Jingjo on Nostr: ## นับ 1 ...
## นับ 1
ย้อนกลับไปวันนี้เมื่อปีที่แล้ว ถ้ามีใครมาบอกว่าผมกำลังจะมีชื่อแปะหราอยู่บนหน้าปกของหนึ่งในหนังสือที่ดีที่สุดที่มนุษย์เคยเขียนกันขึ้นมา ผมคงบอกเขาว่า "มึงจะบ้ารึเปล่า?"
กดฟาสต์ฟอร์เวิร์ดมาวันนี้ วินาทีนี้ วันที่รูปเล่มแล้วเสร็จพร้อมให้พรีออเดอร์ ผมก็ยังงง ๆ ไม่ค่อยเชื่อว่ามันเกิดขึ้นแล้วจริง ๆ ผมยังจำความรู้สึกของวันเดินออกจากคณะสถาปัตฯ มธ. หลังจากเข้าไปส่งเล่มวิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่เพิ่งพ่นออกจากแท่นพิมพ์แบบกรุ่น ๆ ได้เป็นอย่างดี บ่ายวันนั้นผมเดินพ้นชายคาตึกคณะด้วยความรู้สึกงง ๆ โหวง ๆ มีแต่ความว่างเปล่าในใจ ได้แต่ถามกับตัวเองว่า "นี่เหรอการเรียนจบ แล้วไงต่อวะ?" แล้วผมก็ไม่เคยได้ทำงานจริง ๆ จัง ๆ เกี่ยวกับสาขาวิชาที่พ่อแม่เสียเงินมหาศาลส่งเสียตลอดช่วง 6 ปีอันผ่านไปราวพริบตานั่นเลย ราวกับว่ามันคือช่วงเวลาพักร้อนในคันทรีคลับอันแสนสวยงาม ก่อนจะต้องออกมาพบว่าโลกแห่งวัยทำงานจริง ๆ นั้นไม่ได้สนุกสวยงามอะไรเลย
แต่ทำไมครั้งนี้มันรู้สึกต่างออกไป?
อาจารย์พิริยะและทีมไรท์ชิฟต์มอบโอกาสให้ผมได้เข้ามามีส่วนร่วมในการร่วมแปล เรียบเรียง และขัดเกลาสำนวนที่ซับซ้อนชวนปวดหัวของด็อกเตอร์เซเฟดีน อัมมูส ผู้ช่วยศาสตราจารย์และนักเศรษฐศาสตร์คนสำคัญที่สุดคนหนึ่งในโลก เราลุยกันสุดตัว ชนิดที่ตื่นมาจิบกาแฟผึ่งแดดเสร็จก็ลุยเลยยาว ๆ จนหมดแรง และตอนนอนหลับก็ยังแทบจะฝันถึง (ใครได้ชมไลฟ์พิเศษไฟนอลพรูฟ 4 วันรวดเต็ม ๆ น่าจะเห็นภาพได้ดี) เพราะเรารู้ดีตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้อ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษ ว่าหนังสือเล่มนี้จะสามารถเปลี่ยนชีวิตของคนที่ได้อ่านมันไปในทิศทางที่มีความหวัง ความสุข สุขภาพที่ดี และมีความมั่งคั่งมั่นคงได้แบบที่ไม่เคยจินตนาการได้มาก่อน มันคือภูมิปัญญาชิ้นสำคัญที่คนไทยและคนทั้งโลกควรเข้าถึงให้ได้มากที่สุด
วันนี้หนังสือเล่มดังกล่าวเคลื่อนตัวเข้าแท่นพิมพ์แล้ว เหลือเพียงเคาะตัวเลขยอดพรีออเดอร์ให้เรียบร้อยก็พร้อมเดินหน้าต่อ และในความรู้สึกผม มันเป็นแค่ก้าวแรกจากอีกไม่รู้กี่ก้าวที่ผมได้รับโอกาสให้ได้เดินไปในเส้นทางนี้ ความรู้สึกมันช่างแตกต่างเหลือเกินกับวันเห็น "เล่มจบ" ของบทบาทการเป็นนักศึกษาเมื่อนานมาแล้ว แม้ทุกวันนี้ผมจะยังสวมบทเป็นนักเรียนอยู่ต่อไป เพราะหลุมกระต่ายของเทคโนโลยีการเก็บออมที่ดีที่สุดนี้มันลึกเกินจะจินตนาการได้ไหว แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกเหมือนวันที่หัวใจว่างเปล่าแบบวันสุดท้ายที่ย่ำเท้าพ้นจากตึกคณะอีกแล้ว
นี่แม่งแค่นับ 1 โว้ย ยังมีอะไรให้ทำ ควรทำ และอยากทำอีกเพียบ
นี่สินะความรู้สึกของชีวิตที่มีเป้าหมาย,
จิงโจ้ Right Shift (npub1ejn…97a5)
"The Fiat Standard ระบบการเงินบังคับผูกขาด สู่อารยธรรมแห่งการเป็นทาสในเรือนเบี้ย"
พรีออเดอร์ได้แล้ววันนี้ครับ -> https://bit.ly/49QAeWU
ย้อนกลับไปวันนี้เมื่อปีที่แล้ว ถ้ามีใครมาบอกว่าผมกำลังจะมีชื่อแปะหราอยู่บนหน้าปกของหนึ่งในหนังสือที่ดีที่สุดที่มนุษย์เคยเขียนกันขึ้นมา ผมคงบอกเขาว่า "มึงจะบ้ารึเปล่า?"
กดฟาสต์ฟอร์เวิร์ดมาวันนี้ วินาทีนี้ วันที่รูปเล่มแล้วเสร็จพร้อมให้พรีออเดอร์ ผมก็ยังงง ๆ ไม่ค่อยเชื่อว่ามันเกิดขึ้นแล้วจริง ๆ ผมยังจำความรู้สึกของวันเดินออกจากคณะสถาปัตฯ มธ. หลังจากเข้าไปส่งเล่มวิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่เพิ่งพ่นออกจากแท่นพิมพ์แบบกรุ่น ๆ ได้เป็นอย่างดี บ่ายวันนั้นผมเดินพ้นชายคาตึกคณะด้วยความรู้สึกงง ๆ โหวง ๆ มีแต่ความว่างเปล่าในใจ ได้แต่ถามกับตัวเองว่า "นี่เหรอการเรียนจบ แล้วไงต่อวะ?" แล้วผมก็ไม่เคยได้ทำงานจริง ๆ จัง ๆ เกี่ยวกับสาขาวิชาที่พ่อแม่เสียเงินมหาศาลส่งเสียตลอดช่วง 6 ปีอันผ่านไปราวพริบตานั่นเลย ราวกับว่ามันคือช่วงเวลาพักร้อนในคันทรีคลับอันแสนสวยงาม ก่อนจะต้องออกมาพบว่าโลกแห่งวัยทำงานจริง ๆ นั้นไม่ได้สนุกสวยงามอะไรเลย
แต่ทำไมครั้งนี้มันรู้สึกต่างออกไป?
อาจารย์พิริยะและทีมไรท์ชิฟต์มอบโอกาสให้ผมได้เข้ามามีส่วนร่วมในการร่วมแปล เรียบเรียง และขัดเกลาสำนวนที่ซับซ้อนชวนปวดหัวของด็อกเตอร์เซเฟดีน อัมมูส ผู้ช่วยศาสตราจารย์และนักเศรษฐศาสตร์คนสำคัญที่สุดคนหนึ่งในโลก เราลุยกันสุดตัว ชนิดที่ตื่นมาจิบกาแฟผึ่งแดดเสร็จก็ลุยเลยยาว ๆ จนหมดแรง และตอนนอนหลับก็ยังแทบจะฝันถึง (ใครได้ชมไลฟ์พิเศษไฟนอลพรูฟ 4 วันรวดเต็ม ๆ น่าจะเห็นภาพได้ดี) เพราะเรารู้ดีตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้อ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษ ว่าหนังสือเล่มนี้จะสามารถเปลี่ยนชีวิตของคนที่ได้อ่านมันไปในทิศทางที่มีความหวัง ความสุข สุขภาพที่ดี และมีความมั่งคั่งมั่นคงได้แบบที่ไม่เคยจินตนาการได้มาก่อน มันคือภูมิปัญญาชิ้นสำคัญที่คนไทยและคนทั้งโลกควรเข้าถึงให้ได้มากที่สุด
วันนี้หนังสือเล่มดังกล่าวเคลื่อนตัวเข้าแท่นพิมพ์แล้ว เหลือเพียงเคาะตัวเลขยอดพรีออเดอร์ให้เรียบร้อยก็พร้อมเดินหน้าต่อ และในความรู้สึกผม มันเป็นแค่ก้าวแรกจากอีกไม่รู้กี่ก้าวที่ผมได้รับโอกาสให้ได้เดินไปในเส้นทางนี้ ความรู้สึกมันช่างแตกต่างเหลือเกินกับวันเห็น "เล่มจบ" ของบทบาทการเป็นนักศึกษาเมื่อนานมาแล้ว แม้ทุกวันนี้ผมจะยังสวมบทเป็นนักเรียนอยู่ต่อไป เพราะหลุมกระต่ายของเทคโนโลยีการเก็บออมที่ดีที่สุดนี้มันลึกเกินจะจินตนาการได้ไหว แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกเหมือนวันที่หัวใจว่างเปล่าแบบวันสุดท้ายที่ย่ำเท้าพ้นจากตึกคณะอีกแล้ว
นี่แม่งแค่นับ 1 โว้ย ยังมีอะไรให้ทำ ควรทำ และอยากทำอีกเพียบ
นี่สินะความรู้สึกของชีวิตที่มีเป้าหมาย,
จิงโจ้ Right Shift (npub1ejn…97a5)
"The Fiat Standard ระบบการเงินบังคับผูกขาด สู่อารยธรรมแห่งการเป็นทาสในเรือนเบี้ย"
พรีออเดอร์ได้แล้ววันนี้ครับ -> https://bit.ly/49QAeWU