kerutonotme on Nostr: #freewriting day 9 เขียนขีดอิสระ วันที่ 9 ...
#freewriting day 9
เขียนขีดอิสระ วันที่ 9
#siamstr
พอเริ่มทำอะไรได้ ก็จะเข้าถึงความยอดเยี่ยมได้ลึกซึ้งขึ้น วิ่งระยะ 5 กิโลได้ ก็จะนับถือชื่นชมคนที่วิ่งได้เร็วกว่าหรือคนที่วิ่งมาราธอนได้อย่างไม่ยากเย็น และเป็นแรงบันดาลใจให้อยากทำได้บ้าง คนที่เล่นมายากลทำให้ทึ่งได้ทุกครั้ง แม้จะรู้ความลับแล้วก็ตาม ผู้เข้าถึงความสุดยอดเหล่านั้นไม่ต่างอะไรกับ ผู้วิเศษ เสกสิ่งต่างๆ ให้ดูง่าย ต่อเนื่อง เลื่อนไหล ไร้ที่ติ
ยิ่งพยายามพัฒนาฝีมือจะยิ่งค้นพบว่า ผู้วิเศษต้องผ่านอะไรมาบ้าง ความตื่นตะลึงหลงใหลในตอนแรกที่เห็น จึงกลับกลายเป็นความซูฮก คุกเข่าบูชา ต้องเสียสละแค่ไหน หยาดเหงื่อและน้ำตาที่ไหลรินเป็นสายน้ำ ความมุ่งมั่นไม่หวั่นไหวราวกับขุนเขา
แบดมินตันเป็นสิ่งที่สังเกตได้ไม่ยาก หากคนไม่มีพื้นฐาน ท่าทางจะแตกต่างอย่างชัดเจน เพราะธรรมชาติของมนุษย์ไม่มีการกระทำให้ต้องเคลื่อนที่อย่าง การสไลด์ข้าง การยืดก้าวขาออกแล้วถอยหลังกลับ นักกีฬาทุกคนต้องฝึกวิ่งคอร์ตราวกับฝึกเต้นรำ แล้วเราก็ได้เห็นนักแบดทุกคนเต้นรำจริงๆ การเคลื่อนไหวในสนาม รวดเร็ว ว่องไว เป็นจังหวะ เหมือนไม่ต้องใช้แรง แต่หากใครเคยวิ่งคอร์ต แค่ห้ารอบก็จะอาเจียน แม้แต่ท่าทางในการตี ยิ่งสมบูรณ์แบบก็ยิ่งมีประสิทธิภาพ
นักกีฬาระดับโลกจึงสวยงาม หมดจด ไร้ที่ติ รัศมีเปล่งประกายทุกครั้งที่ลงสนาม เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณแห่งกีฬานั้นๆ นักดนตรี ศิลปิน นักวิทยาศาสตร์ วิศวกร แพทย์ พยาบาล อาชีพต่างๆ ก็เช่นกัน ความใส่ใจในการกระทำ โปรยเสน่ห์ให้หลงใหลชื่นชมทุกครั้งที่ได้เห็นใครทำอะไรอย่างตั้งใจ และส่งผลลัพธ์ชั้นยอด อันทรงคุณค่าเป็นประโยชน์กับทุกคน
การฝึกฝน ใส่ใจ ใส่พลัง มุ่งมั่น ไม่ได้มีผลเสียเลย หากเราทำให้ถูกที่ถูกเวลา บางครั้งอาจจะดูไร้ประโยชน์ แต่สิ่งที่ได้นั้นจะอยู่กับเราเสมอ นึกถึงสารคดี BNK48 Girls don’t cry ของ เต๋อ นวพล ซีนนึงที่จำได้ไม่ลืม น้องผู้หญิงคนนึง จิ๊บ ที่ความสามารถดีมาก แต่ไม่ได้รับคะแนนความนิยมมากพอ จึงไม่ได้ถูกเลือกให้ออกไปโชว์ แต่เวลาที่ซ้อมใหญ่ น้องกลับยืนเต้นอยู่หลังฉากไปพร้อมๆ กับการแสดงข้างหน้า เป็นภาพที่บอกอะไรได้หลายอย่างหลายมุมมอง
ฝืน ผิดที่ผิดทาง ไร้ประโยชน์ ใช่ บางทีมันก็ดูเป็นแบบนั้นแหละ เราก็ต่างอยู่ผิดที่ผิดทางกับอะไรบางอย่างไม่ใช่เหรอ เวลาที่พยายาม “ขยันผิดที่ 10 ปี ก็ไม่เจริญ” คำพูดประมาณนี้ เห็นในสื่อบ่อยมากขึ้น สนใจไปที่การมองหาตัวเลือกที่ดีกว่า เห็นด้วยกับทั้งสองมุมมอง ประเด็นคือ เราอยู่ในจุดที่มีอำนาจมากพอจะเลือกรึเปล่า ถ้ายังไม่มี แม้จะต้องผิดที่ผิดทาง แต่ประสบการณ์ คุณค่า อุปนิสัยไม่ย่อท้อ จะยังอยู่กับตัวเรา ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไรก็ตาม มันเจ็บปวด แต่บางเวลาก็ต้องทำ เท่าที่มี อาจารย์ชัชชาติเคยพูดว่า บางทีก็ต้องทำเท่าที่ชีวิตมีให้ อาจารย์เป็นอีกแบบอย่างของความขยันและพยายาม
เขียนขีดอิสระ วันที่ 9
#siamstr
พอเริ่มทำอะไรได้ ก็จะเข้าถึงความยอดเยี่ยมได้ลึกซึ้งขึ้น วิ่งระยะ 5 กิโลได้ ก็จะนับถือชื่นชมคนที่วิ่งได้เร็วกว่าหรือคนที่วิ่งมาราธอนได้อย่างไม่ยากเย็น และเป็นแรงบันดาลใจให้อยากทำได้บ้าง คนที่เล่นมายากลทำให้ทึ่งได้ทุกครั้ง แม้จะรู้ความลับแล้วก็ตาม ผู้เข้าถึงความสุดยอดเหล่านั้นไม่ต่างอะไรกับ ผู้วิเศษ เสกสิ่งต่างๆ ให้ดูง่าย ต่อเนื่อง เลื่อนไหล ไร้ที่ติ
ยิ่งพยายามพัฒนาฝีมือจะยิ่งค้นพบว่า ผู้วิเศษต้องผ่านอะไรมาบ้าง ความตื่นตะลึงหลงใหลในตอนแรกที่เห็น จึงกลับกลายเป็นความซูฮก คุกเข่าบูชา ต้องเสียสละแค่ไหน หยาดเหงื่อและน้ำตาที่ไหลรินเป็นสายน้ำ ความมุ่งมั่นไม่หวั่นไหวราวกับขุนเขา
แบดมินตันเป็นสิ่งที่สังเกตได้ไม่ยาก หากคนไม่มีพื้นฐาน ท่าทางจะแตกต่างอย่างชัดเจน เพราะธรรมชาติของมนุษย์ไม่มีการกระทำให้ต้องเคลื่อนที่อย่าง การสไลด์ข้าง การยืดก้าวขาออกแล้วถอยหลังกลับ นักกีฬาทุกคนต้องฝึกวิ่งคอร์ตราวกับฝึกเต้นรำ แล้วเราก็ได้เห็นนักแบดทุกคนเต้นรำจริงๆ การเคลื่อนไหวในสนาม รวดเร็ว ว่องไว เป็นจังหวะ เหมือนไม่ต้องใช้แรง แต่หากใครเคยวิ่งคอร์ต แค่ห้ารอบก็จะอาเจียน แม้แต่ท่าทางในการตี ยิ่งสมบูรณ์แบบก็ยิ่งมีประสิทธิภาพ
นักกีฬาระดับโลกจึงสวยงาม หมดจด ไร้ที่ติ รัศมีเปล่งประกายทุกครั้งที่ลงสนาม เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณแห่งกีฬานั้นๆ นักดนตรี ศิลปิน นักวิทยาศาสตร์ วิศวกร แพทย์ พยาบาล อาชีพต่างๆ ก็เช่นกัน ความใส่ใจในการกระทำ โปรยเสน่ห์ให้หลงใหลชื่นชมทุกครั้งที่ได้เห็นใครทำอะไรอย่างตั้งใจ และส่งผลลัพธ์ชั้นยอด อันทรงคุณค่าเป็นประโยชน์กับทุกคน
การฝึกฝน ใส่ใจ ใส่พลัง มุ่งมั่น ไม่ได้มีผลเสียเลย หากเราทำให้ถูกที่ถูกเวลา บางครั้งอาจจะดูไร้ประโยชน์ แต่สิ่งที่ได้นั้นจะอยู่กับเราเสมอ นึกถึงสารคดี BNK48 Girls don’t cry ของ เต๋อ นวพล ซีนนึงที่จำได้ไม่ลืม น้องผู้หญิงคนนึง จิ๊บ ที่ความสามารถดีมาก แต่ไม่ได้รับคะแนนความนิยมมากพอ จึงไม่ได้ถูกเลือกให้ออกไปโชว์ แต่เวลาที่ซ้อมใหญ่ น้องกลับยืนเต้นอยู่หลังฉากไปพร้อมๆ กับการแสดงข้างหน้า เป็นภาพที่บอกอะไรได้หลายอย่างหลายมุมมอง
ฝืน ผิดที่ผิดทาง ไร้ประโยชน์ ใช่ บางทีมันก็ดูเป็นแบบนั้นแหละ เราก็ต่างอยู่ผิดที่ผิดทางกับอะไรบางอย่างไม่ใช่เหรอ เวลาที่พยายาม “ขยันผิดที่ 10 ปี ก็ไม่เจริญ” คำพูดประมาณนี้ เห็นในสื่อบ่อยมากขึ้น สนใจไปที่การมองหาตัวเลือกที่ดีกว่า เห็นด้วยกับทั้งสองมุมมอง ประเด็นคือ เราอยู่ในจุดที่มีอำนาจมากพอจะเลือกรึเปล่า ถ้ายังไม่มี แม้จะต้องผิดที่ผิดทาง แต่ประสบการณ์ คุณค่า อุปนิสัยไม่ย่อท้อ จะยังอยู่กับตัวเรา ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไรก็ตาม มันเจ็บปวด แต่บางเวลาก็ต้องทำ เท่าที่มี อาจารย์ชัชชาติเคยพูดว่า บางทีก็ต้องทำเท่าที่ชีวิตมีให้ อาจารย์เป็นอีกแบบอย่างของความขยันและพยายาม