Jarjo on Nostr: ...
เล่าได้ถูกต้องที่สุดละครับลวกพี่
โรคที่เป็นอยู่ หมอบอกว่า เป็นแพ้ภูมิตัวเอง จากประสบการณ์ที่ไปมาหลาย รพ จับตรวจเลือดหมอดูค่าเลือด แล้วก็บอกว่า เป็นแพ้ภูมิตัวเอง
แล้วก็ให้ยาแบบคุมๆ แบบเดียวกัน ในทุก รพ เลยครับ ตอนแรกๆผมก็ยังไม่คิด ถึงผลเสียอะไรจากยามากมาย ที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายของผม ตลอดเวลาของการรักษามาเป็น 10 กว่าปี ตอนนั้นคิดว่า หมอก็คงเข้าใจอะไรมากกว่าเรา เลยทำตามมาเรื่อยๆ
อาการที่เป็นก็ดี3-6 เดือน อาการกำเริบ5-6 เดือน สลับๆกันไป จนมาถึงจุดเปลี่ยนอันหนึ่ง คือ ผมต้องเปลี่ยนยาที่เเรงขึ้น เพราะตัวเก่าที่กินอยู่มันเริ่มส่งผลข้างเคียงกับร่างกายผม (สเตียรอยด์)
หมอเลยเปลี่ยนให้ใหม่บอกว่า อันนี้แรงกว่าเดิม คุมอยู่แน่ แต่ผลข้างเคียงคือ อาจจะเป็นหมันถ้ากินไปนานๆ ได้ยินแบบนั้น ผมก็หลอนเลย ผมยังไม่มีลูก
แล้วก็ถามหมอไปตรงๆเลยว่า มันจะมีวันหายหรือเปล่า หมอก็ตอบมาว่า โรคที่คุณเป็น มันไม่มีงานวิจัยชัดเจนนะ ยาที่ใช้รักษาก็จะคุมๆแบบนี้ละ ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ กำ
ตั้งแต่นั้นผมก็เริ่มเปิดใจหาทางอื่นที่จะให้ร่างกายดีขึ้น ก็มาเจอเพื่อนคนนี้(ปณัย)และน้องๆในกลุ่มกาแฟตอนเช้าละครับ ป้ายยา IF อยู่ช่วงใหญ่ พอทำแล้วก็เริ่มดีขึ้น น้ำหนักเริ่มลงจาก 80กว่าkg มาเป็น 70 กว่าkg
ยาที่กินเกี่ยวกับโรคประจำตัว ผมก็ค่อยๆลองลดลง จนไม่ได้กิน ยาหลักของโรคนานกว่า4-5ปีแล้ว
แล้วก็มาเริ่มลองทำ carnivore ช่วงต้นปีที่ผ่านมา น้ำหนักก็ลงมาจาก 70กว่าkg มาเป็น 60กว่าkg
ผลดีของการทำ IF หรือ carnivore
หรือ ทำผสมกัน
ผมว่ามันทำให้ร่างกายของเรากลับสู่สมดุลของมัน ถ้าร่างกายสมดุล ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา (การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ อันนี้ใช่เลย)
หลังจากผมดีขึ้น ผมเจอเพื่อนคนไหน ลูกค้าที่สนิทคนไหน ที่ถามผมเรื่องทำไมผอมลงเยอะจัง ทำยังไง หรือเพื่อนคนไหนที่ดูทรงจะอ้วนเกินสมดุล ผมก็แชร์ประสบการณ์ส่วนตัวให้เค้าฟัง เพราะไม่อยากให้ใคร ที่มีพฤติกรรมแบบ fiat food แล้วทำให้ร่างกายหลุดสมดุล แล้วปลายทาง มาเป็นโรคแบบที่ผมเจอ มันทรมาน
#siamstr
โรคที่เป็นอยู่ หมอบอกว่า เป็นแพ้ภูมิตัวเอง จากประสบการณ์ที่ไปมาหลาย รพ จับตรวจเลือดหมอดูค่าเลือด แล้วก็บอกว่า เป็นแพ้ภูมิตัวเอง
แล้วก็ให้ยาแบบคุมๆ แบบเดียวกัน ในทุก รพ เลยครับ ตอนแรกๆผมก็ยังไม่คิด ถึงผลเสียอะไรจากยามากมาย ที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายของผม ตลอดเวลาของการรักษามาเป็น 10 กว่าปี ตอนนั้นคิดว่า หมอก็คงเข้าใจอะไรมากกว่าเรา เลยทำตามมาเรื่อยๆ
อาการที่เป็นก็ดี3-6 เดือน อาการกำเริบ5-6 เดือน สลับๆกันไป จนมาถึงจุดเปลี่ยนอันหนึ่ง คือ ผมต้องเปลี่ยนยาที่เเรงขึ้น เพราะตัวเก่าที่กินอยู่มันเริ่มส่งผลข้างเคียงกับร่างกายผม (สเตียรอยด์)
หมอเลยเปลี่ยนให้ใหม่บอกว่า อันนี้แรงกว่าเดิม คุมอยู่แน่ แต่ผลข้างเคียงคือ อาจจะเป็นหมันถ้ากินไปนานๆ ได้ยินแบบนั้น ผมก็หลอนเลย ผมยังไม่มีลูก
แล้วก็ถามหมอไปตรงๆเลยว่า มันจะมีวันหายหรือเปล่า หมอก็ตอบมาว่า โรคที่คุณเป็น มันไม่มีงานวิจัยชัดเจนนะ ยาที่ใช้รักษาก็จะคุมๆแบบนี้ละ ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ กำ
ตั้งแต่นั้นผมก็เริ่มเปิดใจหาทางอื่นที่จะให้ร่างกายดีขึ้น ก็มาเจอเพื่อนคนนี้(ปณัย)และน้องๆในกลุ่มกาแฟตอนเช้าละครับ ป้ายยา IF อยู่ช่วงใหญ่ พอทำแล้วก็เริ่มดีขึ้น น้ำหนักเริ่มลงจาก 80กว่าkg มาเป็น 70 กว่าkg
ยาที่กินเกี่ยวกับโรคประจำตัว ผมก็ค่อยๆลองลดลง จนไม่ได้กิน ยาหลักของโรคนานกว่า4-5ปีแล้ว
แล้วก็มาเริ่มลองทำ carnivore ช่วงต้นปีที่ผ่านมา น้ำหนักก็ลงมาจาก 70กว่าkg มาเป็น 60กว่าkg
ผลดีของการทำ IF หรือ carnivore
หรือ ทำผสมกัน
ผมว่ามันทำให้ร่างกายของเรากลับสู่สมดุลของมัน ถ้าร่างกายสมดุล ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา (การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ อันนี้ใช่เลย)
หลังจากผมดีขึ้น ผมเจอเพื่อนคนไหน ลูกค้าที่สนิทคนไหน ที่ถามผมเรื่องทำไมผอมลงเยอะจัง ทำยังไง หรือเพื่อนคนไหนที่ดูทรงจะอ้วนเกินสมดุล ผมก็แชร์ประสบการณ์ส่วนตัวให้เค้าฟัง เพราะไม่อยากให้ใคร ที่มีพฤติกรรมแบบ fiat food แล้วทำให้ร่างกายหลุดสมดุล แล้วปลายทาง มาเป็นโรคแบบที่ผมเจอ มันทรมาน
#siamstr