What is Nostr?
tong
npub1x98…qppk
2024-06-25 14:49:09

tong on Nostr: ...


เล่นของสูง

สมัยก่อนเวลาฟังข่าวเศรษฐกิจเกี่ยวกับการกำหนดอัตราดอกเบี้ยโดย FOMC ผมสนุกกับการติดตามและคิดวิเคราะห์ตามข่าวไปด้วย แต่พอได้ศึกษาบิตคอยน์และตลาดเสรีมากขึ้นเวลาฟังข่าวพวกนี้ผมรู้สึกถึงความเปล่ากลวงมาก รู้สึกว่าเหตุการณ์นี้มันช่างไร้สาระเหมือนเด็กเล่นอะไรกันสักอย่าง แบบว่าคุณเป็นใครแค่ไม่กี่คนที่จะสามารถคาดการณ์การไหลของเงินในระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่โตมโหฬารได้ คุณรู้จักสายของ supply chain อันซับซ้อนเหมือนกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ทุกต้นในป่าใหญ่ทั้งหมดเหรอ การหวังว่าจะชี้นำระบบที่ยุ่งเหยิงและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลานี้ด้วยการกำหนดนโยบายทางการเงินของพวกคุณมันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ นโยบายใดๆ ที่ออกมาไม่ว่าจะบรรยายให้สวยหรูสักแค่ไหนก็มีแต่จะกดคนส่วนใหญ่ให้มีศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์น้อยลงเรื่อยๆ คนไม่สามารถมีความหวังอะไรในชีวิตได้มากอีกต่อไปแล้ว สำหรับหลายๆ คนนั้นแค่เส้นทางในการมีชีวิตรอดก็ยังแคบลงทุกที

กลับกันผมชอบจินตนาการถึงโลกที่มีเงินมั่นคงและมีระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรี ในโลกนั้นไม่ต้องพูดถึงแค่เรื่องปัจจัยพื้นฐานสำหรับการมีชีวิตรอดหรอก ผมกล้าพูดได้ว่าในโลกแบบนั้นทุกคนสามารถ “หวังสูง” ได้เลย คนแต่ละคนไม่ว่าจะมีอาชีพใดมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไหนก็สามารถสร้างความมั่งคั่งอย่างถ้วนทั่ว คนที่ชอบความเรียบง่ายในชีวิตอาจสามารถทำงานวันละแค่ไม่กี่ชั่วโมงเพื่อหาเลี้ยงตนเองได้อย่างพอเพียง คนที่ทะเยอทะยานหน่อยอาจสร้างความมั่งคั่งอย่างสมน้ำสมเนื้อกับแรงกายหรือแรงสมองที่ลงไปเสมอ การว่างงานหรือความไม่มีอันจะกินไม่สามารถมีที่อยู่ได้ เหตุที่มันดูง่ายถึงเพียงนี้เป็นเพราะอย่าลืมว่าทุกวันนี้มูลค่าทางเศรษฐกิจจำนวนมากในแบบที่เราอาจจะจินตนาการไม่ถึงนั้นเสียไปกับการลงทุนที่ไม่สร้างผลผลิตให้กับมนุษยชาติ ดังเช่นกิจการที่อยู่รอดได้ด้วยการสนับสนุนจากรัฐทั้งทางตรงและทางอ้อม กิจการของรัฐเองในบางหน่วยงาน กลุ่มคนที่สร้างกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินแต่ละสกุล รวมไปถึงทรัพยากรที่เสียไปกับธุรกิจการเงินการธนาคาร โดยถ้าคนจำนวนมากเหล่านี้หันมาสร้างผลผลิตที่มีคุณค่าอย่างแท้จริงในตลาดเสรีจะทำให้ทุกคนในโลกได้รับประโยชน์จากผลผลิตเหล่านั้นอย่างทั่วถึงกัน

นอกจากนั้นสิ่งที่ระบบตลาดเสรีอำนวยประโยชน์ให้กับผู้คนยังมีสิ่งที่อาจเปรียบได้กับ "แรงโน้มถ่วง" ของเงินทุน ลองจินตนาการถึงแผ่นดินอันกว้างใหญ่ที่มีหลุมบ่อใหญ่บ้างเล็กบ้างเต็มพื้นที่ บางหลุมตื้น บางหลุมลึก หลุมเหล่านี้เปรียบเสมือนธุรกิจต่างๆ ที่รอเงินทุน คนทุกคนสามารถนำน้ำซึ่งเปรียบกับทุน เติมเข้าไปในหลุมใดก็ได้ตามทัศนะในการลงทุนของตน เมื่อหลุมใดหลุมหนึ่งถูกเติมจนเต็ม "แรงโน้มถ่วง" จะทำหน้าที่ห้ามไม่ให้หลุมนั้นมีน้ำเพิ่มขึ้นได้อีกโดยมันจะต้องไหลไปสู่พื้นที่ข้างๆ เสมอ สิ่งนี้ทำให้แต่ละธุรกิจได้รับเงินทุนอย่างเหมาะสมกับขนาดของมันอยู่ตลอดเวลาและทำให้เงินทุนไม่ถูกใช้ไปอย่างเปล่าประโยชน์โดยไม่สร้างผลผลิตหรือสร้างผลผลิตไม่คุ้มกับทุนที่เสียไป และด้วยเหตุที่ไม่มีเงินทุนถูกนำไปเติมอย่างผิดธรรมชาตินี้เองทำให้มีทุนเพียงพอที่จะกระจายไปในหลุมทุกหลุมอย่างทั่วถึง ใครเห็นหลุมไหนยังไม่ถูกเติมเต็มก็สามารถคว้าโอกาสการลงทุนนั้นไว้ได้ น้ำจะถูกถ่ายเทตามกระแสของความต้องการไปยังหลุมนั้นหลุมนี้อยู่ตลอดเวลาและแรงโน้มถ่วงก็จะช่วยทำให้แน่ใจได้ว่าระดับน้ำนั้นราบเรียบเท่ากันที่พื้นผิวเสมอ โอกาสทางธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็มีสิทธิที่จะประสบความสำเร็จเท่าๆ กัน แน่นอนว่าต้องมีบางธุรกิจที่อาจล้มเหลวจากการดำเนินงานและประสบกับการขาดทุนจนถึงกับต้องปิดกิจการบ้าง ซึ่งผู้ลงทุนก็ต้องรับชะตากรรมนั้นเองอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ในระบบตลาดเสรีการจะลุกขึ้นยืนใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายแต่อย่างใด ด้วยสิ่งที่ตลาดมอบให้ คนที่เริ่มจากตัวเปล่าไม่มีทรัพย์สินใดๆ ก็สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจากผลของการทำงานจนยืนด้วยตัวเองอย่างมั่นคงได้ในระยะเวลาไม่นานนัก และธุรกิจใดที่ปิดตัวลงไป ทุนที่หลงเหลืออยู่ในตัวมันก็จะถูกโยกย้ายไปเติมในหลุมใหม่อย่างรวดเร็วจนผู้ที่เกี่ยวข้องไม่มีแม้เวลามานั่งเสียใจกับความล้มเหลวในเมื่อทางข้างหน้ามันเต็มไปด้วยหนทางที่เป็นไปได้

ในขั้นสุดท้ายนั้นตลาดเสรีจะส่งเสริมคนให้มีความเป็น “มนุษย์“ ในความหมายของมันอย่างเต็มเปี่ยม ศักดิ์ศรีและเกียรติของผู้คนจะไม่ถูกลิดรอนลงไปแม้เพียงน้อย สังคมจะเอื้อเฟื้อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากและผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อย่างไม่ขาด ลองหันกลับมามองทุกวันนี้ที่แม้เราอยู่ในสังคมที่ถูกทำลายไปโดยมากจากเงินเสื่อมค่า เราก็ยังสามารถเห็นการช่วยเหลือกันและกัน เห็นความเอื้ออารีย์ในหมู่ผู้คนอยู่ไม่น้อย ในโลกตลาดเสรีอันรุ่งโรจน์ที่ขับเคลื่อนโดยเงินมั่นคงนั้น ในเมื่อผู้คนส่วนใหญ่อยู่ดีกินดีกันถ้วนหน้าและสามารถเติมเต็มความปรารถนาในทุกๆ ด้านของชีวิตแล้ว สังคมจะเต็มไปด้วยการแบ่งปันและช่วยเหลือกันจนเราอาจจะไม่สามารถพบเจอคนที่เรียกได้ว่า “น่าสงสาร” อีกเลย

กาลครั้งหนึ่ง ณ ดวงดาวตลาดเสรี แม่บ้านในครอบครัวหนึ่งพบว่าลูกๆ ของตนทุกคนนั้นค่อนข้างที่จะโตพอสมควรจนดูแลตัวเองเบื้องต้นได้แล้ว ภาระของเธอจึงเบาลงกว่าแต่ก่อนมากเธอจึงอยากหาอะไรทำสักอย่างให้เป็นประโยชน์เพิ่มเติมกับครอบครัว และวันหนึ่งเธอก็เริ่มทำแซนวิชไปขายที่สวนใกล้บ้าน ที่ทุกเย็นคนในละแวกนั้นจะพากันมาพักผ่อนและออกกำลังกายกัน ในวินาทีที่ลูกค้าคนแรกของเธอจ่ายเงินและรับแซนวิชไปนั้น คนทุกคนในดาวดวงนั้นก็รวยขึ้นถ้วนหน้า.

849446

#siamstr
Author Public Key
npub1x987z3wsp6jgujapscjsu4qdq2332hhd9p8vggrvfrsdhv2fshdsdlqppk