Pikanet on Nostr: … เป้าหมาย ความฝัน ...
… เป้าหมาย ความฝัน และหนทางหลุดออกจากระบบ …
มานั่งทบทวนเวลาที่ผ่านไป ก็แอบเสียดายเวลาร่วม 20 ปี ที่เข้าใจหนทางออกจากระบบนี้ผิดมาโดยตลอด
ในอดีตผมก็พอรู้สึกได้ว่ามีระบบเน่าๆรอบตัวมานานละ แค่ไม่เคยเข้าใจเหตุผลกลไกของมัน และเสียเวลาไปกับความพยายามไล่ตามความฝันและเป้าหมายแบบผิดๆไปมากกว่า 20 ปี
เคยเข้าใจตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆว่า การจะออกจากระบบได้ คือการหาเงินให้ได้มาก มากกว่าคนอื่นๆ เราถึงจะมีเงินมากพอจะไม่ต้องทำตามระบบ โดยตั้งเป็นตัวเลขเงินที่ชัดเจนเป็นเป้าหมาย ว่าการเก็บเงินที่อายุ 40 ,45 ,50 เราจะมีเงินกี่บาท มันถึงจะพอในภาระชีวิตช่วงนั้น ได้แต่บอกตัวเองด้วยความเข้าใจผิดว่าจะเกษียณตอน 50 และพึ่งจะมาเข้าใจว่า นั่นเพราะเราเบื่อระบบนั่นละ เราถึงอยากหยุดปั่นวงล้อที่น่ารังเกียจนี้
ในช่วง 10 ปีแรก ช่วงอายุไม่เกิน 30 ผมทำทุกวิถีทาง ทำงานตั้งแต่ตื่นยันหลับวนไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และเพราะตัวเองไม่ได้ฉลาดมากนักจึงต้องใช้วิธีทำงานให้มันมากกว่าคนอื่นๆ เคยลองนับดู นับได้ว่าตัวเองทำงานมามากกว่า 25 อาชีพ ซึ่งที่ผ่านมาก็ต้องแลกกับความสูญเสียหลายๆอย่าง ที่ตัวเองเคยคิดว่ามันจำเป็นต้องแลกมาเพื่อความสำเร็จ มันควรจะเป็นเรื่องปกติของความสำเร็จสิ แล้วระบบเน่าๆนี้ก็ค่อยๆทำให้ทุกอย่างรอบตัวแย่ลงๆ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในครอบครัวกับพ่อแม่ หรือแม้กระทั่งกับภรรยา ยิ่งเวลาสังสรรค์กับเพื่อนนี่ไม่ต้องพูดถึง ผมโยนมันทิ้งไปเองทั้งหมด แต่ผมยังไม่คิดจะหยุดนะ เพราะมันยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ทั้งนิ
ผมทำงานเพื่อเป้าหมายการเงินในวัย 40 สำเร็จได้แบบทันเวลาพอดี แลกมากับที่ร่างกายมันบอกกับผมว่า พอเถอะ มันไม่ไหวละ แต่ทำยังไงได้ ผมยังมีเป้าที่ต้องทำให้สำเร็จในเป้าอายุ 45 ซึ่งมันยากกว่าเดิม และภาระต่างๆรอบตัวเหมือนจะเพิ่มขึ้นๆตามวัย โชคยังดีที่ผมไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยนัก และผมชอบการออมเพราะชอบที่จะเห็นตัวเลขในบัญชีมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พึ่งจะ 4 ปีนี้เองสินะ ที่ได้รู้จักและพอเริ่มเข้าใจ Bitcoin จึงเริ่มมองเห็นทางออก ก่อนหน้านั้นแม้งานจะราบรื่นดีแต่ผมเริ่มหมดหวังในเป้าหมายของผม เพราะเป้าหมายที่เริ่มยากเกินไป และภาระที่มากขึ้นมันก็เพิ่มขึ้นสวนทางกับเวลาที่เหลือน้อยลงๆทุกวัน
ผมใช้เวลาตลอด 4 ปี ศึกษาอย่างจริงจังโดยแบ่งเวลาทำงานทุกวัน วันละ 2 ชม. มาเรียนรู้ในทุกๆด้านที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ผมจำเป็นต้องเริ่มปรับเวลาทำงานให้ลดลง ประชุมน้อยลง ใช้เวลาในการทำงานอย่างจำกัดขึ้น หลังจากศึกษาต่อเนื่องจนเข้าใจว่า Bitcoin คืออะไรแล้ว จึงไม่หวั่นไหวกับราคาอีกต่อไป แค่ตั้งใจทำงาน ออมเงินที่เรามั่นใจว่าดี และถือมันแน่นๆต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความมั่นใจ ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ผมกลับเลิกตั้งเป้าหมายเป็นตัวเลขเงินออมเป็นเงินบาทไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ที่เลิกตั้งเป้าหมายเป็นตัวเลขเงินบาทที่จะเกษียณในอนาคตไปแล้วนั้น ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรกันแน่ อาจเป็นเพราะผมไม่เห็นคุณค่าของเงิน Fiat แล้ว หรืออาจเพราะ ผมพอใจกับความรู้สึกมั่นคงที่ได้รับจากเงินที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ อย่าง Bitcoin กันแน่
ท้ายสุด…Bitcoin กลับทำให้ผมมหัศจรรย์ใจที่สุดตรง พอมาคิดๆดูแล้ว มูลค่าของ Bitcoin ที่ย้อนกลับมาเขียวขจี คล้ายๆจะเป็น Bullrun ในตอนนี้ กลับทำให้มูลค่าที่ผมออมเป็น Generation Wealth นี้ สูงขึ้นได้ตามเป้าหมายที่ผมเคยวางไว้เป็น Fiat เพื่อเกษียณได้ทันตามแผนเดิม เพราะมูลค่าที่ยิ่งถือนานยิ่งทวีคูณ เพียงแค่เราถือมันไว้ให้นานมากพอ
แต่มาถึงตอนนี้ผมก็ไม่เคยคิดที่จะขายมันอีกต่อไป เพราะ Bitcoin ทำให้ผมได้ทำงานอย่างมีความสุขเพราะรู้สึกถึงความมั่นคง และได้คืนเวลาให้ผมได้ทำงานตามความฝันของผมต่อไปด้วย และหากเรามีความสุขที่จะทำงานในฝันของเราแล้ว ใครจะคิดเกษียณล่ะ ??? ผมก็พร้อมจะทำงานอย่างสนุกในทุกๆวัน โดยที่ไม่ต้องนึกถึงระบบเน่าๆรอบๆตัวเราอีกต่อไป
💜🧡 ขอบคุณ Bitcoin ที่คืนเวลา คืนความสุข คืนความฝัน คืนความรัก คืนอนาคต ให้ผม 🧡💜
#siamstr
#escapethematrix
#siamesebitcoiners
มานั่งทบทวนเวลาที่ผ่านไป ก็แอบเสียดายเวลาร่วม 20 ปี ที่เข้าใจหนทางออกจากระบบนี้ผิดมาโดยตลอด
ในอดีตผมก็พอรู้สึกได้ว่ามีระบบเน่าๆรอบตัวมานานละ แค่ไม่เคยเข้าใจเหตุผลกลไกของมัน และเสียเวลาไปกับความพยายามไล่ตามความฝันและเป้าหมายแบบผิดๆไปมากกว่า 20 ปี
เคยเข้าใจตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆว่า การจะออกจากระบบได้ คือการหาเงินให้ได้มาก มากกว่าคนอื่นๆ เราถึงจะมีเงินมากพอจะไม่ต้องทำตามระบบ โดยตั้งเป็นตัวเลขเงินที่ชัดเจนเป็นเป้าหมาย ว่าการเก็บเงินที่อายุ 40 ,45 ,50 เราจะมีเงินกี่บาท มันถึงจะพอในภาระชีวิตช่วงนั้น ได้แต่บอกตัวเองด้วยความเข้าใจผิดว่าจะเกษียณตอน 50 และพึ่งจะมาเข้าใจว่า นั่นเพราะเราเบื่อระบบนั่นละ เราถึงอยากหยุดปั่นวงล้อที่น่ารังเกียจนี้
ในช่วง 10 ปีแรก ช่วงอายุไม่เกิน 30 ผมทำทุกวิถีทาง ทำงานตั้งแต่ตื่นยันหลับวนไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และเพราะตัวเองไม่ได้ฉลาดมากนักจึงต้องใช้วิธีทำงานให้มันมากกว่าคนอื่นๆ เคยลองนับดู นับได้ว่าตัวเองทำงานมามากกว่า 25 อาชีพ ซึ่งที่ผ่านมาก็ต้องแลกกับความสูญเสียหลายๆอย่าง ที่ตัวเองเคยคิดว่ามันจำเป็นต้องแลกมาเพื่อความสำเร็จ มันควรจะเป็นเรื่องปกติของความสำเร็จสิ แล้วระบบเน่าๆนี้ก็ค่อยๆทำให้ทุกอย่างรอบตัวแย่ลงๆ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในครอบครัวกับพ่อแม่ หรือแม้กระทั่งกับภรรยา ยิ่งเวลาสังสรรค์กับเพื่อนนี่ไม่ต้องพูดถึง ผมโยนมันทิ้งไปเองทั้งหมด แต่ผมยังไม่คิดจะหยุดนะ เพราะมันยังไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ทั้งนิ
ผมทำงานเพื่อเป้าหมายการเงินในวัย 40 สำเร็จได้แบบทันเวลาพอดี แลกมากับที่ร่างกายมันบอกกับผมว่า พอเถอะ มันไม่ไหวละ แต่ทำยังไงได้ ผมยังมีเป้าที่ต้องทำให้สำเร็จในเป้าอายุ 45 ซึ่งมันยากกว่าเดิม และภาระต่างๆรอบตัวเหมือนจะเพิ่มขึ้นๆตามวัย โชคยังดีที่ผมไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยนัก และผมชอบการออมเพราะชอบที่จะเห็นตัวเลขในบัญชีมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พึ่งจะ 4 ปีนี้เองสินะ ที่ได้รู้จักและพอเริ่มเข้าใจ Bitcoin จึงเริ่มมองเห็นทางออก ก่อนหน้านั้นแม้งานจะราบรื่นดีแต่ผมเริ่มหมดหวังในเป้าหมายของผม เพราะเป้าหมายที่เริ่มยากเกินไป และภาระที่มากขึ้นมันก็เพิ่มขึ้นสวนทางกับเวลาที่เหลือน้อยลงๆทุกวัน
ผมใช้เวลาตลอด 4 ปี ศึกษาอย่างจริงจังโดยแบ่งเวลาทำงานทุกวัน วันละ 2 ชม. มาเรียนรู้ในทุกๆด้านที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ผมจำเป็นต้องเริ่มปรับเวลาทำงานให้ลดลง ประชุมน้อยลง ใช้เวลาในการทำงานอย่างจำกัดขึ้น หลังจากศึกษาต่อเนื่องจนเข้าใจว่า Bitcoin คืออะไรแล้ว จึงไม่หวั่นไหวกับราคาอีกต่อไป แค่ตั้งใจทำงาน ออมเงินที่เรามั่นใจว่าดี และถือมันแน่นๆต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความมั่นใจ ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ผมกลับเลิกตั้งเป้าหมายเป็นตัวเลขเงินออมเป็นเงินบาทไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ที่เลิกตั้งเป้าหมายเป็นตัวเลขเงินบาทที่จะเกษียณในอนาคตไปแล้วนั้น ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรกันแน่ อาจเป็นเพราะผมไม่เห็นคุณค่าของเงิน Fiat แล้ว หรืออาจเพราะ ผมพอใจกับความรู้สึกมั่นคงที่ได้รับจากเงินที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ อย่าง Bitcoin กันแน่
ท้ายสุด…Bitcoin กลับทำให้ผมมหัศจรรย์ใจที่สุดตรง พอมาคิดๆดูแล้ว มูลค่าของ Bitcoin ที่ย้อนกลับมาเขียวขจี คล้ายๆจะเป็น Bullrun ในตอนนี้ กลับทำให้มูลค่าที่ผมออมเป็น Generation Wealth นี้ สูงขึ้นได้ตามเป้าหมายที่ผมเคยวางไว้เป็น Fiat เพื่อเกษียณได้ทันตามแผนเดิม เพราะมูลค่าที่ยิ่งถือนานยิ่งทวีคูณ เพียงแค่เราถือมันไว้ให้นานมากพอ
แต่มาถึงตอนนี้ผมก็ไม่เคยคิดที่จะขายมันอีกต่อไป เพราะ Bitcoin ทำให้ผมได้ทำงานอย่างมีความสุขเพราะรู้สึกถึงความมั่นคง และได้คืนเวลาให้ผมได้ทำงานตามความฝันของผมต่อไปด้วย และหากเรามีความสุขที่จะทำงานในฝันของเราแล้ว ใครจะคิดเกษียณล่ะ ??? ผมก็พร้อมจะทำงานอย่างสนุกในทุกๆวัน โดยที่ไม่ต้องนึกถึงระบบเน่าๆรอบๆตัวเราอีกต่อไป
💜🧡 ขอบคุณ Bitcoin ที่คืนเวลา คืนความสุข คืนความฝัน คืนความรัก คืนอนาคต ให้ผม 🧡💜
#siamstr
#escapethematrix
#siamesebitcoiners