Jakk Goodday on Nostr: GM #Siamstr ...
GM #Siamstr บุรีรัมย์หนาวกว่าเชียงใหม่
ในความเงียบที่งดงามของความมุ่งมั่น มีสวนลับแห่งหนึ่งที่เติบโตโดยไม่ต้องมีป้ายประกาศ ชื่อของมันเขียนด้วยหยาดเหงื่อ ไม่ใช่ตัวอักษรบนป้ายไฟ neon
ฉันเดินเข้าไปในสวนนี้เมื่อ 3 ปีก่อน ด้วยมือเปล่าและหัวใจที่เชื่อว่า "เมล็ดพันธุ์แห่งเจตนาดีจะงอกเงยเองเมื่อถึงเวลา"
มีคนถามอยู่เสมอว่าทำไมไม่ตะโกนบอกโลกให้รู้จักสวนนี้
คำตอบอยู่ในสายลมที่พัดผ่านใบไม้ ในวันที่ฝนแรกโปรยปราย ฉันได้ยินเสียงกระซิบจากผู้คน 427 เสียง ที่บอกว่าต้นกล้าเล็กๆ ในสวนนี้เคยเป็นร่มเงาในวันที่ชีวิตพวกเขาร้อนระอุ
บางเสียงเล่าว่าเมล็ดพันธุ์ที่ฉันโปรยไว้แตกหน่อเป็นทางเดินในค่ำคืนที่หลงทาง บางเสียงบอกว่าดอกไม้ที่นี่ให้กลิ่นหอมแม้ในวันที่โลกไม่มีคำชม
ฉันเรียนรู้ว่าเวลาคือนักปลูกต้นไม้ผู้ยิ่งใหญ่
ปีแรกที่ลงมือ ไถดินในวันที่ไม่มีใครเห็นค่า โลกถามกลับมาว่า "ทำไปทำไม?"
ปีที่สอง เมื่อรากเริ่มหยั่งลึก ใบไม้แผ่กิ่งบางๆ โลกกระซิบบอกว่า "อาจมีอะไรสักอย่าง..."
ปีที่สาม วันที่ดอกแรกบาน โลกก็ตะโกนแทนเราเองว่า "นี่ไงสิ่งที่เรารอคอย!"
ความลับของสวนนี้ไม่ใช่ปุ๋ยวิเศษหรือสูตรลัด แต่คือศิลปะของการรดน้ำต้นไม้ทุกวันแม้ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ฝนจะตกหรือไม่ก็ตาม
มันคือความเชื่อที่ว่าทุกครั้งที่จอบกระทบดิน แม้จะไม่มีผู้ชมรออยู่ แต่มันคือการเขียนบทกวีที่สายลมจะค่อยๆ เปิดเผยเอง
บางวัน ดินแห้งผากจนคิดว่าทุกอย่างจะจบลง บางฤดู พายุถาโถมจนเกือบถอนรากถอนโคน
แต่ในที่สุด วันที่แสงแรกของฤดูใบไม้ผลิสาดส่อง กลับพบว่าต้นโอ๊กเล็กๆ ที่ปลูกไว้เริ่มแผ่กิ่งก้าน ทุกความเหนื่อยล้ากลายเป็นวงปีที่บอกเล่าเรื่องราวใต้เปลือกไม้
วันนี้...
เมื่อมองย้อนไปทางเดินที่เต็มไปด้วยรอยเท้า ฉันเห็นดอกไม้บานตามทางที่เคยเดิน
หลายดอกมีชื่อว่า "ขอบคุณ" บางดอกชื่อ "แรงบันดาลใจ"
แต่ดอกที่สวยที่สุดมักไม่มีชื่อ มันคือรอยยิ้มของคนแปลกหน้าที่บอกว่า "สวนของคุณเคยเป็นที่พักใจของฉัน"
ความจริงแล้ว.. เราไม่เคยปลูกสวนนี้ให้ตัวเองเลย เราแค่เป็นคนเตรียมดินให้พร้อม แล้วปล่อยให้ฟ้าดินกับเวลาทำงานต่อ
เมื่อถึงคราวที่เหมาะสม ธรรมชาติจะส่งผีเสื้อมาช่วยผสมเกสร ส่งนกป่ามาช่วยแพร่เมล็ด และส่งผู้คนมารดน้ำต่อเติมโดยไม่รู้ตัว
เพราะงดงามเช่นนี้เอง ฉันจึงยังคงเดินพรวนดินต่อไปเฉยๆ โดยไม่รีบร้อน ตักน้ำจากบ่อแห่งความอดทนรดให้รากหยัดยืน รู้ดีว่าวันหนึ่ง ใครสักคนจะเดินผ่านมาแล้วกระซิบบอกว่า..
"ดูสิ ดอกไม้ที่นี่...มันพูดแทนทุกอย่างโดยไม่ต้องมีป้ายชื่อ"
ในความเงียบที่งดงามของความมุ่งมั่น มีสวนลับแห่งหนึ่งที่เติบโตโดยไม่ต้องมีป้ายประกาศ ชื่อของมันเขียนด้วยหยาดเหงื่อ ไม่ใช่ตัวอักษรบนป้ายไฟ neon
ฉันเดินเข้าไปในสวนนี้เมื่อ 3 ปีก่อน ด้วยมือเปล่าและหัวใจที่เชื่อว่า "เมล็ดพันธุ์แห่งเจตนาดีจะงอกเงยเองเมื่อถึงเวลา"
มีคนถามอยู่เสมอว่าทำไมไม่ตะโกนบอกโลกให้รู้จักสวนนี้
คำตอบอยู่ในสายลมที่พัดผ่านใบไม้ ในวันที่ฝนแรกโปรยปราย ฉันได้ยินเสียงกระซิบจากผู้คน 427 เสียง ที่บอกว่าต้นกล้าเล็กๆ ในสวนนี้เคยเป็นร่มเงาในวันที่ชีวิตพวกเขาร้อนระอุ
บางเสียงเล่าว่าเมล็ดพันธุ์ที่ฉันโปรยไว้แตกหน่อเป็นทางเดินในค่ำคืนที่หลงทาง บางเสียงบอกว่าดอกไม้ที่นี่ให้กลิ่นหอมแม้ในวันที่โลกไม่มีคำชม
ฉันเรียนรู้ว่าเวลาคือนักปลูกต้นไม้ผู้ยิ่งใหญ่
ปีแรกที่ลงมือ ไถดินในวันที่ไม่มีใครเห็นค่า โลกถามกลับมาว่า "ทำไปทำไม?"
ปีที่สอง เมื่อรากเริ่มหยั่งลึก ใบไม้แผ่กิ่งบางๆ โลกกระซิบบอกว่า "อาจมีอะไรสักอย่าง..."
ปีที่สาม วันที่ดอกแรกบาน โลกก็ตะโกนแทนเราเองว่า "นี่ไงสิ่งที่เรารอคอย!"
ความลับของสวนนี้ไม่ใช่ปุ๋ยวิเศษหรือสูตรลัด แต่คือศิลปะของการรดน้ำต้นไม้ทุกวันแม้ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ฝนจะตกหรือไม่ก็ตาม
มันคือความเชื่อที่ว่าทุกครั้งที่จอบกระทบดิน แม้จะไม่มีผู้ชมรออยู่ แต่มันคือการเขียนบทกวีที่สายลมจะค่อยๆ เปิดเผยเอง
บางวัน ดินแห้งผากจนคิดว่าทุกอย่างจะจบลง บางฤดู พายุถาโถมจนเกือบถอนรากถอนโคน
แต่ในที่สุด วันที่แสงแรกของฤดูใบไม้ผลิสาดส่อง กลับพบว่าต้นโอ๊กเล็กๆ ที่ปลูกไว้เริ่มแผ่กิ่งก้าน ทุกความเหนื่อยล้ากลายเป็นวงปีที่บอกเล่าเรื่องราวใต้เปลือกไม้
วันนี้...
เมื่อมองย้อนไปทางเดินที่เต็มไปด้วยรอยเท้า ฉันเห็นดอกไม้บานตามทางที่เคยเดิน
หลายดอกมีชื่อว่า "ขอบคุณ" บางดอกชื่อ "แรงบันดาลใจ"
แต่ดอกที่สวยที่สุดมักไม่มีชื่อ มันคือรอยยิ้มของคนแปลกหน้าที่บอกว่า "สวนของคุณเคยเป็นที่พักใจของฉัน"
ความจริงแล้ว.. เราไม่เคยปลูกสวนนี้ให้ตัวเองเลย เราแค่เป็นคนเตรียมดินให้พร้อม แล้วปล่อยให้ฟ้าดินกับเวลาทำงานต่อ
เมื่อถึงคราวที่เหมาะสม ธรรมชาติจะส่งผีเสื้อมาช่วยผสมเกสร ส่งนกป่ามาช่วยแพร่เมล็ด และส่งผู้คนมารดน้ำต่อเติมโดยไม่รู้ตัว
เพราะงดงามเช่นนี้เอง ฉันจึงยังคงเดินพรวนดินต่อไปเฉยๆ โดยไม่รีบร้อน ตักน้ำจากบ่อแห่งความอดทนรดให้รากหยัดยืน รู้ดีว่าวันหนึ่ง ใครสักคนจะเดินผ่านมาแล้วกระซิบบอกว่า..
"ดูสิ ดอกไม้ที่นี่...มันพูดแทนทุกอย่างโดยไม่ต้องมีป้ายชื่อ"