What is Nostr?
/ Ak
npub1nn8…4l2f
2024-01-29 12:00:31

Ak on Nostr: คำกล่าวสดุดีงานศพ พ่อผมเอง ...

คำกล่าวสดุดีงานศพ พ่อผมเอง บันทึกไว้ให้ลูกหลานจดจำ
***************************
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณแม่หนู ขวัญนภา และน้องภา ที่ช่วยดูแลคุณพ่อตลอดมาจนวาระสุดท้ายของท่าน ไม่ง่ายเลยครับสำหรับผู้หญิง2คน ที่ต้องดูแลทั้งผู้สูงวัย
ผู้ป่วยที่นอนติดเตียง และเด็กเล็ก ผมชื่นชม ยกย่องและขอบคุณจากใจครับ

วันนี้ผมขอกล่าวถึงคุณพ่อสำเริง บุญเทียมหรือพ่ออ้วน ในทัศนะของผมเอง ต่างมิติทางความคิดต่างช่วงเวลา และต่างมุมมอง ที่มันเปลี่ยนไปตามวัยของผมเอง ไม่มีผิดไม่มีถูก

ผมจะบอกว่า ผมไม่ชอบพ่อผมเลยครับ ใช่ ฟังไม่ผิด ผมไม่ชอบพ่อผมเลยครับ เพราะอะไรใช่ไหมครับ
ตั้งแต่ผมเริ่มจำความได้

เหตุการณ์ที่ฝังใจให้ผมไม่ชอบพ่อครั้งที่1คือ
ช่วงผมประมาณ 6-7ขวบ พ่อก็ไปทำงานต่างประเทศ ทิ้งผม น้อง แม่ ให้อยู่กันตามลำพัง จนผมอายุประมาณ 9-10ขวบพ่อถึงได้กลับมา และอยู่ด้วยกันครบครอบครัว พ่อแม่ ลูก อย่างที่ควรจะเป็น แต่ความสุขก็ไม่ได้ยาวนาน จากนั้นอีก2ปี ผมอายุประมาณ11-12ขวบ พ่อแม่ผมก็ตัดสินใจแยกเส้นทางกันเดิน ด้วยเหตุผลของผู้ใหญ่

และเหตุการณ์ที่ 2 ที่ผมไม่ชอบพ่อ คือ ตอนผมเรียนจบป.6 ผมตัดสินใจไม่เรียนต่อ และได้ไปของานทำกับคุณลุง เริ่มทำได้เพียง 1-2วัน พ่อก็ไปตามผมกลับมาและบังคับให้ไปสอบเข้า โรงเรียนที่ยังเปิดรับเด็กรอบ2 เพื่อให้เรียนต่อในระดับมัธยม

เหตุการณ์ที่ฝังใจให้ผมไม่ชอบพ่อที่ 3-4-5 คือ วันที่ผมเรียนจบได้เกียรตินิยม คณะวิศวะคอมฯ ได้มีโอกาสขึ้นรับปริญญาก่อนเพื่อนๆคนอื่นๆในรุ่น ผมพยายามมองหาพ่อคาดหวังว่าท่านจะมาร่วมชื่นชม ก็ไม่เห็นว่าท่านมาร่วมงาน

อีกช่วงทคือ ผมตัดสินใจจะเดินทางไปบวชเป็นพระที่ วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย พ่อก็ไม่ได้มาส่งผมที่สนามบิน ก่อนไปบวช

และในวันที่ผมแต่งงาน ผมก็ยังคงมองหาและหวังว่าท่านจะแวะมางานแต่งผม
แต่ผมก็ผิดหวังเช่นเคย ท่านไม่ได้มาร่วมงาน
……………..***********************************************…………………..
แล้วเลนส์ตาที่ผมมองคุณพ่อก็ได้เปลี่ยนไป
เมื่อวันนึงผมกลายเป็นมาเป็นคุณพ่อ ลูก2บ้าง

ผมต้องทิ้งภรรยาให้อยู่ดูแลลูกๆทั้ง2คน เพราะบางครั้งผมก็ถูกส่งตัวไป ทำงานที่ต่างประเทศ ครั้งละนานๆและยังต้องทำงานประจำอยู่ต่างจังหวัด ผมห่างครอบครัวเพียงไม่กี่วันก็คิดถึงครอบครัวเป็นอย่างมาก แต่ยัง VDO call หากันได้แทบทุกวัน

พอมองกลับไปในวัยที่ผมแค่ 6-7ขวบ คุณพ่อผมตอนนั้นท่านอายุเพียงประมาณ 27-28 ท่านเสียสละตนเองเดินทางห่างบ้านจากครอบครัว ท่านก็คงจะเหงาและคิดถึงบ้านเป็นอย่างมาก
ยิ่งสมัยนั้นจะมีการติดต่อกันได้ก็แค่จดหมายที่เขียนหากัน และคุณพ่อก็อดทนทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว อยู่หลายปี ผมเข้าใจท่านมากขึ้นและ ผมก็รักพ่อผมมากครับ

คุณพ่อผมเป็นคนเงียบๆ หน้านิ่งๆ ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมาสักเท่าไหร่ ยกเว้นตอนแกเมา ภาระหนักๆที่ท่านแบกไว้บนบ่าก็จะพรั่งพรูออกมาให้ได้รับรู้บ้าง

ในทุกๆช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตในช่วงฮอร์โมนวัยรุ่นของผมเต็มกาย
ผมเริ่มออกนอกลู่นอกทางเดินที่ควรจะเป็น อยู่ๆก็จะมีคุณพ่อที่ปกติก็แยกกันอยู่ห่างๆ โผล่เข้ามาเป็น Hero ที่ปรากฏตัวแล้วดึงผมกลับมา
เข้าสู่เส้นทางที่ถูกต้องเหมาะสม มิฉะนั้นผมอาจจะไม่ได้มีจุดยืน เหมือนในทุกวันนี้

คุณพ่อผมได้บริจาคร่างกายให้ รพ.ศิริราช เพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ แต่เกิดการผิดพลาดเรื่องการสื่อสารที่เข้าใจผิดกัน จึงทำให้ผมได้มีโอกาสจัดงานให้คุณพ่อในวันนี้
แต่ลึกๆแล้วในใจผมรู้ดีว่า ที่พ่อบริจาคร่างกายลึกๆแล้ว ท่านไม่อยากให้เป็นตนเองต้องเป็นภาระของครอบครัวลูกหลาน จะต้องมาลำบากลางานการต่างๆ เพื่อมาจัดงานศพให้กับท่าน

สุดท้าย ในทุกๆช่วงเวลาสำคัญๆต่างๆในชีวิตผมที่เกิดขึ้น แม้ตัวผมเองจะไม่ค่อยได้เห็นหน้าคุณพ่อ
แต่ท่านก็เก่งนะ ที่รับรู้ทุกเรื่องราว ทุกๆก้าวของความสำเร็จเล็กๆในชีวิตผม
ท่านยินดี ชื่นชมและมองผมอยู่ห่างๆเสมอมา ตั้งแต่วันแรกๆที่เราแยกกันอยู่จนถึงทุกวันนี้
และผมเชื่อว่าคุณพ่อยังคงมองดูลูกๆ หลานๆ ทุกๆคนของท่าน จากที่ใดที่หนึ่งด้วยความรักและชื่นชม ตลอดไป

ด้วยรักและอาลัย คุณพ่ออ้วน สำเริง บุญเทียม
Author Public Key
npub1nn82wpmhm9h6xf8j6fd2fw08kgmften0pqq6453rvk57cwwl5zjqh04l2f