chontit on Nostr: 🙋♂️ ...
🙋♂️ เมื่อวานได้ฟังพี่หลามอธิบายถึงโครงสร้างของข้อมูลแต่ละ Block ของบิตคอยน์ใน Right Tech EP.1 แล้วพบว่า... มันมหัศจรรย์มากกกกกก ผมเลยต้องกลับไปอ่านหนังสือ Mastering Bitcoin 2nd by Andreas M. Antonopoulos อีกรอบ 5555 😊
❗️ซึ่งโพสต์นี้จะขอขยายความว่าเจ้าระบบบิตคอยน์ที่ทุกคนเคยได้ยินมาว่า "มันเปลี่ยนแปลงข้อมูลไม่ได้" หมายถึงอะไรกัน ? 🤔
.
➡️ จริง ๆ ต้องเกริ่นก่อนว่า.. Database ทุก ๆ ชนิดบนโลกมันสามารถ "เปลี่ยนแปลงข้อมูล" ได้ และ "Block chain" มันก็คือ Database ชนิดหนึ่งที่ใช้กระบวนการเก็บข้อมูลต่อเนื่องเรียงกันเป็น Block ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด และสามารถเรียกดูข้อมูลจากอดีตถึงปัจจุบันได้ทั้งหมด (ต่างจาก Database บางระบบที่ใช้การบันทึกข้อมูล "ซ้ำ" ลงไปแทนที่ข้อมูลเดิม) ดังนั้น ข้อมูลในตัว Block Chain มันก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน ✅
.
แต่‼️ ระบบบิตคอยน์นั้น ,, เราได้เพิ่มกระบวนการที่เรียกว่า "Cryptographic Hash Algorithm" มาประกอบการใช้งานกับ Block chain ซึ่งมันคือการ "เก็บลายนิ้วมือ" ของข้อมูลต่าง ๆ ที่มีอยู่ในบล็อกนั้น และมีการบรรจุ "ลายนิ้วมือ" อันนี้ลงไปในบล็อกถัดไปที่กำลังจะสร้างด้วย 👍
✅ กระบวนการนี้จึงทำให้การเปลี่ยนแปลงข้อมูลในบล็อกก่อนหน้านั้น "ทำไม่ได้" เพราะว่าถ้ามีส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อมูลในบล็อกก่อนหน้า "เปลี่ยนไป" แม้เพียงเล็กน้อย (เช่น การเพิ่มเว้นวรรค หรือตัวอักษรพิมพ์ใหญ่พิมพ์เล็กไม่เหมือนกัน) ก็จะส่งผลให้ "ลายนิ้วมือ" ของข้อมูลในบล็อกนั้น "เปลี่ยนไป" ทั้งหมด 😎
.
จากภาพประกอบจะเห็นได้ว่า
➡️ Block Height : 277,316 จะมีส่วนข้อมูล "ลายนิ้วมือ" จากบล็อก 277,315
➡️ Block Height : 277,315 ก็จะมีส่วนข้อมูล "ลายนิ้วมือ" จากบล็อก 277,314
➡️ Block Height : 277,314 ก็จะมีส่วนข้อมูล "ลายนิ้วมือ" จากบล็อก 277,313
✅ และแน่นอนว่า Block Height : 277,317 ก็จะต้องนำ "ลายนิ้วมือ" จากบล็อก 277,316 ไปประกอบเป็นส่วนหนึ่งในข้อมูลของบล็อก
‼️ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ใน Block Header นั้น ถูกคิดมาเป็นอย่างดีแล้วว่า "สำคัญ", "ประหยัดพื้นที่" และ "มีความรวดเร็วในการยืนยัน" ,, โดยเฉพาะส่วนของ Merkle Trees ซึ่งเป็นข้อมูล Hashing ของ Transaction ทั้งหมดในบล็อกนั้น (การใช้โครงสร้าง Merkle Trees นั้นจะช่วยให้การยืนยันข้อมูลธุรกรรมของ "Node" เป็นไปด้วยความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากที่สุด)
.
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า…
❗️ข้อมูลใน Block Chain มันสามารถ “เปลี่ยนแปลง” ได้ ✅
‼️แต่ Block Chain ของระบบบิตคอยน์จะมีส่วนที่เรียกว่า Block Header Hash ซึ่งเปรียบเสมือน "ลายนิ้วมือ" ของข้อมูลในบล็อกก่อนหน้า
✅ เจ้าส่วนนี้แหละที่เป็นตัวทำให้การแก้ไขข้อมูลในบล็อกเป็นเรื่องที่ "เป็นไปไม่ได้" เพราะทันทีที่มีการแก้ไข.. ข้อมูลในบล็อกถัดมาก็จะ Invalid ทันที
🥷และหากใครที่อยากจะเปลี่ยนแปลงข้อมูลใด ๆ ในบล็อก.. ก็จำเป็นที่จะต้องสร้างบล็อกลำดับถัดไปด้วย "ตนเอง" และต้องทำด้วยอัตราเร่งที่เร็วกว่า 10 นาทีต่อบล็อก เพื่อให้ Block Chain ของคุณนั้น Valid และกลับมาอยู่ใน Bitcoin Network 🎉
.
อ้อ.. ข้อมูลที่สามารถแก้ไขได้จะมีแค่ "ข้อมูลธุรกรรมของตัวคุณเอง" เท่านั้นนะ ,, คุณจะไปแก้ไขข้อมูลว่าเรามี 10,000 บิตคอยน์ “ไม่ได้”‼️ไม่ว่าจะโดยวิธีการใด ๆ ก็ตาม 😇
ป.ล.สินทรัพย์อื่น ๆ ทำได้มั้ยน๊าาาา 😎😘
#เวลามีค่าศึกษาบิตคอยน์
#Siamstr
❗️ซึ่งโพสต์นี้จะขอขยายความว่าเจ้าระบบบิตคอยน์ที่ทุกคนเคยได้ยินมาว่า "มันเปลี่ยนแปลงข้อมูลไม่ได้" หมายถึงอะไรกัน ? 🤔
.
➡️ จริง ๆ ต้องเกริ่นก่อนว่า.. Database ทุก ๆ ชนิดบนโลกมันสามารถ "เปลี่ยนแปลงข้อมูล" ได้ และ "Block chain" มันก็คือ Database ชนิดหนึ่งที่ใช้กระบวนการเก็บข้อมูลต่อเนื่องเรียงกันเป็น Block ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด และสามารถเรียกดูข้อมูลจากอดีตถึงปัจจุบันได้ทั้งหมด (ต่างจาก Database บางระบบที่ใช้การบันทึกข้อมูล "ซ้ำ" ลงไปแทนที่ข้อมูลเดิม) ดังนั้น ข้อมูลในตัว Block Chain มันก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน ✅
.
แต่‼️ ระบบบิตคอยน์นั้น ,, เราได้เพิ่มกระบวนการที่เรียกว่า "Cryptographic Hash Algorithm" มาประกอบการใช้งานกับ Block chain ซึ่งมันคือการ "เก็บลายนิ้วมือ" ของข้อมูลต่าง ๆ ที่มีอยู่ในบล็อกนั้น และมีการบรรจุ "ลายนิ้วมือ" อันนี้ลงไปในบล็อกถัดไปที่กำลังจะสร้างด้วย 👍
✅ กระบวนการนี้จึงทำให้การเปลี่ยนแปลงข้อมูลในบล็อกก่อนหน้านั้น "ทำไม่ได้" เพราะว่าถ้ามีส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อมูลในบล็อกก่อนหน้า "เปลี่ยนไป" แม้เพียงเล็กน้อย (เช่น การเพิ่มเว้นวรรค หรือตัวอักษรพิมพ์ใหญ่พิมพ์เล็กไม่เหมือนกัน) ก็จะส่งผลให้ "ลายนิ้วมือ" ของข้อมูลในบล็อกนั้น "เปลี่ยนไป" ทั้งหมด 😎
.

จากภาพประกอบจะเห็นได้ว่า
➡️ Block Height : 277,316 จะมีส่วนข้อมูล "ลายนิ้วมือ" จากบล็อก 277,315
➡️ Block Height : 277,315 ก็จะมีส่วนข้อมูล "ลายนิ้วมือ" จากบล็อก 277,314
➡️ Block Height : 277,314 ก็จะมีส่วนข้อมูล "ลายนิ้วมือ" จากบล็อก 277,313
✅ และแน่นอนว่า Block Height : 277,317 ก็จะต้องนำ "ลายนิ้วมือ" จากบล็อก 277,316 ไปประกอบเป็นส่วนหนึ่งในข้อมูลของบล็อก
‼️ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ใน Block Header นั้น ถูกคิดมาเป็นอย่างดีแล้วว่า "สำคัญ", "ประหยัดพื้นที่" และ "มีความรวดเร็วในการยืนยัน" ,, โดยเฉพาะส่วนของ Merkle Trees ซึ่งเป็นข้อมูล Hashing ของ Transaction ทั้งหมดในบล็อกนั้น (การใช้โครงสร้าง Merkle Trees นั้นจะช่วยให้การยืนยันข้อมูลธุรกรรมของ "Node" เป็นไปด้วยความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากที่สุด)
.
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า…
❗️ข้อมูลใน Block Chain มันสามารถ “เปลี่ยนแปลง” ได้ ✅
‼️แต่ Block Chain ของระบบบิตคอยน์จะมีส่วนที่เรียกว่า Block Header Hash ซึ่งเปรียบเสมือน "ลายนิ้วมือ" ของข้อมูลในบล็อกก่อนหน้า
✅ เจ้าส่วนนี้แหละที่เป็นตัวทำให้การแก้ไขข้อมูลในบล็อกเป็นเรื่องที่ "เป็นไปไม่ได้" เพราะทันทีที่มีการแก้ไข.. ข้อมูลในบล็อกถัดมาก็จะ Invalid ทันที
🥷และหากใครที่อยากจะเปลี่ยนแปลงข้อมูลใด ๆ ในบล็อก.. ก็จำเป็นที่จะต้องสร้างบล็อกลำดับถัดไปด้วย "ตนเอง" และต้องทำด้วยอัตราเร่งที่เร็วกว่า 10 นาทีต่อบล็อก เพื่อให้ Block Chain ของคุณนั้น Valid และกลับมาอยู่ใน Bitcoin Network 🎉
.
อ้อ.. ข้อมูลที่สามารถแก้ไขได้จะมีแค่ "ข้อมูลธุรกรรมของตัวคุณเอง" เท่านั้นนะ ,, คุณจะไปแก้ไขข้อมูลว่าเรามี 10,000 บิตคอยน์ “ไม่ได้”‼️ไม่ว่าจะโดยวิธีการใด ๆ ก็ตาม 😇
ป.ล.สินทรัพย์อื่น ๆ ทำได้มั้ยน๊าาาา 😎😘
#เวลามีค่าศึกษาบิตคอยน์
#Siamstr