maiakee on Nostr: ...

Dhamma Daily 😂 :
ผัสสะถือเป็นสังขารตัวหนึ่งหรือไม่ ‼️?
ตอบ: ในสายปฏิจจสมุปบาททุกตัวคือสังขาร การปรุงแต่งครับ ธรรม หรือ ธาตุทุกอย่างในโลก แบ่งเป็นแค่สองอย่าง คือ สังขาร และ วิสังขาร
นิพพานเท่านั้นที่เป็นวิสังขาร
อธิบาย ‼️
ทุกตัวในสายปฏิจจสมุปบาทเป็นสังขาร เพราะทุกขั้นตอนเกิดจากการปรุงแต่งตามเหตุปัจจัย ซึ่งเป็นหัวใจของหลัก ปฏิจจสมุปบาท ที่อธิบายว่า ทุกสิ่งในวัฏสงสารเกิดขึ้นจาก “การปรุงแต่ง” (สังขาร) โดยไม่มีสิ่งใดเป็นอิสระจากเหตุปัจจัย
เหตุผลว่าทำไมทุกตัวในสายปฏิจจสมุปบาทเป็นสังขาร
1. ปฏิจจสมุปบาทแสดงความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัย
• หลักปฏิจจสมุปบาทคือการแสดงถึง “ความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล” ที่ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นโดยลำพัง ทุกองค์ประกอบในสายนี้ต้องอาศัยปัจจัยอื่นปรุงแต่งขึ้นมา
• การปรุงแต่ง (สังขาร) คือการเกิดขึ้นเพราะมีเหตุ เช่น
• อวิชชา (ความไม่รู้) เกิดจากการปรุงแต่งของความเขลา
• ตัณหา (ความอยาก) เกิดจากการปรุงแต่งของเวทนา (ความรู้สึก)
2. ทุกตัวในปฏิจจสมุปบาทเป็นอนิจจัง (ไม่เที่ยง)
• ทุกสิ่งในสายนี้ไม่คงอยู่ถาวร และมีการเปลี่ยนแปลงตามเหตุปัจจัย นี่เป็นคุณลักษณะของ สังขาร ซึ่งมีลักษณะ 3 อย่างคือ อนิจจัง (ไม่เที่ยง), ทุกขัง (เป็นทุกข์), อนัตตา (ไม่ใช่ตัวตน)
• เช่น
• เวทนา เกิดจากผัสสะ และแปรเปลี่ยนไป
• วิญญาณ เกิดจากการปรุงแต่งของอายตนะ
3. นิพพานคือสิ่งเดียวที่เป็นวิสังขาร
• ในสายปฏิจจสมุปบาท ทุกตัวคือผลของการปรุงแต่ง (สังขาร) แต่ นิพพาน ไม่ได้เกิดจากเหตุปัจจัยใด จึงเรียกว่า วิสังขาร
• นิพพานเป็นสภาวะที่พ้นจากความปรุงแต่ง ไม่เปลี่ยนแปลง และไม่มีเหตุให้เกิด
การปรุงแต่งในแต่ละขั้นของปฏิจจสมุปบาท
1. อวิชชา (ความไม่รู้)
• เป็นสังขารที่เกิดจากความหลงผิดในธรรมชาติของความจริง เช่น ไม่รู้ว่าโลกนี้ไม่เที่ยง
2. สังขาร (การปรุงแต่ง)
• หมายถึงกรรมที่เกิดจากการกระทำในอดีต เช่น การกระทำทางกาย วาจา และใจ
3. วิญญาณ (ความรู้สึกตัว)
• วิญญาณเกิดขึ้นจากการปรุงแต่งของอายตนะภายใน (เช่น ตา หู) และอายตนะภายนอก (รูป เสียง)
4. นามรูป (จิตและกาย)
• นามรูปเกิดจากการปรุงแต่งของเหตุปัจจัย เช่น ความคิดและร่างกายเกิดจากกรรมในอดีต
5. สฬายตนะ (อายตนะ 6)
• อายตนะทั้ง 6 เกิดจากการปรุงแต่งของนามรูป เช่น ตาเกิดขึ้นเพื่อรับรู้รูป
6. ผัสสะ (การสัมผัส)
• ผัสสะเป็นผลจากการปรุงแต่งของอายตนะทั้ง 6 ที่กระทบกัน
7. เวทนา (ความรู้สึก)
• ความรู้สึกสุข ทุกข์ หรือกลาง ๆ เกิดจากการปรุงแต่งของผัสสะ
8. ตัณหา (ความอยาก)
• ตัณหาเกิดจากการปรุงแต่งของเวทนา เช่น อยากได้ อยากมี
9. อุปาทาน (ความยึดมั่นถือมั่น)
• ความยึดมั่นเกิดจากการปรุงแต่งของตัณหา
10. ภพ (ภาวะ)
• ภพเกิดจากการปรุงแต่งของอุปาทาน เช่น การกระทำที่สร้างผลกรรม
11. ชาติ (การเกิด)
• ชาติเป็นผลจากการปรุงแต่งของภพ เช่น การเกิดในร่างกายหรือสภาพหนึ่ง
12. ชรา-มรณะ (ความแก่และความตาย)
• ความแก่และความตายเป็นผลจากการปรุงแต่งของชาติ
ตัวอย่างเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย
เปรียบเทียบกับการปลูกต้นไม้
1. เมล็ดพันธุ์เปรียบเสมือน อวิชชา
2. การรดน้ำ ใส่ปุ๋ย เปรียบเสมือน สังขาร
3. ต้นอ่อนที่งอกขึ้นมา เปรียบเสมือน วิญญาณ
4. การเติบโตเป็นต้นไม้เต็มต้น เปรียบเสมือน ชาติ
5. การแก่ชราและเหี่ยวเฉา เปรียบเสมือน ชรา-มรณะ
ทุกขั้นตอนในการปลูกต้นไม้ต้องอาศัยการปรุงแต่ง (สังขาร) และปัจจัยอื่น ๆ ต้นไม้จึงเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงไป
ทุกตัวในสายปฏิจจสมุปบาทเป็นสังขารเพราะเป็นผลจากการปรุงแต่งตามเหตุปัจจัย ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเองโดยลำพัง และทั้งหมดนี้ยังอยู่ในวัฏจักรของความไม่เที่ยงและการเปลี่ยนแปลง จนกว่าจะหลุดพ้นไปสู่ นิพพาน ซึ่งเป็นวิสังขารหรือสิ่งที่ไม่ถูกปรุงแต่ง
#Siamstr #bitcoin #nostr #BTC #ประวัติศาสตร์ #พุทธศาสนา #ปรัชญา #ธรรมะ