kungcoffee on Nostr: ...
วันนี้ผมได้มีโอกาสคุยกับชาวต่างชาติที่ไม่ใช่บิตคอยเนอร์ ในระหว่างการสนทนาผมได้บอกเขาว่าการที่เราจะ Fix the world ได้ เราต้องทำให้โลกกลับไปอยู่ในยุคมาตราฐานทองคำด้วย Bitcoin แล้วเขาก็ถามคำถามหลาย ๆ ข้อกลับมาให้มานั่งขบคิด
แต่หลัก ๆ แล้ว คำถามที่เขา หรืออาจรวมถึงคนทุก ๆ คนที่ไม่ใช่บิตคอยเนอร์จะถามเราที่เป็นบิตคอยเนอร์กลับมาก็คือ:
1. บิตคอยน์นั้นเป็นเพียง "แชร์ลูกโซ่" ที่ใหญ่ที่สุดในโลกหรือไม่?
แชร์ลูกโซ่ที่ทำ Marketing ด้วยคำสัญญาว่าจะเป็น Digital Gold และเป็นเงินของโลก เพื่อให้บิตคอยน์ที่เขาถืออยู่มีค่าขึ้นมาจากอากาศธาตุ เหมือนเหรียญคริปโตอื่น ๆ หรือไม่ แล้วจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะของคนลุกช้าจ่ายนอกวงหรือไม่
อะไรที่ทำให้บิตคอยน์แตกต่างจาก เหรียญคริปโตฯ หรือแชร์ลูกโซ่อื่น ๆ
2. การเข้าถึงแหล่งพลังงานราคาถูกของนักขุดบิตคอยน์จะทำให้โลกร้อน?
อย่างที่รู้กันว่าการที่จะคงคุณสมบัติที่เหมือนทองของบิตคอยน์ได้ เราจำเป็นต้องใช้พลังงานการขุดเป็นเกราะป้องกัน แล้วถ้าหากนักขุดเอาแต่ใช้พลังงานฟรอสซิลราคาถูก โลกเราจะสำลักควันตายไหม?
ผมก็เถียงกลับไปนะ ว่าคนก็จะค่อย ๆ เข้าหาพลังงานนิวเคลียร์เอง แต่เขาก็ตอบกลับมาว่ามันคุ้มเสี่ยงหรอที่จะมีโอกาศเกิดเชอร์โนบิลที่สองบนโลก เพราะถึงตอนนี้มันจะปลอดภัยกว่าเมื่อก่อนมากแล้ว ความเป็นไปได้มันก็ไม่ใช่ศูนย์อยู่ดี
แล้วถึงพลังงานนิวเคลียร์จะใช้ได้จริงเป็นวงกว้างและปลอดภัย มันจะราคาถูกพอให้นักขุดไปใช้หรือเปล่า?
3. ถ้าโลกเรามีเงินที่จำกัด อะไรคือเหตุผลที่คนรวยจะผ่องถ่ายความมั่งคั่งลงมาหาคนจน ในเมือนการถือเอาไว้มีประโยชน์กว่า?
การที่คนที่เข้ามาถือบิตคอยน์ก่อนกลายเป็นคนร่ำรวย แล้วบิตคอยน์มีจำนวนจำกัดผลิตเพิ่มไม่ได้ นั่นจะทำให้คนที่ไม่มีบิตคอยน์ในมือลืมตาอ้าปากไม่ได้เพราะถูกพวกคนร่ำรวยเหล่านั้นเอารัดเอาเปรียบหรือไม่ เหมือนกับการเอารัดเอาเปรียบแรงงานในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรปโดยเฉพาะประเทศอังกฤษหรือไม่
คนที่ไม่ใช่บิตคอยเนอร์จะมองว่าปัญหามันไม่อยู่ที่เงิน แต่อยู่ที่กฏหมายและโครงสร้างภาษีมันไม่ตอบโจทย์ เราต้อง Tax the rich เพื่อให้คนจนลืมตาอ้าปากได้ แล้วเราจะทำอย่างนั้นไ่ม่ได้หากเงินบนโลกมีจำกัด
---------------------------------------------------------------------------------------------
จริง ๆ ผมพอจะมีคำตอบกับคำถามเหล่านั้น แต่คำตอบผมมันเลือนลาง เพราะความรู้เกี่ยวกับบิตคอยน์และปรัชญาของมันผมยังมีไม่มากพอ กับทักษะการพูด ENG ยังไม่ดีพอ
ทำให้ก่อนที่จะออกจากห้องสนทนาไป ผมทิ้งท้ายด้วยการสรุปสามคำถามนี้ให้เขาฟัง แล้วบอกเขาว่าผมจะทำการบ้านมาตอบเขาให้ได้
สุดท้ายเป็นการสนทนาที่มีค่ามากสำหรับผม เพราะมันทำให้เข้าใจว่าอะไรคือ Pain point ของคนที่กังวลเกี่ยวกับบิตคอยน์อยู่
แล้วเพื่อน ๆ พี่ ๆ มีความคิดเห็นอย่างไรลองคอมเม้นมาได้นะครับ 🙂↕️
อันนี้เป็นแค่โน๊ตที่ผมที่ผมจดเอาไว้เพื่อที่จะไม่ลืมการสนทนากับเขาในวันนี้
#siamstr
แต่หลัก ๆ แล้ว คำถามที่เขา หรืออาจรวมถึงคนทุก ๆ คนที่ไม่ใช่บิตคอยเนอร์จะถามเราที่เป็นบิตคอยเนอร์กลับมาก็คือ:
1. บิตคอยน์นั้นเป็นเพียง "แชร์ลูกโซ่" ที่ใหญ่ที่สุดในโลกหรือไม่?
แชร์ลูกโซ่ที่ทำ Marketing ด้วยคำสัญญาว่าจะเป็น Digital Gold และเป็นเงินของโลก เพื่อให้บิตคอยน์ที่เขาถืออยู่มีค่าขึ้นมาจากอากาศธาตุ เหมือนเหรียญคริปโตอื่น ๆ หรือไม่ แล้วจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะของคนลุกช้าจ่ายนอกวงหรือไม่
อะไรที่ทำให้บิตคอยน์แตกต่างจาก เหรียญคริปโตฯ หรือแชร์ลูกโซ่อื่น ๆ
2. การเข้าถึงแหล่งพลังงานราคาถูกของนักขุดบิตคอยน์จะทำให้โลกร้อน?
อย่างที่รู้กันว่าการที่จะคงคุณสมบัติที่เหมือนทองของบิตคอยน์ได้ เราจำเป็นต้องใช้พลังงานการขุดเป็นเกราะป้องกัน แล้วถ้าหากนักขุดเอาแต่ใช้พลังงานฟรอสซิลราคาถูก โลกเราจะสำลักควันตายไหม?
ผมก็เถียงกลับไปนะ ว่าคนก็จะค่อย ๆ เข้าหาพลังงานนิวเคลียร์เอง แต่เขาก็ตอบกลับมาว่ามันคุ้มเสี่ยงหรอที่จะมีโอกาศเกิดเชอร์โนบิลที่สองบนโลก เพราะถึงตอนนี้มันจะปลอดภัยกว่าเมื่อก่อนมากแล้ว ความเป็นไปได้มันก็ไม่ใช่ศูนย์อยู่ดี
แล้วถึงพลังงานนิวเคลียร์จะใช้ได้จริงเป็นวงกว้างและปลอดภัย มันจะราคาถูกพอให้นักขุดไปใช้หรือเปล่า?
3. ถ้าโลกเรามีเงินที่จำกัด อะไรคือเหตุผลที่คนรวยจะผ่องถ่ายความมั่งคั่งลงมาหาคนจน ในเมือนการถือเอาไว้มีประโยชน์กว่า?
การที่คนที่เข้ามาถือบิตคอยน์ก่อนกลายเป็นคนร่ำรวย แล้วบิตคอยน์มีจำนวนจำกัดผลิตเพิ่มไม่ได้ นั่นจะทำให้คนที่ไม่มีบิตคอยน์ในมือลืมตาอ้าปากไม่ได้เพราะถูกพวกคนร่ำรวยเหล่านั้นเอารัดเอาเปรียบหรือไม่ เหมือนกับการเอารัดเอาเปรียบแรงงานในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรปโดยเฉพาะประเทศอังกฤษหรือไม่
คนที่ไม่ใช่บิตคอยเนอร์จะมองว่าปัญหามันไม่อยู่ที่เงิน แต่อยู่ที่กฏหมายและโครงสร้างภาษีมันไม่ตอบโจทย์ เราต้อง Tax the rich เพื่อให้คนจนลืมตาอ้าปากได้ แล้วเราจะทำอย่างนั้นไ่ม่ได้หากเงินบนโลกมีจำกัด
---------------------------------------------------------------------------------------------
จริง ๆ ผมพอจะมีคำตอบกับคำถามเหล่านั้น แต่คำตอบผมมันเลือนลาง เพราะความรู้เกี่ยวกับบิตคอยน์และปรัชญาของมันผมยังมีไม่มากพอ กับทักษะการพูด ENG ยังไม่ดีพอ
ทำให้ก่อนที่จะออกจากห้องสนทนาไป ผมทิ้งท้ายด้วยการสรุปสามคำถามนี้ให้เขาฟัง แล้วบอกเขาว่าผมจะทำการบ้านมาตอบเขาให้ได้
สุดท้ายเป็นการสนทนาที่มีค่ามากสำหรับผม เพราะมันทำให้เข้าใจว่าอะไรคือ Pain point ของคนที่กังวลเกี่ยวกับบิตคอยน์อยู่
แล้วเพื่อน ๆ พี่ ๆ มีความคิดเห็นอย่างไรลองคอมเม้นมาได้นะครับ 🙂↕️
อันนี้เป็นแค่โน๊ตที่ผมที่ผมจดเอาไว้เพื่อที่จะไม่ลืมการสนทนากับเขาในวันนี้
#siamstr