What is Nostr?
Hipknox / Hipknox_
npub1p0g…v9kv
2024-07-16 05:41:36

Hipknox on Nostr: ดราม่า Talk Show นั่น, ...

ดราม่า Talk Show นั่น, เห็นแล้วถ่อมใจลงวางได้ดีเลยนะ มันทำให้กลับไปย้อนคิดถึงคำพูดที่มักจะพูดอยู่เป็นประจำว่า “ความจริงเป็นเรื่องของปัจเจก” เรารู้ความจริงได้เท่าที่เรารู้มา ไม่อาจมากกว่านั่นต่อให้เสาะแสวงหาอย่างสุดกำลังแค่ไหนก็ตาม “เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นกับเรา” พวกเราเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว จากสิ่งที่กลายเป็นอดีตของเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น และบ่อยครั้งมันไม่ใช่เราที่เป็นคนสร้างให้เหตุการณ์เหล่านั้นกลายไปเป็นอดีตที่เรียกได้ว่าประวัติศาสตร์ และใช่ เรารับรู้มันมาอีกที

สิ่งที่ผมเห็นคือคน ๆ หนึ่งที่มีทักษะการสื่อสารขั้นสูงที่ถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แถมยังเป็นคนที่มีใจรักในเรื่องของประวัติศาสตร์ เห็นการบรรยายแล้วรับรู้ได้เลยว่ามีความหลงไหล อ่านมาเยอะ และตกผลึกกับมันไม่น้อยเลยทีเดียว การเล่าเรื่องแต่ละครั้งที่เราได้ฟังมันแทบจะเป็นการดึงเอาสิ่งที่จำได้จากภายในมันสมองออกมาบรรยายให้ผู้ฟังได้ฟัง ไม่ใช่การบรรยายจากการอ่านข้อความที่เป็นตัวอักษรในหน้าหนังสือให้ผู้ฟังได้รับฟัง แบบนั้นใคร ๆ ก็อ่านกันเอาเองได้จริงมั้ย และนั่นแหละ

มันเรียกว่าอะไรนะ เพอร์เฟ็คต์ชั่นนิสต์? การที่เราคิดว่ามันจะต้องถูกต้องทุกระเบียบ การพูดในการบรรยายในเรื่องราวของประวัติศาสตร์จะต้องมีการอ้างอิง มีแหล่งที่มาระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่าการบรรยายถูกหยิบยกมาจากไหน เพื่อความถูกต้องของเนื้อหาที่เหล่านักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญได้ลงความเห็นแล้วว่าเป็นจริง ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นการหากินบนรายได้ที่มาจากการสื่อสารบนความเป็นจริงที่ถูกต้อง ไม่บิดเบือน เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ที่รับฟังการบรรยาย

“อ่า.. สำหรับในเรื่องนี้นะครับ ผู้บรรยายเองได้หยิบยกมาจาก เอกสารอ้างอิง ฉบับนี้...ลงวันที่... โดย... ซึ่งถือเป็นหลักฐานอ้างอิงที่ได้รับการยอมรับโดยสากล..”

ขอบคุณครับ ผมขอให้นอนหลับฝันดี ผมคนนึงล่ะที่จะไม่เสียเวลานั่งฟังหรืออ่านอะไรแบบนั้น ผมมักจะสนใจเนื้อหาของมันมากกว่าที่จะต้องมารับรู้ว่าเนื้อหามันถูกอ้างอิงเอามาจากที่ไหน เพราะว่าถ้าหากว่าสิ่งที่ได้ฟังหรือได้อ่านมา เนื้อหาของมันถูกบิดเบือนไปและไม่เป็นความจริง เราจะรู้ถึงความเป็นจริงด้วยตัวเองอีกทีในตอนที่ได้ฟังและได้อ่านมันจากแหล่ง ๆ อื่น มนุษย์อย่างเรา ๆ พระเจ้าได้ประทานสติปัญญามาให้เพื่อการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ คิดและตัดสินใจได้ว่าสิ่งไหนจริงหรือไม่จริงได้จากตัวเอง เลือกที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อได้ด้วยตัวเอง มันคือวิธีการที่เราใช้เพื่อที่จะเรียนรู้ไปทั้งชีวิต

สิ่งสำคัญคือตัวทริกเกอร์หรือคอนเซ็ปต์ที่เราได้จากเนื้อหานั้น ๆ ว่ามันมีความสำคัญที่เราจะสนใจเอาไปค้นหาต่อด้วยตัวเองหรือไม่ เพราะถ้ามันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตของเรา ต่อให้มันเป็นความถูกต้องเป็นจริงและถูกพิสูจน์แล้วเชิงประจักษ์ หรือจะเป็นเพียงเรื่องอุปโลกน์ที่ถูกแต่งเติมหรือบิดเบือนไปจากความเป็นจริง ทั้งสองสิ่งนี้ก็เป็นเพียงแค่เรื่องที่ไร้สาระ หาได้มีความสำคัญใดไม่ในชีวิตของเรา จะเป็นความจริงหรือเรื่องโกหกแล้วไงต่อ?

ประวัติศาสตร์ก็เช่นกัน ความลึกซึ่งของความเข้าใจในประวัติศาสตร์ที่เพรียบพร้อมด้วยแหล่งอ้างอิง มีข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ถูกพิสูจน์แล้ว เป็นสิ่งที่น่านับถือถึงความพยายามในการแสวงหาและพิสูจน์ความเป็นจริง และการรักษามันไว้ไม่ให้ถูกใครบิดเบือนมันไปเป็นสิ่งที่น่ายกย่องอย่างยิ่ง แต่ไม่ใช่มนุษย์ทุกคนที่มีความต้องการอย่ากที่จะรับรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์จะรู้สึกภาคภูมิใจไปกับความยอดเยี่ยมของการพิสูจน์เหล่านี้ พวกคุณคิดว่าผู้ที่เชื่อในพระเยซูเขาต้องการที่จะรับรู้ความจริงว่าพระเยซูถูกตรึงกางเขน ตายแล้วฟื้นขึ้นในวันที่ 3 จริง ๆ มั้ย? มันมีเอกสารทางวิชาการที่เขียนโดยชาวยิวร่วมสมัยกับพระเยซูแต่นั้นก็ไม่เคยได้ระบุถึงเหตุการณ์การถูกตรึงกางเขนเอาไว้เลย ผมถามหน่อยสิความเป็นจริงของผู้ที่ยึดถือความถูกต้องของการพิสูจน์ได้มีหลักฐานการบันทึก กับความเชื่อที่เป็นความจริงของผู้ที่เชื่อและศรัทธา ความจริงของใครที่เป็นความจริงมากกว่ากัน? เราต่างตัดสินสิ่งต่าง ๆ บนความเป็นปัจเจกของเราใช่มั้ยล่ะ? แล้วทำไมเราถึงต้องการที่จะยัดเยียดความจริงของเราให้กับคนอื่น ๆ ปัญญาของเราสูงส่งกว่าของผู้อื่น ถูกต้อง และเที่ยงธรรมมากกว่าผู้อื่นอย่างนั้นหรือ? ทำไมจึงตัดสินคนอื่นได้ว่า “สิ่งที่คุณกำลังนำเสนออยู่นั้นมันไม่จริง” ทั้ง ๆ ที่ตัวเราเองก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น เราเองก็อ่านและรับรู้มาจากผู้อื่นอีกทีไม่ใช่หรือ?

เอาจริง ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับที่ผมเขียนมาทั้งหมดข้างบนนั่น จริง ๆ จะเขียนสั้น ๆ ว่ามันมีคนที่มีสกิลในการสื่อสารที่เก่งมาก ๆ พอที่จะทำเงินสร้างรายได้จากตลาด เป็นที่ยอมรับ และได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในบุคคลที่พูดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ได้น่าฟังมาก ๆ คนหนึ่ง กับอีกคนที่อาจจะเก่งในระดับที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านประวัติศาสตร์ รู้ลึกรู้จริงแต่ไม่มีใครสนใจอยากจะฟังในสิ่งที่พูด ออกมาแสดงความคิดเห็นเชิงเหน็บแนม ซึ่งไม่ใช่การติเพื่อก่อให้เกิดการปรับปรุงแก้ไข ใครได้เห็นการโพสบนแพลตฟอร์มนั้นถ้าไม่ได้มีใจลำเอียงยังเห็นได้ชัดว่านั่นเป็นเพียงการประชดประชันตัดพ้อว่าคนที่รู้ไม่จริงแต่พูดเก่ง กลับสามารถหารายได้ได้จากสิ่งที่เขานั้นรู้มากกว่า

โอ้นั่นช่างไม่ยุติธรรมเสียนี่กระไร ตลาดทุนนิยมก็เป็นแบบนั้น ไม่ว่าคุณจะรู้แจ้งเห็นจริงในสิ่งที่คุณเชียวชาญ ตลาดก็ไม่ได้ตอบสนองข้อดีของคุณตรงนั้น แต่กลับเลือกที่จะให้รางวัลกับผู้ที่ไม่ได้เก่งกาจขนาดนั้นแบบคุณเพราะอะไรกันนะ? ทำไมคนที่รู้น้อยกว่าคุณถึงได้กล้านำเสนอสิ่งที่คุณเป็นกังวลว่าถ้าเป็นตัวคุณเองคงไม่กล้านำเสนอสิ่งที่รู้ไม่จริงแบบเขาออกไปแบบนั้นแน่ ๆ ได้กันนะ?

อาจจะไม่เกี่ยวกันแต่ผมกลับเห็นความเป็นจริงของพระเจ้าในมนุษย์อย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ว่าไม่มีใครที่ชื่นชอบความเย่อหยิ่งจองหอง แต่กลับเลือกที่จะชื่นชอบผู้ที่อ่อนน้อมถ่อมตน ผู้รู้น้อยที่กล้าที่จะแบ่งปันสิ่งที่รู้ราวกับเพื่อนคนหนึ่งที่อยากจะอวดในสิ่งที่รับรู้มาให้เพื่อนคนอื่น ๆ ได้รับรู้ แม้จะต้องแบกรับความเสี่ยงจากความไม่ถูกต้องของสิ่งที่นำเสนอนั้น คำสบประมาทต่าง ๆ นา ๆ ความรับผิดชอบต่อข้อมูลที่ได้นำเสนอไปแล้วจะเป็นชะงักติดตัวตามเขาไปทุก ๆ ที่ แต่เขาก็มีความกล้าที่จะนำเสนอ

ตลาดทุนนิยมไม่รอให้คุณมั่นใจหรือเพียบพร้อมก่อนการลงมือ การบริโภคเกิดจากความต้องการของผู้คน ผู้ที่สร้างความต้องการได้จะกลายเป็นผู้นำในตลาด มีคนมากมายที่ศึกษาประวัติศาสตร์ในเชิงลึก มีข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำอยู่กับตัวมากมาย แต่คนที่บุกเบิกให้ผู้คนเกิดความสนใจในตลาดนี้กลับเป็นแค่คน ๆ หนึ่งที่หลงรักในเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และกล้าที่จะออกมานำเสนอในสิ่งที่เขานั้นชอบ “เขารู้ว่าตัวเขาชอบอะไร และจะทำให้คนอื่น ๆ ชอบแบบที่ตัวเขาชอบได้ยังไง“ ใครกันแน่ที่สร้างประโยชน์ให้กับตลาด

ผมว่าคนที่ได้ฟังหรือได้อ่าน มีความสามารถมากพอที่จะไปค้นหาแหล่งอ้างอิง หรือข้อมูลเชิงลึกได้ด้วยตัวเองในภายหลังหากว่าเขามีความสนใจจะถือเอาเป็นสาระสำคัญในชีวิตของเขา คนที่ไม่เคยรับรู้มาก่อนเขาต้องการเพียงแค่ “คอนเซ็ปต์” ที่จะไป “ทริกเกอร์” ให้พวกเขาเกิดมีความสนใจในสิ่งที่กำลังถูกนำเสนอ แรงบันดาลใจในการแสวงหาจะเกิดขึ้นเมื่อมีคนที่ชี้ทาง ไม่ใช่จากคนที่พยายามจะยัดเยียดในสิ่งที่ตลาดไม่ต้องการจะรับรู้ นั่นไม่ใช่วิธีที่เราจะอยู่ในตลาด

เขียนบ่นซะยาว ได้สาระอะไรมั่งมั้ยนะ ผมไม่ได้ต้องการจะบอกว่าผมเองดีเลิศกว่าใคร ๆ เพราะบางครั้งผมเองก็ทำตัวแบบนั้น แสดงความเย่อหยิ่งจองหองออกมาเมื่อมีบางสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามใจของตัวเองด้วยเหมือนกัน

ดังนั้นการเขียนครั้งนี้เป็นไปเพื่อการเฝ้าสังเกตความเป็นมนุษย์ของเรา และการตอบสนองของตลาดเท่านั้น เป็นเคสที่มันน่าสนใจดีที่จะเอามาบันทึกถึงความคิดเห็นของผมเองที่ตอบสนองการรับรู้ต่อเรื่องราวนี้ #Siamstr #Siamstrog
Author Public Key
npub1p0glyrz85nu86gevlhrsg9t3pg5uhrhq3sgwjmy8mzq0k09m30pq2jv9kv