Lina Engword on Nostr: ...
กฏหมายอิสลามเกี่ยวข้องกับคริปโตอย่างไร?
สำหรับระบบการเงินอิสลามนั้น เป็นระบบที่ยึดตามหลักการทางศาสนาอิสลามเรียกว่า ‘ชารีอะห์’
โดยมีหนึ่งในหลักสำคัญคือ ห้ามการรับและจ่ายดอกเบี้ย เน้นความเท่าเทียมและจริยธรรมในการทำธุรกรรมทางการเงิน
ซึ่งแทนที่จะใช้ดอกเบี้ย ระบบนี้จะใช้หลักการ แบ่งปันผลกำไรและขาดทุน ระหว่างผู้ให้กู้และผู้กู้ หมายความว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมแบ่งปันผลกำไรที่ได้จากการลงทุน และแบ่งปันความเสี่ยงหากเกิดการขาดทุนร่วมกัน
ทั้งนี้กฎหมายอนุญาตให้ลงทุนในสินค้าต่าง ๆ เช่น หุ้น พันธบัตร และสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นคริปโต อย่างไรก็ตาม คริปโตเคอเรนซีเหล่านี้จะต้องปฏิบัติตามหลักการของการเงินอิสลาม
เพื่อให้สอดคล้องตามหลักการ สินทรัพย์คริปโตจะต้องยึดตามระบบการแบ่งปันผลกำไรและขาดทุน หมายความว่านักลงทุนจะต้องร่วมรับส่วนแบ่งทั้งในด้านกำไรและขาดทุนของธุรกิจ แทนที่จะได้รับผลตอบแทนที่กำหนดตายตัว
เมื่อโทเค็นถูกออกแล้ว จะต้องผ่านการตรวจสอบและรับรองโดยคณะกรรมการกำกับดูแล ก่อนที่นักลงทุนมุสลิมจะสามารถเริ่มซื้อโทเค็นได้ กระบวนการรับรองมักเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบคุณลักษณะและการออกแบบของโทเค็นอย่างละเอียด
สำหรับระบบการเงินอิสลามนั้น เป็นระบบที่ยึดตามหลักการทางศาสนาอิสลามเรียกว่า ‘ชารีอะห์’
โดยมีหนึ่งในหลักสำคัญคือ ห้ามการรับและจ่ายดอกเบี้ย เน้นความเท่าเทียมและจริยธรรมในการทำธุรกรรมทางการเงิน
ซึ่งแทนที่จะใช้ดอกเบี้ย ระบบนี้จะใช้หลักการ แบ่งปันผลกำไรและขาดทุน ระหว่างผู้ให้กู้และผู้กู้ หมายความว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมแบ่งปันผลกำไรที่ได้จากการลงทุน และแบ่งปันความเสี่ยงหากเกิดการขาดทุนร่วมกัน
ทั้งนี้กฎหมายอนุญาตให้ลงทุนในสินค้าต่าง ๆ เช่น หุ้น พันธบัตร และสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นคริปโต อย่างไรก็ตาม คริปโตเคอเรนซีเหล่านี้จะต้องปฏิบัติตามหลักการของการเงินอิสลาม
เพื่อให้สอดคล้องตามหลักการ สินทรัพย์คริปโตจะต้องยึดตามระบบการแบ่งปันผลกำไรและขาดทุน หมายความว่านักลงทุนจะต้องร่วมรับส่วนแบ่งทั้งในด้านกำไรและขาดทุนของธุรกิจ แทนที่จะได้รับผลตอบแทนที่กำหนดตายตัว
เมื่อโทเค็นถูกออกแล้ว จะต้องผ่านการตรวจสอบและรับรองโดยคณะกรรมการกำกับดูแล ก่อนที่นักลงทุนมุสลิมจะสามารถเริ่มซื้อโทเค็นได้ กระบวนการรับรองมักเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบคุณลักษณะและการออกแบบของโทเค็นอย่างละเอียด