heretong on Nostr: #siamstr เอะโฮมากิ แตะ All Time High ...
#siamstr
เอะโฮมากิ แตะ All Time High สะท้อนวิกฤติค่าครองชีพในญี่ปุ่นในปีนี้ครับ
จากข่าวที่ทะยอยออกมาเรื่อยๆ เรื่องราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น ตอนนี้ได้ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อสินค้ายอดนิยม เช่น “เอะโฮมากิ” หรือซูชิโรลที่นิยมรับประทานเป็นอาหารมงคลชนิดนึง ในช่วงเทศกาลเซ็ตสึบุน ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันก่อนเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ผู้คนในญี่ปุ่นมีธรรมเนียมรับประทานเอะโฮมากิด้วยการหันหน้าไปในทิศที่โชคดี โดยเชื่อว่าจะนำพาความสุขและโชคลาภมาให้ (ใครเคยดูซีรีย์ใน netflix น่าจะคุ้น) อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพบว่าราคาเฉลี่ยของเอะโฮมากิในปีนี้ได้เกิน 1,000 เยนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นมากถึง 14% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ร้านขายปลาสดในกรุงโตเกียวต่างตกแต่งร้านให้เต็มไปด้วยบรรยากาศของเทศกาลเซ็ตสึบุน พร้อมเสนอเอะโฮมากิหลากหลายรูปแบบเพื่อต้อนรับลูกค้า แต่ด้วยต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น ร้านค้าหลายแห่งจำเป็นต้องปรับราคาขายของเอะโฮมากิขึ้น
ลูกค้าหลายคนเริ่มรู้สึกถึงผลกระทบของราคาที่สูงขึ้น คนหนึ่งซึ่งมาเลือกซื้อเอะโฮมากิกล่าวว่า ปีที่แล้วราคาไม่ถึง 1,000 เยน แต่ปีนี้กลับแพงขึ้นมากจนต้องลดระดับคุณภาพของสินค้าที่เลือกซื้อ อีกคนกล่าวว่าตนลังเลอยู่นานก่อนจะตัดสินใจซื้อเอะโฮมากิ โดยให้เหตุผลว่า “บางครั้งเราก็ต้องยอมใช้จ่ายกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อความสุข”
ผู้จัดการร้านขายปลาในโตเกียวเผยว่า ราคาวัตถุดิบเกือบทุกชนิดที่ใช้ทำเอะโฮมากิพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทั้งหอยเชลล์ ไข่ปลาแซลมอน ทูน่าสด ซัลมอน คัมปาจิ สาหร่ายทะเล รวมถึงข้าว ซึ่งสาหร่ายทะเลมีราคาสูงขึ้นเกือบสองเท่าจากปีที่แล้ว แม้จะพยายามขอความร่วมมือจากผู้จัดหาวัตถุดิบให้ช่วยลดผลกระทบ แต่ราคาก็ยังคงเพิ่มขึ้นจนร้านค้าไม่สามารถตรึงราคาเดิมไว้ได้
ทางร้านยังคงยืนยันว่าจะรักษาคุณภาพของสินค้าและปริมาณวัตถุดิบให้อยู่ในระดับเดิม แม้จะต้องปรับราคาขึ้นถึง 200 เยนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทวิจัยตลาด Teikoku Databank อธิบายว่า ขนาดของเอะโฮมากิถูกกำหนดไว้ตายตัว หากร้านค้าลดปริมาณวัตถุดิบ ลูกค้าจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันที ด้วยราคาข้าวที่เพิ่มสูงขึ้นและต้นทุนที่ไม่สามารถควบคุมได้ ร้านค้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากปรับราคาขึ้น
แม้ราคาที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอย แต่ผู้จัดการร้านขายปลากล่าวว่า เทศกาลเซ็ตสึบุนเป็นกิจกรรมสำคัญสำหรับครอบครัว คนส่วนใหญ่ยังคงต้องการรักษาธรรมเนียมนี้ไว้ และร้านค้าก็พร้อมจะสนับสนุนด้วยการนำเสนอสินค้าที่คงคุณภาพดีที่สุด
เทศกาลเซ็ตสึบุนในปีนี้สะท้อนความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่น ที่แม้แต่พิธีกรรมเรียกโชคลาภก็ยังไม่อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบจากราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น หลายคนอาจรู้สึกถึงความเคร่งเครียดในชีวิตที่มากขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ก็ยังคงรักษาความหวังด้วยการปฏิบัติตามประเพณีที่นำพาความสุขมาสู่ครอบครัวของตน
https://youtu.be/38jhw3E46Is?si=gOwUSBZ33AXZ9iaO
#pirateketo
เอะโฮมากิ แตะ All Time High สะท้อนวิกฤติค่าครองชีพในญี่ปุ่นในปีนี้ครับ
จากข่าวที่ทะยอยออกมาเรื่อยๆ เรื่องราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น ตอนนี้ได้ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อสินค้ายอดนิยม เช่น “เอะโฮมากิ” หรือซูชิโรลที่นิยมรับประทานเป็นอาหารมงคลชนิดนึง ในช่วงเทศกาลเซ็ตสึบุน ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันก่อนเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ผู้คนในญี่ปุ่นมีธรรมเนียมรับประทานเอะโฮมากิด้วยการหันหน้าไปในทิศที่โชคดี โดยเชื่อว่าจะนำพาความสุขและโชคลาภมาให้ (ใครเคยดูซีรีย์ใน netflix น่าจะคุ้น) อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพบว่าราคาเฉลี่ยของเอะโฮมากิในปีนี้ได้เกิน 1,000 เยนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นมากถึง 14% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ร้านขายปลาสดในกรุงโตเกียวต่างตกแต่งร้านให้เต็มไปด้วยบรรยากาศของเทศกาลเซ็ตสึบุน พร้อมเสนอเอะโฮมากิหลากหลายรูปแบบเพื่อต้อนรับลูกค้า แต่ด้วยต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น ร้านค้าหลายแห่งจำเป็นต้องปรับราคาขายของเอะโฮมากิขึ้น
ลูกค้าหลายคนเริ่มรู้สึกถึงผลกระทบของราคาที่สูงขึ้น คนหนึ่งซึ่งมาเลือกซื้อเอะโฮมากิกล่าวว่า ปีที่แล้วราคาไม่ถึง 1,000 เยน แต่ปีนี้กลับแพงขึ้นมากจนต้องลดระดับคุณภาพของสินค้าที่เลือกซื้อ อีกคนกล่าวว่าตนลังเลอยู่นานก่อนจะตัดสินใจซื้อเอะโฮมากิ โดยให้เหตุผลว่า “บางครั้งเราก็ต้องยอมใช้จ่ายกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อความสุข”
ผู้จัดการร้านขายปลาในโตเกียวเผยว่า ราคาวัตถุดิบเกือบทุกชนิดที่ใช้ทำเอะโฮมากิพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทั้งหอยเชลล์ ไข่ปลาแซลมอน ทูน่าสด ซัลมอน คัมปาจิ สาหร่ายทะเล รวมถึงข้าว ซึ่งสาหร่ายทะเลมีราคาสูงขึ้นเกือบสองเท่าจากปีที่แล้ว แม้จะพยายามขอความร่วมมือจากผู้จัดหาวัตถุดิบให้ช่วยลดผลกระทบ แต่ราคาก็ยังคงเพิ่มขึ้นจนร้านค้าไม่สามารถตรึงราคาเดิมไว้ได้
ทางร้านยังคงยืนยันว่าจะรักษาคุณภาพของสินค้าและปริมาณวัตถุดิบให้อยู่ในระดับเดิม แม้จะต้องปรับราคาขึ้นถึง 200 เยนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทวิจัยตลาด Teikoku Databank อธิบายว่า ขนาดของเอะโฮมากิถูกกำหนดไว้ตายตัว หากร้านค้าลดปริมาณวัตถุดิบ ลูกค้าจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันที ด้วยราคาข้าวที่เพิ่มสูงขึ้นและต้นทุนที่ไม่สามารถควบคุมได้ ร้านค้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากปรับราคาขึ้น
แม้ราคาที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอย แต่ผู้จัดการร้านขายปลากล่าวว่า เทศกาลเซ็ตสึบุนเป็นกิจกรรมสำคัญสำหรับครอบครัว คนส่วนใหญ่ยังคงต้องการรักษาธรรมเนียมนี้ไว้ และร้านค้าก็พร้อมจะสนับสนุนด้วยการนำเสนอสินค้าที่คงคุณภาพดีที่สุด
เทศกาลเซ็ตสึบุนในปีนี้สะท้อนความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่น ที่แม้แต่พิธีกรรมเรียกโชคลาภก็ยังไม่อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบจากราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น หลายคนอาจรู้สึกถึงความเคร่งเครียดในชีวิตที่มากขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ก็ยังคงรักษาความหวังด้วยการปฏิบัติตามประเพณีที่นำพาความสุขมาสู่ครอบครัวของตน
https://youtu.be/38jhw3E46Is?si=gOwUSBZ33AXZ9iaO
#pirateketo