maiakee on Nostr: ...

🤖การพิสูจน์แนวคิด Morphic Field และ Morphic Resonance ของ Rupert Sheldrake เป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากทฤษฎีนี้มีลักษณะเชิงปรัชญาและอิงกับสมมุติฐานที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ด้วยวิทยาศาสตร์กระแสหลัก อย่างไรก็ตาม มีวิธีการที่นักวิทยาศาสตร์และผู้สนับสนุนพยายามนำมาใช้พิสูจน์ ดังนี้:
1. การทดลองที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมสัตว์
• การเรียนรู้ที่ส่งผลในสายพันธุ์เดียวกัน
Sheldrake เสนอการทดลองที่ว่าสัตว์ในกลุ่มหนึ่งเรียนรู้ทักษะใหม่ได้เร็วขึ้นเมื่อสัตว์ในกลุ่มอื่น (ที่อยู่ในระยะไกล) ได้เรียนรู้ทักษะนั้นแล้ว
• ตัวอย่าง: ให้หนูในประเทศหนึ่งเรียนรู้การหนีออกจากเขาวงกต และตรวจสอบว่าหนูในประเทศอื่น (ที่ไม่มีการฝึก) จะเรียนรู้ได้เร็วขึ้นหรือไม่
• ข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน: หากพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ โดยไม่มีตัวแปรอื่น เช่น การฝึกซ้อม หรือปัจจัยด้านพันธุกรรม มันอาจสนับสนุนการมีอยู่ของ Morphic Field
2. การทดลองพฤติกรรมมนุษย์
• การเรียนรู้ในกลุ่มคนที่แยกกันทางภูมิศาสตร์
Sheldrake เสนอว่ามนุษย์อาจมีการ “สั่นพ้อง” ทางความคิด
• ตัวอย่าง: ให้ผู้คนในกลุ่มหนึ่งแก้ปริศนา เช่น คำศัพท์หรือภาพลับสมอง จากนั้นให้กลุ่มอื่นที่ไม่มีการสื่อสารกันลองทำปริศนาเดียวกัน และตรวจสอบว่ากลุ่มหลังทำได้เร็วขึ้นหรือไม่
• ข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน: หากกลุ่มหลังมีประสิทธิภาพดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากกลุ่มแรกทำสำเร็จ
3. การทดลองในพืชและการเจริญเติบโต
• ผลต่อการเติบโตและพัฒนาการของพืช
Morphic Field ถูกเสนอว่าส่งผลต่อรูปแบบการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิต
• ตัวอย่าง: ปลูกพืชในพื้นที่หนึ่งและปรับเงื่อนไขเฉพาะ เช่น การให้น้ำ อุณหภูมิ หรือแสง จากนั้นปลูกพืชชนิดเดียวกันในพื้นที่อื่น และตรวจสอบว่าพฤติกรรมหรือการเจริญเติบโตของพืชในพื้นที่อื่นเปลี่ยนไปโดยไม่มีปัจจัยแวดล้อมที่ชัดเจน
• ข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน: หากรูปแบบการเจริญเติบโตถูกถ่ายทอดไปยังพื้นที่อื่นโดยไม่มีตัวแปรอื่นอธิบาย
4. การทดลองด้านความจำและการรับรู้
• ความจำไม่ได้เก็บไว้ในสมองแต่ใน Morphic Field
Sheldrake อ้างว่าสมองทำหน้าที่เหมือน “ตัวรับสัญญาณ” จาก Morphic Field
• ตัวอย่าง: การศึกษาผู้ป่วยที่สูญเสียสมองบางส่วน (เช่น โรคอัลไซเมอร์หรือการผ่าตัด) แต่ยังสามารถเข้าถึงความทรงจำได้ในบางครั้ง
• ข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน: หากพบว่าความทรงจำสามารถถูกเข้าถึงได้แม้สมองไม่ได้เก็บข้อมูลทางกายภาพ
5. การทดสอบในห้องปฏิบัติการเกี่ยวกับ Morphic Resonance
• การสั่นพ้องในวัสดุหรือโมเลกุล
• ตัวอย่าง: ศึกษาว่าโมเลกุลในห้องทดลองหนึ่งส่งผลต่อการเรียงตัวหรือพฤติกรรมของโมเลกุลที่คล้ายกันในอีกห้องหนึ่งได้หรือไม่ (ผ่านการสั่นพ้อง)
• ข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน: หากมีผลกระทบที่เกิดขึ้นแม้ไม่มีการเชื่อมต่อทางกายภาพ
6. การทดสอบ Non-locality ในพฤติกรรมกลุ่ม
• การพัวพันแบบควอนตัม (Quantum Entanglement)
สนามสัณฐานถูกเสนอว่ามีลักษณะคล้าย Non-locality ในควอนตัม
• ตัวอย่าง: ตรวจสอบว่าพฤติกรรมของกลุ่มสิ่งมีชีวิตหนึ่งส่งผลต่ออีกกลุ่มในที่ห่างไกลอย่างไร
• ข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน: หากพบว่าการเปลี่ยนแปลงในกลุ่มหนึ่งส่งผลต่ออีกกลุ่มทันที
ข้อท้าทายในการพิสูจน์
1. การควบคุมตัวแปร
• การพิสูจน์ Morphic Field ต้องควบคุมตัวแปรทุกตัวที่อาจส่งผล เช่น พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม หรือการเรียนรู้โดยบังเอิญ
2. ขาดกลไกทางกายภาพที่ชัดเจน
• นักวิทยาศาสตร์กระแสหลักมองว่าทฤษฎีนี้ขาดคำอธิบายที่อิงกับฟิสิกส์และชีววิทยา เช่น “สนาม” นี้ทำงานอย่างไร และพลังงานหรือข้อมูลถูกส่งผ่านอย่างไร
3. ความน่าเชื่อถือของผลทดลอง
• หลายการทดลองของ Sheldrake ถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถทำซ้ำได้ในห้องทดลองอื่น
การพิสูจน์ Morphic Field อย่างชัดเจนจำเป็นต้องมีการทดลองที่ออกแบบอย่างเข้มงวด สามารถทำซ้ำได้ และอธิบายด้วยกลไกที่สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน แม้จะมีความท้าทาย แต่งานทดลองด้านพฤติกรรมสัตว์ การเรียนรู้ของมนุษย์ และการสั่นพ้องในระบบชีวภาพ ยังคงเป็นพื้นที่ที่นักวิจัยพยายามสำรวจเพื่อตรวจสอบแนวคิดนี้
**เพิ่มเติม:
รู้ได้อย่างไรว่าไม่ได้มาจากรหัสพันธุกรรม?
🤖การแยกแยะว่า พฤติกรรม หรือ รูปแบบ ใดเกิดจาก รหัสพันธุกรรม (genetic code) หรือ สนามสัณฐาน (Morphic Field) เป็นความท้าทายทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ เนื่องจากทั้งสองแนวคิดสามารถอธิบายพฤติกรรมและการพัฒนาของสิ่งมีชีวิตได้ในบางแง่มุม ต่อไปนี้เป็นวิธีที่นักวิจัยพยายามตรวจสอบความแตกต่างนี้:
1. การควบคุมพันธุกรรมในกลุ่มทดลอง
• นักวิจัยสามารถใช้สิ่งมีชีวิตที่มีพันธุกรรมเหมือนกัน (เช่น แฝดแท้ หรือสัตว์โคลน) เพื่อตรวจสอบว่าพฤติกรรมหรือพัฒนาการของสิ่งมีชีวิตนั้นเหมือนกันหรือไม่
• หากสิ่งมีชีวิตที่มีพันธุกรรมเหมือนกันแสดงพฤติกรรมต่างกันในสภาพแวดล้อมเดียวกัน รหัสพันธุกรรมอาจไม่ใช่ปัจจัยหลัก และอาจมีบทบาทของปัจจัยอื่น เช่น สนามสัณฐาน
2. การทดลองในรุ่นหลัง
• Sheldrake เสนอว่าการเรียนรู้หรือพฤติกรรมที่พัฒนาขึ้นในรุ่นหนึ่งสามารถส่งผลต่อรุ่นถัดไปผ่าน Morphic Resonance
• ตัวอย่าง: ถ้าหนูในรุ่นแรกถูกฝึกให้หลบหนีจากเขาวงกตอย่างมีประสิทธิภาพ หนูในรุ่นต่อไป (ที่ไม่มีการฝึกฝน และไม่ได้ถ่ายทอดทางพันธุกรรม) จะสามารถทำได้ดีขึ้นเพราะอิทธิพลจากสนามสัณฐาน
• การตรวจสอบว่า พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้มาจากพันธุกรรม ต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด เช่น แยกกลุ่มที่ไม่ได้รับอิทธิพลทางสิ่งแวดล้อมหรือการเรียนรู้โดยตรง
3. การทดลองในสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีพันธุกรรมสัมพันธ์กัน
• หากสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมแสดงพฤติกรรมหรือพัฒนาการคล้ายกันโดยไม่มีปัจจัยสิ่งแวดล้อมเดียวกัน นั่นอาจเป็นหลักฐานสนับสนุนสนามสัณฐาน
• ตัวอย่าง: หากสปีชีส์หนึ่งเรียนรู้พฤติกรรมใหม่ (เช่น การหาวิธีเปิดภาชนะเพื่อเข้าถึงอาหาร) และพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นในสปีชีส์อื่นในที่ห่างไกลโดยไม่มีการติดต่อ นั่นอาจบ่งชี้ถึง Morphic Field
4. ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเร็วเกินไปสำหรับพันธุกรรม
• พฤติกรรมบางอย่างอาจเปลี่ยนแปลงเร็วเกินกว่าที่การกลายพันธุ์หรือการคัดเลือกตามธรรมชาติจะอธิบายได้
• ตัวอย่าง: นกบางชนิดเรียนรู้วิธีการเปิดฝาขวดนมในอังกฤษในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และพฤติกรรมนี้แพร่กระจายไปทั่วประเทศในเวลาอันสั้น แม้ในชุมชนที่ไม่ได้ติดต่อกันโดยตรง
• หากไม่สามารถอธิบายพฤติกรรมนี้ด้วยพันธุกรรมหรือการสอนโดยตรง อาจมีบทบาทของสนามสัณฐาน
5. การใช้สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถพึ่งพันธุกรรมได้โดยสิ้นเชิง
• การศึกษาในสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีระบบพันธุกรรมซับซ้อน เช่น พฤติกรรมของไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อรา
• หากพบว่าพฤติกรรมหรือการจัดระเบียบเกิดขึ้นซ้ำในรูปแบบที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วย DNA อาจเป็นหลักฐานของ Morphic Field
ข้อโต้แย้งและความท้าทาย
1. ปัจจัยสิ่งแวดล้อม
• นักวิจารณ์ชี้ว่า พฤติกรรมหรือรูปแบบอาจเกิดจาก การเลียนแบบ หรือ อิทธิพลของสิ่งแวดล้อม มากกว่าการสั่นพ้องของสนามสัณฐาน
2. บทบาทของ Epigenetics
• พฤติกรรมหรือรูปแบบที่ถูกเข้าใจว่าเป็นผลของสนามสัณฐาน อาจอธิบายได้ด้วย Epigenetics ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของยีนโดยไม่ได้เปลี่ยนรหัสพันธุกรรม
3. การทดลองซ้ำไม่ได้
• หลายการทดลองของ Sheldrake ถูกวิจารณ์ว่า ไม่สามารถทำซ้ำได้ ในห้องทดลองอื่น
การแยกแยะระหว่างอิทธิพลของพันธุกรรมและสนามสัณฐานจำเป็นต้องใช้การควบคุมตัวแปรอย่างละเอียด โดยเฉพาะการทดลองในสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมหรือแสดงพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงเร็วเกินไปสำหรับพันธุกรรม แม้ Morphic Field จะเสนอคำอธิบายที่น่าสนใจ แต่ยังคงขาดหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนและได้รับการยอมรับในวงกว้าง
#Siamstr #quantum #nostr #BTC #ธรรมะ #พุทธศาสนา #rightshift