”
(โลกนี้ว่างเปล่าจากความเป็นตัวตนหรือสิ่งที่เป็นของตน) — พระพุทธเจ้า
ในแง่นี้ โลกของควอนตัมที่พฤติกรรมของอนุภาคขึ้นอยู่กับผู้สังเกต จึงมีลักษณะที่สอดคล้องกับแนวคิดของพุทธศาสนา นั่นคือ “ไม่มีความจริงสัมบูรณ์ที่แยกจากจิต”
นักฟิสิกส์บางคน เช่น ยอห์น วีลเลอร์ (John Wheeler) ถึงกับเสนอแนวคิดว่า “จักรวาลเกิดจากการสังเกต” (Participatory Universe) ซึ่งคล้ายกับมุมมองพุทธที่ว่า โลกไม่มีความจริงแท้ในตัวเอง แต่ดำรงอยู่ตามการรับรู้และปฏิสัมพันธ์ของจิต
2. ปัญหาของความเป็นจริงและพหุจักรวาล (Many Worlds Interpretation)
ฮิวจ์ เอฟเวอเร็ตต์ (Hugh Everett) เสนอแนวคิด “Many Worlds Interpretation” ซึ่งกล่าวว่า ทุกครั้งที่มีการวัดสถานะควอนตัม จักรวาลจะแตกออกเป็นเส้นทางคู่ขนานทั้งหมด สิ่งนี้นำไปสู่คำถามเชิงอภิปรัชญา:
• “ถ้ามีจักรวาลคู่ขนานจริง เราสามารถพิสูจน์การมีอยู่ของมันได้อย่างไร?”
• “ความเป็นจริงเป็นเพียงการซ้อนทับของศักยภาพทั้งหมดหรือไม่?”
แนวคิดนี้มีความคล้ายคลึงกับแนวคิด “อนัตตา” (Anatta) ในพุทธศาสนา ที่ระบุว่า ตัวตนไม่มีอยู่จริงโดยอิสระ และเป็นเพียงกระแสของเหตุและปัจจัย
“น หิ โส อัตตา โย วิปริณามธัมโม”
(สิ่งใดที่แปรเปลี่ยนไป สิ่งนั้นไม่ใช่ตัวตน) — พระพุทธเจ้า
⚛️นักฟิสิกส์ยุคใหม่ต้องเก่งในทุกศาสตร์
ฟิสิกส์ควอนตัมไม่สามารถแยกออกจากสาขาวิชาอื่นได้ นักวิทยาศาสตร์ต้องเข้าใจคณิตศาสตร์ จิตวิทยา ปรัชญา และแม้กระทั่งปรัชญาตะวันออก เพราะแนวคิดของพวกเขากำลังท้าทายขอบเขตของความเป็นจริง นักฟิสิกส์ที่เป็นนักคิดทางปรัชญา เช่น นีลส์ บอร์ (Niels Bohr) และเวอร์เนอร์ ไฮเซนแบร์ก (Werner Heisenberg) ได้รับอิทธิพลจากแนวคิดพุทธและเต๋า
ตัวอย่างของการเชื่อมโยงข้ามศาสตร์ ได้แก่
• คณิตศาสตร์: ใช้ฟังก์ชันคลื่นและเมทริกซ์ในการคำนวณ
• อภิปรัชญา: พิจารณาธรรมชาติของการดำรงอยู่และการสังเกต
• จิตวิทยา: ศึกษาผลของการรับรู้ที่มีต่อความเป็นจริง
• เทคโนโลยี: ประยุกต์แนวคิดควอนตัมในคอมพิวเตอร์ควอนตัมและการเข้ารหัส
การทำความเข้าใจความจริงของโลกต้องอาศัยอภิปรัชญา แม้แต่ฟิสิกส์ควอนตัมซึ่งเป็นศาสตร์ที่เน้นการทดลองก็ยังต้องใช้แนวคิดเชิงปรัชญาเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับธรรมชาติของความเป็นจริง นักฟิสิกส์ควอนตัมยุคใหม่ต้องมีความรอบรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ เพื่อเชื่อมโยงความรู้และเข้าใจโลกในเชิงลึก แนวคิดเช่น “สุญญตา” และ “อนัตตา” ในพุทธศาสนาสามารถช่วยอธิบายปริศนาควอนตัมได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ปรัชญา วิทยาศาสตร์ และศาสนา อาจไม่ได้แยกจากกันอย่างที่เคยเชื่อกันมา
#Siamstr #taoism #พุทธวจนะ #พุทธวจน #nostr #ธรรมะ #พุทธศาสนา #science #quantum