kerutonotme on Nostr: #freewriting day 16 #เขียนขีดอิสระ วันที่ 16 ...
#freewriting day 16
#เขียนขีดอิสระ วันที่ 16
#siamstr
อารมณ์อ่อนไหว สิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคนในยามที่ไม่มั่นคง บางคนแสดงออกอย่างแข็งกร้าว บางคนแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ระบบป้องกันตัวเองแต่ละคนไม่เหมือนกัน แล้วแต่การเติบโตที่ผ่านมา
ความอ่อนไหวทำให้เราเข้าใจคนอื่นมากขึ้น มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น หลายครั้งที่เราลืมไป คิดเอาเองว่า ทุกคนก็เหมือนกับเรา เปล่า ทุกคนอ่อนไหวคนละเรื่อง
นึกถึงสมัยรุ่นพ่อแม่ปู่ย่าที่ยังไม่มีความรู้ทางจิตวิทยากันมากนัก ต้องหาเลี้ยงชีพและเลี้ยงลูกไปด้วย ไม่มีเวลาอธิบายหรือเยียวยาซึ่งกันและกัน ต้องรีบเขี่ยอารมณ์ออกไปให้เร็วที่สุด พร้อมรับกับปัญหาใหม่และความวุ่นวายที่ประดังเข้ามา การแสดงออกจึงเป็นไปอย่างแข็งกร้าว ทั้งกับคนรัก ลูก ครอบครัว หรือคนรู้จัก ความสามารถในการสื่อสารทางอารมณ์จึงไม่ได้รับการดูแล เราจะเห็นผู้ใหญ่หลายคน อธิบายความรู้สึกตัวเองไม่ถูก หรืออธิบายบางเหตุการณ์ไม่ได้ แม้กระทั่งเป็นเรื่องง่ายๆ หรือ คำง่ายๆ สำหรับเรา เป็นหนึ่งในสิ่งที่เราคิดว่า ควรมีโรงเรียนผู้ใหญ่
ทุกครั้งที่เห็นปัญหาทางอารมณ์หรือทางจิตใจของคนอื่น ต้องไม่ลืมว่า ยามที่เราอ่อนไหว เราเคยรู้สึกอย่างไร ตอนนั้นเราไม่แน่ใจว่า คนอื่นจะคิดเหมือนเรามั้ย ไม่รู้ว่าตัวเราเองจะแก้ปัญหาอย่างไร มีแต่ความแตกหักทางความรู้สึก บางครั้งก็กลัว บางครั้งก็สับสน บางครั้งโกรธ ให้เวลากับอีกฝ่ายให้มาก
คนที่อบอุ่นเป็นคนที่ไวต่อเรื่องแบบนี้ ละเอียดในการสังเกต ผู้ใหญ่ที่นับถือ รุ่นพี่ที่เคารพ เพียงแค่ทำอะไรต่างออกไปในวันนึง ก็ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบเป็นอย่างดี แต่บางครั้งก็เป็น false signal นะ แต่ของแบบนี้ บางทีก็ต้องใช้เวลา เพราะอาจจุกจิกเกินกว่าที่จะอธิบายให้ฟังทุกครั้ง
การมีคนที่รู้ใจหรือคนที่พร้อมจะรับฟัง ช่วยได้มากๆ ในบางเวลาที่ต้องพึ่งตัวเอง ก็จะออกกำลังกาย เขียนออกมา ทำสมาธิ วิปัสสนา ก็ช่วยได้ในบางครั้ง แต่บางครั้งก็แค่ต้องเปลี่ยนสิ่งที่กำลังทำหรือสนใจอยู่ เปลี่ยนสถานที่ ไปเจอผู้คน
ความอ่อนไหวทำให้เราสื่อสารและเข้าใจคนอื่นมากขึ้น อ่อ จริงๆ แล้ว อาจจะหมายถึงความอ่อนโยนมากกว่า คล้ายกัน แต่ต่างกัน คนที่อ่อนโยน ไม่จำเป็นต้องอ่อนไหวเสมอไป
#เขียนขีดอิสระ วันที่ 16
#siamstr
อารมณ์อ่อนไหว สิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคนในยามที่ไม่มั่นคง บางคนแสดงออกอย่างแข็งกร้าว บางคนแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ระบบป้องกันตัวเองแต่ละคนไม่เหมือนกัน แล้วแต่การเติบโตที่ผ่านมา
ความอ่อนไหวทำให้เราเข้าใจคนอื่นมากขึ้น มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น หลายครั้งที่เราลืมไป คิดเอาเองว่า ทุกคนก็เหมือนกับเรา เปล่า ทุกคนอ่อนไหวคนละเรื่อง
นึกถึงสมัยรุ่นพ่อแม่ปู่ย่าที่ยังไม่มีความรู้ทางจิตวิทยากันมากนัก ต้องหาเลี้ยงชีพและเลี้ยงลูกไปด้วย ไม่มีเวลาอธิบายหรือเยียวยาซึ่งกันและกัน ต้องรีบเขี่ยอารมณ์ออกไปให้เร็วที่สุด พร้อมรับกับปัญหาใหม่และความวุ่นวายที่ประดังเข้ามา การแสดงออกจึงเป็นไปอย่างแข็งกร้าว ทั้งกับคนรัก ลูก ครอบครัว หรือคนรู้จัก ความสามารถในการสื่อสารทางอารมณ์จึงไม่ได้รับการดูแล เราจะเห็นผู้ใหญ่หลายคน อธิบายความรู้สึกตัวเองไม่ถูก หรืออธิบายบางเหตุการณ์ไม่ได้ แม้กระทั่งเป็นเรื่องง่ายๆ หรือ คำง่ายๆ สำหรับเรา เป็นหนึ่งในสิ่งที่เราคิดว่า ควรมีโรงเรียนผู้ใหญ่
ทุกครั้งที่เห็นปัญหาทางอารมณ์หรือทางจิตใจของคนอื่น ต้องไม่ลืมว่า ยามที่เราอ่อนไหว เราเคยรู้สึกอย่างไร ตอนนั้นเราไม่แน่ใจว่า คนอื่นจะคิดเหมือนเรามั้ย ไม่รู้ว่าตัวเราเองจะแก้ปัญหาอย่างไร มีแต่ความแตกหักทางความรู้สึก บางครั้งก็กลัว บางครั้งก็สับสน บางครั้งโกรธ ให้เวลากับอีกฝ่ายให้มาก
คนที่อบอุ่นเป็นคนที่ไวต่อเรื่องแบบนี้ ละเอียดในการสังเกต ผู้ใหญ่ที่นับถือ รุ่นพี่ที่เคารพ เพียงแค่ทำอะไรต่างออกไปในวันนึง ก็ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบเป็นอย่างดี แต่บางครั้งก็เป็น false signal นะ แต่ของแบบนี้ บางทีก็ต้องใช้เวลา เพราะอาจจุกจิกเกินกว่าที่จะอธิบายให้ฟังทุกครั้ง
การมีคนที่รู้ใจหรือคนที่พร้อมจะรับฟัง ช่วยได้มากๆ ในบางเวลาที่ต้องพึ่งตัวเอง ก็จะออกกำลังกาย เขียนออกมา ทำสมาธิ วิปัสสนา ก็ช่วยได้ในบางครั้ง แต่บางครั้งก็แค่ต้องเปลี่ยนสิ่งที่กำลังทำหรือสนใจอยู่ เปลี่ยนสถานที่ ไปเจอผู้คน
ความอ่อนไหวทำให้เราสื่อสารและเข้าใจคนอื่นมากขึ้น อ่อ จริงๆ แล้ว อาจจะหมายถึงความอ่อนโยนมากกว่า คล้ายกัน แต่ต่างกัน คนที่อ่อนโยน ไม่จำเป็นต้องอ่อนไหวเสมอไป