Beachboy_R on Nostr: ขออณุญาติ แนะนำตัวครับ ...
ขออณุญาติ แนะนำตัวครับ ส่วนตัวผมเกิดมาในครอบครัว ชนชั้นกลาง ในเมืองหัวหินครับ ในบ้านมีทั้งหมด 4คน พ่อ แม่ พี่สาวและผม
บ้านแม่เป็นคนหัวหินอยู่แล้ว ส่วนบ้านพ่อ อพยพมาจากนครศรีธรรมราช ปู่เป็นชาวนามาก่อน พอมาอยู่หัวหิน จึงทำไก่ทอดขาย เดินขายตามเมืองหัวหิน สนามกอล์ฟต่างๆ มีพ่อของผมเป็นลูกมือในการตื่นมาเชือดไก่ทอดไก่กับปู่ และ ป้าของผมก็ ออกไปช่วยปู่ขายบ้างในบางครั้ง พ่อของผมไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะต้องเสียสละช่วยปู่ ส่งป้าสองคนเรียน (ปู่มีลูก7คน ลูกสาว2)
พอคุณป้า มีสามี ด้วยความที่สามีมีต้นทุนทางบ้าน จึงเปิดร้านไก่ทอดขึนมา (ชื่อดังแห่งหนึ่งในหัวหิน) พ่อผมก็กลายเป็นลูกจ้างป้าไปโดยปริยาย ถึงจุดๆนึง ร้านไปได้ดี พ่ออยากที่จะออกมาขายไก่บ้างเนื่องจากเป็นสูตรของปู่ แต่ก็โดนกระแสสังคมในบ้าน ไม่ให้ขาย เสียดายที่พ่อผมไม่ได้หนักแน่นพอ แต่พ่อก็ตัดสินใจออกมาจากบ้านใหญ่ ไปทำงานบริษัท Dole เป็นหัวหน้าช่าง เพราะพ่อมีทักษะการช่างติดตัวมาตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งเก็บเงินได้จำนวนนึง พ่อจึงออกมาทำงานรับเหมาเอง แต่น่าเสียดายที่เจอกับยุควิกฤติเศรษฐกิจซะก่อนทำให้ต้องเลิกลาไป หลังจากนั้น คุณยายของผมทำข้าวเหนียวมูล ข้าวเหนียวมะม่วงขายอยู่ก่อนแล้ว แม่จึงได้รับช่วงต่อ พ่อกับแม่เลยช่วยกัน ทำเป็นอาชีพเลี้ยงดูลูกสองคน ให้พอที่จะเติบโตได้ พี่สาวผมเรียนเก่งครับ สอบ AFS ติดถึงสามครั้ง แต่ด้วยความที่ทางบ้านไม่ได้มีเงินมากมาย จะหยิบยืมก็ไม่ได้มีใครให้ พี่สาวของผมเลยไม่ได้มีโอกาสไปเรียนต่อ ตามที่ควรจะได้ พ่อผมป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงิน ตั้งแต่ปีที่ผมเกิด ทำให้รายจ่ายต้องจ่ายค่ารักษาจากระบบ fiat ทุกๆปีๆ ไม่ได้ดีขึ้น แถมยังหนักขึ้นทุกวัน ด้วยความที่โรคนี้มันคัน ฉะนั้นพ่อของผมก็ไม่สามารถนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่ม การกินก็ไม่ได้ดีนัก ทำให้มีโรคที่ตามมาอย่าง ความดัน และ หัวใจ แม่ของผมซึ่งก็ติดกับดักจากสื่อกระแสหลักที่ มอมเมาคนให้ ซื้อบ้านเป็นการลงทุน เรามีบ้านอยู่แล้วหนึ่งหลัง แม่ก็ดันไปซื้อเพิ่มอีกหนึ่งหลัง ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังผ่อนจ่ายอยู่ทุกเดือน ย้อนกลับไปเมื่อ 6ปีที่แล้ว ตอนผมกำลังสอบ Final ที่มหาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง (ลุงที่อยู่เมกา อาสาส่งผมเรียน) พี่สาวโทรมาบอกว่าพ่อเข้า ICU ผมนั่งรถตู้จากรังสิต มาหัวหินทันที ในวันนั้น ช่วงนั้นผมค้นพบว่าตัวเองชอบกาแฟ คิดว่า เออเรียนไปก็เสียเวลา เลยตัดสินใจ ลาออกจากมหาวิทยาลัยวันนั้นเลย และทำงาน
เป็นบาริสต้าที่คาเฟ่เล็กๆที่หัวหิน หลังจากพ่อเข้า ICU และออกมาได้ ประกันของพ่อหมดพอดี เราต้องขายรถยนต์ เพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล พ่อกับแม่ไม่ค่อยคุยกัน ผมตัดสินใจ ลาออกจากคาเฟ่ที่หัวหิน ขึ้นไปกรุงเทพ เพราะตลาดงานที่นั่นดีกว่า จึงทำให้ผมไม่เจอพ่อเลยเป็นเวลา2-3ปี พ่อกับแม่แยกกันอยู่คนละบ้าน มีพี่สาวคอยดูแลพ่ออยู่ ผมก็ไปตามความฝันของผม กลับบ้านแค่ปีละครั้งเท่านั้น จนเมื่อ 3ปีที่แล้ว พ่อผมก็ได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ ผมที่ผจลโลกอยู่ ก็ได้ตระหนักอะไรหลายๆอย่าง ผมได้เป็น Head barista ในวัย 25ปี ขณะที่คนรุ่นเดียวกันพึ่งจะจบไม่นานและมาสมัครเป็นลูกน้องผม เลยได้เข้าใจว่า ระบบการศึกษาก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ในบางอาชีพ มันขึ้นอยู่กับ ทักษะ และประสบการณ์มากกว่า เคยนึกเสียดายที่ไม่ได้เรียน แต่ตอนนี้ไม่เสียใจแล้ว ระหว่างที่ทำงาน ผมก็ค้นพบ ว่าผมไม่ได้หลงใหลในกาแฟขนาดนั้น เริ่มไม่ได้เห็นภาพตัวเองในอนาคตกับกาแฟแล้ว ก่อนหน้านี้ผมเป็นคนที่ออกกำลังกายมาตลอดช่วง 20ต้นๆเพราะเป็นคนอ้วนมาก่อน อยากจะดูดี ระหว่างทางจึงค้นพบว่าตัวเองมีความสนใจใน Health and Wellness มากกว่า เป็นเรื่องที่ให้อ่าน ให้ดู เป็นวันละ 10ชั่วโมงก็ทำได้สบายมาก จึงตัดสินใจลาออก กลับหัวหินด้วยเงินจำนวนนึง ไม่ได้เยอะ แต่ก็พอมาเริ่มอะไรเล็กๆได้ แต่ด้วยความใช้ชีวิตในความประมาทไปหน่อย ผมประสบอุบัติเหตุขณะออกกำลังกาย เส้นเอ็นอักเสบ ทำให้เดินไม่ได้ถึงสองเดือน เงินที่ไม่ได้มีมากนัก จึงกลายไปเป็นค่ารักษาจนหมด ตอนนี้หายดีแล้ว กลายเป็นคนว่างงาน แต่ก็ยังไม่ล้มเลิกความฝัน กลับมาทำการบ้านถึงสิ่งที่อยากทำ รายได้จะมีจากการช่วยแม่ผลิตขนมไปขาย กับมีรับจ้างเป็นมือปืนบาริสต้าตามร้านต่างๆในหัวหิน และ เป็นคนเฝ้ายิมทุกวันเสาร์ ระหว่างนั้นก็ทำงานบ้านเกี่ยวกับธุรกิจมาตลอดครับ ใกล้ที่จะคลอด Product ละ เดือนมกรา เป็นเดือนเกิดของผม และเป็น World Carnivore month ถ้าโปรดักษ์ออกมาแล้ว ฝากเพื่อนๆ พี่ๆ ติดตามกันด้วยนะครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบ #Siamstr #Nostr
บ้านแม่เป็นคนหัวหินอยู่แล้ว ส่วนบ้านพ่อ อพยพมาจากนครศรีธรรมราช ปู่เป็นชาวนามาก่อน พอมาอยู่หัวหิน จึงทำไก่ทอดขาย เดินขายตามเมืองหัวหิน สนามกอล์ฟต่างๆ มีพ่อของผมเป็นลูกมือในการตื่นมาเชือดไก่ทอดไก่กับปู่ และ ป้าของผมก็ ออกไปช่วยปู่ขายบ้างในบางครั้ง พ่อของผมไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะต้องเสียสละช่วยปู่ ส่งป้าสองคนเรียน (ปู่มีลูก7คน ลูกสาว2)
พอคุณป้า มีสามี ด้วยความที่สามีมีต้นทุนทางบ้าน จึงเปิดร้านไก่ทอดขึนมา (ชื่อดังแห่งหนึ่งในหัวหิน) พ่อผมก็กลายเป็นลูกจ้างป้าไปโดยปริยาย ถึงจุดๆนึง ร้านไปได้ดี พ่ออยากที่จะออกมาขายไก่บ้างเนื่องจากเป็นสูตรของปู่ แต่ก็โดนกระแสสังคมในบ้าน ไม่ให้ขาย เสียดายที่พ่อผมไม่ได้หนักแน่นพอ แต่พ่อก็ตัดสินใจออกมาจากบ้านใหญ่ ไปทำงานบริษัท Dole เป็นหัวหน้าช่าง เพราะพ่อมีทักษะการช่างติดตัวมาตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งเก็บเงินได้จำนวนนึง พ่อจึงออกมาทำงานรับเหมาเอง แต่น่าเสียดายที่เจอกับยุควิกฤติเศรษฐกิจซะก่อนทำให้ต้องเลิกลาไป หลังจากนั้น คุณยายของผมทำข้าวเหนียวมูล ข้าวเหนียวมะม่วงขายอยู่ก่อนแล้ว แม่จึงได้รับช่วงต่อ พ่อกับแม่เลยช่วยกัน ทำเป็นอาชีพเลี้ยงดูลูกสองคน ให้พอที่จะเติบโตได้ พี่สาวผมเรียนเก่งครับ สอบ AFS ติดถึงสามครั้ง แต่ด้วยความที่ทางบ้านไม่ได้มีเงินมากมาย จะหยิบยืมก็ไม่ได้มีใครให้ พี่สาวของผมเลยไม่ได้มีโอกาสไปเรียนต่อ ตามที่ควรจะได้ พ่อผมป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงิน ตั้งแต่ปีที่ผมเกิด ทำให้รายจ่ายต้องจ่ายค่ารักษาจากระบบ fiat ทุกๆปีๆ ไม่ได้ดีขึ้น แถมยังหนักขึ้นทุกวัน ด้วยความที่โรคนี้มันคัน ฉะนั้นพ่อของผมก็ไม่สามารถนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่ม การกินก็ไม่ได้ดีนัก ทำให้มีโรคที่ตามมาอย่าง ความดัน และ หัวใจ แม่ของผมซึ่งก็ติดกับดักจากสื่อกระแสหลักที่ มอมเมาคนให้ ซื้อบ้านเป็นการลงทุน เรามีบ้านอยู่แล้วหนึ่งหลัง แม่ก็ดันไปซื้อเพิ่มอีกหนึ่งหลัง ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังผ่อนจ่ายอยู่ทุกเดือน ย้อนกลับไปเมื่อ 6ปีที่แล้ว ตอนผมกำลังสอบ Final ที่มหาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง (ลุงที่อยู่เมกา อาสาส่งผมเรียน) พี่สาวโทรมาบอกว่าพ่อเข้า ICU ผมนั่งรถตู้จากรังสิต มาหัวหินทันที ในวันนั้น ช่วงนั้นผมค้นพบว่าตัวเองชอบกาแฟ คิดว่า เออเรียนไปก็เสียเวลา เลยตัดสินใจ ลาออกจากมหาวิทยาลัยวันนั้นเลย และทำงาน
เป็นบาริสต้าที่คาเฟ่เล็กๆที่หัวหิน หลังจากพ่อเข้า ICU และออกมาได้ ประกันของพ่อหมดพอดี เราต้องขายรถยนต์ เพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล พ่อกับแม่ไม่ค่อยคุยกัน ผมตัดสินใจ ลาออกจากคาเฟ่ที่หัวหิน ขึ้นไปกรุงเทพ เพราะตลาดงานที่นั่นดีกว่า จึงทำให้ผมไม่เจอพ่อเลยเป็นเวลา2-3ปี พ่อกับแม่แยกกันอยู่คนละบ้าน มีพี่สาวคอยดูแลพ่ออยู่ ผมก็ไปตามความฝันของผม กลับบ้านแค่ปีละครั้งเท่านั้น จนเมื่อ 3ปีที่แล้ว พ่อผมก็ได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ ผมที่ผจลโลกอยู่ ก็ได้ตระหนักอะไรหลายๆอย่าง ผมได้เป็น Head barista ในวัย 25ปี ขณะที่คนรุ่นเดียวกันพึ่งจะจบไม่นานและมาสมัครเป็นลูกน้องผม เลยได้เข้าใจว่า ระบบการศึกษาก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ในบางอาชีพ มันขึ้นอยู่กับ ทักษะ และประสบการณ์มากกว่า เคยนึกเสียดายที่ไม่ได้เรียน แต่ตอนนี้ไม่เสียใจแล้ว ระหว่างที่ทำงาน ผมก็ค้นพบ ว่าผมไม่ได้หลงใหลในกาแฟขนาดนั้น เริ่มไม่ได้เห็นภาพตัวเองในอนาคตกับกาแฟแล้ว ก่อนหน้านี้ผมเป็นคนที่ออกกำลังกายมาตลอดช่วง 20ต้นๆเพราะเป็นคนอ้วนมาก่อน อยากจะดูดี ระหว่างทางจึงค้นพบว่าตัวเองมีความสนใจใน Health and Wellness มากกว่า เป็นเรื่องที่ให้อ่าน ให้ดู เป็นวันละ 10ชั่วโมงก็ทำได้สบายมาก จึงตัดสินใจลาออก กลับหัวหินด้วยเงินจำนวนนึง ไม่ได้เยอะ แต่ก็พอมาเริ่มอะไรเล็กๆได้ แต่ด้วยความใช้ชีวิตในความประมาทไปหน่อย ผมประสบอุบัติเหตุขณะออกกำลังกาย เส้นเอ็นอักเสบ ทำให้เดินไม่ได้ถึงสองเดือน เงินที่ไม่ได้มีมากนัก จึงกลายไปเป็นค่ารักษาจนหมด ตอนนี้หายดีแล้ว กลายเป็นคนว่างงาน แต่ก็ยังไม่ล้มเลิกความฝัน กลับมาทำการบ้านถึงสิ่งที่อยากทำ รายได้จะมีจากการช่วยแม่ผลิตขนมไปขาย กับมีรับจ้างเป็นมือปืนบาริสต้าตามร้านต่างๆในหัวหิน และ เป็นคนเฝ้ายิมทุกวันเสาร์ ระหว่างนั้นก็ทำงานบ้านเกี่ยวกับธุรกิจมาตลอดครับ ใกล้ที่จะคลอด Product ละ เดือนมกรา เป็นเดือนเกิดของผม และเป็น World Carnivore month ถ้าโปรดักษ์ออกมาแล้ว ฝากเพื่อนๆ พี่ๆ ติดตามกันด้วยนะครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบ #Siamstr #Nostr