tukjedsadatik on Nostr: >>>มหกรรมเปย์จากภาครัฐ<<< ...
>>>มหกรรมเปย์จากภาครัฐ<<<
ใครยังจำเหตุการณ์ช่วงโควิด19ได้มั้ย ช่วงนั้นทางร้านได้รับผลกระทบไปด้วยเหมือนร้านอื่นทุกร้าน เริ่มจากนโยบายอันหลักแหลมเช่นไม่ให้กินอาหารในร้าน ห้ามนั่งโต๊ะ ต้องใส่ชามพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง ให้ลูกค้าไปกินแถวๆหน้าร้าน มองย้อนเวลากลับไปมันก็ตลกนะ แต่ช่วงนั้นคนกลัวจริงๆ ไปโดนตัวใครต่อใครนี่อี๋กับอึ๋ยกันไปหมด พ่นสเปรย์แอลกอฮอลล์ ปื๊ดๆๆๆๆ ผมไม่รู้ไอ้ความรู้สึกแบบนั้นคือเรากำลังโดนล้างสมองกันอยู่หรือเปล่า
ช่วงนั้นเหมือนประชาชนจะตกงานกันเยอะ เห็นบางคนเป็นนักบินก็มาวิ่งGrabส่งอาหาร ก็ได้เห็นความดิ้นรนของแต่ละคน บางคนก็นอนรอความตายไม่ทำอะไร
ประมาณเดือนส.ค.ปี2563มั้ง(ถ้าผมจำปีไม่ผิดนะ) พระประแดงโควิด19 ระบาดหนักมาก ร้านค้าของกินแทบไม่มี ปิดแทบหมดตลาด(เป็นโอกาสทองของที่ร้านเลย🤑) พอเหลือร้านเราขายอยู่ร้านเดียวก็ต้องขายดีแหละแต่ไม่มีวัตถุดิบ พวกเราในร้านช่วยกันหาวัตถุดิบมาขาย กระดูกหมูที่จะเอามาต้มน้ำซุปยังแทบไม่มีเลยคือขายให้มันได้รสชาติคล้ายแบบเดิมเท่าที่เป็นไปได้แค่นั้นแหละ
ทีนี้แม่งเกิดมีมหาMega project ช่วงที่เริ่มเปิดให้ลูกค้าเข้ามานั่งกินในร้านได้อีกครั้ง ใช่ครับ #คนละครึ่งกับเราชนะ (เอ่อเหมือนจะแจก15000ก่อนรอบนึงด้วยมั้งใช่มะ)
เอาเรื่องคนละครึ่งกับเราชนะก่อนแล้วกัน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมปั่นป่วนขั้นสุด ผมอั้นขี้อั้นเยี่ยวเก่งขึ้นแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เป็นSkillที่Upขึ้นมา หลังจากชีวิตสมัยเรียนนอนเกาหำเล่นเกมส์อย่างเดียวไม่ทำอะไรเลย
พระประแดงเป็นเมืองลับแลด้านเทคโนโลยี ประชาชนที่นี่เล่นFBได้ ก็แทบจะอยู่แถวหน้าของวงการเทคโนโลยีในเมืองนี้ได้แล้ว
พระเจ้าคุณรู้มั้ยครับ ตั้งแต่แม่งเริ่มโครงการพวกนี้ ลูกค้าผมแห่มาต่อแถวให้ผมสมัครลงทะเบียน หัวสมองวันๆนึง ผมแม่งแทบระเบิด เชี่ยไรวะเนี่ย บางคนก็ไม่มีวันเกิด(เออผมเพิ่งรู้ว่ามีคนไม่รู้วันเกิดเดือนเกิดปีเกิดตัวเองด้วยแฮะ) ก็ทำๆไป
เอาแล้วครับหลังจากเงินเริ่มเข้ามาในappเป๋าตังกันวันแรก เหมือนผึ้งแตกรัง ประชาชนบางคนขับมอไซค์มาเบรคแทบหัวทิ่มเมื่อเจอป้ายว่าที่ร้านผมรับคนละครึ่งเราชนะ(เค้าเบรคกันหัวทิ่มจริงนะ แทบจะแลกกันด้วยชีวิตเลย) บางคนก็ไม่มีเนตต้องมานั่งเติมเนต9บาท 10บาท รายวันในร้าน
ผ่านโครงการพวกนี้ไปพักนึง ก็เริ่มได้กลิ่นพิลึกๆออกมา ร้านขายของชำแถวบ้านผม(ผมแอบเห็นยอดวันนึงขายได้ประมาณ3-4หมื่นแต่เค้ากำไรน้อยนะ สินค้าพวกนมผง แพมเพิร์ส สบู่ยาสีฟัน น้ำยาซักผ้า) ร้านเริ่มโดนขูดรีดภาษี ผมไม่กล้าถามรายละเอียดเรื่องภาษีเค้านะ แต่เค้าบอกเวลาจบโครงการเหมือนเหนื่อยฟรีไม่ได้กำไรอะไรเลย
แต่เราไหวตัวทัน ชิงเลิกรับเงินโครงการพวกนี้ไปเสียก่อน แถมโดนลูกค้าด่าว่าทำไมไม่รับเงินโครงการพวกนี้ เค้าอยากจะใช้(โอ๊ยยยยย ไรวะ) แต่สุดท้ายพอร้านต่างๆเริ่มไหวตัวกันได้ กลายเป็นว่าไม่มีใครรับเงินพวกนี้แล้ว
ที่เล่าให้ฟังนี่ อยากให้เข้าใจความรู้สึกของพวกผมที่ไม่อยากรับเงินโครงการพวกนี้ แล้วปีหน้าแม่งก็มีอภิมหาโครงการเงิน#10000 อีก แต่ถามร้านค้าต่างๆเค้าก็บอกไม่รับกันนะ
ผมในฐานะร้านค้าได้กลิ่นของการกำลังจะโดนรัฐควบคุมอะไรซักอย่าง ถ้าไม่มีร้านไหนรับเลยมันก็อาจจะมีบทลงโทษ🥲สำหรับร้านที่ไม่รับเงินนี้
สรุปแม่งเลยละกันจะขับรถแล้ว
#ช่วยปลดปล่อยผมด้วยยย
T.tukjedsadatik
ใครยังจำเหตุการณ์ช่วงโควิด19ได้มั้ย ช่วงนั้นทางร้านได้รับผลกระทบไปด้วยเหมือนร้านอื่นทุกร้าน เริ่มจากนโยบายอันหลักแหลมเช่นไม่ให้กินอาหารในร้าน ห้ามนั่งโต๊ะ ต้องใส่ชามพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง ให้ลูกค้าไปกินแถวๆหน้าร้าน มองย้อนเวลากลับไปมันก็ตลกนะ แต่ช่วงนั้นคนกลัวจริงๆ ไปโดนตัวใครต่อใครนี่อี๋กับอึ๋ยกันไปหมด พ่นสเปรย์แอลกอฮอลล์ ปื๊ดๆๆๆๆ ผมไม่รู้ไอ้ความรู้สึกแบบนั้นคือเรากำลังโดนล้างสมองกันอยู่หรือเปล่า
ช่วงนั้นเหมือนประชาชนจะตกงานกันเยอะ เห็นบางคนเป็นนักบินก็มาวิ่งGrabส่งอาหาร ก็ได้เห็นความดิ้นรนของแต่ละคน บางคนก็นอนรอความตายไม่ทำอะไร
ประมาณเดือนส.ค.ปี2563มั้ง(ถ้าผมจำปีไม่ผิดนะ) พระประแดงโควิด19 ระบาดหนักมาก ร้านค้าของกินแทบไม่มี ปิดแทบหมดตลาด(เป็นโอกาสทองของที่ร้านเลย🤑) พอเหลือร้านเราขายอยู่ร้านเดียวก็ต้องขายดีแหละแต่ไม่มีวัตถุดิบ พวกเราในร้านช่วยกันหาวัตถุดิบมาขาย กระดูกหมูที่จะเอามาต้มน้ำซุปยังแทบไม่มีเลยคือขายให้มันได้รสชาติคล้ายแบบเดิมเท่าที่เป็นไปได้แค่นั้นแหละ
ทีนี้แม่งเกิดมีมหาMega project ช่วงที่เริ่มเปิดให้ลูกค้าเข้ามานั่งกินในร้านได้อีกครั้ง ใช่ครับ #คนละครึ่งกับเราชนะ (เอ่อเหมือนจะแจก15000ก่อนรอบนึงด้วยมั้งใช่มะ)
เอาเรื่องคนละครึ่งกับเราชนะก่อนแล้วกัน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมปั่นป่วนขั้นสุด ผมอั้นขี้อั้นเยี่ยวเก่งขึ้นแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เป็นSkillที่Upขึ้นมา หลังจากชีวิตสมัยเรียนนอนเกาหำเล่นเกมส์อย่างเดียวไม่ทำอะไรเลย
พระประแดงเป็นเมืองลับแลด้านเทคโนโลยี ประชาชนที่นี่เล่นFBได้ ก็แทบจะอยู่แถวหน้าของวงการเทคโนโลยีในเมืองนี้ได้แล้ว
พระเจ้าคุณรู้มั้ยครับ ตั้งแต่แม่งเริ่มโครงการพวกนี้ ลูกค้าผมแห่มาต่อแถวให้ผมสมัครลงทะเบียน หัวสมองวันๆนึง ผมแม่งแทบระเบิด เชี่ยไรวะเนี่ย บางคนก็ไม่มีวันเกิด(เออผมเพิ่งรู้ว่ามีคนไม่รู้วันเกิดเดือนเกิดปีเกิดตัวเองด้วยแฮะ) ก็ทำๆไป
เอาแล้วครับหลังจากเงินเริ่มเข้ามาในappเป๋าตังกันวันแรก เหมือนผึ้งแตกรัง ประชาชนบางคนขับมอไซค์มาเบรคแทบหัวทิ่มเมื่อเจอป้ายว่าที่ร้านผมรับคนละครึ่งเราชนะ(เค้าเบรคกันหัวทิ่มจริงนะ แทบจะแลกกันด้วยชีวิตเลย) บางคนก็ไม่มีเนตต้องมานั่งเติมเนต9บาท 10บาท รายวันในร้าน
ผ่านโครงการพวกนี้ไปพักนึง ก็เริ่มได้กลิ่นพิลึกๆออกมา ร้านขายของชำแถวบ้านผม(ผมแอบเห็นยอดวันนึงขายได้ประมาณ3-4หมื่นแต่เค้ากำไรน้อยนะ สินค้าพวกนมผง แพมเพิร์ส สบู่ยาสีฟัน น้ำยาซักผ้า) ร้านเริ่มโดนขูดรีดภาษี ผมไม่กล้าถามรายละเอียดเรื่องภาษีเค้านะ แต่เค้าบอกเวลาจบโครงการเหมือนเหนื่อยฟรีไม่ได้กำไรอะไรเลย
แต่เราไหวตัวทัน ชิงเลิกรับเงินโครงการพวกนี้ไปเสียก่อน แถมโดนลูกค้าด่าว่าทำไมไม่รับเงินโครงการพวกนี้ เค้าอยากจะใช้(โอ๊ยยยยย ไรวะ) แต่สุดท้ายพอร้านต่างๆเริ่มไหวตัวกันได้ กลายเป็นว่าไม่มีใครรับเงินพวกนี้แล้ว
ที่เล่าให้ฟังนี่ อยากให้เข้าใจความรู้สึกของพวกผมที่ไม่อยากรับเงินโครงการพวกนี้ แล้วปีหน้าแม่งก็มีอภิมหาโครงการเงิน#10000 อีก แต่ถามร้านค้าต่างๆเค้าก็บอกไม่รับกันนะ
ผมในฐานะร้านค้าได้กลิ่นของการกำลังจะโดนรัฐควบคุมอะไรซักอย่าง ถ้าไม่มีร้านไหนรับเลยมันก็อาจจะมีบทลงโทษ🥲สำหรับร้านที่ไม่รับเงินนี้
สรุปแม่งเลยละกันจะขับรถแล้ว
#ช่วยปลดปล่อยผมด้วยยย
T.tukjedsadatik