Libertarian.realpolitik on Nostr: นักปฏิวัติหลังคีย์บอร์ด ...
นักปฏิวัติหลังคีย์บอร์ด (Behind-the-Keyboard Revolutionists)
.
โดย HoppeanismBoy
.
ถ้าคุณเป็นคนรุ่นมิลเลนเนียล (Millennials) ที่ใช้ชีวิตอยู่ในแวดวงการเมืองออนไลน์และแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่มีอยู่เช่น เฟซบุ๊ก หรือ ทวิตเตอร์ หรืออื่น ๆ แล้วบางทีคุณอาจจะเคยได้ยินคำแสลงที่ในหมู่พวกนักถกเถียงในโลกออนไลน์ชอบใช้กันนั้นคือ “ออกไปแตะหญ้าบ้างนะ” คำแสลงนี้มีความหมายถึงการที่ให้เราเลิกเล่นอินเตอร์เน็ตแล้วหัดออกไปใช้ชีวิตกับโลกภายนอกบ้าง ถึงแม้ว่าคำนี้อาจดูคำเสียดสีเอาไว้ประชดประชันกัน แต่ถ้าเราลองพิจารณาดี ๆ แล้ว คำนี้มันก็ได้สะท้อนความเข้าใจแบบผิด ๆ ของเราเกี่ยวกับอิทธิพล หรือ ความคิดของเราที่มักจะดูเหมือนว่าเราเข้าใจมันผิดเกี่ยวกับอิทธิพลของมันในโลกออนไลน์ เราชอบที่จะคิดว่าการกระทำอะไรบางอย่างของเราในโลกออนไลน์จะสร้างผลกระทบเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกความจริงเป็นได้ เรามีจินตนาการที่ผิด ๆ เกี่ยวกับการปฏิวัติที่เริ่มจากในโลกออนไลน์ ตั้งแต่อาหรับสปริงไปจนถึงการปฏิวัติฮ่องกง เราเห็นภาพคนหนุ่มสาวจำนวนมากเป็นหมืน เป็นแสน หรือเป็นล้าน ออกมาชุมนุมกันโดยไม่ได้นัดหมายเพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม เราเรียกสิ่งเหล่านั้นการชุมนุมแบบไม่มีศูนย์กลางหรือไม่มีแกนนำและพวกเราหวังว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงแบบนั้นด้วยการโต้เถียงกับผู้ใช้บัญชีคนอื่น ๆ ในโลกออนไลน์ที่อาจจะไม่มีตัวตนอยู่จริงเสียด้วยซ้ำ เพื่อหวังว่าจะเปลี่ยนใจพวกเขาเหล่านี้ให้มาเห็นด้วยกับความคิดของเรา บ้างก็ร่วมลงชื่อออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอย่างเว็บไซต์ change.org ฯลฯ เพื่อร่วมผลักดันวาระอะไรบางอย่างและหวังว่าความคิดเหล่านี้ของคุณจะถูกตอบรับโดยผู้มีอำนาจ แต่เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปคุณจะค้นพบว่าท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างที่คุณทำไม่ได้เปลี่ยนความจริง รองเท้าบูทก็ยังคงกดหน้าคุณให้จมอยู่ลงดินเหมือนเดิมและเครือข่ายในโลกออนไลน์ดังกล่าวของคุณก็ไร้ความหมาย ไม่มีใครช่วยคุณได้อย่างจริงจังเมื่อคุณต้องเผชิญหน้ากับการไล่ออกจากงาน หรือ การจับกุมคุมขัง นอกจากคอมเมนท์ที่ทั้งให้กำลังใจและด่าคุณ รวมไปถึงยอกดไลก์ ยอดกดแชร์ มันมีเพียงเท่านั้นจริง ๆ
.
เมื่อพูดถึง “อินเตอร์เน็ต” (internet) ผมขอพูดอย่างหยาบคายต่อเรื่องนี้ เพราะคนในยุคของเราชอบคิดหรือให้คุณค่ากับโลกแห่งนี้เสมือนว่ามันเป็นโลกแห่งความจริง ทั้งที่ในความจริงที่แห่งนี้เป็นเหมือนกับ “โถ่ฉี่ขนาดใหญ่ เป็นมหาสมุทรแห่งเยี่ยว” ที่ให้ทุกคนได้มาระบายหรือสำเร็จความใคร่เพื่อหลบหนีออกจากโลกความเป็นจริงที่โหดร้าย หลบหนีจากความจริงที่ว่าแรงปรารถนาของคุณไม่อาจถูกเติมเต็ม แล้วมันยิ่งทำให้คุณทุกข์ทรมานหนักเข้าไปอีก เพราะคุณไม่สามารถแม้แต่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้แม้แต่ความคิดของผู้บัญชีคนอื่น ๆ ในโลกแห่งนี้ รวมทั้งบางทีคุณอาจถูกโจมตีจากผู้ใช้บัญชีเหล่านี้เองด้วย คุณยอมรับไม่ได้ว่าคุณเป็นเพียงแค่กระเจี๊ยวที่ฉี่ลงไปในมหาสมุทรแห่งนี้และเสียงฉี่ของคุณก็ไม่ได้สั่นสะเทือนไปทั้งมหาสมุทรแห่งฉี่ในโลกนี้แบบที่คุณคิดไว้เลย อีกทั้งคุณก็เสียใจกับมัน เพราะมันตอกย้ำว่าคุณทำอะไรไม่ได้ คุณเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ชีวิตของคุณช่างน่าอดสูยิ่งนัก … แล้วคุณก็รอคอยว่าวันหนึ่งจะมีฮีโร่ขี่ม้าขาวออกมาเพื่อผดุงความยุติธรรม มานำการปฏิวัติ คุณเฝ้าฝันรอคอยพระมหากัลกี (อวตารองค์ที่ 10 ของพระวิษณุเทพในศาสนาฮินดูและเป็นผู้ปลดปล่อยตามความเชื่อของพุทธศาสนานิกายวัชรยาน ข้าพเจ้ากำลังอุปมาอุปมัยถึงความคิดเพ้อเจ้อที่รอให้ทุกสิ่งเป็นไปตามโชคชะตา) ลงมาโปรดและขับไล่ความชั่วร้ายออกไปและคืนความสงบสันติให้โลกนี้ พวกคุณชอบบอกว่า “จะรอก่อน” หรือ “เมื่อถึงเวลาเมื่อไหร่คุณจะเข้าร่วม” สำหรับมุมมองผู้เขียนเมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้แล้วผมกล่าวได้ว่าสถานการณ์เช่นนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้น ไม่ว่าอย่างไรวันนั้นมันก็จะไม่มีวันมาถึง ท้ายสุดระบอบเผด็จการหัวก้าวหน้า (Progressive Dictatorship) พวกลัทธิโว้ค (Wokeism) ลัทธิคอมมิวนิสต์แบบใหม่ (New Left) จะมีชัยเพราะอะไรรู้ไหม? เพราะว่าพวกคุณไม่เลือกจะทำอะไรเลย คุณนิ่งเฉยกับเรื่องดังกล่าว เหมือนกับที่พวกชนชั้นสูงและประชาชนชาวโรมันโบราณนิ่งเฉยต่อการขยายตัวของศาสนาคริสต์จนท้ายที่สุดมันก็ได้นำไปสู่การล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน พวกคุณไม่มีความเชื่อมั่นว่าตัวคุณเองเป็นฮีโร่ของตัวคุณเองและคุณหวาดกลัวเกินไปที่จะยอมเสียสละชีวิตอันสะดวกสบายเพื่อเดินไปบนเส้นทางแห่งการต่อสู้หรือนักรบ พวกคุณเลือกที่จะใช้เหตุผลและตรรกะนำทาง ทั้งที่ในความจริงฝ่ายตรงข้ามของพวกคุณ คนที่พวกคุณเกลียด หรือเห็นว่าชั่วร้ายนั้นไม่เคยคิดแม้แต่จะใช้เหตุผลตั้งแต่แรกกับพวกคุณ เพราะพวกเขาเข้าใจการเมืองอย่างถ่องแท้ดีว่ามีเพียงแค่ผู้ที่กุมอำนาจของปืนหรือผู้ที่ได้รับอำนาจจากรัฐเท่านั้นที่กำหนดความเป็นไปของสังคมโดยรวม ไม่ใช่พวกที่ใช้เหตุผล
.
ดั่งเช่นที่เคยมีนักปรัชญาชาวเยอรมัน ออสวอลด์ สเปงเลอร์ (Oswald Spengler) เคยกล่าวไว้ “อำนาจไม่เคยถูกล้มด้วยเหตุผล อำนาจนั้นถูกล้มได้แค่เพียงด้วยอำนาจเท่านั้น และไม่มีอะไรเอาชนะอำนาจของเงินได้นอกจากอำนาจของดาบ” เมื่อท่านได้อ่านและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วท่านก็คงจะเข้าใจความหมายที่จะสื่อ ท่านก็จะเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงและการต่อสู้ใด ๆ ก็ย่อมเป็นไปเพื่อการยึดกุมอำนาจสูงสุดเพื่อสร้างความเป็นสถาบันให้กับอุดมการณ์หรือแนวทางที่ต้องดำเนินการ นั้นหมายถึงการที่คุณต้เองทำทุกวิธีทางเพื่อจะได้มีอำนาจ ขึ้นไปอยู่ทุกจุดสูงสุดของสถาบันทางสังคมที่มีอยู่ สื่อ ระบบราชการ โรงเรียน มหาวิทยาลัย แต่การกระทำที่ประสบผลสำเร็จมากที่สุดในการเคลื่อนไหวนั้นคือการกระทำแบบออฟไลน์ นั้นคือการนำการเคลื่อนไหวมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีหนทางอื่นนอกจากนี้ มันคืออุปสรรคก้าวแรกที่คุณต้องก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้ “เลิกใช้ชีวิตกับสังคมอนาธิปไตยทุนนิยมในหัวเสีย” แล้วออกมาทำอะไรสักอย่างเพราะมันคือความรับผิดชอบของคุณเพราะมันคือเสรีภาพของคุณ เมื่อคุณก้าวข้ามผ่านสิ่งนั้นสิ่งที่คุณต้องเลือกต่อมาคือ “การเข้าร่วมกับชุนชนแห่งการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีแบบแผนระเบียบอย่างชัดเจน” ซึ่งเราไม่รังเกียจที่เราจะเสนอว่าตัวเราเองเป็นขบวนการเคลื่อนไหวที่มีลักษณะดังกล่าวนั้น เรามียุทธศาสตร์การดำเนินการทั้งหมดของเรา เราความชัดเจนกับแนวทางของเรา
.
เราไม่อาจบังคับให้ทุกคนหรือทุกท่านเสียสละได้ การเสียสละมันหมายถึงการที่ใครสักคนพยายามทำอะไรสักอย่างเพื่อทำให้ชีวิตของตัวเขาเองมีความหมายต่อบางสิ่ง หรือ การเชิดชูบางสิ่งเหนือกว่าตนเอง เช่นเดียวกับ ทหารที่เสียสละชีวิตเพื่อบูชาแก่ประเทศของเขา คนของเขา หน่วยของเขา หรือครอบครัวของเขา เช่นเดียวกับพวกนักรบญี่ปุ่นโบราณอย่างพวกซามูไรที่อุทิศชีวิตของตนเองแก่เจ้านายของตนเอง แม้แต่ตัวผู้เขียนเองหรือใครหลายคนก็ต้องยอมเสียสละบางอย่างไป เพราะเราสละตนเองเพื่อความเชื่อที่ว่าโลกนี้ดีขึ้นได้ไม่ใช่เพราะเรารอคอยโชคชะตา แต่โลกนี้ดีขึ้นได้เพราะสองมือของเรา เราสามารถทำให้โลกนี้มีความหมายได้แก่เรา เราไม่อาจรู้ได้ว่าปลายทางจะเป็นอย่างไร แต่เช่นเดียวกับที่สุภาษิตจีนเคยกล่าวไว้ “หากขุนเขายังอยู่ไม่กลัวไร้ฝืน ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่เราก็สามารถทำให้โลกนี้ดีขึ้นกว่าเดิมได้” มันอยู่ที่การกระทำของเราเท่านั้น
.
***********************************************
"ถ้าคุณเกลียดแนวคิดสังคมนิยมคุณควรเข้าร่วมกับเรา"
ลงทะเบียนสมัครสมาชิก https://forms.gle/6a2rx8vuqiBYmbvq9
***********************************************
.
โดย HoppeanismBoy
.
ถ้าคุณเป็นคนรุ่นมิลเลนเนียล (Millennials) ที่ใช้ชีวิตอยู่ในแวดวงการเมืองออนไลน์และแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่มีอยู่เช่น เฟซบุ๊ก หรือ ทวิตเตอร์ หรืออื่น ๆ แล้วบางทีคุณอาจจะเคยได้ยินคำแสลงที่ในหมู่พวกนักถกเถียงในโลกออนไลน์ชอบใช้กันนั้นคือ “ออกไปแตะหญ้าบ้างนะ” คำแสลงนี้มีความหมายถึงการที่ให้เราเลิกเล่นอินเตอร์เน็ตแล้วหัดออกไปใช้ชีวิตกับโลกภายนอกบ้าง ถึงแม้ว่าคำนี้อาจดูคำเสียดสีเอาไว้ประชดประชันกัน แต่ถ้าเราลองพิจารณาดี ๆ แล้ว คำนี้มันก็ได้สะท้อนความเข้าใจแบบผิด ๆ ของเราเกี่ยวกับอิทธิพล หรือ ความคิดของเราที่มักจะดูเหมือนว่าเราเข้าใจมันผิดเกี่ยวกับอิทธิพลของมันในโลกออนไลน์ เราชอบที่จะคิดว่าการกระทำอะไรบางอย่างของเราในโลกออนไลน์จะสร้างผลกระทบเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกความจริงเป็นได้ เรามีจินตนาการที่ผิด ๆ เกี่ยวกับการปฏิวัติที่เริ่มจากในโลกออนไลน์ ตั้งแต่อาหรับสปริงไปจนถึงการปฏิวัติฮ่องกง เราเห็นภาพคนหนุ่มสาวจำนวนมากเป็นหมืน เป็นแสน หรือเป็นล้าน ออกมาชุมนุมกันโดยไม่ได้นัดหมายเพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม เราเรียกสิ่งเหล่านั้นการชุมนุมแบบไม่มีศูนย์กลางหรือไม่มีแกนนำและพวกเราหวังว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงแบบนั้นด้วยการโต้เถียงกับผู้ใช้บัญชีคนอื่น ๆ ในโลกออนไลน์ที่อาจจะไม่มีตัวตนอยู่จริงเสียด้วยซ้ำ เพื่อหวังว่าจะเปลี่ยนใจพวกเขาเหล่านี้ให้มาเห็นด้วยกับความคิดของเรา บ้างก็ร่วมลงชื่อออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอย่างเว็บไซต์ change.org ฯลฯ เพื่อร่วมผลักดันวาระอะไรบางอย่างและหวังว่าความคิดเหล่านี้ของคุณจะถูกตอบรับโดยผู้มีอำนาจ แต่เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปคุณจะค้นพบว่าท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างที่คุณทำไม่ได้เปลี่ยนความจริง รองเท้าบูทก็ยังคงกดหน้าคุณให้จมอยู่ลงดินเหมือนเดิมและเครือข่ายในโลกออนไลน์ดังกล่าวของคุณก็ไร้ความหมาย ไม่มีใครช่วยคุณได้อย่างจริงจังเมื่อคุณต้องเผชิญหน้ากับการไล่ออกจากงาน หรือ การจับกุมคุมขัง นอกจากคอมเมนท์ที่ทั้งให้กำลังใจและด่าคุณ รวมไปถึงยอกดไลก์ ยอดกดแชร์ มันมีเพียงเท่านั้นจริง ๆ
.
เมื่อพูดถึง “อินเตอร์เน็ต” (internet) ผมขอพูดอย่างหยาบคายต่อเรื่องนี้ เพราะคนในยุคของเราชอบคิดหรือให้คุณค่ากับโลกแห่งนี้เสมือนว่ามันเป็นโลกแห่งความจริง ทั้งที่ในความจริงที่แห่งนี้เป็นเหมือนกับ “โถ่ฉี่ขนาดใหญ่ เป็นมหาสมุทรแห่งเยี่ยว” ที่ให้ทุกคนได้มาระบายหรือสำเร็จความใคร่เพื่อหลบหนีออกจากโลกความเป็นจริงที่โหดร้าย หลบหนีจากความจริงที่ว่าแรงปรารถนาของคุณไม่อาจถูกเติมเต็ม แล้วมันยิ่งทำให้คุณทุกข์ทรมานหนักเข้าไปอีก เพราะคุณไม่สามารถแม้แต่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้แม้แต่ความคิดของผู้บัญชีคนอื่น ๆ ในโลกแห่งนี้ รวมทั้งบางทีคุณอาจถูกโจมตีจากผู้ใช้บัญชีเหล่านี้เองด้วย คุณยอมรับไม่ได้ว่าคุณเป็นเพียงแค่กระเจี๊ยวที่ฉี่ลงไปในมหาสมุทรแห่งนี้และเสียงฉี่ของคุณก็ไม่ได้สั่นสะเทือนไปทั้งมหาสมุทรแห่งฉี่ในโลกนี้แบบที่คุณคิดไว้เลย อีกทั้งคุณก็เสียใจกับมัน เพราะมันตอกย้ำว่าคุณทำอะไรไม่ได้ คุณเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ชีวิตของคุณช่างน่าอดสูยิ่งนัก … แล้วคุณก็รอคอยว่าวันหนึ่งจะมีฮีโร่ขี่ม้าขาวออกมาเพื่อผดุงความยุติธรรม มานำการปฏิวัติ คุณเฝ้าฝันรอคอยพระมหากัลกี (อวตารองค์ที่ 10 ของพระวิษณุเทพในศาสนาฮินดูและเป็นผู้ปลดปล่อยตามความเชื่อของพุทธศาสนานิกายวัชรยาน ข้าพเจ้ากำลังอุปมาอุปมัยถึงความคิดเพ้อเจ้อที่รอให้ทุกสิ่งเป็นไปตามโชคชะตา) ลงมาโปรดและขับไล่ความชั่วร้ายออกไปและคืนความสงบสันติให้โลกนี้ พวกคุณชอบบอกว่า “จะรอก่อน” หรือ “เมื่อถึงเวลาเมื่อไหร่คุณจะเข้าร่วม” สำหรับมุมมองผู้เขียนเมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้แล้วผมกล่าวได้ว่าสถานการณ์เช่นนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้น ไม่ว่าอย่างไรวันนั้นมันก็จะไม่มีวันมาถึง ท้ายสุดระบอบเผด็จการหัวก้าวหน้า (Progressive Dictatorship) พวกลัทธิโว้ค (Wokeism) ลัทธิคอมมิวนิสต์แบบใหม่ (New Left) จะมีชัยเพราะอะไรรู้ไหม? เพราะว่าพวกคุณไม่เลือกจะทำอะไรเลย คุณนิ่งเฉยกับเรื่องดังกล่าว เหมือนกับที่พวกชนชั้นสูงและประชาชนชาวโรมันโบราณนิ่งเฉยต่อการขยายตัวของศาสนาคริสต์จนท้ายที่สุดมันก็ได้นำไปสู่การล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน พวกคุณไม่มีความเชื่อมั่นว่าตัวคุณเองเป็นฮีโร่ของตัวคุณเองและคุณหวาดกลัวเกินไปที่จะยอมเสียสละชีวิตอันสะดวกสบายเพื่อเดินไปบนเส้นทางแห่งการต่อสู้หรือนักรบ พวกคุณเลือกที่จะใช้เหตุผลและตรรกะนำทาง ทั้งที่ในความจริงฝ่ายตรงข้ามของพวกคุณ คนที่พวกคุณเกลียด หรือเห็นว่าชั่วร้ายนั้นไม่เคยคิดแม้แต่จะใช้เหตุผลตั้งแต่แรกกับพวกคุณ เพราะพวกเขาเข้าใจการเมืองอย่างถ่องแท้ดีว่ามีเพียงแค่ผู้ที่กุมอำนาจของปืนหรือผู้ที่ได้รับอำนาจจากรัฐเท่านั้นที่กำหนดความเป็นไปของสังคมโดยรวม ไม่ใช่พวกที่ใช้เหตุผล
.
ดั่งเช่นที่เคยมีนักปรัชญาชาวเยอรมัน ออสวอลด์ สเปงเลอร์ (Oswald Spengler) เคยกล่าวไว้ “อำนาจไม่เคยถูกล้มด้วยเหตุผล อำนาจนั้นถูกล้มได้แค่เพียงด้วยอำนาจเท่านั้น และไม่มีอะไรเอาชนะอำนาจของเงินได้นอกจากอำนาจของดาบ” เมื่อท่านได้อ่านและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วท่านก็คงจะเข้าใจความหมายที่จะสื่อ ท่านก็จะเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงและการต่อสู้ใด ๆ ก็ย่อมเป็นไปเพื่อการยึดกุมอำนาจสูงสุดเพื่อสร้างความเป็นสถาบันให้กับอุดมการณ์หรือแนวทางที่ต้องดำเนินการ นั้นหมายถึงการที่คุณต้เองทำทุกวิธีทางเพื่อจะได้มีอำนาจ ขึ้นไปอยู่ทุกจุดสูงสุดของสถาบันทางสังคมที่มีอยู่ สื่อ ระบบราชการ โรงเรียน มหาวิทยาลัย แต่การกระทำที่ประสบผลสำเร็จมากที่สุดในการเคลื่อนไหวนั้นคือการกระทำแบบออฟไลน์ นั้นคือการนำการเคลื่อนไหวมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีหนทางอื่นนอกจากนี้ มันคืออุปสรรคก้าวแรกที่คุณต้องก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้ “เลิกใช้ชีวิตกับสังคมอนาธิปไตยทุนนิยมในหัวเสีย” แล้วออกมาทำอะไรสักอย่างเพราะมันคือความรับผิดชอบของคุณเพราะมันคือเสรีภาพของคุณ เมื่อคุณก้าวข้ามผ่านสิ่งนั้นสิ่งที่คุณต้องเลือกต่อมาคือ “การเข้าร่วมกับชุนชนแห่งการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีแบบแผนระเบียบอย่างชัดเจน” ซึ่งเราไม่รังเกียจที่เราจะเสนอว่าตัวเราเองเป็นขบวนการเคลื่อนไหวที่มีลักษณะดังกล่าวนั้น เรามียุทธศาสตร์การดำเนินการทั้งหมดของเรา เราความชัดเจนกับแนวทางของเรา
.
เราไม่อาจบังคับให้ทุกคนหรือทุกท่านเสียสละได้ การเสียสละมันหมายถึงการที่ใครสักคนพยายามทำอะไรสักอย่างเพื่อทำให้ชีวิตของตัวเขาเองมีความหมายต่อบางสิ่ง หรือ การเชิดชูบางสิ่งเหนือกว่าตนเอง เช่นเดียวกับ ทหารที่เสียสละชีวิตเพื่อบูชาแก่ประเทศของเขา คนของเขา หน่วยของเขา หรือครอบครัวของเขา เช่นเดียวกับพวกนักรบญี่ปุ่นโบราณอย่างพวกซามูไรที่อุทิศชีวิตของตนเองแก่เจ้านายของตนเอง แม้แต่ตัวผู้เขียนเองหรือใครหลายคนก็ต้องยอมเสียสละบางอย่างไป เพราะเราสละตนเองเพื่อความเชื่อที่ว่าโลกนี้ดีขึ้นได้ไม่ใช่เพราะเรารอคอยโชคชะตา แต่โลกนี้ดีขึ้นได้เพราะสองมือของเรา เราสามารถทำให้โลกนี้มีความหมายได้แก่เรา เราไม่อาจรู้ได้ว่าปลายทางจะเป็นอย่างไร แต่เช่นเดียวกับที่สุภาษิตจีนเคยกล่าวไว้ “หากขุนเขายังอยู่ไม่กลัวไร้ฝืน ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่เราก็สามารถทำให้โลกนี้ดีขึ้นกว่าเดิมได้” มันอยู่ที่การกระทำของเราเท่านั้น
.
***********************************************
"ถ้าคุณเกลียดแนวคิดสังคมนิยมคุณควรเข้าร่วมกับเรา"
ลงทะเบียนสมัครสมาชิก https://forms.gle/6a2rx8vuqiBYmbvq9
***********************************************